Thursday, May 16, 2013

เรื่องย่อ ละคร ไฟหวน ตอน2 ช่อง7 โดย มารุต สาโรวาท




ตอนที่ 2

เพชรมากับน้องสาวซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของมัทนา ชายหนุ่มตั้งใจมากราบคุณหญิงมณีกับนายพลเทพหลังจากไปเรียนเมืองนอกหลายปี...

คุณ หญิงมณีจับสังเกตสีหน้าท่าทีเพชรที่มองมัทนาอย่างไม่ชอบใจ แววตาเขาบ่งบอกว่าหลงใหลพึงพอใจ หญิงสาว แต่ด้วยมารยาทคุณหญิงจึงไม่พูดหรือแสดงออก ทั้งที่อยากจะบอกเต็มแก่ว่าลูกสาวตนมีผู้ชายที่เหมาะสมรออยู่แล้ว

ขณะ เดียวกันนั้นที่โรงพยาบาล ไอศูรย์กำชับบุปผาหลังจากเย็บแผลที่ฝ่ามือให้เธอแล้วว่าต้องกินยาแก้อักเสบ วันละสามเวลา และต้องทำความสะอาดแผลทุกวัน แรกๆควรมาทำที่โรงพยาบาล แต่พอแผลแห้งจะทำเองที่บ้านก็ได้ บุปผาจ้องหมอตาเป็นมัน รับปากรับคำและพนมมือไหว้กระชดกระช้อยอย่างมีจริต แต่หมอไม่ได้สนใจเธอสักนิด นอกจากเห็นว่าเป็นคนไข้

เมื่อกลับถึงหอ โคมแดง บุปผาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ซื้อขนมนมเนยมาฝากแม่ผกาและเพื่อนร่วมอาชีพ แต่มุกที่ไม่ลงรอยกันอยู่ไม่กินแถมยังแขวะหาเรื่อง เลยเกิดตบตีกันอุตลุดทำให้ผกาเหนื่อยหน่ายใจ จับบุปผาแยกไปที่ห้องแล้วซักถามที่มาที่ไปทำไมถึงถูกมีดบาดมือจนต้องเย็บแผล แต่คงไม่ใช่อุบัติเหตุแน่

“แม่รู้ทันฉันเสมอเลย ก็ฉันเคยบอกแม่แล้วนี่นะ ว่าผัวฉันในอนาคตน่ะเขาเป็นหมอ”

“เขาเป็นถึงหมอ แล้วเขาจะ...”

“มา เอาผู้หญิงหากินอย่างฉันเป็นเมียรึเปล่า...แม่จะพูดอย่างนี้ใช่ไหม” ผกาพยักหน้ายอมรับ บุปผาเชิดหน้าพูดอย่างมุ่งมั่นว่า “ฉันก็จะไม่ให้เขารู้สิว่าฉันเป็นผู้หญิงหากิน”

“แล้วบุปผาดูดีๆรึยังว่าเขามีลูกมีเมียแล้วหรือยัง”

“ฉันไม่รู้หรอกว่าเขามีลูกมีเมียแล้วหรือยัง แต่ถึงจะมีแล้วฉันก็ไม่สน มีได้ก็เลิกได้”

“บุปผา...ผู้ หญิงอาชีพอย่างเรานี่เกิดมาก็มีกรรมมากแล้วนะลูก ไม่งั้นเราคงไม่ต้องมามีอาชีพที่ผู้คนในสังคมเขารังเกียจเรากันอย่างนี้หรอก แม่ไม่อยากให้บุปผาทำบาปทำกรรมอะไรให้มากไปกว่านี้อีก แย่งผัวแย่งเมียคนอื่น มันบาปนะลูกนะ”

“ฉันไม่กลัวบาปหรอกจ้ะแม่ มัวแต่กลัวบาป ก็คงต้องขายตัวไปจนตาย ฉันบอกแม่แล้วไงจ๊ะ ว่าจะไม่ยอมขายตัวไปจนหมดสภาพอย่างพี่มุกพี่พิกุลหรอก คนอย่างอีบุปผามันจะต้องได้ดีกว่านี้”

บุปผามั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง ในขณะที่ผกามีสีหน้ากังวลว่าสิ่งที่บุปผาพูดจะเป็นได้แค่เรื่องเพ้อฝัน

ooooooo

ที่แท้ หมอไอศูรย์คือผู้ชายที่คุณหญิงมณีอยากได้เป็นลูกเขย และคุณหญิงแจ่มจันทร์แม่ของเขาก็ต้องการมัทนาเป็นสะใภ้ ผู้ใหญ่จึงตกลงกันเอาไว้แล้ว เพียงแต่รอหนุ่มสาวพบเจอและทำความรู้จักกันเท่านั้น

หารู้ไม่ว่าทั้ง คู่เคยเจอกันแล้วครั้งหนึ่ง และต่างฝ่ายก็ประทับใจกันแต่แรกเห็น แต่วันนี้ไอศูรย์ผิดนัดกับแม่ที่จะพาไปบ้านเพื่อนเพราะมีคนไข้ด่วน คุณหญิงแจ่มจันทร์จึงเลื่อนไปคราวหน้าโดยไม่ยอมเกริ่นอะไรให้ลูกรู้ ด้วยมั่นใจว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เธอบอกให้ลูกทำ ลูกไม่เคยขัดคำสั่งเธอสักครั้ง

วันรุ่งขึ้น เพชรขับรถไปส่งพลอยที่มหาวิทยาลัยและเจอมัทนาตามที่ตั้งใจ เขาแสดงออกว่าชื่นชอบเธอด้วยการมอบหนังสือเล่มหนึ่งให้ ฝ่ายพลอยก็ช่วยเชียร์หลังจากพี่ชายกลับไปแล้ว สาธยายว่าเขาเห็นหน้ามัทนาครั้งเดียวก็หลงใหลได้ปลื้มหัวปักหัวปํา เขาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน อยากให้เธอเปิดใจรับเขาหน่อย

มัทนาพูด ไม่ออก เสมองข้ามไปข้างหลังพลอย แล้วสีหน้าตื่นตะลึงขึ้นมาอย่างกะทันหันเมื่อเห็นหมอไอศูรย์เดินโปรยยิ้ม เข้ามา พลอยหันไปเห็นก็ตะลึงไปอีกคน

“พี่ต้น!” พลอยอุทานแล้วมองหน้าเพื่อนรักสลับกับชายหนุ่มที่ตัวเองปลื้มปริ่มอยู่ไปมา....

เมื่อทั้งสามคนได้นั่งคุยกันสักครู่ พลอยเปรยว่าไม่น่าเชื่อว่าโลกจะกลมขนาดนี้ และถามคุณหมอว่ามาทำอะไรที่นี่

“พี่ก็แค่ผ่านๆมา แล้วบังเอิญเห็นน้องพลอยกับคุณมัทนาพอดี ก็เลยเข้ามาทักน่ะ”

“แหม...โลก กลมๆของเราสามคนนี่ยังเต็มไปด้วยความบังเอิญอีกนะคะ บังเอิญยายมัทรู้จักกับพี่ต้น บังเอิญพี่ต้นรู้จักกับพลอย แถมพลอยบังเอิญเป็นเพื่อนสนิทกับยายมัทอีก ต้องเอาเรื่องนี้กลับไปเล่าให้พี่เพชรฟังสักหน่อยแล้ว”

พลอยพูดจบก็เห็นมัทนากับไอศูรย์มองตากัน...เธอลอบถอนใจด้วยความกังวล รู้สึกทะแม่งๆกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่

ooooooo

บุปผา มาทำแผลและตั้งใจมาเจอหมอไอศูรย์ที่โรงพยาบาลแต่คลาดกันนิดเดียว จึงฝากกระเช้าผลไม้ไว้กับพยาบาลแล้วเดินหน้าตูมออกมาเจอนายสินอย่างไม่คาด คิด

สินดีใจมากรีบลงจากรถมาทักบุปผา พอเห็นเธอมีผ้าพันแผลที่มือก็สอบถามด้วยความเป็นห่วง บุปผากลับตอบอย่างไม่แยแสความรู้สึกเขาเลยสักนิด

“ถ้าไม่เป็นอะไรแล้วจะต้องพันผ้าพันแผลไว้ อย่างนี้เรอะ ถามอะไรโง่ๆ”

สินหน้าเจื่อนไปนิดแล้วรีบเอาใจสาวสวยต่อ “แล้วนี่บุปผาจะไปไหนจ๊ะ ให้ฉันไปส่งนะ ฉันมีรถมาด้วย”

บุปผาเหลือบมองรถด้วยท่าทีพอใจ เพราะหรูหราไม่ใช่เล่น

“ฉันเพิ่งไปส่งคุณหนูที่มหาวิทยาลัยมาน่ะ เย็นๆ ถึงค่อยไปรับ บุปผาจะไปไหน ให้ฉันไปส่งนะ”

สิน ยิ้มประจบเอาใจบุปผาเต็มที่ ปรากฏว่าบุปผายิ้มหวานตอบเพราะเห็นแก่ประโยชน์ ยอมให้เขาไปส่งถึงหอโคมแดง แต่พอลงจากรถปุ๊บก็เดินหนีอย่างเย็นชา อย่าว่าแต่รับปากยอมขึ้นห้องตามที่นายสินขอ แม้แต่เอ่ยคำขอบคุณที่เขามาส่งก็ไม่มีหลุดออกจากปากหล่อน!

ทางด้าน พลอยที่เริ่มสงสัยความสัมพันธ์ของมัทนากับไอศูรย์ แต่พอจะซักถามมัทนาก็ชิงบอกเสียก่อนว่าแม่ของตนกำลังจะให้หมั้นกับลูกชาย เพื่อน ฝ่ายเพชรที่หลงรักมัทนาเต็มเปาก็ตั้งใจไปปรึกษาไอศูรย์ว่าจะทำอย่างไรดี แต่รายนั้นถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินชื่อมัทนา เทพบริบาล เพราะเธอคือสาวน้อยที่เขาพึงพอใจอยู่เช่นกัน

ตกเย็นไอศูรย์กลับเข้า บ้านทราบจากมารดาว่าจะให้เขาหมั้นกับลูกสาวเพื่อนที่ชื่อมัทนา เทพบริบาล ชายหนุ่ม ดีใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็แอบหนักใจไม่น้อยเหมือนกัน เพราะเพชรเพิ่งมาบอกเมื่อเช้าว่ารักชอบมัทนาอยู่ ส่วนเพชรก็เพิ่งรู้จากพลอยว่ามัทนากำลังจะหมั้นกับผู้ชายที่แม่หาให้ เขาร้อนใจหนักกว่าเดิมตั้งใจมาหารือไอศูรย์ แต่กลายเป็นว่าต้องโมโหโกรธาเมื่อรู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือไอศูรย์นั่นเอง

เพชรลุกพรวดจ้องหน้าไอศูรย์อย่างแค้นเคืองสุดขีด ไอศูรย์พยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ

“เพชร...ฟังพี่ก่อน พี่ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าแม่พี่จะให้พี่หมั้นกับคุณมัทนา”

“แต่พี่ต้นก็รู้ว่าผมชอบน้องมัทนาอยู่ ถ้าพี่ต้นไม่ได้ชอบอยู่กับน้องมัทนา พี่ต้นก็ควรจะปฏิเสธการหมั้นสิครับ”

ไอศูรย์นิ่งอึ้ง เพชรรู้แล้วว่าอาการนิ่งของเขาคือการยอมรับว่าชอบมัทนาเหมือนกัน

“เพชร...ถึงจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น แต่เราสองคนก็ยังจะเป็นพี่น้องกันได้อยู่ใช่ไหม”

เพชร ไม่ตอบ เดินหน้าบึ้งออกไปเลย ไอศูรย์ถอนใจด้วยความกลัดกลุ้ม...ต่อมาเมื่อพลอยพอรู้เรื่องนี้จากพี่ชายก็ รู้สึกเคืองมัทนาไม่น้อย ไปต่อว่าเธอถึงบ้าน แต่พอฟังคำอธิบายของเพื่อนที่ไม่รู้มาก่อนว่าผู้ชายที่แม่หาให้คือหมอ ไอศูรย์ พลอยก็สงบลงได้บ้าง...

ooooooo

บุปผากำลังหลับสบายใน ห้องส่วนตัว เสียงเคาะประตูตามด้วยเสียงเรียกของผกาทำให้หล่อนหงุดหงิดรำคาญ พอรู้ว่าศักดิ์ชัยมาและต้องการขึ้นห้องกับเธอก็ยิ่งอารมณ์เสีย ฝากผกาไปบอกเขาทีว่าวันนี้เธอไม่รับแขก

ผกาทำท่าหนักใจ บุปผาจะกลับเข้าห้อง แต่ยังไม่ทันก้าวขาศักดิ์ชัยก็พรวดพราดขึ้นมากระชากแขนเธอไว้

“บุปผา...คุณปฏิเสธผมหลายครั้งแล้วนะ ทำไม ผมมีอะไรน่ารังเกียจนักเหรอ”

“ปล่อยฉันนะคุณศักดิ์ชัย”


“ไม่ปล่อย! วันนี้คุณต้องขึ้นห้องกับผม”

บุปผา ไม่เล่นด้วยสะบัดตัวออก ศักดิ์ชัยยิ่งเคือง ยื้อยุดเธอไปมา ที่สุดก็โดนเธอผลักเซเสียหลักหงายหลังกลิ้งตกบันไดท่ามกลางเสียงร้องวี้ด ว้ายของสาวน้อยสาวใหญ่ในหอโคมแดง

ศักดิ์ชัยนอนแน่นิ่งไม่ได้สติอยู่เชิงบันได มุกวิ่งมาเห็นพูดโพล่งด้วยความตกใจสุดขีด

“นังบุปผา แกผลักคุณศักดิ์ชัยตกบันไดเหรอ พ่อเขามาเอาเรื่องแกตายแน่!”

บุปผาหน้าซีดหน้าเสีย แล้วกุลีกุจอช่วยพวกผกาพาศักดิ์ชัยไปส่งโรงพยาบาล แต่พอนึกอะไรได้ก็กระซิบถามผกาว่าทำไมต้องเอาเขามาที่นี่ด้วย

“ก็ ที่นี่เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุด หมอเก่งที่สุดน่ะสิ บุปผาเอ๊ย...คุณศักดิ์ชัยเขาเป็นถึงลูกพ่อค้าใหญ่ พลัดตกบันไดลงไปขนาดนั้นไม่คอหักตายคาบ้านเราก็บุญถมไปแล้ว ยังไงๆเราก็ต้องพาเขามาหาหมอที่เก่งที่สุด”

บุปผาหน้าไม่ดีหันมองรอบทิศ เห็นหมอไอศูรย์กำลังถูกตามตัวเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ก็รีบหลบหลังผกาทันที

“เป็นอะไรไปบุปผา”

“ฉันกลับไปรอฟังผลที่บ้านได้ไหมแม่”

“ไม่ ได้ เราน่ะเป็นตัวต้นเหตุก็ควรจะอยู่รอดูอาการคุณศักดิ์ชัยเขาที่นี่ เดี๋ยวพ่อคุณศักดิ์ชัยเขาก็คงจะมา บุปผาจะหลบหน้าพ่อเขาไม่ได้หรอกนะ เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปกว่าเดิม”

“ฉันไม่ได้จะหลบหน้าพ่อคุณศักดิ์ชัยสักหน่อย”

“แล้ว จะหลบหน้าใคร” พูดไปแล้วชักเอะใจ เปลี่ยนเป็นโน้มหน้ามากระซิบถามบุปผา “อย่าบอกนะว่าหมอที่บุปผาเคยพูดถึงให้แม่ฟัง เขาทำงานอยู่ที่นี่น่ะ”

“ไม่ใช่ แค่ทำงานที่นี่ เขาเป็นเจ้าของโรงพยาบาลนี้เลยละแม่ แล้วถ้าเขารู้ว่าฉันเป็นผู้หญิงหากิน เขาก็จะไม่เอาฉันน่ะสิ แม่ให้ฉันกลับบ้านนะ แล้วเรื่องคุณศักดิ์ชัยจะเอายังไงค่อยว่ากัน”

ผกา นิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับอย่างจำใจ เห็นแก่อนาคตของบุปผา...เมื่อกลับมาถึงหอโคมแดงคนเดียว บุปผาก็ถูกมุกเพ่งเล็งจับผิดอีกว่า

“ทำไมกลับมาก่อนคนเดียว นี่อย่าบอกนะว่าคุณศักดิ์ชัยตายแล้วน่ะ”

“บ้า! เขายังไม่ตายย่ะ หมอกำลังรักษาอยู่”

“แล้วนี่หล่อนกลับมาบ้านทำไม แล้วคนอื่นๆล่ะ”

บุปผาไม่สนใจจะตอบคำถาม เดินตรงไปใช้โทรศัพท์ หมุนฉับๆโทร.หาใครบางคน

ooooooo

ผ่านไปพักใหญ่...ผกา เดือน และสิรีพากันกลับมา บุปผาถลาเข้าไปถามผกาอย่างร้อนใจว่าศักดิ์ชัยเป็นยังไงบ้าง

“พ้นขีดอันตรายแล้ว”

บุปผา โล่งอก แต่ไม่ทันไรก็หน้าซีดเป็นไก่ต้ม รวมทั้งคนอื่นๆก็พลอยตกอกตกใจไปด้วยเพราะพงษ์ศักดิ์พ่อของศักดิ์ชัยพรวดพราด เข้ามาพร้อมลูกน้อง โวยวายถามหาคนที่ผลักลูกชายตกบันได จะเอาตัวไปส่งตำรวจ

แต่ ก่อนที่บุปผาจะถูกรวบตัว กำพลก้าวเข้ามาแทรกกลาง “ใจเย็นๆสิครับเจ้าสัว เรื่องที่เกิดขึ้นน่ะมันเป็นอุบัติเหตุ บุปผาไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย”

“ลื้อเป็นใครวะ มาสาระแนเรื่องของคนอื่น รู้ไหมอั๊วเป็นใคร”

“ผม รู้ว่าเจ้าสัวเป็นใคร และผมก็เชื่อว่าเจ้าสัวก็รู้จักพ่อผมดีเหมือนกัน” กำพลแนะนำชื่อเสียงเรียงนามบิดาซึ่งเป็นนายทหาร และย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเราคงตกลงกันได้อย่างเงียบๆ

พงษ์ศักดิ์ ท่าทีเกรงบารมีบิดากำพล เม้มปากแน่นอย่างเจ็บใจ ในขณะที่บุปผายิ้มอย่างผู้มีชัย...หลังจากเคลียร์กันเรียบร้อย พงษ์ศักดิ์พาลูกน้องกลับไปแล้ว บุปผาสำนึกบุญคุณกราบแทบอกกำพลด้วยท่าทีกระชด กระช้อย

“บุปผาต้องกราบขอบคุณคุณกำพลมากนะคะที่ มาช่วยบุปผา นี่ถ้าไม่ได้คุณกำพล บุปผาคงต้องแย่แน่ๆ”

มุกยืนซุบซิบกับผองเพื่อนอยู่อีกมุม จ้องบุปผาอย่างชิงชัง แน่ใจแล้วว่าที่แท้บุปผาโทร.หากำพลนี่เอง

“ฉัน ว่าบุปผามันเก่งนะที่คิดได้ว่าต้องโทร.หาคุณกำพลน่ะ เพราะพ่อค้าคนไหนๆก็ต้องกลัวต้องเกรงใจพวกทหารทั้งนั้นแหละ คุณกำพลเขาเป็นลูกนายทหารใหญ่” พิกุลพูดซื่อๆ แต่มันทำให้มุกอารมณ์เสียแหวใส่เสียงเขียว

“เออ! ไม่ต้องพูดแล้ว”

อ่านต่อ คลิก link
เรื่องย่อ ละคร ไฟหวน ตอน1 ช่อง7
เรื่องย่อ ละคร ไฟหวน ตอน2 ช่อง7 โดย มารุต สาโรวาท
เรื่องย่อ ละคร ไฟหวน ตอน3 ช่อง7 โดย มารุต สาโรวาท...

เรื่องย่อ ละคร ไฟหวน ตอน1 ช่อง7


ตอนที่ 1

คุณหญิงมณีเพิ่งให้กำเนิดลูกน้อยได้ไม่นานก็ล่วงรู้ว่านายพลเทพผู้เป็นสามีแอบมีเมียน้อยอยู่แถบชานเมือง ที่สำคัญหล่อนกำลังท้องแก่ใกล้คลอดแล้วด้วย นี่เองทำให้คุณหญิงมณีโกรธมากแต่ไม่กระโตกกระตาก แอบจ้างวานสร้อยสาวใช้คนสนิทไปจัดการให้สิ้นซาก อย่าให้นังอุ่นกับลูกของมันมีชีวิตอยู่อีกต่อไป

อุ่นอาศัยอยู่กับอิ่มพี่สาว ในคืนนั้นเองขณะอยู่กันตามลำพัง อุ่นเริ่มมีอาการปวดท้องและคลอดก่อนกำหนดด้วยตัวเองที่บ้าน ทารกน้อยออกมามีปานแดงขนาดใหญ่ที่ต้นขาขวาแต่ไม่ร้องสักเอะและตัวซีดจนน่ากลัว อุ่นเกรงว่าลูกสาวจะตายจึงบอกให้พี่สาวอุ้มลูกไปหาหมอเพราะตัวเองเพิ่งคลอดเดินไม่ไหว

อิ่มรีบร้อนอุ้มลูกของน้องสาวออกไปไม่นานสร้อยก็พาคนร้ายเข้ามาวางเพลิงเผาบ้าน ตั้งใจให้อุ่น ตายทั้งกลมคากองไฟ แต่อิ่มยังไปได้ไม่ไกลหันมาเห็นเปลวเพลิงแดงฉานจึงวิ่งย้อนกลับมาดูแล้วพบว่าบ้านถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง และพอเห็นสร้อยยืนบงการอยู่ก็จำได้ว่าเป็นคนของบ้านนายพลเทพ หนำซ้ำสร้อยยังเลือดเย็นใช้มีดแทงอุ่นตายคากองไฟ

อิ่มเห็นภาพนั้นเต็มตา เธอกลัวมากรีบอุ้มหลานสาววิ่งหนีไป แล้วถูกรถยนต์ที่ผกานั่งมากับแขกของหอโคมแดงชนเข้าอย่างจังจนป้าหลานกระเด็นไปคนละทิศ อิ่มหัวแตกเลือดอาบแต่ก็ยังพยายามตะเกียกตะกายไปหาหลานที่ร้องไห้เสียงดังอยู่อีกฟากถนน ผกาลงจากรถมาดูด้วยความตกใจ อิ่มเห็นหน้าผกาชัดเจนก่อนจะหมดสติ จากนั้นผกาก็พาทั้งคู่ไปส่งโรงพยาบาล ฝากฝังหมอให้รักษาโดยเธอขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง เนื่องจากรู้สึกถูกชะตากับเด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูคนนี้

ด้านสร้อยกับมือวางเพลิงกลับออกไปโดยเข้าใจว่าอุุ่นตายทั้งกลมเพราะสภาพภายนอกของอุ่นที่สร้อยเห็นท้องยังใหญ่อยู่ประสาคนเพิ่งคลอดลูก เมื่อคุณหญิงมณีได้รับรายงานจากสาวใช้ก็ยิ้มย่องลำพองใจว่าตนหมดเสี้ยนหนามแทงใจเรียบร้อยแล้ว และกำชับสร้อยห้ามพูดเรื่องนี้ให้ใครรู้อย่างเด็ดขาดโดยเฉพาะนายพลเทพ

วันรุ่งขึ้น ผกาแวะมาดูเด็กน้อยที่โรงพยาบาลอีกครั้ง หมอบอกว่าเด็กปลอดภัยไม่เป็นอะไรเลย แต่แม่เด็กยังไม่ได้สติจึงยังไม่ทราบว่าอาการบาดเจ็บที่ศีรษะของเธอจะมีผลอะไรบ้างหรือเปล่า ผกาเข้าใจตามที่หมอพูดว่าอิ่มคือแม่ของเด็กน้อย และขอตัวไปดูอาการ ปรากฏว่าอิ่มลืมตาเห็นผกาก็กรีดร้องอย่างหวาดกลัว ภาพที่อุ่นโดนสร้อยแทงตายติดตาจนเธอสติแตก ลุกพรวดวิ่งหนีพร้อมกับร่ำร้องว่ากลัวแล้ว อย่าฆ่าตนอีกคนเลย!

ผกางุนงงสงสัย มองพยาบาลช่วยกันวิ่งไล่จับอิ่มแต่ก็ไม่มีใครต้านได้ เธอวิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หมอสันนิษฐานว่าอาการบาดเจ็บที่ศีรษะคงทำให้คนไข้เกิดอาการสับสน และถ้าเธอไม่กลับมา คงต้องหาคนอุปการะเด็ก ผกาซึ่งถูกชะตากับเด็กน้อยจึงอาสารับมาเลี้ยงดู โดยไม่สนใจคำพูดทักท้วงของบรรดาเพื่อนร่วมอาชีพในหอโคมแดง

“ถึงฉันจะเป็นผู้หญิงหากิน...แต่การที่ฉันรับเด็กคนนี้มาเลี้ยงให้มีที่อยู่ที่กินมันก็ดีกว่าให้เด็กไปอยู่สถานสงเคราะห์หรือไปเป็นขอทานอยู่ข้างถนนไม่ใช่รึ ส่วนที่ว่าโตขึ้นแล้วเขาจะเป็นอะไร นั่นก็สุดแท้แต่บุญวาสนาที่เขาทำมาในชาติก่อนก็แล้วกัน ฉันจะตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่าบุปผา...ให้เข้ากับชื่อผกาของฉัน ที่แปลว่าดอกไม้เหมือนกัน”

เมื่อผกายืนกรานอย่างนั้น ทุกคนจึงสงบปากสงบคำและเฝ้าดูเด็กหญิงบุปผาเติบโตภายในหอโคมแดงเรื่อยมา...จนกระทั่งวันเวลาผ่านไป 18 ปี บุปผาเป็นสาวสะพรั่งหน้าตาสวยงามและเจริญรอยตามอาชีพเดียวกับผกาด้วยความเต็มใจ ส่วนผกาได้ผันตัวเองเป็นเจ้าของหอโคมแดงที่มีลูกค้าทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มาใช้บริการไม่ขาดสาย

แน่นอนว่าความสดใหม่ของบุปผาทำให้ผู้ชายที่มาใช้บริการต่างหมายปองเธอจนคนอื่นๆตกกระป๋องรายได้หดหาย พากันหมั่นไส้ดาวเด่นดวงใหม่และเกิดระหองระแหงกันอยู่เนืองๆ ส่วนนักเที่ยวก็แย่งบุปผาแทบจะเข่นฆ่ากันตายเป็นรายวัน

วันนี้ก็เช่นกัน กำพลกับศักดิ์ชัยทะเลาะแย่งตัวบุปผาถึงขนาดกำพลชักปืนออกมาจะยิงศักดิ์ชัยทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายมาทีหลัง ผกาเข้าห้ามสองหนุ่มและตัดสินด้วยการให้บุปผาเป็นคนเลือกเองว่าจะขึ้นห้องกับใคร ปรากฏว่ากำพลถูกเลือกเพราะผกาชอบลูกชายนายพลมากกว่าลูกพ่อค้าอย่างศักดิ์ชัย

กำพลติดใจลีลาตื่นเต้นเร่าร้อนของบุปผาที่ไม่เหมือนสาวคนอื่น เธอมักสรรหาวิธีแปลกใหม่มาปรนเปรอเขาอย่างไม่รู้เบื่อ และไม่ว่ากับชายใดที่เธอขึ้นห้องด้วย ทุกคนลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่ายอดเยี่ยมมาก จึงไม่แปลกที่เธอจะมีค่าตัวแพงและถูกชายรุมแย่งอยู่เป็นประจำ

ooooooo

มัทนา...ลูกสาวคนเดียวของคุณหญิงมณีกับนายพลเทพเพิ่งได้เป็นนิสิตใหม่ในมหาวิทยาลัยชื่อดังพร้อมกับพลอยเพื่อนสนิท ความสวยโดดเด่นของมัทนาเป็นที่ต้องตาตรึงใจนิสิตชายทั้งรุ่นพี่และรุ่นเดียวกัน แต่เธอไม่ได้ให้ความสนใจใครเลย นอกจากมุ่งมั่นตั้งใจเรียนเพียงอย่างเดียว

เลิกเรียนเย็นวันนี้ มัทนากับพลอยต่างก็รอรถที่บ้านมารับกลับ ปรากฏว่ารถที่บ้านพลอยมาก่อนซึ่งคนขับไม่ใช่นายด้วงอย่างเคยแต่เป็นชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบทหารเต็มยศ พลอยเห็นหน้าเขาชัดถึงกับวิ่งเข้าใส่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ

“พี่เพชร! พี่เพชรกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย”

“เมื่อบ่ายนี้เอง พี่เลยอาสานายด้วงมารับน้องสาวพี่ด้วยตัวเอง อยากเห็นน้องสาวในชุดนิสิตใหม่จะแย่อยู่แล้ว” เพชรมองน้องอย่างเป็นปลื้มแล้วมองเลยไปข้างหลัง เห็นสาวน้อยอีกคนยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อม ชายหนุ่มประทับใจดวงตาคู่นั้นทันที

“พี่เพชรจำยายมัทไม่ได้หรือคะ มัทนา เทพบริบาล ลูกสาวท่านนายพลเทพกับคุณหญิงมณีไงคะ” พลอยแนะนำเพื่อนรักอย่างภูมิใจ เพชรชะงักเล็กน้อยก่อนพูดโพล่งตรงไปตรงมา

“มัทนา...ยายมัทที่ชอบร้องไห้ขี้มูกโป่งน่ะเหรอ”

“เดี๋ยวนี้ยายมัทไม่ร้องไห้ขี้มูกโป่งแล้วค่ะ แต่กลายเป็นสาวสวย หนุ่มๆตามจีบกันเกรียว”

“พลอย...” มัทนาเอ็ดเพื่อนเบาๆ

“ก็มันเรื่องจริงนี่ เออ...แล้วนี่เธอจำพี่เพชรได้รึเปล่า พี่เพชรไปเรียนทหารที่อังกฤษเสียหลายปี ไปตอนที่เรายังเด็กๆกันอยู่เลยน่ะ”

“ก็คลับคล้ายคลับคลาอยู่”

“ดีละ ถ้าเช่นนั้นพี่กลับมาอยู่บ้านคราวนี้คงได้ไปมาหาสู่กันเหมือนเคย”

เพชรมองมัทนาตาไม่กะพริบ พลอยกระแอมเตือนก็ไม่ได้ยิน มัทนาเขินเสมองหารถที่บ้าน พอนายสินมาจอดเทียบก็รีบบอกลาสองพี่น้องแล้วขึ้นรถทันที เพชรเหลียวมองตามไม่เลิก พลอยเลยกระเซ้าพี่ชายว่าหลงเสน่ห์ยายขี้มูกโป่งเสียแล้วหรือ

“เมื่อครู่น้องบอกว่า...น้องมัทมีหนุ่มๆตามจีบกันเกรียว แล้วน้องมัทเธอตกลงปลงใจกับใครรึยังล่ะ”

“ยังหรอกค่ะ บางทีเนื้อคู่ของยายมัทอาจจะเป็นพี่เพชรก็ได้นะ”

“ขอให้มันจริงเถอะ”

“น้องก็อยากได้ยายมัทเป็นพี่สะใภ้เหมือนกันค่ะ ยายมัทน่ะรูปก็สวย รวยทรัพย์ ชาติตระกูลก็ดี การศึกษาก็ดี พี่เพชรจะหาผู้หญิงที่เพียบพร้อมอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้วค่ะ”

เพชรยิ้มพราย จับจ้องมองตามรถมัทนาไปด้วยแววตาเป็นประกายเคลิ้มฝัน แต่ดูเหมือนมัทนาไม่ได้คิดอะไรกับเขาสักนิด เธอสนใจแต่ว่าทำไมวันนี้นายสินมาช้านัก ซึ่งนายสินบอกว่าคุณหญิงให้ตนเอารถไปซื้อต้นไม้ดอกไม้มาตกแต่งบ้าน มัทนาเลยเดาทันทีว่าเร็วๆนี้คงจะมีแขกมาบ้านอีก

เมื่อรถผ่านตลาด มัทนาให้นายสินแวะก่อนเธอจะซื้อผลไม้ฝากแม่ แต่ลงเดินไม่ทันถึงร้านก็เกิดเรื่องระทึกใจขึ้น หญิงสาวเจอชายคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ด้วยความสงสารจึงอาสาพาเขาไปหาหมอโดยไม่รู้ว่าเขาคือคนร้ายที่ตำรวจกำลังตามจับ กระทั่งตำรวจวิ่งกรูมาแล้วคนร้ายยิงสกัดพร้อมกันนั้นก็จับเธอเป็นตัวประกัน นายสินจอดรถเสร็จเดินมาเห็นคุณหนูของตนตกอยู่ในอันตรายก็จะเข้าไปช่วย แต่คนร้ายยิงสวนจนเขาโดดหลบแทบไม่ทัน
มัทนาถูกจับเป็นตัวประกันอยู่พักใหญ่ก่อนที่ตำรวจจะสยบคนร้ายลงไปนอนหายใจรวยรินอยู่กับพื้น แทนที่มัทนาจะวิ่งหนี เธอกลับเข้าช่วยเหลือจะพาเขาไปหาหมอทั้งที่ตำรวจบอกว่านายคนนี้เพิ่งปล้นชาวบ้านมาเมื่อคืน

“อย่าลำบากเลยครับคุณหนู ให้เป็นธุระของตำรวจดีกว่า”

“ถึงเขาจะเป็นคนร้าย แต่เขาก็เป็นคนคนหนึ่งเหมือนกันนะนายสิน ชีวิตของเขาก็มีค่าไม่ต่างอะไรไปจากเรา”

ไอศูรย์เดินมาได้ยินคำพูดของเธอพอดี รู้สึกประทับใจอย่างบอกไม่ถูก เดินตรงเข้ามาแนะนำตัวว่าเป็นหมอขอดูอาการคนเจ็บ มัทนาไม่รู้จักเขามาก่อนแต่ก็ขอบคุณและรู้สึกประทับใจเขาเช่นกัน

คนร้ายถูกส่งตัวไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลโดยหมอไอศูรย์ มัทนาขอบคุณเขาอีกครั้งที่ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกันโดยไม่เกี่ยงงอนว่าเป็นคนดีหรือคนร้าย

“ผมเป็นหมอ ผมเลือกที่จะช่วยชีวิตคนโดยไม่เลือกว่าเขาเป็นใคร”

“คุณทำให้ฉันคิดถึงคำว่าเมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก”

“แต่คุณทำให้ผมคิดถึงคำว่า...งามนอก งามใน”

“คุณชมฉันเกินไปแล้วค่ะ”

“ผมไม่ได้ชม ผมพูดอย่างที่ผมคิด”

หนุ่มสาวสบตากันด้วยความรู้สึกดีๆ นายสินเห็นว่าค่ำแล้วเข้ามาแทรกชวนมัทนากลับ เกรงท่านนายพลกับคุณหญิงจะเป็นห่วง มัทนาจึงลาคุณหมอ และไม่ลืมบอกชื่อแซ่ของกันและกัน

กลับถึงบ้าน มัทนากำชับนายสินไม่ให้บอกใครเรื่องวันนี้ แต่ทำมาทำไปตัวเองถูกคุณหญิงมณีซักเพราะเห็นคราบเลือดที่เสื้อเลยต้องพูดความจริง คุณหญิงกับนายพลตกใจมากแต่พอรู้ว่าลูกสาวไม่ได้รับบาดเจ็บ ใดๆก็โล่งใจ แล้วให้ลูกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แม่มีเรื่อง จะคุยด้วย

ooooooo

ค่ำวันเดียวกัน ที่หอโคมแดงเกิดเรื่องระหอง ระแหงระหว่างโสเภณีรุ่นพี่กับรุ่นน้อง มุกอิจฉาบุปผาที่มีแขกแย่งตัวไม่เว้นวัน พอสองสาวเปิดศึกแขวะกันไปด่ากันมาแล้วผกาเข้าห้าม มุกก็หาว่าผกาเข้าข้างบุปผาเพราะเห็นว่ากำลังเป็นตัวเรียกแขก ทั้งที่ตนทำงานรับใช้ที่นี่มาตั้งนานแต่ไม่เคยเห็นความดี

“ก็เพราะเห็นน่ะสิ แม่จึงยังเลี้ยงหล่อนไว้จนทุกวันนี้ไง”

“แม่เห็นนังบุปผามันสาว มันสวย มันสดกว่าฉัน แม่ก็ยกย่องเชิดชูมัน แต่คอยดูเถอะ คนอย่างมันไม่มีวันเห็นใครดีไปกว่าตัวมันเองหรอก”

มุกทิ้งคำพูดชวนคิดแล้วเดินสะบัดหนี บุปผาเห็นผกานิ่งเงียบไปก็รีบเข้ามาพะเน้าพะนอเอาใจ

“แม่อย่าไปฟังพี่มุกนะ ถึงฉันจะเป็นผู้หญิงขายตัวแต่ฉันก็ไม่ใช่คนอกตัญญู ฉันมีวันนี้ได้ก็เพราะแม่ เพราะฉะนั้นถ้าวันไหนฉันเกิดได้ดิบได้ดีขึ้นมา ฉันจะไม่มีวันทิ้งแม่ ไม่เชื่อแม่คอยดู”

บุปผาเริ่มต้นตอบแทนบุญคุณผกาด้วยการมอบ น้ำหอมราคาแพงที่แขกประเคนมาให้จำนวนมาก โดยแบ่งบางส่วนให้เดือนกับสิรี แต่ไม่ยอมให้มุกกับพิกุลที่อยู่คนละฝ่าย มุกเจ็บใจและหมั่นไส้แอบไปบ้วนน้ำลายลงในถ้วยแกงของบุปผา แต่กลายเป็นว่าพิกุลมากินแทนเพราะความตะกละ...

ทางด้านหมอไอศูรย์ กลับถึงบ้านทราบจากคุณ หญิงแจ่มจันทร์มารดาว่ามีแขกมารอพบ และแขกคนนั้นก็ทำให้หมอหนุ่มประหลาดใจระคนตื่นเต้น

“เพชร! กลับเมืองไทยมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย”

“ผมเพิ่งกลับมาถึงเมื่อกลางวันนี้เองครับพี่ต้น แล้วไปไหว้ผู้ใหญ่มาทั่วเมืองก่อนจะไปรับยายพลอยกลับจากมหาวิทยาลัย แล้วก็มาแวะมาบอกข่าวว่าผมกลับมาแล้วที่นี่เป็นที่สุดท้ายครับ”

ไอศูรย์มองพลอยในชุดนิสิตที่ยืนอยู่ข้างเพชร สาวน้อยสบตาเพื่อนพี่ชายด้วยใจเต้นตึ๊กตั๊กหลงรักเขาแต่แรกเห็น ยิ่งได้ยินเขาชื่นชมว่าเก่งมากที่เข้าอักษรศาสตร์จุฬาได้ เธอยิ้มแก้มแทบปริและแอบมองเขาบ่อยครั้งขณะสนทนากับเพชร

ทางด้านมัทนา...หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอเข้าไปหามารดาในห้องนอนเพราะก่อนหน้านี้ท่านบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย คุณหญิงมณีลูบศีรษะลูกสาวอย่างรักใคร่พลางเกริ่นถึงความห่วงใยที่ลูกเติบใหญ่จนเข้ามหาวิทยาลัยได้เห็นโลกกว้างและเรียนรู้ชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วหนทางที่จะก้าวเดินไปข้างหน้านั้นย่อมมีทั้งสุขและทุกข์

ท่านนายพลอยู่ในห้องด้วย ชำเลืองมองอย่างนึกรู้ว่าคุณหญิงจะโยงเข้าเรื่องอะไร เขารู้สึกหนักใจไม่น้อย ไม่อยากเห็นลูกสาวถูกคลุมถุงชน แต่คงขัดเจตนารมณ์ภรรยาไม่ได้...ในที่สุดคุณหญิงก็เข้าประเด็นว่าอยากมั่นใจว่าคนที่จะอยู่เคียงข้างลูกในวันที่พ่อกับแม่ไม่อยู่ในโลกนี้แล้วเขาต้องเป็นคนดีจริงๆ

“แม่อยากให้หนูหมั้นกับลูกชายของเพื่อนแม่ แม่ให้คนไปสืบประวัติมาหมดแล้ว เขาเป็นคนดี ชาติตระกูลดี เรียนจบจากเมืองนอก และไม่มีเบื้องหลังในชีวิตอะไรให้น่ากังวล แม่คิดว่าเขาเหมาะสมกับลูกสาวคนเดียวของแม่มาก...หนูไม่ได้รักกับใครที่ไหนอยู่ใช่ไหมลูก”

มัทนาคิดค้านอยู่ในใจไม่อยากหมั้นกับใครตอนนี้ แต่เพราะความหัวอ่อนไม่เคยขัดใจแม่เลยสักครั้งทำให้สาวน้อยตอบเสียงแผ่วเมื่อถูกท่านถามย้ำว่าเธอไม่ได้รักชอบอยู่กับใครใช่ไหม

“ไม่มีค่ะคุณแม่”

“งั้นก็ดีแล้ว อาทิตย์นี้แม่จะได้นัดเพื่อนแม่ให้พาลูกชายมาเที่ยวที่บ้านเรา หนูจะได้ทำความรู้จักกับพี่เขาไว้”

“ค่ะคุณแม่” มัทนารับคำอย่างง่ายดาย แต่พอออกจากห้องมาก็หน้าเศร้าอยากจะร้องไห้ นึกถึงหมอไอศูรย์ผู้ชายที่รู้สึกประทับใจแต่แรกเห็น....

ขณะเดียวกันในห้อง นายพลเทพล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยสีหน้าหนักใจ เหลือบมองคุณหญิงมณีที่เพิ่ง กราบพระเสร็จอย่างเกรงใจก่อนจะถาม

“คุณหญิงคิดดีแล้วหรือ ผมเกรงว่ามันจะเป็นการบังคับฝืนใจลูก...ถ้าลูกไม่ชอบ”

“ดิฉันเชื่อว่า...ดิฉันคิดไม่ผิดหรอกค่ะ แล้วคนเป็นแม่ย่อมต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกกันทั้งนั้น โดยเฉพาะลูกคนเดียวอย่างยายมัท”

นายพลเทพลอบถอนใจและไม่พูดอะไรอีก คุณหญิงมณีพลิกตัวนอนหันหลังให้สามีคล้ายจะหลับ แต่จริงๆ แล้วยังลืมตาอยู่ คิดถึงอดีตที่ทำให้ตนเองเข้าใจว่าลูกของนายพลเทพมีมัทนาเพียงคนเดียวเมื่อสิบกว่าปีก่อนตอนที่คุณหญิงมณีตั้งท้อง...

ชไม เพื่อนของคุณหญิงซึ่งมีความสามารถเรื่องดูดวงได้ทำนายว่าลูกในท้องเป็นผู้หญิง และคุณหญิงจะมีลูกได้แค่คนเดียวเท่านั้น แต่คุณหญิงไม่เชื่อคิดว่าเป็นเพียงคำพูดไร้สาระ เพราะเธอกับสามีอายุยังไม่มากและสุขภาพแข็งแรงจึงไม่มีเหตุอะไรเลยที่จะต้องมีลูกคนเดียว

คุณหญิงมณีโกรธชไมถึงขนาดต่อว่ากันอย่างรุนแรงทั้งๆที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมานาน...แต่แล้วเรื่องราวดูเหมือนจะเป็นจริงดังคำทำนายของชไม เมื่อถึงกำหนดคลอดลูกคุณหญิงมณีปวดท้องทุรนทุรายอยู่หลายวัน จนกระทั่งในที่สุดก็คลอดลูกสาวออกมาแล้วเกิดอาการเลือดเป็นพิษ หมอบอกว่าเธอจะไม่สามารถมีลูกได้อีก ไม่เช่นนั้นจะมีอันตรายถึงแก่ชีวิต ทำให้คุณหญิงเสียใจมากและคิดถึงชไมขึ้นมาจับใจ

เมื่อร่างกายหายป่วยเป็นปกติแล้วคุณหญิงมณีจึงพาลูกไปขอโทษชไม...ชไมดูดวงให้ลูกสาวเพื่อน แล้วถึงกับตกใจเมื่อคำทำนายออกมาว่าหนูน้อยมัทนาจะต้องตายเพราะพี่น้องร่วมสายเลือด แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อคุณหญิงมณีไม่สามารถมีลูกได้อีกแล้ว และนายพลเทพก็ไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้ด้วย

แต่เพื่อความมั่นใจ คุณหญิงมณีสั่งการสร้อยไปสืบจนรู้ว่านายพลเทพแอบมีสาวชาวบ้านชื่ออิ่มเป็นเมียน้อยและเธอกำลังท้องแก่ใกล้คลอด คุณหญิงโกรธแทบคลั่งก่อนจ้างวานสร้อยไปเผาบ้านอุ่นให้วอด อย่าให้มีใครรอดชีวิต โดยเฉพาะอุ่นกับลูกในท้อง

หลังจากมั่นใจว่าอุ่นตายทั้งกลมตามที่สร้อยกลับมารายงาน แต่ถึงกระนั้นคุณหญิงมณีก็ยังไม่วางใจเสียทีเดียว กังวลเรื่องคำทำนายของชไมที่ว่าจะมีพี่น้องร่วมสายเลือดมาฆ่ามัทนาในอนาคต เนื่องจากสามีของเธอยังหนุ่มแน่นสามารถมีลูกกับหญิงอื่นได้อีก เธอจึงสั่งสร้อยไปหาหมอยาฝีมือดีเพื่อซื้อยาที่ทำให้นายพลเทพกินแล้วเป็นหมันมาให้ จากนั้นก็วางยาสามีเรื่อยมาโดยโกหกว่าเป็นยาบำรุงจนเขาเป็นหมันสมใจ...
นับจากวันนั้นถึงวันนี้...คุณหญิงมณีเก็บงำเรื่องราวทั้งหมดเป็นความลับมาตลอด นอกจากตนเองและสร้อยก็ไม่มีใครล่วงรู้ ส่วนนายพลเทพก็ทราบเพียงว่าอุ่นกับลูกในท้องตายคากองไฟที่ไหม้บ้านวอดทั้งหลัง โดยไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรเลย

ooooooo

ที่หอโคมแดง บุปผาแอบได้ยินมุกกับพิกุลคุยกันเรื่องที่เมื่อวานมุกแอบบ้วนน้ำลายใส่ถ้วยแกงหวังให้บุปผากิน แต่ไม่สำเร็จเพราะความตะกละของพิกุล...

บุปผาโกรธมากตรงเข้าด่าทอมุกจนบานปลายกลายเป็นลงมือลงไม้กันถึงขนาดมุกหัวแตกต้องไปทำแผลที่โรงพยาบาล โดยผกาบังคับให้บุปผาพามุกไปทั้งที่เธอไม่เต็มใจ พอได้เห็นหมอหนุ่มรูปหล่อบุปผาเกิดหลงรักเขาในบัดดล แต่เพราะตัวเองมีอาชีพน่ารังเกียจจึงยังไม่เผชิญหน้า หนีกลับออกมาก่อนที่หมอไอศูรย์จะเห็นเธอ

เช้าวันเดียวกัน มัทนานั่งรถไปมหาวิทยาลัยโดยมีบิดาขับให้ไม่ใช่นายสินเหมือนทุกวัน นายพลเทพพูดต่อหน้าภรรยาว่านายสินลาป่วย แต่ความจริงแล้วเขาต้องการคุยกับลูกสาวตามลำพังด้วยเรื่องที่คุณหญิงมณีจะคลุมถุงชน เมื่อเอ่ยถามลูกสาวกลับไม่มีความคิดเห็นใดๆ นอกจากบอกว่าตามใจคุณแม่

“ทั้งๆที่มัทยังไม่เคยเจอหน้าค่าตาลูกชายเพื่อนแม่เขาเลยสักครั้งน่ะเหรอ มัท...เรื่องคู่ครองพ่ออยากให้ลูกเลือกด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพราะพ่อหรือแม่เป็นคนเลือกให้ เพราะผู้ชายคนนั้นมัทจะต้องอยู่กับเขาไปตลอดชีวิตนะลูก”

“มัททราบค่ะคุณพ่อ แต่มัทก็เชื่อว่าสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เลือกให้ลูกต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเสมอค่ะ”

นายพลเทพลอบถอนใจ ไม่อยากให้ลูกถูกคลุม ถุงชนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ขณะที่มัทนาสีหน้าไม่สบายใจนักแต่พยายามไม่แสดงออก เพราะไม่ต้องการให้พ่อกลุ้มใจมากไปกว่านี้...

ฝ่ายนายสินที่ได้สิทธิ์หยุดงานหนึ่งวัน เขาถือโอกาสไปหอโคมแดงเพื่อขึ้นห้องกับดาวเด่นอย่างบุปผา แต่มาทีไรไม่เคยสมหวังเพราะหล่อนบ่ายเบี่ยงเลี่ยงหนีตลอด จนใครต่อใครพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหล่อนเลือกขึ้นห้องแต่กับลูกท่านหลานเธอเท่านั้น กระจอกงอกง่อยเป็นแค่คนขับรถอย่างนายสินไม่มีทางที่หล่อนจะชายตาแล

ที่สำคัญเวลานี้บุปผาเกิดไปถูกตาต้องใจหมอไอศูรย์เข้าแล้ว แม้ผกาคอยเป่าหูว่าคนอาชีพอย่างเราไม่มีใครรักแล้วก็จริงใจเท่ากับคนอาชีพเดียวกัน บุปผาก็ไม่ฟัง และคราวนี้ถึงกับประกาศแน่แน่วว่าคนอย่างตนต้องไปได้ดี ต้องได้เป็นคุณผู้หญิงบ้านใหญ่ เป็นสะใภ้ลูกท่านหลานเธอ บางทีผัวของตนอาจจะเป็นหมอก็ได้

“บุปผาพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงลูก”

บุปผาไม่ตอบแต่ยิ้มพราย นัยน์ตาเป็นประกายวาววับ...แล้ววันถัดมาบุปผาก็ไปแอบดูไอศูรย์ที่โรงพยาบาล โดยแต่งตัวเรียบร้อยเป็นพิเศษเพราะไม่ต้องการให้หมอรู้ว่าเธอเป็นโสเภณี จากนั้นก็วางแผนเพื่อให้ได้ใกล้ชิดเขาถึงขนาดลงทุนทำร้ายตัวเองด้วยคมมีดจนมือเป็นแผลเหวอะหวะแล้วสำออยให้หมอรักษา

เผอิญหมอไอศูรย์กำลังจะออกเวร แต่พอเห็นคนเจ็บโอดโอยทำท่าจะเป็นลม หมอจึงรีบทำแผลให้แล้ววานพยาบาลไปบอกคนรถที่รออยู่ให้กลับไปบ้านก่อน และให้เรียนมารดาของตนด้วยว่าตนยังติดคนไข้อยู่คงจะไปตามนัดไม่ได้ บุปผาได้ยินก็ลอบยิ้มพอใจ แสร้งวิงเวียนเรียกร้องความสนใจพลางยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอ

“ไม่ต้องขอบคุณอะไรหรอกครับ มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วที่จะต้องดูแลรักษาคนเจ็บอย่างดีที่สุด”

“แต่ถึงยังไงฉันก็คิดว่าคุณหมอมีพระคุณต่อฉันมาก และสักวันฉันจะต้องตอบแทนบุญคุณให้แก่หมออย่างแน่นอนค่ะ ฉันชื่อบุปผาค่ะ”

ไอศูรย์พยักหน้ารับรู้โดยไม่ทันสังเกตว่าคนไข้สาวจ้องเขาไม่วางตาด้วยความพึงพอใจ...ในเวลาเดียวกันนั้น คุณหญิงมณีกำลังพิถีพิถันแต่งตัวให้มัทนาเพราะอีกไม่ช้าจะมีคนสำคัญมาที่บ้าน ไม่กี่อึดใจหนุ่มเพชรเดินเข้ามา มัทนาถึงกับตะลึงงัน เข้าใจว่าเขาคือคนที่คุณหญิงแม่จะให้เธอหมั้นหมายด้วย!

ooooooo

อ่านต่อ คลิก

เรื่องย่อ ละคร ไฟหวน ตอน2 ช่อง7 โดย มารุต สาโรวาท



ขายของโบราณ # วิทยุเก่า


วิหลอดยี่ห้อ telefunken รุ่นEjauotte9 นำเข้าจากเยรมันนีมีFM-AMพร้อมใช้ ขนาดคู้ก้วาง45ซม.สูง30ซม.หนา18ซม. ราคา15,000บ
   สนใจติดต่อ เช็คสินค้า  0802591675




วิทยุหลอดยี่ห้อ telefunken รุ่น Qpus7 HI-FIsystemมีfm-amนำเข้าจากเยรมันนี ตัวนี้fm88-108ครบพร้อมใช้ ขนาดตู้ก้วาง63ซม.สูง40ซม.หนา26ซมราคา 20,000 บ

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2556


  • 6 พ.ค. 56 13.08 น.
  •  
รางวัลที่ 1 
รางวัลละ 2,000,000 บาท
เลขท้าย 3 ตัว 
4 รางวัลๆละ 2,000 บาท
เลขท้าย 2 ตัว 
1 รางวัลๆละ 1,000 บาท
687125034 261 390 94556
รางวัลที่หนึ่งพิเศษ
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล กลุ่มที่ 1 รางวัลละ 30 ล้านบาท ชุดที่ 26 หมายเลข 687125
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล กลุ่มที่ 2 รางวัลละ 30 ล้านบาท ชุดที่ 52 หมายเลข 687125
รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1
รางวัลๆละ 50,000 บาท
687124687126
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 2 มี 5 รางวัลๆละ 100,000 บาท
207239436870645921709419848178
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 3 มี 10 รางวัลๆละ 40,000 บาท
034948207577227581304629381868
524992632851831951856786981416
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 4 มี 50 รางวัลๆละ 20,000 บาท
036111064601067010105914139712
158151169977193572202951212299
246967251239270905301856303998
318044350240375464401938464651
467757502016517321518245545175
548285561040582054608521613134
645199656207711967716994756319
766286771251777918795863796473
835839834379836828845414859978
893395942206943703975761998355
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 5 มี 100 รางวัลๆละ 10,000 บาท
013509014676023166040022058620
061374068353069515073524084948
095189095290101638105075144518
148085154369154877172128172411
177398194613198259208711211546
218358227650242023242329256192
270013276886284633297423309711
348510369023371620409624412921
439288451865453259454882479414
485071489188500514513453532858
554028556615569984563958599185
599317608195610970620017633025
636547637404658739666214684133
732545744609756005782003788819
798145810662814383820267823858
827604851495865920870954873049
876798882178884576894999900070
908860928890935319952539963589
966314969145981408983453991389
995082997442997511998656999192