Sunday, November 27, 2011

แพทเทิร์นชุดคลุมท้อง 1 ชุด



สวัสดีค่ะ

มีผู้ขอ
ซึ่งพอดีที่ป้าแอ๊ดเพิ่งสอนการสร้างแบบชุดอยู่กับบ้าน แบบง่ายๆ ไป 1 ชุด
ชุดคลุมท้องที่นำมาสอนในวันนี้ ดัดแปลงจากชุดอยู่กับบ้านได้เลยค่ะ





สำหรับแพทเทิร์นเสื้อตัวนี้ ใช้แพทเทิร์นของเสื้ออยู่กับบ้านมาเติมเส้นนิดหน่อยค่ะ





วิธีการสร้างแบบเสื้ออย่างละเอียดดูที่ แบบเสื้ออยู่กับบ้านนะคะ

เมื่อสร้างแบบตัดเสื้ออยู่กับบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งชิ้นหน้าและชิ้นหลัง



ให้นำแบบตัดมาเพิ่มเส้นดังนี้

1.ที่เส้นอก ของทั้งชิ้นหน้าและชิ้นหลัง ให้ตีเส้นต่ำลงมา 6.5 ซ.ม. เป็นเส้นต่อผ้าที่เราจะจับจีบรูด

2.เพิ่มเส้นกลางตัว ทั้งชิ้นหน้าและชิ้นหลังออกไป ด้านละ 15 ซ.ม.
ผ้าที่เพิ่มคือผ้าที่จะนำมาเย็บรูดแล้วเย็บติดกับชิ้นบนขยายความกว้างของตัวกระโปรงรองรับช่วงท้อง

3.เส้นชายกระโปรง เพิ่มเท่ากัน ตามในภาพ


วิธีการตัดผ้า

1. ให้ตัดกระดาษ แพทเทิร์น แยกส่วนเสื้อชิ้นบนกับชิ้นล่างออกจากกัน

2.นำแบบตัดชิ้นบน ไปวางบนสันทบผ้า ให้เส้นกลางตัวอยู่ที่เส้นสันทบ ใช้ชอร์คขีดแนวเย็บโดยรอบ

3.นำแบบตัดชิ้นล่างไปวางที่สันทบผ้าเหมือนกัน แต่กว้างพอที่ตัดชิ้นล่างได้
ให้เส้นกลางตัวอยู่ที่สันทบผ้า ใช้ชอร์คขีดแนวเย็บไว้

4.วางแบบตัดแขนเสื้อ และสาบคอเสื้อ บนผ้าที่ทบไว้สองชั้น


วิธีการเย็บ

1.กลิ้งเส้นที่จะเย็บลงบนผ้าด้านผิดทุกเส้น

2.นำผ้าไปแซคริมกันด้ายลุ่ยโดยรอบ

3.เดินเส้นจักรห่างๆ 2 เส้น ที่ผ้าตัวเสื้อด้านล่างชิ้นที่จะจับจีบรูด ตรงรอยต่อกับด้านบน
เดินจักรที่เส้นเย็บก่อน 1 เส้น แล้วเดินจักรอีก 1 เส้น นอกเส้นเย็บออกมา ห่างกันประมาณ 0.5 ซ.ม.
ทิ้งหัวและหางด้ายไว้รูดประมาณ 2 นิ้ว

4.ดึงรูดเส้นด้ายที่เย็บไว้ ดึงรูดทีเดียวทั้งสองเส้นนะคะ โดยรูดทางผ้าด้านผิด
รูดให้ได้ความยาวเท่ากับตัวเสื้อด้านบนที่ต้องการจะเย็บติดกัน

5.เนาชิ้นล่างกับชิ้นบนเข้าด้วยกัน พยายามให้จีบรูดมีระยะเท่าๆ กันตลอดชิ้น แล้วเย็บด้วยจักร

6.เมื่อเย็บแนวรูด ทั้งชิ้นหน้าและชิ้นหลังแล้ว จึงเย็บเส้นไหล่ของทั้งสองชิ้นเข้าด้วยกัน

7.เย็บสาบคอให้เรียบร้อยตามที่สอนไว้แล้ว

8.เย็บตะเข็บข้างของตัวเสื้อ และแขนเสื้อ แบะตะเข็บ รีดให้เรียบร้อย

9.พับชายกระโปรง และแขนเสื้อ เนาไว้สอย

10 เข้าแขนเสื้อกับตัวเสื้อตามที่สอนไว้ในเสื้ออยู่กับบ้านค่ะ

เสื้อตัวนี้ไม่ต้องเย็บแหวกตรงกลางตัวหน้านะคะ คงสวมหัวได้อย่างสบาย
แต่ถ้ายังสวมไม่ได้ ให้เจาะตัวเสื้อด้านหลัง แล้วติดซิปยาวสัก 10 ซ.ม. จะช่วยได้ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://www.bloggang.com

แพทเทิร์น เสื้้อ


เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เป็นบทความที่ยอดเยี่ยมใช่มั๊ยละ

มีข้อมูลเท่านี้คุณก็สามารถเลือกแพทเทิร์นที่ถูกไซด์มาใช้ได้
แล้วค่ะ เรื่องต่อไปมันจะเป็นเรื่องของการแก้ไขแพทเทิร์น
ซึ่งไม่มีใครชอบแต่ก็ต้องทำเพราะใครเล่าจะหุ่นได้มาตรฐานเขา
เด๊ะๆ พอแก้ไขแพทเทิร์นแล้วก็จะเป็นการวางผ้า ตัดผ้า ส่วน
การเย็บนั้นต้องให้ไปอ่านวิธีทำเอง เขาแถมมากับแพทเทิร์นค่ะ

ปล. เครดิตหนังสือที่ใช้อ้างอิงคือ Vogue Sewing

7.ในซองมีอะไรอยู่บ้าง




-แพทเทิร์นที่ทำด้วยกระดาษทิชชู่
เส้นสายสัญลักษณ์ต่างๆบนกระดาษแพทเิทิร์นมีความหมายทั้งสิ้น
1.เส้นเกรนผ้า (grainline) เราจะเรียกริมผ้าด้านที่ไม่ลุ่ยว่า ผ้าตามยาว
ปกติแล้วเราจะวางแพทเทิร์นให้เส้นเกรน ขนานไปตามริมผ้าตามยาวด้าน
ที่ไม่ลุ่ยนี้ นอกจากเขาจะสั่งเป็นพิเศษให้วางผ้าตามขวาง หรือ
วางผ้าทแยงมุมเราจึงจะทำตาม

2.รอยตัดตามไซด์ต่างๆ (cutting line) เช่นไซด์ใหญ่สุดจะใช้เส้นทึบ
ไซด์เล็กลงมาใช้เส้นไข่ปลา เส้นพวกนี้มีความหนาของมันอยู่ ขอให้ผู้ใช้แพทเทิร์น
ตัดกระดาษเข้าไปในด้านในของเส้นเลย พูดง่ายๆคือตัดเส้นทิ้งไม่ให้เหลือหมึกพิมพ์
ถ้าตัดนอกเส้นจะมีผลต่อไซด์เล็กน้อย
แพทเทิร์นสำเร็จบางบริษัทโดยเฉพาะของอเมริกาจะรวมความกว้าง
ของตะเข็บไว้แล้ว 5/8 นิ้ว หรือ 1.50 ซม.
ส่วนใหญ่แล้วแพทเทิร์นจากยุโรปจะไม่เผื่อตะเข็บให้ เราต้องวัดและวาดใส่เข้าไปเองที่เขาทำเช่นนั้นเพื่อความสะดวก
ระหว่างการแก้ไขแพทเทิร์น

3.เส้นสำหรับปรับเปลี่ยนแก้ไขแพทเทิร์น (adjustment line)
สังเกตุง่ายๆว่าเป็นเส้นคู่ขนาน ถ้าเป็นเสื้อ ส่วนมากจะอยู่เหนือเอว
เพื่อหดหรือยืดแพทเทิร์นให้เหมาะสมกับ ความยาวจากปุ่มคอ ถึง เอว
บนแพทเทิร์นกางเกง หรือ กระโปรง ก็จะมีเส้นนี้เหมือนกันเพื่อพับ
ให้แพทเทิร์นสั้นลง หรือ ตัดต่อกระดาษให้แพทเทิร์นยาวขึ้น

4. เส้นกลางหน้า กลางหลัง (center front / center back lines) คือเส้นกึ่งกลางตัวมีความสำคัญต่อการวางผ้า และ
การหาจุดวางกระดุม/รังดุม

5. ตำแหน่งทบผ้า (fold line) จะได้ใช้ในช่วงของการเย็บผ้า
ควบคู่ไปกับการรีดผ้า เช่นบริเวณสาบเสื้อกลางตัว
6.ต่ำแหน่ง กระดุม และ รังดุม (buttons / buttonholes) ปกติแล้วเขาจะให้ตำแหน่งรังดุม/กระดุมมาสำหรับไซด์เล็กที่สุด
ไซด์อื่นที่ใหญ่กว่าจะต้องคำนวณเองจาก เม็ดกระดุม/รังดุม อันแรก

7.สัญลักษณ์ วงกลมแล้วมีกากะบาทข้างใน หมายถึง ตำแหน่งของจุดอก
(bust point, apex) เส้นเอว และ เส้นสะโพก

8.สัญลักษณ์วงเล็บสี่เหลี่ยมที่ด้านในเขียนว่า Fold ถ้าเป็นกระโปรงมักอยู่ตรงเส้นกลางหน้า กลางหลัง
แสดงว่าเราจะวางแพทเทิร์นนี้บนสันทบของผ้าก่อนตัด

9.เครื่องหมายสามเหลี่ยมเล็กๆที่อยู่บนเส้นรอยตัด (cutting line) มีความสำคัญในขณะเย็บเราจะประกบ
ตำแหน่งสามเหลี่ยมนี้เข้าด้วยกัน แล้วจับตะเข็บเย็บ
เวลาตัดกระดาษเราจะตัดสามเหลี่ยมให้เว้าเข้าไป เวลาเราตัดผ้าเราจะขลิบเส้นตรงนิดหน่อยเข้าไปบน
ตะเข็บผ้าด้วย

10.สัญลักษณ์พวก สามเหลี่ยม วงกลม เล็กๆ (แล้วแต่บริษัทจะใช้แบบไหน)ที่วางอยู่บริเวณต่างๆ
มีความหมายในขณะเย็บมาก เป็นการบ่งบอกว่า ตรงจุดไหนควรจะประกบพอดีกับจุดไหน เช่น
วงกลมเล็กๆบนเกล็ดกระโปรง (dart)หรือไม่ก็เป็นตัว
บ่งระยะ เช่นว่า ระหว่างสองจุดนี้ให้เย็บรูด จับจีบ ฯลฯ

11.ตำแหน่งวางซิป (zipper placement)
ก็จะใช้สัญลักษณ์พวกกลมๆเล็กๆเช่นกัน

12.เส้นความยาวเสื้อ กางเกง กระโปรง (hem line) ส่วนมากแพทเทิร์นจะเผื่อตะเข็บ
ให้เหมาะสมไว้แล้ว ถ้าเราไม่ชอบก็ปรับเปลี่ยนได้

13.ชื่อ โค้ด ไซด์ และ เลขที่ ของแพทเทิร์น เช่น front A เลขที่ 1 หมายถึง ชิ้นหน้า แบบ A(บางครั้งแพทเทิร์นเดียวกันสามารถเลือกใช้ได้
หลายดีไซด์ view A , view B, view C ) นอกจากนี้ยังมีคำสั่งว่า ให้ตัดผ้าจริงกี่ชิ้น ผ้าซับในกี่ชิ้น บนสันทบหรือไม่
นับว่าส่วนนี้มีประโยชน์มากต่อการวางผ้า
ตัดผ้า และ การเก็บรักษาแพทเทิร์น

6. การเผื่อหลวม


การเผื่อหลวม (ease) หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยถึงศัพย์คำนี้ของการตัดเย็บเสื้อผ้า
เสื้อผ้าที่เราใส่นั้นมีการเผื่อหลวมเพื่อการเคลื่อนไหว ความสบาย แม้แต่แม่เสื้อ (sloper)
ที่นักเรียนเรียนเป็นตัวแรกนั้นก็ยังมีการเผื่อหลวมไว้
นิดหน่อย ไม่ได้รัดตัวแน่นแบบหายใจไม่ออก
แล้วดีไซด์เนอร์ก็จะมาใส่การเผื่อหลวม (designer ease) เพิ่ม
ขึ้นอีกแล้วแต่สไตล์เสื้อผ้านั้นๆ แต่ก็มีเหมือนกันที่ไม่มีการเผื่อหลวมเลย เช่นเสื้อเกาะอก
เสื้อที่มีเชือกผ้าผูกคอ (halter) เสื้อบางตัวจะมี negative ease ด้วยซ้ำ เช่นเสื้อยืดรัดรูป
จะตัดมาให้เล็กกว่าตัวคนใส่

รสนิยมของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน บางคนชอบใส่เสื้อผ้าหลวมๆสบายๆ บางคนชอบใส่
เสื้อผ้าที่ฟิตตัวหน่อย แผ่นปกหลังของซองแพทเทิร์น ส่วนที่ 2 ที่ดิฉันอธิบายไว้ข้างต้น
จะบ่งบอกเรื่องนี้ไว้เป็นนัยๆ ถ้าคุณเจอคำดังต่อไปนี้ คุณก็สามารถจินตนาการได้ว่าเสื้อ หรือ
กระโปรง/กางเกง แบบนั้นจะออกมาในลักษณะไหน
close-fitting เสื้อผ้ารัดรูป เช่นชุดเกาะอก ชุดแต่งงาน
fitted เสื้อผ้าพอดีตัว เช่น ชุดกระโปรงเข้ารูป เขาจะเผื่อหลวมไว้ 3-4 นิ้ว
semi-fitted เสื้อผ้าเคลือๆตัว อย่างเสื้อจะเผื่อหลวมไว้ เกือบๆ 5 นิ้ว
loose-fitting เสื้อผ้าหลวมๆ เสื้อเผื่อหลวมไว้ไม่เกิน 8 นิ้ว
very losse-fitting เสื้อผ้าหลวมมากๆ เผื่อหลวมไว้มากว่า 10 นิ้ว

5. เทคนิคการใช้แพทเทิร์นหลายๆไซด์ที่มาในซองเดียวกัน หรือ ผสมกับซองอื่น



ปกติแล้วเขาจะพิมพ์ไซด์หลายๆไซด์บนแพทเทิร์นเดียวกัน เช่น
8-10-12 ซึ่งทำให้เราสามารถแก้ไซด์แพทเทิร์นได้ง่าย
ถ้าเรามีช่วงอกไซด์ 8 เอวไซด์ 12 สะโพกไซด์ 10 เราก็สามารถใช้ดินสอเบลนเส้นต่างๆให้เข้ากับรูปร่างเราได้
(เบลน แปลว่า ทำให้กลมกลืน)

ถ้าผู้ใส่มีแผ่นหลังใหญ่ ก้นใหญ่ ก็ยังสามารถใช้แพทเทิร์นชิ้นหน้าของ
ไซด์ 8 แล้วใช้แพทเทิร์นแผ่นหลังของไซด์ 12 มาปรับให้เข้ากันได้ ดิฉันจะเขียนถึงวิธีการแก้ไขแพทเทิร์นในคราวต่อไป

แม้ว่าเราอาจชอบส่วนปกของแบบในซองหนึ่งแต่เราอาจจะไม่ชอบส่วนแขน
ของมัน เราก็ยังสามารถดึงเอาแขนจากซองอื่นมาใช้ร่วมกันได้ด้วย แต่ก็ต้องมี
การตรวจวัดรอบวงแขน และส่วนโค้งแขนเสื้อก่อน

4. การเลือกขนาด/ไซด์

การเลือกขนาด/ไซด์ (ดูรูปจากหัวข้อ 2 เลขกำกับที่ 3)
ก่อนอื่นเราต้องมีขนาด รอบอกสูง (chest) รอบอก (bust) เอว (waist) และ สะโพก (hip) ทั้งหลักนิ้ว
และ หลักเซ็นติเมตร อยู่ในกระเป๋าสตางค์ก่อน

-แพทเทิร์นเสื้อสตรี รวมทั้ง กระโปรงชุด เสื้อชนิดต่างๆ แจ็กเก็ต เสื้อโค้ท
หาคัพ (cup) ของตัวเอง (เหมือนเสื้อชั้นใน) โดยการเอา รอบอก( bust) - รอบอกสูง (chest)
ถ้าได้ผลต่าง 1 นิ้ว หรือน้อยกว่า ถือว่าอยู่ในคัพ A
ผลต่าง 1 1/4" -2" เท่ากับ คัพ B
ผลต่าง 2 1/4"-3" เท่ากับ คัพ C
ผลต่าง 3 1/4"- 4" เท่ากับ คัพ D
ผลต่าง 4 1/4"หรือมากกว่า ถือว่าคัพใหญ่กว่า D อาจเป็น E

เนื่องจากแพทเทิร์นมาตรฐานนั้นใช้ คัพ B คนที่มีคัพ A หรือ B คุณควรใช้ รอบอก (bust)
ในการเลือกไซด์ไปเลย ถ้าบนซองเขียนว่า รอบอก
30 1/2" ซึ่งตรงกับไซด์ 6 คุณก็ซื้อไซด์ 6
แต่ถ้าคัพของคุณเป็นคัพ C หรือ มากกว่านั้น คุณควรใช้ รอบอกสูง (chest) แทนตัวเลข
รอบอก (bust)ในการเลือกไซด์ เช่น bust 33 chest
30 1/2" ซึ่งเป็นคัพ C คุณควรจะเลือก
แพทเทิร์นไซด์ 6 แทนที่จะใช้ไซด์ 10 หรือ 12 เพราะแพทเทิร์นไซด์ 6 จะฟิตบริเวณ
ไหล่ บ่าหน้า-หลัง คอ มากกว่า ส่วนบริเวณอก เอว สะโพก เราจะแก้แพทเทิร์นให้มัน
เหมาะสมทีหลัง ซึ่งทำง่ายกว่าการแก้แพทเทิร์นบริเวณ ไหล่ บ่าหน้า-หลัง และ คอ

ส่วนผู้ที่ได้ตัวเลขออกมาครึ่งๆกลางๆอยู่ระหว่างไซด์ เช่น
ระหว่าง 6 กับ 8 ให้ถือเอาโครงสร้างกระดูกผู้ใส่เป็นหลัก
ถ้าโครงสร้างคุณเล็กๆบางๆ ก็เลือกใช้ต่ำกว่า คือ 6 ถ้ากระดูกโครงสร้างใหญ่ กระดูกใหญ่ก็เลือกแพทเทิร์น
ไซด์สูงกว่า คือ 8

- แพทเทิร์นกระโปรง กางเกง
ให้ใช้ตัวเลขรอบเอว ของผู้ใส่เป็นหลัก เพราะการแก้แพทเทิร์นบริเวณเอว ขอบเอว
ซึ่งอาจมีลูกเล่นเป็นจีบ พลีต ต่างๆ จะแก้ยากกว่าส่วนสะโพก
เช่น ถ้าผู้ใส่มีรอบเอว 26 1/2" สะโพกแค่ 34 1/2" ก็ควรเลือกไซด์ 12 แทนที่จะเป็นไซด์ 10
อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ใส่มีรอบสะโพกที่มากกว่ารอบเอวตั้งแต่ 13 นิ้วขึ้นไป คุณควรจะ
เลือกไซด์ตามรอบสะโพกนั้นๆ แทนที่จะเลือกไซด์ตามรอบเอว แล้วจึงกลับไปแก้
รอบเอวถึงแม้จะทำได้ยากขึ้นก็ตาม
ส่วนใครที่จะตัดชุดคลุมท้อง คุณจะใช้รอบตัวก่อนการตั้งท้องเพื่อไปเลือกไซด์

ส่วนสูงก็มีความหมาย....
ส่วนใหญ่แล้วแพทเทิร์นมาตรฐาน Misses' จะออกแบบมาสำหรับผู้มีส่วนสูง 165-168 ซม
(หน่วยนิ้วก็จะเป็น 5ฟุต5นิ้ว ถึง 5ฟุต 6นิ้ว) ถ้าใครโชคดีที่มีส่วนสูงประมาณนี้ ก็จะ
ไม่ต้องหด หรือ ยืด แพทเทิร์นเลย ช่วงปุ่มคอหลังถึงเอว (back waist length)
และ ช่วงสะโพกสูง-สะโพกต่ำ (hip length)จะพอดิบพอดี แต่ถ้าใครที่เตี้ยกว่านี้จะต้องแก้ไขแพทเทิร์น หรือไม่ก็ต้อง
หาซื้อแพทเทิร์นที่สร้างไว้สำหรับคนมีความสูง
157-163 ซ.ม. ซึ่งเรียกว่า Misses'Petites ซึ่งความยาวจากปุ่มคอหลังถึงเอวของ
แพทเทิร์นของคนตัวเล็กนี้จะสั้นกว่า
ของ Misses' 1 นิ้ว และช่วงสะโพกเล็ก
ถึงสะโพกใหญ่ ก็จะวัดได้แค่ 7 นิ้ว ซึ่งสั้นกว่าของMisses'2" นอกจากนี้ความยาวแขนเสื้อ
ก็จะสั้นลงไปตามสัดส่วนร่างกายด้วย

ถ้าผ่านไปพบแพทเทิร์นสำหรับ Women's / plus size ขอให้ทราบไว้ว่าเขาสร้างมา
เพื่อผู้หญิงที่ท้วม แต่ยังรักษาความสูงมาตรฐาน 165-168 ซม อยู่ แพทเทิร์นพวกนี้
จะมีการเผื่อหลวมมากกว่าปกติ เพื่อความคล่องตัว

3.มารู้จักกับรูปร่างและราคาของแพทเทิร์นกันดีกว่าค่ะ ^^

1. เลขโค้ดของแพทเทิร์น รูปร่าง และ ราคา
รูปสามเหลี่ยมที่ฐานอยู่ด้านบน หมายถึงผู้ที่มีช่วงอกใหญ่/ไหล่กว้าง แต่สะโพกเล็ก
รูปสามเหลี่ยมธรรมดาคือ ผู้ที่มีอกเล็ก/ไหล่แคบ แต่สะโพก/ต้นขา ใหญ่
รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าคือ ผู้ที่มีส่วนอกและสะโพกเท่ากันแต่เอวหนา
แพทเทิร์นซองนี้จะเหมาะกับทั้ง 3 รูปร่างดังที่ว่าไว้
นอกจากนี้บนหัวมุมด้านขาวฟากภาษาฝรั่งเศส ยังเรทความยากง่ายของการเย็บดีไซน์นั้นไว้ด้วย เช่น easy ,
average, difficult
2. จารนัยถึงลายละเอียดของดีไซด์นั้นๆ เพราะเขาไม่สามารถใส่รายละเอียดทั้งหมดลงในภาพวาด/รูปถ่ายได้
คำแรกๆเลยเขาจะบอกว่าเขาดีไซน์ให้เสื้อผ้า
เป็นแบบรัดรูป พอดีตัว หลวมน้อย/มาก (การเผื่อหลวม / ease ) ซึ่งตรงนี้จะสำคัญต่อการแ้ก้ไขแพทเทิร์นเพื่อการฟิตติ้งมาก
ดิฉันจะเขียนอธิบายเพิ่มเติมในตอนหน้า
3. ตารางไซด์ อก เอว สะโพก เช่น แพทเทิร์นมาตรฐาน
ไซด์ 6 จะสร้างมาจาก อก 30 ½ เอว 23 สะโพก 32 ½
(แพทเทิร์นอเมริกัน หน่วยเป็น นิ้ว ของยุโรปจะเป็นเซ็นติเมตร)
4.อุปกรณ์ที่ต้องใช้ เช่น กระดุม ซิป ฯลฯ
5.ผ้าที่เหมาะสมกับแบบที่ดีไซน์เนอร์จินตนาการไว้ ถ้าเขาเขียนไว้ว่า
ต้องใช้ผ้ายืดเท่านั้น (knit only) เราก็ไม่ควรจะดื้อดึงไปใช้ผ้า
ทอธรรมดา เนื่องจากแพทเทิร์นแม่แบบ
ของผ้ายืดกับผ้าทอนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง
6.ขนาดความกว้างยาวของผ้าที่ควรซื้อ เขาจะบอกมาให้เสร็จสรรพ
รวมถึงผ้าซับใน ผ้า interfacing (ที่มีกาวไว้ด้านหนึ่ง
รีดบนผ้าจริงของเราเพื่อให้อยู่ทรง เช่น ผ้ารองปก ขอบกระโปรง/กางเกง)
7. ขนาดความยาวของเสื้อ ความยาวกระโปรง หรือ กางเกง เมื่อเย็บเสร็จแล้ว ตรงนี้จะมีความหมายต่อเราในกรณีที่เรามีส่วนสูง ไม่เท่ามาตรฐานเขา
( 168 ซม)เราก็จะทำการแก้ไขแพทเทิร์นให้มันเหมาะกับส่วนสูงของเรา
8.ภาพสเก็ตช์ด้านหลังของแบบ

2.คู่มือการใช้แพทเทิร์นสำเร็จรูปแบบเป็นซองๆ


ปกติแล้วในบ้านเรา ถ้าใครสักคนอยากจะตัดเสื้อผ้าใส่เอง คนนั้นจะต้องมีความรู้เรื่องการสร้างแพทเทิร์นเป็นอันดับแรก ซึ่งส่วนมากก็ต้องไปเรียน
ในสถานศึกษาเป็นเรื่องเป็นราว บ้างก็ตั้งใจเรียนจนจบ บ้างก็ท้อถอยตั้งแต่เดือนแรกๆ
เพราะการเรียนสร้างแพทเทิร์นไม่ใช่ของง่ายๆเลย ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่เลิกเรียนเสียกลาง
คันทิ้งค่าเรียนเป็นหมื่นๆเพราะยิ่งเรียนยิ่งยากและไม่สามารถนำ
ไปใช้ได้สักที

เมื่อ 1998 ผู้เขียนโยกย้ายถิ่นฐานมาอยู่ต่างประเทศ ได้เห็นแพทเทิร์นสำเร็จรูปของ เสื้อผ้าทั้งบุรุษ สตรี เด็ก ของตกแต่งบ้าน เช่น ผ้าม่าน ผ้าคลุมเตียง กระเป๋าผ้า มีแม้กระทั่งแพทเทิร์นเสื้อผ้าตุ๊กตาออกวางขายในร้านขายผ้า ความรู้สึกแรกคือ ตื่นเต้น มันแปลกใจ แปลกตาไปหมด เป็นอะไรที่เปลี่ยนโลกทัศน์ของการเย็บผ้าไปเลย ที่แปลกใจเพราะว่าผู้เขียนไม่เข้าใจว่าเขาสามารถทำแพทเทิร์น
ให้เข้ากับคนเป็นล้านๆคนซึ่งรูปร่างไม่เท่ากันสัก
คน ได้อย่างไร เห็นดังนั้นก็ต้องทดลองกันหน่อย วิธีการซื้อก็ง่ายๆ แค่เปิดแคทตาล๊อคเลือกแบบ ส่วนมากร้านขายผ้าจะรับแพทเทิร์นของบริษัท แมคคอล บัทเตอร์ริค ซิมพลิซิตี้ และ โวค มาขายซึ่งตอนนี้ได้รวมเป็นบริษัทเดียวกันแล้ว คนอเมริกันจะแอบเรียกว่า Big 4
เมื่อเลือกได้แบบที่พอใจแล้วต่อมาก็เลือกขนาดที่เหมาะกับผู้ใส่ ตรงนี้แหละที่เกิดเป็น
ปัญหา เพราะไม่รู้จะเลือกขนาดไหนดี ในเมื่อคนขาย และ คนที่ผู้เขียนรู้จักก็ไม่ได้เย็บเสื้อผ้าใส่เอง เมื่อดูขนาดที่เขาบอกบนซองและเทียบกับรูปร่าง
ตัวเองเท่าที่จำได้แล้ว ผู้เขียนก็คว้าไซด์ 12 มาเลย เสื้อที่ตัดด้วยไซด์ 12 ก็เป็นอันว่าใส่
ไม่ได้มันใหญ่เกินไป แต่กระนั้นก็ไม่คิดว่าต่อไปจะซื้อไซด์เล็กลง หรือนำแพทเทิร์นไซด์
12 มาลดขนาด ผู้เขียนสรุปลงไปเลยว่าแพทเทิร์นสำเร็จรูปมันไม่เข้าท่า มันทำให้ใหญ่ๆเข้าว่ากะว่าใครๆก็้ใส่ได้ถ้าใครอยากได้เสื้อ
เข้ากับรูปร่างดีๆต้องสร้างแพทเทิร์นเอง

ผู้เขียนจึงกลับมาง้อการสร้างแพทเทิร์นเองอีกโดยอ้างอิง
จากสมุดจดที่อาจารย์บังคับให้จดและทำแพทเทิร์นตัวย่ออย่างดี แต่ความที่เรียนไปแค่แพทเทิร์นแม่แบบ
และไม่รู้ว่าจะใช้แพทเทิร์นแม่แบบมาทำอะไรได้บ้าง ก็เป็นอันว่าไม่ประสบผลสำเร็จอีก
จนกระทั่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ผู้เขียนได้ลงทะเบียน
เรียนการตัดเย็บเสื้อแจ็คเก็ตอาจารย์ผู้สอนได้วัดตัวผู้เขียน
และบอกว่าขนาดตัวนี้ต้องใช้ไซด์ 8 เสียเวลาไป 8-9 ปีเต็มๆถึงเพิ่งจะเข้าใจในสิ่งที่ผู้เขียนจะถ่ายทอดให้ผู้อ่าน
ที่สนใจในกระทู้นี้

เรื่องย่อ หอบรักมาห่มป่า ตอน4 ละครช่อง7

เรื่องย่อ หอบรักมาห่มป่า ตอน4ละครช่อง7

ตอนที่ 4

ดนัยเห็นฉวีวรรณหน้าซีดก็ยิ้มเผล่ว่าเขาล้อเล่น แขนข้างที่ถูกตีไม่เจ็บ ฉวีวรรณโมโหหยิกท้อง เขาร้องลั่นเจ็บจริง ผลักเธอออกล้มไปด้วยกัน จมูกเขาหอมที่แก้มเธอฟอด ฉวีวรรณตาเหลือก ดนัยชะงักสบตาเธออึ้งๆ ฉวีวรรณอายรีบผลักเขาออกแล้ววิ่งหนีไป

ดนัยตามมา ฉวีวรรณห้ามไม่ให้พูดถึง แล้วหันไปจับปลาต่อ สุดท้ายดนัยต้องเป็นคนช่วยจับปลาให้ โดยอ้างว่าเขาได้ยาดีแล้วชี้ที่แก้ม ฉวีวรรณทั้งเขินทั้งอายหน้าแดง...

ศิรินั่งดื่มกาแฟหน้าเต็นท์ ธานีเดินมาร่วมวง ศิริจึงถามว่าเมื่อคืนออกไปไหนกันมา ธานีอึกอักตอบไม่ถูก พลันมีเสียงปืนดังขึ้น ทั้งสองวิ่งไปดู เห็นธนวัติกำลังไล่ยิงหมีป่าที่มารื้อเต็นท์แต่ไปโดนลูกน้องตัวเองบาดเจ็บ ศิริรีบห้ามและขอให้กลับไป ธานีเก็บความไม่พอใจ ขอโทษแทนลูกชายและจะพาทั้งลูกและหลานกลับ ศิริรู้สึกตัวว่าพูดแรงไป จึงขอสั่งห้ามใช้ปืนเด็ดขาด


มื้อนี้ ฉวีวรรณได้กินปลาย่างอร่อยๆ ดนัยทำเป็นเจ็บแขนขอให้เธอช่วยป้อน ฉวีวรรณจึงแกล้งเอาพริกขี้หนูยัดไส้ป้อนให้ ดนัยร้องโอดโอยหาน้ำกินแทบแย่ พอดี แม่โทร.เข้ามือถือ ดนัยเป็นกังวลไม่อยากให้แม่รู้ว่าตนบาดเจ็บ จึงให้ฉวีวรรณคุยแทน...นงนุชโทร.มาเพราะเมื่อคืนฝันไม่ดีเป็นห่วงลูก ฉวีวรรณแก้ตัวให้ว่า ดนัยพากวางที่บาดเจ็บไปรักษา ลืมมือถือทิ้งไว้ นงนุชโล่งใจที่ลูกชายปลอดภัยดี พอวางสาย ดนัยรู้สึกผิดวิ่งออกไปร้องตะโกนระบายความอัดอั้น


“ฉันมันเลว ฉันไม่ดีเอง พอแม่โทร.มาฉันถึงคิดได้ แม่ยังเป็นห่วงฉัน แล้วพ่อเธอจะไม่ห่วงเธอได้ยังไง ฉันรู้สึกผิดจริงๆ”

“จะว่านายผิดก็ไม่ถูก ทั้งๆที่มีโอกาสแล้วฉันก็ยังตามนายมาเอง ฉันก็มีส่วนผิดพอๆกับนายนั่นแหละ อย่าคิดมากไปเลย”

ดนัยรู้สึกดีขึ้น เขาบอกฉวีวรรณว่า เขาจะซ่อมแพนี้ แล้วปล่อยล่องไปตามน้ำ อาจจะได้เจอหมู่บ้านและต่อรถเข้าเมืองได้ เขาจะพาเธอไปขอขมากับพ่อ...ระหว่างที่ช่วยกันซ่อมแพ ดนัยเอาก้อนกรวดสีชมพู ที่เขาเก็บได้ตอนหาปลา มอบให้ฉวีวรรณ ขอให้เธอเก็บเป็นที่ระลึก ว่าในเวลาที่โหดร้าย เขายังรู้สึกโชคดีที่มีเธออยู่ข้างๆ ที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเธอ ฉวีวรรณตื้นตันใจ

ขณะถ่อแพไปตามลำน้ำ ดนัยถามฉวีวรรณว่าเกลียดตนน้อยลงหรือยัง ไม่ทันจะตอบ ธนวัติยิงปืนใส่จากริมฝั่ง ดนัยรีบถ่อแพพาฉวีวรรณหนีไปขึ้นฝั่งอีกด้าน ธนวัติพาพวกตามล่า ดนัยหันมาขอให้ฉวีวรรณยิ้มให้ “ยิ้มให้ทีสิ จะได้มีแรง”

“อีตาบ้า ยังจะพูดเล่นอีก...ไป” ฉวีวรรณฉุดดนัยวิ่งเสียเอง



ทั้งสองวิ่งพลัดเข้ามาในเขตกองไม้เถื่อน มีเลาซากำลังคุมลูกน้องให้ช้างลาก ดนัยรีบฉุดฉวีวรรณหลบทางเดินของช้าง พวกเลาซายิงใส่ ธนวัติตามมา ดนัยเห็นจวนตัวดึงฉวีวรรณโหนเถาวัลย์หนี เธอร้องลั่นกลัวความสูง ดนัยมองธนวัติคุยกับเลาซาจึงรู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน ธนวัติยิงเปรี้ยงโดนเถาวัลย์ขาด ดนัยกับฉวีวรรณตกลงกลิ้งหลุนๆไปด้วยกัน แผลดนัยเลือดทะลักออกมาอีก เลาซากับพวกตรงเข้าจะยิงซ้ำ วินยา สาวชาวกะเหรี่ยงโหนเถาวัลย์แหวกอากาศมาเตะเลาซากับพวกกระเด็น วินยาคือลูกสาวหัวหน้าเผ่าที่ถูกกาซูฆ่าตาย จึงต้องรับหน้าที่ดูแลคนในเผ่าแทน

วินยาช่วยกันให้ดนัยกับฉวีวรรณหนีไปก่อน ดนัยเห็นเลาซาจะแทงวินยา เขาพุ่งตัวเข้าไปจับมือเลาซาบิดอย่างแรงจนมีดร่วง และช่วยวินยาต่อสู้ทั้งที่ตัวบาดเจ็บ วินยาผิวปากเรียกช้างของตนมาช่วย ฟาดงวงฟาดงาใส่ธนวัติและเลาซา ดนัยเริ่มอ่อนแรงทรุดลง ฉวีวรรณจะเข้าประคอง แต่กลับโดนวินยาแทรกประคองดนัยวิ่งไป เธอจึงต้องวิ่งตาม

ooooooo

ระหว่างเดินอยู่กลางป่า ดาหวันได้เห็นความอ่อนโยนของชลิต เขาช่วยลูกนกกลับไปคืนรังบนคบไม้ ชลิตหันมาเห็นดาหวันมองตาเยิ้ม เขาจึงบอกเธอว่า

“พี่พูดจริงๆจากใจเลยนะหวัน...พี่อยากรักษาป่าฝืนนี้ให้สมบูรณ์ ให้เป็นบ้านที่สัตว์ป่าทั้งหลายอยู่กันอย่างมีความสุข พี่จะต้องตามหาตัวไอ้นายทุนทำลายป่าคนนั้นให้ได้”

“พี่ชลิตอุดมการณ์สูงส่งดีนะ แต่ตอนนี้พี่ชลิตตามหาแหล่งน้ำก่อนได้ไหม”

ชลิตถามว่าเธอหิวน้ำหรือ ดาหวันทำจมูกฟุดฟิดเหม็นกลิ่นตัวเขา และว่าเหมือนหมาเน่า ว่าแล้วก็วิ่งหนี ชลิตนิ่วหน้าวิ่งตามอย่างเคืองๆ ดาหวันวิ่งลงไปในลำธาร ชลิตเห็นบางอย่างลอยมารีบชี้ให้เธอมอง มันคือกระเป๋าเสื้อผ้าที่เขากับเธอหอบหิ้วหนีออกมาจากบ้านทองอิน ทั้งสองดีใจลุยไปลากกระเป๋าขึ้นมา ดาหวันเปิดกระเป๋าดู เป็นเสื้อผ้าของฉวีวรรณ

เรื่องย่อ หอบรักมาห่มป่า ตอน3 ละครช่อง7


ตอนที่ 3

ด้วยความที่ฉวีวรรณชอบหนี ดนัยจึงหลอกให้ทาตัวด้วยดินดำ แล้วเสือจะกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ เธอหลงเชื่อทาทั้งตัวและหน้าตา แต่พอเห็นดนัยเอาแต่หัวเราะไม่ทำด้วย จึงรู้ว่าโดนหลอก เธอเอาคืนด้วยการหาหมามุ่ยมาใส่เขา ทั้งสองต้องมาล้างเนื้อตัวอีกครั้งที่ริมลำธาร

พอดีดาหวันขโมยมือถือชลิตโทร.เข้ามา ดนัยรีบถามว่าเธออยู่ที่ไหนเขาจะไปหา ดาหวันไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ส่วนไหนของป่า จึงบอกว่ามีน้ำตกใหญ่ พลันสัญญาณขาดหายไป ชลิตตื่นมาดาหวันรีบบอกว่าตนนัดกับดนัยแล้ว ทันใดมีลิงตัวหนึ่งมาแย่งมือถือไปจากมือ ดาหวันร้องลั่นวิ่งไล่เอาคืน ลิงหนีขึ้นต้นไม้ มันกดเล่นไปติดที่เครื่องของศิริ ศิริแปลกใจได้ยินเสียงเจี๊ยกๆก็เข้าใจว่าคนชื่อเจี๊ยบโทร.มา ธนวัติกับแจ๋แย่งมาฟัง ได้ยินเสียงดาหวันตะโกนบอกลิงให้เอาคืนมาแล้วตะโกนบอกชลิตว่านัดกับดนัยที่ น้ำตกใหญ่ ธนวัติได้ยินหันไปยิ้มกับพาณิชย์อย่างเหี้ยมๆ

ดนัยพาฉวีวรรณเดินหาน้ำตก เจอทางลาดชัน เขายื่นมือให้เธอจับแต่เธอปัด ทำเก่งลงมาเองจนลื่นจะล้ม ดนัยรีบประคองเธอไว้ ทั้งสองสบตากันปิ๊งปั๊ง ฉวีวรรณจะผละออกจากแต่ดนัยยื้อ

“ทำอวดเก่ง อยากไปเจอหน้าชลิตเร็วๆงั้นสิ”

“แล้วนายล่ะ ไม่อยากเจอยัยหวันหรือไง” ฉวีวรรณ ประชดใส่

ดนัยโต้ว่าเขาถามเธอก่อน ฉวีวรรณเอ็ดมันเรื่องอะไรมายุ่งกับความรู้สึกของตน ดนัยค่อนขอดตอบแค่นี้ ไม่ตายหรอก ฉวีวรรณซักสีหน้าโกรธ ทำเอาดนัยรู้สึกน้อยใจ

“ไม่ตอบก็ได้ ฉันรู้แล้วน่า เธออยู่กับฉันแค่ตัว แต่ใจเธอมันเป็นของชลิต”

ฉวีวรรณเจ็บแปลบที่ใจ ผลักเขาออกแล้วประชด “รู้แล้วก็ดี ถ้าเจอชลิต ฉันจะกระโดดหอมซ้ายหอมขวาให้หายคิดถึง ส่วนนายจะไปตายที่ไหนก็ไป เหม็นขี้หน้าจะตายอยู่แล้ว”

ดนัยรู้สึกแปลบปลาบในใจ...

ในขณะที่ดาหวันกับชลิตตามเอาโทรศัพท์คืนจากลิงจนเหนื่อย ชลิตขอตัวไปยิงกระต่ายข้างทาง แล้วเขาก็เจอกับพาณิชย์และพวก ชลิตรีบกลับมาดึงดาหวันวิ่งหนี ส่วนธนวัติกับอุ๊บอิ๊บให้อาหลู่นำทางมาที่น้ำตก เขาลองโทร.เข้าเครื่องที่ดาหวันโทร.มา ได้ยินเสียงมือถือ ดังอยู่ไม่ห่างจึงตามไปจนพบ ปรากฏว่าลิงเอามือถือไปวางไว้บนรังผึ้ง เสียงโทรศัพท์ทำให้ผึ้งแตกรังออกมาไล่ต่อยพวกธนวัติ ธานีกับศิริมาถึงต้องพลอยหนีไปด้วย

ดนัยเห็นพวกธนวัติวิ่งมาก็เอามือปิดปากฉวีวรรณและกอดหลบอยู่ใต้ชะง่อนผา ธนวัติเห็นเงาสองคนในน้ำ จึงให้ลูกน้องไปดักอีกด้าน ส่วนตัวเขายิ่งใส่ดนัย อุ๊บอิ๊บร้องลั่นห้ามยิง แต่ธนวัติไม่สนใจไล่ยิง จนดนัยและฉวีวรรณวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน แจ๋ บุญทิ้ง และกิมจิตกใจหาทางช่วย ตัดสินใจผลักกิมจิโหนเถาวัลย์ไปหล่นใส่ธนวัติล้ม ปืนกระเด็น ทำให้ดนัยกับฉวีวรรณหนีไปได้ แจ๋เห็นอีกทาง พาณิชย์กำลังจะยิงชลิต จึงแกล้งตะโกนออกไป

“เจอแล้ว ชลิตอยู่นี่ ยิงมันเลย พี่พาณิชย์ยิงมันเลย”

ทำให้ชลิตรู้ตัว ดึงดาหวันวิ่งหนีได้ทัน ทั้งสองวิ่งมาเจอกับดนัยและฉวีวรรณ ต่างดีใจแต่ไม่ทันจะอะไรก็มีกระสุนยิงเฉียดมา ดนัยดึงฉวีวรรณวิ่งหนีไปอีก ดาหวันยืนตะลึง ชลิตเข้าไปดึงดาหวันหนีไปอีกทาง อุ๊บอิ๊บมาดักหน้าดนัย ผลักฉวีวรรณออกแล้วเข้าไปเกาะแขนดนัย

“อยู่กับกิ๊กนายไปเถอะ” ฉวีวรรณถลึงตาโกรธ วิ่งหนีไป

ดนัยจะตามแต่อุ๊บอิ๊บดึงไว้ เขาจึงสะบัดอย่างแรง พอดีบุญทิ้งเข้ามารับเธอไว้ ดนัยรีบบอกบุญทิ้ง ฝากอุ๊บอิ๊บด้วยแล้ววิ่งตามฉวีวรรณไป อุ๊บอิ๊บร้องกรี๊ดๆผลักบุญทิ้งล้ม บุญทิ้งหายใจหอบ ควักยาพ่นออกมาพ่นใส่ปากแก้อาการหอบหืดด้วยตัวเอง

ชลิตกับดาหวันทำรอยเท้าลวงว่าลุยน้ำไปอีกฟากหนึ่ง แต่แท้จริงแล้วถอยหลังเข้าป่า ส่วนฉวีวรรณวิ่งตามหาดาหวัน ไม่ทันระวังสะดุดรากไม้ กิ่งไม้เกี่ยวเสื้อขาด ดนัยเข้ามารวบตัวเธอไว้ก่อนที่จะล้ม เขาเอ็ดว่าเธอโก๊ะอีกแล้ว

“นี่นายยังไม่ตายอีกเหรอ”

“หึ นี่เป็นคำขอบคุณของเธอใช่มั้ย”

“เอ้า ก็ยัยอุ๊บอิ๊บอ้อล้อซะขนาดนั้น นายน่าจะสำลักความดัดจริตตายไปแล้ว”

“คำก็ตาย สองคำก็ตาย เธออยากให้ฉันตายขนาดนี้ เลยเหรอ ฉวีวรรณ”

ฉวีวรรณสบตาดนัยอึ้งๆไม่ทันจะตอบ เสียงธนวัติสั่งลูกน้องค้นให้ทั่ว ทั้งสองจึงรีบซ่อนตัว เสียงศิริตะโกนเรียก ฉวีวรรณดีใจจะออกไปหาพ่อ แต่ดนัยรั้งไว้เกรงจะโดนยิงเสียก่อน

“พ่อฉันไม่ทำยังงั้นหรอก นะ...ดนัย ไปคุยกับพ่อฉันดีๆเรื่องทุกอย่างจะได้จบเสียที” ขาดคำเสียงปืนดังปังขึ้น ฉวีวรรณตกใจซุกหน้ากับอกดนัย

“หึ พ่อเธออาจจะไม่ แต่ไอ้ธนวัติยิงแน่...เธอไม่ต้องพูดหรอก ฉันรู้ว่าทุกอย่างมันผิดพลาด แต่ในความเลวร้ายก็ยังมีสิ่งดีๆเหลืออยู่”

“นายพูดเรื่องไร”

“หน้าที่กามเทพ พาตัวเธอไปส่งให้ชลิตไงล่ะ”

ฉวีวรรณอึ้งก่อนจะต่อว่าดนัยบ้าไปแล้ว ดนัยย้อนว่าเขาไม่ได้บ้า แต่เขาต้องทำตามที่รับปากชลิตไว้ ดนัยจับมือฉวีวรรณ เธอสะบัดจะวิ่งออกไป ดนัยปรามอย่าดื้อ พลันเสียงปืนดังขึ้นอีก ฉวีวรรณตกใจร้องกรี๊ด ทำให้ธนวัติได้ยิน สั่งให้ออกมา ฉวีวรรณขอร้องให้ดนัยยอมออกไปแต่ดนัยไม่ยอม เขาคิดแผนใหม่ได้ กำก้อนดินทำทีว่าเป็นระเบิด คุมตัวฉวีวรรณเป็นตัวประกันเดินออกมา ศิริขอร้องให้ปล่อยตัวลูกสาว และห้ามทุกคนยิง

“ผมต้องการตัวลูกสาวคุณ ถอยไปซะ” ดนัยขออย่างสุภาพ

“แต่นี่ยัยหวีนะโว้ย ไม่ใช่ยัยหวัน” ศิริขอเริ่มโมโห

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ผมกับชลิตนัดกันไว้แล้ว”

“ปล่อยหลายฉันซะ ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกันอย่างนี้หรอก” ธานีช่วยพูด

“ผมยอมเลว ผมทนเห็นหวีแต่งงานกับผู้ชายชั่วๆไม่ได้จริงๆ”

ธนวัติโวยเมื่อโดนว่าเป็นคนชั่ว ฉวีวรรณกระซิบถามดนัย จัดหนักไปหรือเปล่า ดนัยบอกให้อยู่เฉยๆ ศิริพยายามขอร้องอีกครั้ง เผอิญมีมดไต่เข้าไปในขากางเกง ดนัยเริ่มขยุกขยิก จนทนไม่ไหวปล่อยฉวีวรรณเพื่อล้วงเอามดออก ทุกคนจึงเห็นว่าในมือดนัยไม่ใช่ระเบิด ดนัยรีบปาดินทิ้งแล้วฉุดฉวีวรรณวิ่งหนี ธนวัติไล่ยิง ศิริร้องห้ามอย่ายิง แต่กระสุนเฉี่ยวโดนแขนดนัยเลือดสาด

ฉวีวรรณตกใจเอาตัวขวางปกป้องไม่ให้ใครยิงดนัยอีก ดนัยรู้ว่าไม่รอดแน่จึงให้ฉวีวรรณกลับไปกับพ่อ ก่อนจะวิ่งหนีเข้าป่า แต่ฉวีวรรณกลับวิ่งตามดนัยไปท่ามกลางสายตาของทุกคน...ดนัยวิ่งลัดเลาะไปตาม โขดหิน ฉวีวรรณตามมาทันถามด้วยความห่วงใยว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ดนัยหยุดพิงโขดหินบอกเธอ “รออยู่ที่นี่แหละ ยังไงพ่อเธอก็ต้องตามมา กลับบ้านไปซะ”

“ไม่ใช่พ่อฉันสักหน่อย มีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉัน” ฉวีวรรณใจหายแต่ยังเถียง

“หึ...ไหนไม่อยากอยู่กับคนบ้าไงล่ะ” พลันเสียงศิริดังมา “นั่นไงพ่อเธอตามมาแล้ว ไปเถอะ ฉันไม่มีแรงรั้งเธอไว้แล้ว”

“ฉันไม่มีวันทิ้งนาย เราจะไปด้วยกัน” ฉวีวรรณตรงเข้าจับมือดนัยวิ่งนำไป

ดนัยมองมือเธออย่างคาดไม่ถึง ฉวีวรรณดึงดนัยวิ่งมาที่สะพานเชือกที่ตีแผ่แผ่นไม้ผุๆข้ามลำธารเตี้ยๆ ระหว่างที่วิ่งผ่าน แผ่นไม้หลุดหล่นน้ำตามหลังอย่างน่าหวาดเสียว ศิริตามมาเรียกฉวีวรรณให้กลับ แต่เธอไม่ยอมไป พอดีดนัยเหยียบไม้ทะลุขาติด ธนวัติสั่งลูกน้องลุยน้ำไปลากตัวทั้งสองมา ดนัยไล่ฉวีวรรณให้กลับไป

“ฉันไม่กลับ...อย่าเข้ามา  พ่อปล่อยเราไปเถอะ” ฉวีวรรณขอร้องศิริพร้อมกับเอาตัวบังไม่ให้ใครทำร้ายดนัย ดนัยมองเธออย่างซาบซึ้งใจ

ทันใดมีจระเข้โผล่มา ฉวีวรรณตกใจร้องบอก ดนัยกระชากขาตัวเองขึ้นมาอย่างหวุดหวิด พวกลูกน้องธนวัติต่างวิ่งขึ้นจากน้ำเอาชีวิตรอด จระเข้ใช้หางฟาดสะพานพัง ขณะที่ฉวีวรรณประคองดนัยข้ามไปอีกฝั่งได้สำเร็จ ธนวัติโกรธมาก ยิงทั้งจระเข้และยิงไล่หลังดนัย ศิริร้องสั่งให้หยุดได้แล้ว อย่าทำลายชีวิตอื่นโดยไม่จำเป็น ธนวัติฮึดฮัดไม่พอใจ

ooooooo

ข้างฝ่ายดาหวันกับชลิต หนีมานึกว่ารอด ดาหวันเห็นพวกพาณิชย์มาด้านหลังชลิต จึงรีบผลักเขาหงายหลัง ตัวเองคร่อมอยู่บนตัวเขา ชลิตจ้องหน้าดาหวันที่อยู่ชิด ใจเต้นโครมคราม พวกพาณิชย์เดินผ่านไป ดาหวันมองตาชลิตอึ้งๆก่อนจะดึงตัวออก แต่ชลิตกลับดึงเธอมากอดแนบอก

“พี่ชลิต...อย่ามา...”

“มา อะไร...”

“ชีกอแล้วยังมาถาม อย่ามาแต๊ะอั๋งหวันนะ”

“ฉันไม่โรคจิต มีอะไรกับไม้กระดานหรอกน่า”

“อี๋ไอ้คนปากหนอน ว่าหวันเป็นไม้กระดานเหรอ” ดาหวันยกมือจะทุบ

ชลิตสั่งให้หยุด อยู่เฉยๆ แล้วเขี่ยบางอย่างที่แก้มเธอออก “ขนตาเธอร่วง ฉันแค่เก็บให้”

ดาหวันลุกขึ้นปัดเศษหญ้าออกจากตัวใส่ชลิต เชิดหน้าใส่แก้เขิน ชลิตมองอย่างเอ็นดู...ดาหวันหันมาเห็นพาณิชย์ยังยืนอยู่ จึงส่งสัญญาณอย่างมีแผนกับชลิต เธอใช้นิ้วมือทำเป็นปืนไปจี้หลังพาณิชย์ ชลิต

เข้าปลดอาวุธและมีด จากนั้นก็จับพาณิชย์มัดติดต้นไม้ไว้ในสภาพเหลือบอกเซอร์ตัวเดียว ดาหวันเอานิ้วจิ้มหน้าพาณิชย์พร้อมกับพูดว่า

“จำใส่กะลาหัวพี่ไว้เลยนะ หวันไม่มีทางแต่งงานกับผู้ชายเลวๆอย่างพี่ อย่ามายุ่งกันหวันอีก ไม่งั้นจะโดนมากกว่านี้” ดาหวันให้ชลิตเอาด้วงวางบนอก พาณิชย์ร้องลั่นอย่างขยะแขยง...

หนีมากันได้ระยะหนึ่ง ดนัยก็ทรุดลงเพราะพิษไข้จากการอักเสบของแผล ฉวีวรรณประคองไปพักในแพร้างข้างลำธาร โชคดีที่มีข้าวของทิ้งไว้ มีถังสังฆทาน ใบหนึ่งในนั้นมียา เธอจึงเอามาทำแผลให้ เธอฉีกแขนเสื้อดนัยออก เขามองถอนใจเขากับเธอไม่น่าจะเป็นศัตรูกันเลย

“หุบปากนายได้แล้ว ฉันจะทำแผล” ฉวีวรรณเขิน

“ฉันไม่ได้เป็นแผลที่ปากนี่”

ฉวีวรรณเงื้อหมัดแล้วถาม “จะเอาอีกสักแผลไหมล่ะ จะช่วย”

“หน้าเธอเวลาโมโหตลกดีแฮะ ฉันมองแล้วลืมเจ็บไปเลย” ดนัยมองหน้าขำๆ

“อีตาบ้า ไม่ต้องมากวนประสาทเลยนะ...โอ๊ะ แผลไม่เบาเลย ดีนะกระสุนไม่ฝังใน”

ฉวีวรรณเอาแอลกอฮอล์เช็ดแผลให้อย่างเบามือ เช็ดไปเป่าไปเกรงเขาจะแสบ ดนัยมองเพลินรู้สึกดีๆกับฉวีวรรณมากขึ้น พอเธอเอาทิงเจอร์ใส่แผล เขาสะดุ้ง เธอรีบเป่าให้หายแสบแล้วเอาผ้าก๊อซพันแผล ดนัยยิ้มอย่างซาบซึ้งใจ

“เรียบร้อยแล้วล่ะ แต่ยังไงพรุ่งนี้เราต้องหาทางออกจากป่าให้ได้ นายจะได้ไปหาหมอ”

ดนัยครางฮือออกมา ฉวีวรรณเห็นหน้าเขาซีดๆจึงเอามือแตะหน้าผากดู รู้สึกว่าร้อน เธอหาผ้ามาห่มเขา และบอกให้นอนพัก ตนจะไปหาอะไรให้ทานก่อนจะได้ทานยา

“อย่าพยายามเลย ฉันอาจไม่รอดคืนนี้ก็ได้” ดนัยพูดขึ้นเบาๆ

“ไม่นะ อย่าพูดแบบนี้”

“เธอน่าจะดีใจนะหวี คนที่เธอเหม็นขี้หน้า คนที่เธอชอบไล่ให้ไปตายทุกครั้ง กำลงจะตายสมใจเธอแล้ว”

“ไม่จริง นายต้องไม่ตาย นายต้องหาย นายต้องอยู่ต่อไปนะ ดนัย” ฉวีวรรณน้ำตาคลอ

“จะร้องทำไม เป็นห่วงฉันด้วยเหรอ”

“เปล่า ฉันไม่ได้ห่วง”

“ไม่ห่วงแล้วมาช่วยฉันทำไม” ดนัยเห็นฉวีวรรณอึ้งจึงจับมือเธอเบาๆถาม “เธอไม่ได้เกลียดฉันใช่มั้ย” ดนัยลุ้นรอฟังคำตอบ

ฉวีวรรณพยายามปิดบังความรู้สึกหลบตาดึงมือออก ฝืนใจตอบ “เกลียดสิ ฉันเกลียดนายที่ฉันช่วยนายก็เพราะยัยหวัน นายต้องอยู่ต่อไปเพื่อคนที่นายรัก นายต้องอยู่ต่อไปเพื่อยัยหวัน”

ดนัยหน้าเจื่อนไม่คิดว่าฉวีวรรณจะตอบแบบนี้ เขารู้สึกเจ็บแปลบในใจ “ก็จริง เธอพูดถูกฉันต้องอยู่ต่อไปเพื่อคนที่ฉันรัก”

“ถ้ายัยหวันได้ยินคงดีใจมาก นายต้องรีบหาย ห้ามตายเด็ดขาด เข้าใจมั้ย” ฉวีวรรณทำขึงขัง ลุกเดินออกไป ดนัยเรียกเธอไว้ ฉวีวรรณหันมามอง

“สำหรับทุกอย่างที่เธอทำให้คนที่เธอเกลียด ฉันขอบใจมาก แล้วจะไม่มีวันลืมเลย”

ฉวีวรรณอึ้ง ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร เดินออกมาอย่างเร็ว พอพ้นสายตาดนัย เธอก็หยุดร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่เข้าใจตัวเอง “นี่เราเป็นอะไรไป ทำไมไม่เข้มแข็ง ทำไมต้องแคร์ ทำไมต้องร้องไห้เพราะผู้ชายบ้าๆอย่างนั้นด้วย ฉันเกลียดนายที่สุดเลยดนัย เกลียดที่สุด...ที่นายทำให้ใจของฉันวุ่นวายไปหมดแล้ว”

ไม่ต่างจากดาหวัน ที่รู้สึกว้าวุ่นในใจไม่น้อย เธอเดินเหม่อลอยจนชนหลังชลิตอย่างจัง ชลิตหันมาโวยว่าจะหาเรื่องกันอีกหรือ ดาหวันรีบบอกว่าเธอแค่เป็นห่วงเกรงฉวีวรรณจะรังแกดนัยอีก ชลิตโต้ว่าดนัยต่างหากที่จะกวนโมโหฉวีวรรณ ดาหวันโวย

“นี่เลิกเถียงหวันสักครั้งได้ไหม เป็นพี่ก็หัดอยู่ในโอวาทมั่ง”

“เธอสิ เป็นน้องเป็นนุ่งฉันจริงๆหน่อยไม่ได้ จะจับตีให้ก้นลายเชียว”

ดาหวันโกรธท้าว่าจะทำอะไรตนได้ ชลิตหัวเราะหึๆ พร้อมจะจัดให้ เขาสาวเท้าเข้าใกล้เธอ ดาหวันถอยกรูดชนต้นไม้ หัวกะโหลกหล่นจากต้นไม้ลงมาใส่มือชลิต เขาไม่ทันมอง หาว่าดาหวันปาลูกบอลใส่ ดาหวันตาเหลือกพยายามให้เขาดูว่ามันไม่ใช่ลูกบอล พอชลิตก้มดูเห็นว่าเป็นหัวกะโหลกก็ร้องลั่นโยนทิ้งแล้ววิ่งหนี...สองคนวิ่งมาหยุดพักตรงพุ่มไม้หนึ่ง

ดาหวันรู้สึกว่าบรรยากาศแปลกๆ ชลิตเห็นด้วย ดาหวันชี้ให้ดูที่พื้นเหมือนมีการลากอะไรบางอย่าง แถมมีรอยเท้าช้างด้วย ชลิตเห็นแล้วมั่นใจว่ามีการใช้ช้างลากไม้ผิดกฎหมายแน่

ooooooo

มีกระท่อมไม้อยู่กลางป่าดงผีฟ้า เป็นอาศรม ของกาซู ซึ่งเคยเป็นหมอผีประจำเผ่า มีอาคมเป็นคนกักขฬะ เหี้ยมโหด และยังเป็นคนที่ฆ่าหัวหน้าเผ่าเพื่อความเป็นใหญ่แต่ถูกจับได้โดนขับไล่ออกจากเผ่า จนมายึดอาชีพดูแลจัดการการขนไม้เถื่อนเพื่อแลกเงินให้กับพวกธานี

เรื่องย่อ หอบรักมาห่มป่า ตอน2 ละครช่อง7


ตอนที่ 2

ธานีกับธนวัติพยุงพาณิชย์ซึ่งโดนดาหวันปาถุงกระสอบใส่ รถมอเตอร์ไซค์จึงล้มได้รับบาดเจ็บกลับมาทำแผลที่บ้าน แจ๋ กิมจิ และบุญทิ้งยังรอฟังข่าวอยู่ ธนวัติไม่พอใจที่พวกแจ๋มาก่อเรื่องทำให้ดนัยกับชลิตพาฉวีวรรณกับดาหวันหนีไป จึงตรงเข้าชกหน้ากิมจิ อุ๊บอิ๊บเข้าช่วยพี่ชายตบกับแจ๋ ธานีต้องห้าม

“อุ๊บอิ๊บ พอได้แล้ว โดนตบซิลิโคนเบี้ยว ป๊าไม่ให้ตังค์ไปเหลาใหม่แล้วนะ”

“ป๊าก็ มันเป็นคนช่วยพี่ดนัยฉุดยัยพี่น้องหน้านกเงือก...”

ธานีรีบตะครุบปิดปากลูกสาวยิ้มเจื่อนๆให้ศิริ แก้ตัวไปว่าหมายถึงนกเงือกเป็นสัตว์ที่รักครอบครัว

ฉวีวรรณกับดาหวันเป็นพี่น้องที่รักกันเหมือนนกเงือก แล้วลากตัวลูกสาวออกไป ศิริหันมาซักถามพวกแจ๋ว่ารู้เห็นเป็นใจด้วยหรือเปล่า ทั้งสามปฏิเสธพัลวัน...

จนค่ำมืด ฉวีวรรณรู้สึกตัวขึ้นมาอย่างมึนๆ พอตั้งสติได้หันไปมองดนัย เห็นยังฟุบนิ่งอยู่ก็เอามืออังจมูกดู “ตายหรือเปล่าอ่ะ...ตายซะได้ก็ดี”

ฉวีวรรณขยับจะออกจากรถ ดนัยคว้ามือหมับ “จะไปไหน...ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก โดยเฉพาะถ้าฉันยังไม่ได้ส่งเธอเข้าหอกับชลิต”

ฉวีวรรณโกรธสะบัดมือโดดออกจากรถ ดนัยรีบตามลงมา เธอวิ่งหนีรอบรถแล้ววิ่งเข้าป่า ดนัยร้องให้หยุดเดี๋ยวหลงป่า แต่เธอไม่ยอมหยุด วิ่งลัดเลาะไปจนรู้สึกว่าดนัยไม่ได้ตามมา จึงนั่งพักเหนื่อย ไม่ทันไร ดนัยโผล่พรวดมากอดเธอไว้ด้านหลัง ฉวีวรรณตกใจร้องลั่น

“นี่เลิกสร้างปัญหาซักทีได้ไหม ฉันกำลังจะช่วยเธอนะ”

“นายนั่นแหละที่สร้างปัญหา แล้วจะมาช่วยอะไรฉัน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”

ดนัยรำคาญเปลี่ยนมาปิดปากฉวีวรรณ “หยุดโวยวายแล้วฟังฉันก่อนได้ไหม เธอไม่ได้อยากหมั้นกับไอ้ธนวัติไม่ใช่เหรอ ฉันก็จะพาเธอไปหาชลิตไง”

ฉวีวรรณกัดมือดนัย เขาร้องโอ๊ยปล่อยมือจากปากเธอ ฉวีวรรณต่อว่า “สมน้ำหน้า อยากงี่เง่าพูดไม่รู้เรื่องเอง ดูปากฉันให้ชัดๆนะ ฉันไม่ได้บอกให้นายสองคนมาช่วย พวกนายก่อเรื่องยุ่งไปกันใหญ่แล้วเข้าใจไหม ปล่อยฉันกลับไปเดี๋ยวนี้”

“ยังไม่ใช่ตอนนี้ เธอต้องไปหาชลิตก่อน”

ฉวีวรรณโวยวายว่าไม่ไป สองคนยื้อยุดกัน พลันมีแสงไฟรถบนถนนผ่านมา ฉวีวรรณดีใจจะวิ่งไปขอความช่วยเหลือ ดนัยไม่รู้จะทำอย่างไร จึงดึงตัวเธอเข้ามาจูบปิดปากไม่ให้ส่งเสียง ฉวีวรรณตกใจทำอะไรไม่ถูก ซักพักก็พยายามดิ้นรน ดนัยลืมตัวจูบเธออย่างดูดดื่ม มือเธอที่ทุบตีเขาอ่อนลง ไฟรถผ่านไป ดนัยผละออก ฉวีวรรณนิ่งช็อกเอามือแตะปากตัวเอง ดนัยมองเธออย่างรู้สึกผิดอยากขอโทษแต่ยังวางฟอร์ม จึงเอียงหน้าให้

“อ่ะ ตบฉันสิ ในหนังไทยเวลาผู้หญิงโดนขโมยจูบ ก็ต้องตบไม่ใช่เหรอ”

ฉวีวรรณมองหรี่ตาด้วยความโกรธ แล้วชกเปรี้ยง “ไอ้บ้า ไอ้คนทุเรศ”

ดนัยกุมหน้าโอดโอย เห็นฉวีวรรณวิ่งเตลิดเปิดเปิงไปก็อดห่วงไม่ได้ จึงวิ่งตามร้องเรียก

“เธอจะวิ่งไปไหนเดี๋ยวก็หลงกันหรอก”

“ฉันยอมหลงป่าตายอยู่ในนี้ ดีกว่าต้องอยู่กับนาย ว๊าย...” ฉวีวรรณสะดุดล้ม
เธอคว้ากิ่งไม้ปาใส่ไม่ให้ดนัยเข้ามาใกล้ ดนัยร้องบอกให้อยู่นิ่งๆเพราะเขาเห็นงูเห่าอยู่ข้างหลังเธอ เขาพยายามพยักพเยิดให้เธอหันไปมอง และส่งสัญญาณให้เงียบ ฉวีวรรณเอามืออุดปากอย่างว่าง่าย ตัวสั่นเทาด้วยความกลัว พอเห็นงูจะเลื้อยไป ดนัยก็เข้าฉุดเธอให้ลุกขึ้น

“เอ๊ะ ปล่อยนะ” ฉวีวรรณได้สติสะบัดมือออก

ดนัยเริ่มโมโห “เอ้า ปล่อยก็ได้ อยากจะวิ่งตามไปให้มันกัดก็เชิญเลย มืดๆอย่างนี้มันไม่ได้มีแค่งูหรอกนะ ทั้งเสือ สิงโตมันออกล่าเหยื่อตอนกลางคืนเหมือนกัน เธออยากจะไปเป็นบุฟเฟ่ต์ให้มันก็ตามใจ”

ฉวีวรรณชะงักไม่กล้าเดินต่อ หันกลับมาเดินตามดนัยห่างๆ เธอเห็นผลไม้บนต้นไม้จึงหยุดเก็บใส่ชายเสื้อไปด้วย และกำชับดนัยห้ามเข้าใกล้เกิน 5 เมตร...

อีกมุมป่า ชลิตขับรถพาดาหวันหวังจะไปที่บ้าน

ทองอิน แต่หลงทางเพราะเชื่อคนบอกทางอย่างดาหวัน ชลิตหมั่นไส้แกล้งบีบปากเธอ ดาหวันโกรธแย่งจะขับรถเอง รถส่ายไปมาแล้วไถลไปทางต้นไม้ใหญ่ สองคนร้องกันลั่น โชคดีที่รถดับก่อนจะชน

“เป็นไงล่ะ ยัยตัวแสบ ซนจนได้เรื่อง” ชลิตเอ็ดดาหวัน

พอชลิตมาเช็กซ่อมรถ จึงแกล้งใช้ดาหวันไปตักน้ำมาเติมรถ อ้างว่าถ้าอยากไปหาดนัยไวๆ ดาหวันรีบคว้าแกลลอนวิ่งไปทันที ชลิตอดห่วงไม่ได้เดินตามไป พลันฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา ดาหวันตกใจโผกอดชลิต ฝนเริ่มเทลงมา ชลิตเห็นเครื่องประดับของดาหวันเป็นอันตรายก็รีบปลดออก ดาหวันตกใจคิดว่าจะทำมิดีมิร้าย ร้องลั่นทุบตี ชลิตรีบบอก

“ถอดไอ้พวกนี้ออกให้หมด เดี๋ยวก็โดนฟ้าผ่าหรอก” ชลิตโยนเครื่องประดับทิ้ง ฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาทันที ดาหวันร้องกรี๊ด ชลิตดึงเธอวิ่งไปหลบฝนใต้ชะง่อนหิน

“โอ๊ย เวรกรรมอะไรของหวันนะ พี่เกือบจะพา

หวันไปตายแล้วเห็นไหม”

“ฉันน่ะสิเกือบตายเพราะชุดพะรุงพะรังของเธอ ถอดออกซะมั่งสิ”

ดาหวันก้มมองเสื้อผ้าที่เปียกปอนของตัวเอง แล้วให้ชลิตหันหน้าไปทางอื่น เพื่อตนจะถอดเสื้อที่เปียกปอนออก เข็มกลัดตำนิ้ว ดาหวันร้องโอ๊ย...ชลิตตกใจหันมามองเห็นดาหวันอยู่ในชุดเกาะอก ผมสยาย แสงจากดวงจันทร์ส่องสะท้อนให้เห็นรูปร่างสวย เขาถึงกับชะงักกลืนน้ำลายเอื๊อก ดาหวันเห็นร้องบอกให้หันกลับไป ชลิตปากคอสั่นโต้ว่า

“ก็ ฉันเห็นเธอร้อง เลยนึกว่า ต้องการความช่วยเหลือ”

“หวันแค่ถูกเข็มกลัดตำ ไม่ต้องมาฉวยโอกาสเลย”

ชลิตหลับตาถอนใจยาว พยายามท่องพุทโธๆ ข่มใจ แล้วนึกถึงแต่ฉวีวรรณ...

ด้านดนัยนั่งพักห่างจากฉวีวรรณ เห็นเธอเอาผลไม้ออกมากินก็ถามว่าอะไร ฉวีวรรณชูผลไม้ยั่วเพราะรู้ว่าเขากลัวผลไม้ทุกชนิด ดนัยส่ายหน้า แก้ตัวว่าไม่จริง

“งั้นใครน้าที่ฉี่รดกางเกงตอนอนุบาลหนึ่ง เพราะครูบังคับให้กินส้ม ฮ่าๆๆ”

“นี่เธอยังจำได้อีกเหรอ” ดนัยยิ้มอายๆ

“นี่...ฉันไม่ได้รู้จักนายแค่วันนี้นะ เราเรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่อนุบาล สันดานนายเป็นยังไง ทำไมฉัน จะไม่รู้”

“ถ้าเธอว่ารู้จักฉันดี แล้วทำไมยังเข้าใจฉันผิด ทำไมถึงชอบมองฉันในแง่ร้าย ตอบฉันมาสิ หวี...ฉันไปทำอะไรให้เธอ เธอถึงได้จงเกลียดจงชังฉันนัก”

ฉวีวรรณหวนคิดถึงอดีตตอนประถมหนึ่ง เธอได้รับจดหมายจากเด็กคนหนึ่ง บอกว่าดนัยฝากมาให้ เมื่อเปิดอ่านเห็นลายมือตัวโต โย้เย้ว่า...ฉันรักเธอนะ พรุ่งนี้ฉันจะสอบแล้ว เอาดอกกุหลาบแดงมาให้กำลังใจฉันด้วยนะ จากดนัย...

ฉวีวรรณหน้าแดงไม่กล้าบอกแจ๋เพื่อนสนิท พอถึงเวลาก็เอาดอกกุหลาบแดงมายื่นให้ดนัย แต่เขากลับมองอย่างแปลกใจ แถมตะโกนเสียงดังว่า “หวี...เธอรักฉันเหรอ...”

ฉวีวรรณโดนเพื่อนล้อ ทั้งโกรธทั้งอายจนจำฝังใจ เผลอสบถออกมา “ไอ้ผู้ชายสับปลับกะล่อนหลอกลวง 

ฉันไม่มีทางให้อภัย ฉันจะฆ่านาย...”

ฉวีวรรณลืมตัวพุ่งเข้าบีบคอดนัย ดนัยตกใจรวบมือเธอไว้ร้องให้หยุดบ้า “ฉันถามเธอดีๆก็ไม่ตอบ แล้วทำไมต้องโมโหขนาดนี้ด้วย”

“ฉันเกลียดนายไง ไอ้ดนัย เกลียดร้อยปีอย่ามาดีร้อยชาติ”

“อะ เอาเข้าไป เป็นบ้าอะไรอีก หรือว่าโดนจูบจนเสียสติ”

ฉวีวรรณปรี๊ด “จูบของฉัน มันต้องมาจากคนที่ฉันรัก ไม่ใช่การประกบปากกับผู้ชายใจร้าย ที่เห็นความรู้สึกของคนอื่นเป็นของเล่นอย่างนาย...ฉะนั้น อย่าพูดถึงมันอีก แล้วขอให้นายจำใส่หัวไว้เลยนะ ว่าฉันเกลียดนายที่สุดในโลก” ฉวีวรรณวิ่งหนีไป ดนัยมองตามอย่างรู้สึกผิด...

เวลาผ่านไป ทางด้านชลิตเห็นดาหวันนั่งหนาวสั่นจึงให้มานั่งข้างๆใช้เสื้อของเขาห่มด้วยกัน ดาหวันลังเล ชลิตยั่ว

“มาเถอะน่า ก็ถ้าฉันเป็นเกย์หลอกจีบหวีบังหน้าอย่างที่เธอว่าจะกลัวทำไม”


พอดาหวันมานั่งข้างๆชลิตก็เอาเสื้อห่มให้เธอ “ฉันไม่ได้อยากจะฉวยโอกาสเธอหรอก แต่เวลาหนาวๆเขาบอกว่า ไออุ่นจากร่างกายคนเรานี่แหละดีที่สุด เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมาก”

ชลิตพูดพล่ามไปเรื่อย พอหันมองเห็นดาหวันหลับคอพับคออ่อนไปแล้ว เขาแอบมองเธออย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน

ooooooo

ศิริยังออกตามหาลูกสาว พร้อมธานี ธนวัติ และพาณิชย์ แจ๋ บุญทิ้ง และกิมจิขอไปด้วย อ้างว่าพวกตนจะช่วยขอร้องให้ฉวีวรรณยอมกลับบ้าน สุภาพหัวหน้าคนงานหาอาหลู่ พรานป่าชาวเขามาช่วยแกะรอยตามหา แต่ดูท่าอาหลู่จะพาหลงทางเสียมากกว่า

วันรุ่งขึ้น ดนัยแบกฉวีวรรณกลับมาที่รถเพราะเธอพยายามจะหนี เขาเอานมในกล่องท้ายกระบะมายื่นให้เธอกินรองท้อง แต่เธอกลับเอาถุงนมปาใส่หน้าเขาแตกเลอะเทอะ ดนัยโกรธเอาเชือกมาผูกมือเธอติดกับมือเขา แล้วลากไปล้างตัวในลำธาร ฉวีวรรณร้องกรี๊ดๆไม่ยอมลงน้ำ ดนัยแกล้งถอดเสื้อผ้าตัวเองเหลือแต่บอกเซอร์

“จะหนีทำไม ไหนอวดเก่งนักก็ดูสิ หันมาดูให้เต็มตา”

“อ๊าย...กรรมเวรอะไรของฉัน ทำไมฉันต้องมาเจอไอ้บ้าหื่นกามอย่างนายด้วย ไอ้โรคจิต”

“แหม เธอด่ายังงี้ยิ่งยั่วยุอารมณ์ ฉันเปลี่ยนใจมาอาบน้ำกับเธอดีกว่า เราจะได้ช่วยกันถูหลัง แล้วก็...ทำอะไรก็ไม่รู้ แต่ละไว้ในฐานที่เข้าใจ...”

“อย่านะ ไอ้บ้า ฆ่าฉันซะดีกว่า” ฉวีวรรณปิดหน้าร้องกรี๊ดๆ

ดนัยโดดน้ำตูมลงไปหัวเราะร่าที่แกล้งฉวีวรรณได้ ฉวีวรรณโมโหจะแกล้งเอาเสื้อผ้าดนัยไป แต่ดนัยขึ้นมาขวางทัน ทั้งสองยื้อแย่งกันจนเธอถลามาหน้าประชิดเขา ดนัยลืมตัวโน้มหน้าจะจูบเธออีกครั้ง แต่แล้วคิดได้รีบผละออก

“ขอโทษนะฉันไม่น่าทำแบบนี้ ฉันเป็นแค่คนพาเธอไปหาคนรัก แต่ไม่ใช่คนรักของเธอ”

ฉวีวรรณงุนงงกับความรู้สึกของตัวเอง เดินลุยน้ำไปอย่างใจลอย ดนัยกลบเกลื่อนความรู้สึกตัวเองด้วยการดำผุดดำว่าย แล้วร้องตะโกนระบายอารมณ์...

ในขณะที่ชลิตกับดาหวันมาถึงบ้านทองอิน ทั้งสองได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พักผ่อนอย่างสบายเพื่อรอดนัยกับฉวีวรรณ แต่ไม่ทันไร ศิริกับพวกบุกมา ทั้งสองต้องโดดหนีแทบไม่ทัน

ไม่วายที่ฉวีวรรณยังพยายามหนีจากดนัย เธอวิ่งขึ้นมาบนถนน เห็นรถคันหนึ่งแล่นมาก็รีบโบก ปรากฏว่าเป็นรถธนวัติกับพวก เธอตกใจวิ่งหนี ดนัยตามมาทันดึงเธอวิ่งกลับเข้าไปในป่า ธนาวัติตามไล่ยิง ดนัยกับฉวี– วรรณถอยจนสุดเนิน ศิริตามมาร้องห้ามธนวัติไม่ให้ยิง ดนัยตัดสินใจดึงฉวีวรรณกลิ้งหลุนๆลงมาตามเนิน แล้วหล่นลงน้ำไหลไปตามกระแสน้ำ ฉวีวรรณเห็นพ่อก็ร้องให้ช่วยด้วย แต่พอดีมีจระเข้ ดนัยจึงดึงเธอว่ายหนีดันเธอขึ้นโขดหินอีกฟากหนึ่งแล้วเอาก้อนหินทุ่มใส่ไล่จระเข้ให้ไปทางอื่น ศิริเสียใจที่ช่วยฉวีวรรณไม่ได้ เขาขอร้องธนวัติกับพวก อย่าใช้ปืนยิงใครอีก...
ด้านดาหวันอยากไปหาดนัยเร็วๆและรำคาญที่ต้องทะเลาะกับชลิตตลอดทาง จึงแกล้งหลอกว่าตนเป็นลมหมดสติ พอชลิตไปหาน้ำ เธอก็ขับรถหนีมาตามลำพัง แต่ไม่ทันไร น้ำมันหมดกลางทาง มีพวกโจรโผล่มาฉุด ชลิตตามมาช่วยไว้ทัน ดาหวันโผกอดชลิตร้องไห้โฮ ยิ่งทำให้ความรู้สึกชลิตสับสนทั้งสงสารและห่วงเธอมากขึ้น

ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ดนัยพาฉวีวรรณมาหลบพักแรม ทั้งสองต่างนอนไม่หลับ ฉวีวรรณจึงถามดนัยว่า รักดาหวันจริงๆหรือ ถึงได้คิดหนีไปด้วยกัน ดนัยตอบว่าเขารู้ว่าดาหวันไม่อยากแต่งงานกับพาณิชย์ รวมทั้งเธอด้วย แต่เขาชักไม่แน่ใจเพราะนี่อาจเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายของเธอก็ได้ ฉวีวรรณโกรธ เธอก็ไม่ได้อยากแต่ง แม้แต่ชลิตขอตนแต่งงานตั้งหลายครั้ง ตนก็ไม่อยากแต่ง ดนัยสบถ สงสารชลิตที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ฉวีวรรณโมโหกระโดดมาเอาเรื่อง

“อ๊ะๆเธอบอกเองว่าห้ามข้ามเขต ถ้าข้ามมาฉันไม่รับรองความปลอดภัยนะ” ดนัยเตือน

ฉวีวรรณชะงักถอยออก พลันกิ่งไม้หล่นลงมา ฉวีวรรณตกใจโผเข้ากอดดนัย ทั้งสองสบตากันชั่วขณะ ดนัยรู้สึกตัวแกล้งดีดหน้าผากเธอ แล้วว่าเขาไม่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ฉวีวรรณผละออกกลับไปนั่งที่ แล้วล้มตัวนอนหันหลังให้ดนัย

ooooooo