Saturday, August 13, 2011

เลือกซื้อผ้าตัดเสื้อ

โฆษณา
ชุดเริ่มต้นงานสกรีนเสื้อ  โทร0953196604 ( เหมาะสำหรับผู้คิดเริ่มต้นอาชีพสกรีนเสื้อ )
1 ตู้ไฟบล็อคสกรีน                                                                           2500  บาท
2 สีจมสกรีนเสื้อ แม่สี ดำ ขาว เหลือง น้ำเงิน แดง 5กระป๋องๆ ละ250x5 เท่ากับ  1250  บาท

3.แม็กยิงผ้าขึงบล็คสกรีน                                                                  1000 บาท

4.ผ้าขึงบล็อค 2 เมตร /เมตรละ200                                                        500  บาท

5.ยางปาดสี                                                                                      200  บาท

6กระบอกฉีดบล็อก                                                                              150  บาท
7.บล็อคเปล่า.   อันละ                                                                           200  บาท
8.กาวอัดบล็อค                                                                                        200 บาท
9.น้ำยาเคลือบบล็อค                                                                                 150 บาท          
พร้อมสอนการทำบล็อคสกรีน                                                                  1500บาท                      

                                                                  รวมราคา7000 บาท
สั้งชุดเริ่มต้น ไม่รวมค่าจัดส่ง....
โทรหาเราตอนนี้เลย  0953196604  ป่อง
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx


เส้นด้าย และไฟเบอร์


ไฟเบอร์ที่ใช้ในการทำผ้ายืด และผ้าปกติมีอะไรบ้าง (เอาเฉพาะพวกที่เป็นที่นิยมในวัดสน)

ฝ้าย หรือ Cottonฝ้ายก็คือวัสดุหลักในธรรมชาติที่นำมาใช้ปั่นเป็นเส้นด้าย คุณลักษณะของ cotton คือ ระบายความชื้นได้ดี สวมใส่สบาย มีราคาสูง แล้วแต่คุณภาพของฝ้าย โดยดูจาก fiber length ยิ่งฝ้ายมีความยาวมาเท่าไหร่ ก็ยิ่งปั่นเป็นเส้นด้ายได้ดีมากเท่านั้น
โพลี หรือ Polyester
โพลี เป็นใยสังเคราะห์แบบหนึ่งทำออกมาเพื่อเลียนแบบไฟเบอร์ของฝ้าย แต่ว่าจะยังมีข้อด้อยคือ การระบายความชื้นทำได้ไม่ดีเท่ากับฝ้าย จึงอาจจะสวมใส่ไม่สบาย แต่ราคาถูกกว่า
เรยอน หรือ Rayon
เป็นไฟเบอร์ที่สร้างขึ้นโดยการนำเอาต้นไม้มาย่อยสลายในสารเคมี แล้วจึงจำเอาเรยอนเหลวมาฉีดออกมาเป็นไฟเบอร์ ผ้าที่ได้มาจากเรยอนจะมีลักษณะทิ้งตัว เหลวๆ นิ่มมาก ทำให้รู้สึกมีมูลค่ามากกว่าผ้าฝ้ายธรรมดา โดยไฟเบอร์เรยอนก็จะมีราคาสูงตามลำดับ

เส้นด้าย

เบอร์เส้นด้าย 20 30 40 เป็นอย่างไร?
ในการปั่นเส้นจะมีการกำหนดความใหญ่ของเส้นด้าย คิดง่ายๆว่า ถ้าอยากจะได้ผ้าบาง ก็ต้องในเส้นด้ายที่เล็ก ถ้าอยากจะได้ผ้าที่หนาก็ต้องใช้เส้นด้ายที่ใหญ่
การวัดขนาดเส้นด้ายจะทำ ในหน่วยอังกฤษ เรียก NE โดยยิ่งค่ามาก เส้นด้ายจะยิ่งมีขนาดเล็ก
โดยในวงการผ้ายืดปัจจุบันจะใช้เส้นด้ายอยู่แค่เบอร์ 20 – 30 – 40 โดยผ้าปกติทั่วไปอยู่ที่เบอร์ 30 (พวกเสื้อยืด เสื้อแฟชั่นต่างๆมักจะใช้เส้นด้ายเบอร์ 30 กันแล้ว เพราะว่า เส้นด้ายเบอร์ 20 ก็อาจจะเป็นผ้ายืดที่หนาเกินไป และเส้นด้ายเบอร์ 40 ก็ทำให้ได้ผ้าที่บางเกิน และมีราคาสูงเกินกว่าตลาดจะรับได้)
ขนาดของเส้นด้ายจะมีผลต่อความหนาของผ้า โดยความหนาของผ้าจะวัดกันที่น้ำหนักผ้า หรือความหนาแน่นของเนื้อผ้ามีหน่วยเป็น กรัม ต่อ ตารางเมตร (g/m2)
ตัวอย่าง ผ้าเรียบที่ทอแบบ single jersey
เส้นด้าย NE 20    น้ำหนักผ้าอยู่ที่ 190 g/m2
เส้นด้าย NE 32    น้ำหนักผ้าอยู่ที่  160 g/m2
เส้นด้าย NE 40    น้ำหนักผ้าอยู่ที่  110 g/m2

คุณภาพ ของเส้นด้ายขึ้นอยู่กับอะไร

1. การวิธีการปั่นเส้นด้าย

ลักษณะการ ปั่นเส้นด้าย จะแตกต่างกันไปตามเครื่องที่ใช้ และกระบรวนการที่ใช้ โดยคร่าวๆนั้น เกรดในการปั่นจะมีดังนี้
คุณภาพเรียงจากต่ำไปสูง
OE >> CARDED >> SEMI-COMBED >> COMBED **จำ >> COMPACT >> …
* ยังมีคุณภาพที่สูงและต่ำกว่านี้แต่เอาไว้ทีหลังค่อยอธิบาย
จำไว้ได้เลยว่า ผ้าที่ทำจากเส้นด้าย OE ก็มักจะมีคุณภาพที่ต่ำกว่าผ้าจากเส้นด้าย Combed ตามลำดับที่เรียงในผัง
ประเภทการปั่นเส้นด้ายมีอยู่ 2 แบบใหญ่อันได้แก่
การปั่น ลักษณะแบบ Open End เป็นการปั่นที่ที่จะใช้ลดกระบรวนการปั่นในบางขั้นตอนออกทำให้เส้นด้ายที่ผลิตมามีผลผลิตมาก ยิ่งขึ้น แต่ว่าคุณภาพของเนื้อเส้นด้ายก็จะไม่สูงนัก ผ้าที่ออกมาจะมีความกระด้างกว่าเส้นด้ายแบบอื่น
การปั่นแบบ Ring จะมีกระบรวนการผลิตที่ครบถ้วนกว่า OE ทำให้ได้เส้นด้ายที่มีคุณภาพสูงกว่า แต่ในการปั่นแบบ Ring ก็จะมีแยกคุณภาพออกมาหลายอย่าง โดยขึ้นอยู่กับการปรับความสูญเสียในการผลิตว่าจะให้มีมากน้อยแค่ไหน เช่น
เส้นด้าย Card ก็เป็นการปั่น ring แบบหนึ่งแต่ว่าจะมีการเอาของเสียออกจากกระบรวนการผลิตน้อยทำให้เส้นด้ายมี คุณภาพที่ต่ำ มีความกระด้างสูง
เส้นด้าย SEMI-COMBED ก็เป็นการปั่น ring แบบหนึ่งแต่ว่าจะมีการสางของเสียออกจากฝ้ายในระดับหนึ่ง คุณภาพที่ได้ก็จะอยู่ระดับกลาง ร้านผ้าส่วนใหญ่ในวัดสนนิยมจะใช้เส้นด้ายชนิดนี้
เส้นด้าย COMBED เป็นการปั่นแบบ ring แต่ว่ามีการใช้หวี มาสางเอาของเสียออกจากตัวเนื้อฝ้าย และเนื้อเส้นด้ายมากกว่าปกติ ทำให้เส้นด้ายที่ออกมามีคุณภาพสูง และมีความเนียนที่สูงกว่า เส้นด้ายอื่นๆ

2. คุณภาพของเส้นใย (ไฟเบอร์)

นอกจากการลักษณะการปั่นแล้ว คุณภาพของเส้นด้ายก็ยังขึ้นกับ คุณภาพของ fiber ที่เอามาใช้ เช่น ฝ้าย ที่ใช้ถ้ายิ่งมี fiber length ที่มาก (ความยาวไฟเบอร์) ก็จะได้เส้นด้ายที่มีคุณภาพสูง โดยฝ้ายที่ได้รับฉายาว่ามีคุณภาพสูงก็ได้แก่ Egyptian Cotton, Cotton USA
แต่ในตลาดวัดสนส่วนมากจะไม่สนใจเรื่องของ fiber length เท่าไหร่
ผ้าส่วนใหญ่ในวัดสนใช้เส้นด้ายคุณภาพไหน
จะ อยู่ในระดับ OE,CARDED,SEMI เท่านั้น โดยสาเหตุที่แต่ละร้านมีราคาที่ต่างกันก็มีผลส่วนหนึ่งมาจากตัวคุณภาพเส้นด้าย

เส้นด้ายผสมที่มีใช้ในท้องตลาดเป็นอย่างไร

ส่วนผสม หลักที่ใช้ในท้องตลาดทั่วไป โดยเฉพาะวัดสน จะคือ ฝ้าย และ โพลี
เพราะว่า ฝ้ายมีราคาแพงกว่า polyester ดังนั้นจึงมีการเอามาผสมกันในเนื้อเส้นด้ายให้ราคาต้นทุนต่ำลงได้
อัตราส่วนในการผสมกัน
CottonCotton 100%
CVCCotton 60% + Poly 40%
TCCotton 35% + Poly 65 %
TKPoly 100%
เมื่อนำเส้นด้ายมาทำผ้าแล้ว จะได้เนื้อผ้ายืดหลายชนิด สำหรับเนื้อผ้ายืดที่นิยมนำมาทำเสื้อในปัจจุบันนี้มีอยู่ 3 ชนิด ดังนี้ ผ้าCotton , ผ้าTC, ผ้าTK,  มีความเหมือนและความต่างกันอยู่ ที่เรียกต่างกันเพราะส่วนผสมแตกต่างกัน
No.
ชนิดผ้า
ข้อดี
ข้อเสีย
ราคา
1.ผ้าcottonเป็นผ้าที่ผลิตจากเส้ยใยฝ้าย 100% เนื่องจากระบายความชื้นดี จึงทำให้ผ้าชนิดนี้ ใส่สบาย นุ่ม ระบายความร้อน ใส่แล้วไม่อึดอัด และยังซับเหงื่อได้ดีอีกด้วย เรียกว่าเป็นผ้ายืดคุณภาพดีเนื่องจากผ้าคอตต้อนผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ 100% จึงทำให้ควบคุมการหดการย้วยได้ยาก เสื้ออาจจะมีการหดหรือเสียทรงหลังจากที่ซักแล้ว
เรียกว่ายิ่งซักก็ยิ่งหด ยิ่งหด ที่หลายคนว่าซื้อ sizeใหญ่แล้ว ซักไปซักมาทำไมมัดหด ก็เพราะอย่างนี้นี่เอง ถึงจะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ด้วยความที่ใส่สบาย ผ้าคอตต้อนจึงเป็นที่นิยมถึงแม้ว่าราคาจะแพงกว่าก็ตาม
สูง
2.ผ้าTCเป็นผ้าที่ผลิตจากวัสดุสองชนิดผสมกัน คือฝ้าย(cotton) ผสมกับ ใยสังเคราะห์(Polyester) สวมใส่สบาย ไม่ยืดไม่หด ความสบายจะลดลงนิดนึง เพราะว่ามีใยผ้าผสมกัน2ชนิดจะร้อนกว่าผ้าคอตต้อนนิดหน่อย เพราะมีส่วนผสมของใยสังเคราะห์(Polyester)ปานกลาง
3.ผ้าTKทำมาจากใยสังเคราะห์ ที่ผลิตขึ้นได้ เหมาะกับการทำผ้ากีฬาใส่แล้วจะร้อน แถมเป็นขุยๆ เหมาะกับเสื้อกีฬามากกว่า และไม่เหมาะกับการใส่เป็นประจำต่ำ

เส้นด้าย Top Dyed หรือว่า Melange Yarn หมายความว่าอย่างไร

ปกติการปั่นเส้นด้าย จะทำเส้นด้ายออกมามีสีขาวดิบ เพื่อรอไปทำการย้อมที่ผ้า หรือว่าย้อมที่เส้นด้ายต่อไป แต่การทำเส้นด้ายท็อบดาย์จะต่างตรงที่เส้นด้ายที่ออกมาจะมีสีเลย
โดย เกิดจากการนำเอาไฟเบอร์ที่ผ่านการย้อมสีแล้ว ไปผสมกับไฟเบอร์ที่ไม่ผ่านการย้อมสี ภายใต้กระบรวนการปั่น จึงทำให้สีที่ออกมามีสีเหลีอบไม่สม่ำเสมอ ซึ่งก็เป็นแนวที่ตลาดพอใจ
สี ต่างๆสามารถกำหนดใได้จากการสีไฟเบอร์สีต่างๆกัไป ในจำนวนที่แตกต่างกัน เช่นต้องการสีเทาเหลือบ CA ก็ให้ผสมไฟเบอร์สีดำ 10% ปั่นกับ ไฟเบอร์สีขาว 90%
เส้นด้าย Yarn Dyed หมายความว่าอะไร
เส้นด้าย Yarn Dyed คือเส้นด้ายที่ผ่านกระบรวนการย้อมสีแล้ว เหมาะสำหรับการนำเอาไปทอผ้าแบบริ้ว แต่ราคาของเส้นด้ายก็จะสูงกว่าปกติเพราะมีต้นทุนเรื่องการย้อมสีเพิ่มเข้าไป
เส้น ด้าย Fancy หมายความว่าอะไร
เส้นด้ายแฟนซี โดยนิยามนั้นคือเส้นด้ายที่มี effect ความแปลกประหลาดใส่เข้าไปในกระบรวนการผลิต โดยแต่ละผู้ผลิตก็จะมีเทคนิคในการผลิตของตัวเอง
ทางก้องเกียรติ ก็เก่งในเรื่องของการนำเอาส่วนผสมที่แปลกๆเช่น เม็ด Nep, ห้ว EEL, เส้นด้ายเงาๆ ผสมเข้าไปในขั้นตอนการปั่น ทำให้ได้เส้นด้ายที่มีความพิเศษในตัวของมันเอง
เส้นด้ายตี เกลียว เช่น 20/2 หรือว่า 30/2 คืออะไร
เส้นด้ายตีเกลียว เกิดจากการเอาเส้นด้ายอย่างน้อย 2 เส้นมาตีเกลียว ให้เส้นด้ายมีความใหญ่ขึ้นให้เหมาะสมกับการนำเอาไปใช้งาน โดยอาจจะเป็นเส้นด้ายชนิดเดียวกันหรือ ต่างชนิดเข้ามาผสมกันเข้ามาก็ได้ เส้นด้าย 20/2 หมายความว่า นำเอาเส้นด้ายขนาดเบอร์ 20 มา 2 เส้นมาตีเกลียวกันทำให้ได้เส้นด้ายที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า

การตัดเย็บเสื้อ

รับตัดเสื้อโปโล..0858049019 จริญ
ตัวอย่างเสื้อโปโลูกค้า

ตัวอย่างเสื้อโปโลลูกค้าล่าสุดเหมาะแก่หน่วยงานหรือบุคคลที่กำลังมองหารูปแบบเสื้อโปโลไว้พิจรณาสำหรับสั่งตัดเสื้อโปโลในแบบของตัวเองคะ  โดย เรามี บริการสั่งตัดเริ่มต้นที่ 30 ตัว  พร้อมบริการงานปัก  งานสกรีน  หรือติดต่อโดยตรงได้ที่ 
 คุณ จริญ 0858049019
email pccshirt@hotmail.co.th

..................................................................................................................................................

การตัดเย็บเสื้อ


สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มธุรกิจเสื้อผ้า หลายคนๆ อาจจะไม่รู้ว่า ก่อนที่จะเริ่มธุรกิจนี้เรา จำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง ใช่มั๊ย ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากมาอัพเดท ข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับคนที่อยากจะมีขายเสื้อผ้าของตัวเองจ้า

ก่อนทำร้านเสื้อผ้าของตัวเอง สิ่งที่ต้องรู้ คือ
การเลือกผ้า เนื้อผ้าแบบไหนที่เราต้องการ เช่นว่า ตอนนี้เมืองไทยอากาศกำลังร้อนอยู่ เสื้อกล้าม น่าจะขายดี จึงอยากทำเสื้อกล้ามขายในร้าน คำถามก็คือ เนื้อผ้าแบบไหนหล่ะ ที่เหมาะกับหน้าร้อน ซึ่งที่จริงแล้ว ทั่วไปคนซื้อผ้าส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกใช้เนื้อผ้า Cotton เบอร์ 32 ในการตัดเสื้อ เพราะว่าเป็นเนื้อผ้าที่ไม่บางแล้วก็ไม่หนาจนเกินไป หาซื้อได้ง่าย ส่วนบางคนที่อยากได้เนื้อผ้าแบบบางเฉียบ ก็ต้องเป็นเบอร์ 40 แต่ว่าก็ไม่ค่อยนิยมกันสักเท่าไหร่ เพราะราคาจะค่อนข้างแพง
- เมื่อเลือกและซื้อผ้าได้แล้วคำถามต่อไป ก็คือ แล้วเราจะทำ แพ็ทเทิร์น กับตัดเย็บที่ไหนดีหล่ะ ??? เอาหล่ะ คำถามก็เริ่มมาเป็นชุดๆ แล้วสินะ
เริ่มต้นก็คือ เราจำเป็นที่จะต้องหาช่างตัดเย็บที่อยู่ใกล้ๆบ้านเรา นั่นแหล่ะ ดีที่สุด เพราะว่า เมื่อเวลาเรามีปัญหากับงานตัดเย็บของเรา เราก็จำเป็นที่จะต้องวิ่งไปดูงาน ที่ร้านตัดเย็บใช่มะ หรือว่า ถ้าอะไหล่ตกแต่งเสื้อเราขาด เราก็ต้องวิ่งเอาของไปให้ ดังนั้นหาที่สะดวกเราไว้นั่นแหล่ะดีที่สุด
ซึ่งการหาช่างตัดเย็บก็สามารถดูได้จากใน เว็ปไซด์ อาชีพการตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งเป็นเว็ปที่เกี่ยวกับการหาแหล่งผลิตตัดเย็บโดยตรง หรือ search หาจากในกูเกิล ก็ได้เช่น กัน ง่ายมากๆๆๆ
- เมื่อได้ช่างตัดเย็บแล้ว เราก็จำเป็นต้องหาช่างแพ็ทเทิร์นด้วยใช่ม้า เพราะว่าเสื้อผ้าเราจะสวยหรือไม่นั้น แพ็ทเทิร์นก็ถือเป็นปัจจัยหลัก ที่สำคัญมากๆ เลยทีเดียวก็ว่าได้ เสื้อตัวอย่างเราออกมาสวย เมื่อตัดเย็บออกมาแล้ว มันก็จะดูดี อ่ะนะ พูดถึงเรื่องค่าแพ็ทเทิร์น พร้อมขึ้นตัวอย่าง โดยมาตรฐานจะ
อยู่ที่ประมาณ 300-500 บาท แล้วแต่ความเก่งกาจของ ช่างแพ็ทเทิร์น ซึ่งเราไม่อาจจะรู้ได้เลยว่า เค้าเก่งจริงรึเปล่า นอกจากว่า จะลองเอาแบบเสื้อที่เราอยากจะได้ ไปให้เค้าลองขึ้นดู (ทูกอย่างต้องลองนะ) เมื่อได้แพ็ทเทิร์นเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องเอามันส่งไปให้กับร้านตัดผ้า ที่เราดิวด้วย
- ช่างตัดผ้าก็จะเอาผ้าที่เราซื้อมา ไปปูบนโต๊ะตัดอีก ที ซึ่งโดยทั่วไป โต๊ะตัดหน้ากว้างจะอยู่ ประมาณ ที่ 40 นิ้ว หน้าผ้าเราก็อยู่ที่ประมาณ 36-38 นิ้ว เป็นผ้าอบกลม เค้าก็จะปูทบไปทบมาบนโต๊ะ แล้วก็วางแพ็ทเทิร์นบนผ้า พร้อมลงมือตัด ด้วยเครื่องตัดอีกที ก็ต้องใช้ฝีมือกันเล็กน้อยอ่ะนะ แต่โต๊ะตัดที่มีฝีมือจริงๆ จำเป็นที่จะต้องรู้วิธีการวางแพ็ทเทิร์นไปบนผ้าผืน ด้วยนะ ไม่งั้นจะทำให้เสียเศษผ้าเยอะ จำนวนตัวที่ตัดได้ ก็จะน้อยตามไปด้วย เราต้องคอยเน้นย้ำ คนตัด ให้เค้าช่วยตัดแบบประหยัดๆ ผ้าเราหน่อยนะ จะได้จำนวนตัวเยอะๆๆ ค่าตัดก็อยู่ที่ ประมาณ 2-3 บาท ถ้าจำนวนตัวเยอะ ค่าตัดก็จะ ถูกลง มันก็เป็นเรื่องปกติอ่ะนะ ที่ว่าถ้าทำสินค้าปริมาณเยอะ ต้นทุนก็จะถูกลงตามกัน
อธิบายอย่างง่าย ๆ คือถ้าเราอยากรู้จริงๆ ว่าผ้า 1 กิโล หรือ 3 หลากว่า ๆ เนี่ย ตัดได้กี่ตัว พื้นฐานง่ายๆ เลย ก็คือ เอาแพ็ทเทิร์นมากางปูไปบนผ้าเลย รับรอง แม่นชัวร์ รู้แน่นอนว่า ได้กี่ตัว แต่รู้คร่าว ๆ ไว้หน่อยก็ดี เป็นต้นว่า ผ้า 1 โลจะตัดได้เสื้อกล้ามได้ 6 ตัวดังนั้น ผ้า 1 พับมี 20 กิโล ก็จะตัดได้โดยประมาณ 120 ตัว หรือถ้าจะตัดเสื้อยืดคอกลมธรรมดา size M ผ้า 1 กิโลก็
จะตัดได้ 4 ตัว รวม ๆ 1 พับก็ได้ 80 ตัว เป็นต้น ง่ายมากๆ ใช่มั๊ยหล่ะ
- เมื่อตัดผ้าเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งเย็บ ค่าเย็บก็แล้วแต่ช่างว่าเค้าจะคิดเราเท่าไหร่ แต่โดยทั่วไปถ้าตัดแค่เสื้อกล้ามธรรมดา ก็จะอยู่ที่ประมาณ 8-10 บาทแต่ถ้าเป็นเสื้อแฟชั่น ราคาก็จะแพงขึ้นอีก เพราะว่าอะไหล่เสื้อมีหลายชิ้น แล้วราคาก็แล้วแต่ความยากง่ายของงาน ถ้ายากเค้าก็จะเรียกเราแพงอ่ะนะ แต่ของอย่างนี้ก็ต่อรองกับเค้าได้ให้ลดค่าตัดเย็บลงมาหน่อย ขึ้นอยู่กับวาทศิลป์ในการพูดแล้วหล่ะ 555
คำแนะนำเพิ่มเติม 
ทางที่ดี เราควรที่จะต้องหา โรงตัดเย็บที่ มีทั้งโต๊ะตัด แล้วก็เย็บอยู่ในที่เดียวกัน อันนี้น่าจะดีกว่านะ ไม่งั้นเราต้องรับส่งงาน จากอีกที่ไปอีกที่นึง ก็จะยุ่งยากนิดนึง หรือบางที่ ในละแวกนั้น จะมีทั้งโต๊ะตัด เย็บ และสกรีนอยู่ใกล้ๆ กัน ก็จะดี เพราะเค้าจะรับส่งงานกันเองเลย แบบนี้ก็จะสบายเราหน่อย

ง่ายมากๆๆๆ เลยใช่มั๊ยหล่ะ ขั้นตอนการทำเสื้อผ้าเนี่ย รับรองต้องสนุกไปกับมันอย่างแน่นอน ขอให้สนุกกับการทำเสื้อผ้านะจ๊ะ ทุกคน