ตอนที่ 2
เพชรมากับน้องสาวซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของมัทนา ชายหนุ่มตั้งใจมากราบคุณหญิงมณีกับนายพลเทพหลังจากไปเรียนเมืองนอกหลายปี...
คุณ หญิงมณีจับสังเกตสีหน้าท่าทีเพชรที่มองมัทนาอย่างไม่ชอบใจ แววตาเขาบ่งบอกว่าหลงใหลพึงพอใจ หญิงสาว แต่ด้วยมารยาทคุณหญิงจึงไม่พูดหรือแสดงออก ทั้งที่อยากจะบอกเต็มแก่ว่าลูกสาวตนมีผู้ชายที่เหมาะสมรออยู่แล้ว
ขณะ เดียวกันนั้นที่โรงพยาบาล ไอศูรย์กำชับบุปผาหลังจากเย็บแผลที่ฝ่ามือให้เธอแล้วว่าต้องกินยาแก้อักเสบ วันละสามเวลา และต้องทำความสะอาดแผลทุกวัน แรกๆควรมาทำที่โรงพยาบาล แต่พอแผลแห้งจะทำเองที่บ้านก็ได้ บุปผาจ้องหมอตาเป็นมัน รับปากรับคำและพนมมือไหว้กระชดกระช้อยอย่างมีจริต แต่หมอไม่ได้สนใจเธอสักนิด นอกจากเห็นว่าเป็นคนไข้
เมื่อกลับถึงหอ โคมแดง บุปผาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ซื้อขนมนมเนยมาฝากแม่ผกาและเพื่อนร่วมอาชีพ แต่มุกที่ไม่ลงรอยกันอยู่ไม่กินแถมยังแขวะหาเรื่อง เลยเกิดตบตีกันอุตลุดทำให้ผกาเหนื่อยหน่ายใจ จับบุปผาแยกไปที่ห้องแล้วซักถามที่มาที่ไปทำไมถึงถูกมีดบาดมือจนต้องเย็บแผล แต่คงไม่ใช่อุบัติเหตุแน่
“แม่รู้ทันฉันเสมอเลย ก็ฉันเคยบอกแม่แล้วนี่นะ ว่าผัวฉันในอนาคตน่ะเขาเป็นหมอ”
“เขาเป็นถึงหมอ แล้วเขาจะ...”
“มา เอาผู้หญิงหากินอย่างฉันเป็นเมียรึเปล่า...แม่จะพูดอย่างนี้ใช่ไหม” ผกาพยักหน้ายอมรับ บุปผาเชิดหน้าพูดอย่างมุ่งมั่นว่า “ฉันก็จะไม่ให้เขารู้สิว่าฉันเป็นผู้หญิงหากิน”
“แล้วบุปผาดูดีๆรึยังว่าเขามีลูกมีเมียแล้วหรือยัง”
“ฉันไม่รู้หรอกว่าเขามีลูกมีเมียแล้วหรือยัง แต่ถึงจะมีแล้วฉันก็ไม่สน มีได้ก็เลิกได้”
“บุปผา...ผู้ หญิงอาชีพอย่างเรานี่เกิดมาก็มีกรรมมากแล้วนะลูก ไม่งั้นเราคงไม่ต้องมามีอาชีพที่ผู้คนในสังคมเขารังเกียจเรากันอย่างนี้หรอก แม่ไม่อยากให้บุปผาทำบาปทำกรรมอะไรให้มากไปกว่านี้อีก แย่งผัวแย่งเมียคนอื่น มันบาปนะลูกนะ”
“ฉันไม่กลัวบาปหรอกจ้ะแม่ มัวแต่กลัวบาป ก็คงต้องขายตัวไปจนตาย ฉันบอกแม่แล้วไงจ๊ะ ว่าจะไม่ยอมขายตัวไปจนหมดสภาพอย่างพี่มุกพี่พิกุลหรอก คนอย่างอีบุปผามันจะต้องได้ดีกว่านี้”
บุปผามั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง ในขณะที่ผกามีสีหน้ากังวลว่าสิ่งที่บุปผาพูดจะเป็นได้แค่เรื่องเพ้อฝัน
ooooooo
ที่แท้ หมอไอศูรย์คือผู้ชายที่คุณหญิงมณีอยากได้เป็นลูกเขย และคุณหญิงแจ่มจันทร์แม่ของเขาก็ต้องการมัทนาเป็นสะใภ้ ผู้ใหญ่จึงตกลงกันเอาไว้แล้ว เพียงแต่รอหนุ่มสาวพบเจอและทำความรู้จักกันเท่านั้น
หารู้ไม่ว่าทั้ง คู่เคยเจอกันแล้วครั้งหนึ่ง และต่างฝ่ายก็ประทับใจกันแต่แรกเห็น แต่วันนี้ไอศูรย์ผิดนัดกับแม่ที่จะพาไปบ้านเพื่อนเพราะมีคนไข้ด่วน คุณหญิงแจ่มจันทร์จึงเลื่อนไปคราวหน้าโดยไม่ยอมเกริ่นอะไรให้ลูกรู้ ด้วยมั่นใจว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เธอบอกให้ลูกทำ ลูกไม่เคยขัดคำสั่งเธอสักครั้ง
วันรุ่งขึ้น เพชรขับรถไปส่งพลอยที่มหาวิทยาลัยและเจอมัทนาตามที่ตั้งใจ เขาแสดงออกว่าชื่นชอบเธอด้วยการมอบหนังสือเล่มหนึ่งให้ ฝ่ายพลอยก็ช่วยเชียร์หลังจากพี่ชายกลับไปแล้ว สาธยายว่าเขาเห็นหน้ามัทนาครั้งเดียวก็หลงใหลได้ปลื้มหัวปักหัวปํา เขาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน อยากให้เธอเปิดใจรับเขาหน่อย
มัทนาพูด ไม่ออก เสมองข้ามไปข้างหลังพลอย แล้วสีหน้าตื่นตะลึงขึ้นมาอย่างกะทันหันเมื่อเห็นหมอไอศูรย์เดินโปรยยิ้ม เข้ามา พลอยหันไปเห็นก็ตะลึงไปอีกคน
“พี่ต้น!” พลอยอุทานแล้วมองหน้าเพื่อนรักสลับกับชายหนุ่มที่ตัวเองปลื้มปริ่มอยู่ไปมา....
เมื่อทั้งสามคนได้นั่งคุยกันสักครู่ พลอยเปรยว่าไม่น่าเชื่อว่าโลกจะกลมขนาดนี้ และถามคุณหมอว่ามาทำอะไรที่นี่
คุณ หญิงมณีจับสังเกตสีหน้าท่าทีเพชรที่มองมัทนาอย่างไม่ชอบใจ แววตาเขาบ่งบอกว่าหลงใหลพึงพอใจ หญิงสาว แต่ด้วยมารยาทคุณหญิงจึงไม่พูดหรือแสดงออก ทั้งที่อยากจะบอกเต็มแก่ว่าลูกสาวตนมีผู้ชายที่เหมาะสมรออยู่แล้ว
ขณะ เดียวกันนั้นที่โรงพยาบาล ไอศูรย์กำชับบุปผาหลังจากเย็บแผลที่ฝ่ามือให้เธอแล้วว่าต้องกินยาแก้อักเสบ วันละสามเวลา และต้องทำความสะอาดแผลทุกวัน แรกๆควรมาทำที่โรงพยาบาล แต่พอแผลแห้งจะทำเองที่บ้านก็ได้ บุปผาจ้องหมอตาเป็นมัน รับปากรับคำและพนมมือไหว้กระชดกระช้อยอย่างมีจริต แต่หมอไม่ได้สนใจเธอสักนิด นอกจากเห็นว่าเป็นคนไข้
เมื่อกลับถึงหอ โคมแดง บุปผาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ซื้อขนมนมเนยมาฝากแม่ผกาและเพื่อนร่วมอาชีพ แต่มุกที่ไม่ลงรอยกันอยู่ไม่กินแถมยังแขวะหาเรื่อง เลยเกิดตบตีกันอุตลุดทำให้ผกาเหนื่อยหน่ายใจ จับบุปผาแยกไปที่ห้องแล้วซักถามที่มาที่ไปทำไมถึงถูกมีดบาดมือจนต้องเย็บแผล แต่คงไม่ใช่อุบัติเหตุแน่
“แม่รู้ทันฉันเสมอเลย ก็ฉันเคยบอกแม่แล้วนี่นะ ว่าผัวฉันในอนาคตน่ะเขาเป็นหมอ”
“เขาเป็นถึงหมอ แล้วเขาจะ...”
“มา เอาผู้หญิงหากินอย่างฉันเป็นเมียรึเปล่า...แม่จะพูดอย่างนี้ใช่ไหม” ผกาพยักหน้ายอมรับ บุปผาเชิดหน้าพูดอย่างมุ่งมั่นว่า “ฉันก็จะไม่ให้เขารู้สิว่าฉันเป็นผู้หญิงหากิน”
“แล้วบุปผาดูดีๆรึยังว่าเขามีลูกมีเมียแล้วหรือยัง”
“ฉันไม่รู้หรอกว่าเขามีลูกมีเมียแล้วหรือยัง แต่ถึงจะมีแล้วฉันก็ไม่สน มีได้ก็เลิกได้”
“บุปผา...ผู้ หญิงอาชีพอย่างเรานี่เกิดมาก็มีกรรมมากแล้วนะลูก ไม่งั้นเราคงไม่ต้องมามีอาชีพที่ผู้คนในสังคมเขารังเกียจเรากันอย่างนี้หรอก แม่ไม่อยากให้บุปผาทำบาปทำกรรมอะไรให้มากไปกว่านี้อีก แย่งผัวแย่งเมียคนอื่น มันบาปนะลูกนะ”
“ฉันไม่กลัวบาปหรอกจ้ะแม่ มัวแต่กลัวบาป ก็คงต้องขายตัวไปจนตาย ฉันบอกแม่แล้วไงจ๊ะ ว่าจะไม่ยอมขายตัวไปจนหมดสภาพอย่างพี่มุกพี่พิกุลหรอก คนอย่างอีบุปผามันจะต้องได้ดีกว่านี้”
บุปผามั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง ในขณะที่ผกามีสีหน้ากังวลว่าสิ่งที่บุปผาพูดจะเป็นได้แค่เรื่องเพ้อฝัน
ooooooo
ที่แท้ หมอไอศูรย์คือผู้ชายที่คุณหญิงมณีอยากได้เป็นลูกเขย และคุณหญิงแจ่มจันทร์แม่ของเขาก็ต้องการมัทนาเป็นสะใภ้ ผู้ใหญ่จึงตกลงกันเอาไว้แล้ว เพียงแต่รอหนุ่มสาวพบเจอและทำความรู้จักกันเท่านั้น
หารู้ไม่ว่าทั้ง คู่เคยเจอกันแล้วครั้งหนึ่ง และต่างฝ่ายก็ประทับใจกันแต่แรกเห็น แต่วันนี้ไอศูรย์ผิดนัดกับแม่ที่จะพาไปบ้านเพื่อนเพราะมีคนไข้ด่วน คุณหญิงแจ่มจันทร์จึงเลื่อนไปคราวหน้าโดยไม่ยอมเกริ่นอะไรให้ลูกรู้ ด้วยมั่นใจว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เธอบอกให้ลูกทำ ลูกไม่เคยขัดคำสั่งเธอสักครั้ง
วันรุ่งขึ้น เพชรขับรถไปส่งพลอยที่มหาวิทยาลัยและเจอมัทนาตามที่ตั้งใจ เขาแสดงออกว่าชื่นชอบเธอด้วยการมอบหนังสือเล่มหนึ่งให้ ฝ่ายพลอยก็ช่วยเชียร์หลังจากพี่ชายกลับไปแล้ว สาธยายว่าเขาเห็นหน้ามัทนาครั้งเดียวก็หลงใหลได้ปลื้มหัวปักหัวปํา เขาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน อยากให้เธอเปิดใจรับเขาหน่อย
มัทนาพูด ไม่ออก เสมองข้ามไปข้างหลังพลอย แล้วสีหน้าตื่นตะลึงขึ้นมาอย่างกะทันหันเมื่อเห็นหมอไอศูรย์เดินโปรยยิ้ม เข้ามา พลอยหันไปเห็นก็ตะลึงไปอีกคน
“พี่ต้น!” พลอยอุทานแล้วมองหน้าเพื่อนรักสลับกับชายหนุ่มที่ตัวเองปลื้มปริ่มอยู่ไปมา....
เมื่อทั้งสามคนได้นั่งคุยกันสักครู่ พลอยเปรยว่าไม่น่าเชื่อว่าโลกจะกลมขนาดนี้ และถามคุณหมอว่ามาทำอะไรที่นี่
“แหม...โลก กลมๆของเราสามคนนี่ยังเต็มไปด้วยความบังเอิญอีกนะคะ บังเอิญยายมัทรู้จักกับพี่ต้น บังเอิญพี่ต้นรู้จักกับพลอย แถมพลอยบังเอิญเป็นเพื่อนสนิทกับยายมัทอีก ต้องเอาเรื่องนี้กลับไปเล่าให้พี่เพชรฟังสักหน่อยแล้ว”
พลอยพูดจบก็เห็นมัทนากับไอศูรย์มองตากัน...เธอลอบถอนใจด้วยความกังวล รู้สึกทะแม่งๆกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่
ooooooo
บุปผา มาทำแผลและตั้งใจมาเจอหมอไอศูรย์ที่โรงพยาบาลแต่คลาดกันนิดเดียว จึงฝากกระเช้าผลไม้ไว้กับพยาบาลแล้วเดินหน้าตูมออกมาเจอนายสินอย่างไม่คาด คิด
สินดีใจมากรีบลงจากรถมาทักบุปผา พอเห็นเธอมีผ้าพันแผลที่มือก็สอบถามด้วยความเป็นห่วง บุปผากลับตอบอย่างไม่แยแสความรู้สึกเขาเลยสักนิด
“ถ้าไม่เป็นอะไรแล้วจะต้องพันผ้าพันแผลไว้ อย่างนี้เรอะ ถามอะไรโง่ๆ”
สินหน้าเจื่อนไปนิดแล้วรีบเอาใจสาวสวยต่อ “แล้วนี่บุปผาจะไปไหนจ๊ะ ให้ฉันไปส่งนะ ฉันมีรถมาด้วย”
บุปผาเหลือบมองรถด้วยท่าทีพอใจ เพราะหรูหราไม่ใช่เล่น
“ฉันเพิ่งไปส่งคุณหนูที่มหาวิทยาลัยมาน่ะ เย็นๆ ถึงค่อยไปรับ บุปผาจะไปไหน ให้ฉันไปส่งนะ”
สิน ยิ้มประจบเอาใจบุปผาเต็มที่ ปรากฏว่าบุปผายิ้มหวานตอบเพราะเห็นแก่ประโยชน์ ยอมให้เขาไปส่งถึงหอโคมแดง แต่พอลงจากรถปุ๊บก็เดินหนีอย่างเย็นชา อย่าว่าแต่รับปากยอมขึ้นห้องตามที่นายสินขอ แม้แต่เอ่ยคำขอบคุณที่เขามาส่งก็ไม่มีหลุดออกจากปากหล่อน!
ทางด้าน พลอยที่เริ่มสงสัยความสัมพันธ์ของมัทนากับไอศูรย์ แต่พอจะซักถามมัทนาก็ชิงบอกเสียก่อนว่าแม่ของตนกำลังจะให้หมั้นกับลูกชาย เพื่อน ฝ่ายเพชรที่หลงรักมัทนาเต็มเปาก็ตั้งใจไปปรึกษาไอศูรย์ว่าจะทำอย่างไรดี แต่รายนั้นถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินชื่อมัทนา เทพบริบาล เพราะเธอคือสาวน้อยที่เขาพึงพอใจอยู่เช่นกัน
ตกเย็นไอศูรย์กลับเข้า บ้านทราบจากมารดาว่าจะให้เขาหมั้นกับลูกสาวเพื่อนที่ชื่อมัทนา เทพบริบาล ชายหนุ่ม ดีใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็แอบหนักใจไม่น้อยเหมือนกัน เพราะเพชรเพิ่งมาบอกเมื่อเช้าว่ารักชอบมัทนาอยู่ ส่วนเพชรก็เพิ่งรู้จากพลอยว่ามัทนากำลังจะหมั้นกับผู้ชายที่แม่หาให้ เขาร้อนใจหนักกว่าเดิมตั้งใจมาหารือไอศูรย์ แต่กลายเป็นว่าต้องโมโหโกรธาเมื่อรู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือไอศูรย์นั่นเอง
เพชรลุกพรวดจ้องหน้าไอศูรย์อย่างแค้นเคืองสุดขีด ไอศูรย์พยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ
“เพชร...ฟังพี่ก่อน พี่ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าแม่พี่จะให้พี่หมั้นกับคุณมัทนา”
“แต่พี่ต้นก็รู้ว่าผมชอบน้องมัทนาอยู่ ถ้าพี่ต้นไม่ได้ชอบอยู่กับน้องมัทนา พี่ต้นก็ควรจะปฏิเสธการหมั้นสิครับ”
ไอศูรย์นิ่งอึ้ง เพชรรู้แล้วว่าอาการนิ่งของเขาคือการยอมรับว่าชอบมัทนาเหมือนกัน
“เพชร...ถึงจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น แต่เราสองคนก็ยังจะเป็นพี่น้องกันได้อยู่ใช่ไหม”
เพชร ไม่ตอบ เดินหน้าบึ้งออกไปเลย ไอศูรย์ถอนใจด้วยความกลัดกลุ้ม...ต่อมาเมื่อพลอยพอรู้เรื่องนี้จากพี่ชายก็ รู้สึกเคืองมัทนาไม่น้อย ไปต่อว่าเธอถึงบ้าน แต่พอฟังคำอธิบายของเพื่อนที่ไม่รู้มาก่อนว่าผู้ชายที่แม่หาให้คือหมอ ไอศูรย์ พลอยก็สงบลงได้บ้าง...
ooooooo
บุปผากำลังหลับสบายใน ห้องส่วนตัว เสียงเคาะประตูตามด้วยเสียงเรียกของผกาทำให้หล่อนหงุดหงิดรำคาญ พอรู้ว่าศักดิ์ชัยมาและต้องการขึ้นห้องกับเธอก็ยิ่งอารมณ์เสีย ฝากผกาไปบอกเขาทีว่าวันนี้เธอไม่รับแขก
ผกาทำท่าหนักใจ บุปผาจะกลับเข้าห้อง แต่ยังไม่ทันก้าวขาศักดิ์ชัยก็พรวดพราดขึ้นมากระชากแขนเธอไว้
“บุปผา...คุณปฏิเสธผมหลายครั้งแล้วนะ ทำไม ผมมีอะไรน่ารังเกียจนักเหรอ”
“ปล่อยฉันนะคุณศักดิ์ชัย”
บุปผา ไม่เล่นด้วยสะบัดตัวออก ศักดิ์ชัยยิ่งเคือง ยื้อยุดเธอไปมา ที่สุดก็โดนเธอผลักเซเสียหลักหงายหลังกลิ้งตกบันไดท่ามกลางเสียงร้องวี้ด ว้ายของสาวน้อยสาวใหญ่ในหอโคมแดง
ศักดิ์ชัยนอนแน่นิ่งไม่ได้สติอยู่เชิงบันได มุกวิ่งมาเห็นพูดโพล่งด้วยความตกใจสุดขีด
“นังบุปผา แกผลักคุณศักดิ์ชัยตกบันไดเหรอ พ่อเขามาเอาเรื่องแกตายแน่!”
บุปผาหน้าซีดหน้าเสีย แล้วกุลีกุจอช่วยพวกผกาพาศักดิ์ชัยไปส่งโรงพยาบาล แต่พอนึกอะไรได้ก็กระซิบถามผกาว่าทำไมต้องเอาเขามาที่นี่ด้วย
“ก็ ที่นี่เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุด หมอเก่งที่สุดน่ะสิ บุปผาเอ๊ย...คุณศักดิ์ชัยเขาเป็นถึงลูกพ่อค้าใหญ่ พลัดตกบันไดลงไปขนาดนั้นไม่คอหักตายคาบ้านเราก็บุญถมไปแล้ว ยังไงๆเราก็ต้องพาเขามาหาหมอที่เก่งที่สุด”
บุปผาหน้าไม่ดีหันมองรอบทิศ เห็นหมอไอศูรย์กำลังถูกตามตัวเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ก็รีบหลบหลังผกาทันที
“เป็นอะไรไปบุปผา”
“ฉันกลับไปรอฟังผลที่บ้านได้ไหมแม่”
“ไม่ ได้ เราน่ะเป็นตัวต้นเหตุก็ควรจะอยู่รอดูอาการคุณศักดิ์ชัยเขาที่นี่ เดี๋ยวพ่อคุณศักดิ์ชัยเขาก็คงจะมา บุปผาจะหลบหน้าพ่อเขาไม่ได้หรอกนะ เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปกว่าเดิม”
“ฉันไม่ได้จะหลบหน้าพ่อคุณศักดิ์ชัยสักหน่อย”
“แล้ว จะหลบหน้าใคร” พูดไปแล้วชักเอะใจ เปลี่ยนเป็นโน้มหน้ามากระซิบถามบุปผา “อย่าบอกนะว่าหมอที่บุปผาเคยพูดถึงให้แม่ฟัง เขาทำงานอยู่ที่นี่น่ะ”
“ไม่ใช่ แค่ทำงานที่นี่ เขาเป็นเจ้าของโรงพยาบาลนี้เลยละแม่ แล้วถ้าเขารู้ว่าฉันเป็นผู้หญิงหากิน เขาก็จะไม่เอาฉันน่ะสิ แม่ให้ฉันกลับบ้านนะ แล้วเรื่องคุณศักดิ์ชัยจะเอายังไงค่อยว่ากัน”
ผกา นิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับอย่างจำใจ เห็นแก่อนาคตของบุปผา...เมื่อกลับมาถึงหอโคมแดงคนเดียว บุปผาก็ถูกมุกเพ่งเล็งจับผิดอีกว่า
“ทำไมกลับมาก่อนคนเดียว นี่อย่าบอกนะว่าคุณศักดิ์ชัยตายแล้วน่ะ”
“บ้า! เขายังไม่ตายย่ะ หมอกำลังรักษาอยู่”
“แล้วนี่หล่อนกลับมาบ้านทำไม แล้วคนอื่นๆล่ะ”
บุปผาไม่สนใจจะตอบคำถาม เดินตรงไปใช้โทรศัพท์ หมุนฉับๆโทร.หาใครบางคน
ooooooo
ผ่านไปพักใหญ่...ผกา เดือน และสิรีพากันกลับมา บุปผาถลาเข้าไปถามผกาอย่างร้อนใจว่าศักดิ์ชัยเป็นยังไงบ้าง
“พ้นขีดอันตรายแล้ว”
บุปผา โล่งอก แต่ไม่ทันไรก็หน้าซีดเป็นไก่ต้ม รวมทั้งคนอื่นๆก็พลอยตกอกตกใจไปด้วยเพราะพงษ์ศักดิ์พ่อของศักดิ์ชัยพรวดพราด เข้ามาพร้อมลูกน้อง โวยวายถามหาคนที่ผลักลูกชายตกบันได จะเอาตัวไปส่งตำรวจ
แต่ ก่อนที่บุปผาจะถูกรวบตัว กำพลก้าวเข้ามาแทรกกลาง “ใจเย็นๆสิครับเจ้าสัว เรื่องที่เกิดขึ้นน่ะมันเป็นอุบัติเหตุ บุปผาไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย”
“ลื้อเป็นใครวะ มาสาระแนเรื่องของคนอื่น รู้ไหมอั๊วเป็นใคร”
“ผม รู้ว่าเจ้าสัวเป็นใคร และผมก็เชื่อว่าเจ้าสัวก็รู้จักพ่อผมดีเหมือนกัน” กำพลแนะนำชื่อเสียงเรียงนามบิดาซึ่งเป็นนายทหาร และย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเราคงตกลงกันได้อย่างเงียบๆ
พงษ์ศักดิ์ ท่าทีเกรงบารมีบิดากำพล เม้มปากแน่นอย่างเจ็บใจ ในขณะที่บุปผายิ้มอย่างผู้มีชัย...หลังจากเคลียร์กันเรียบร้อย พงษ์ศักดิ์พาลูกน้องกลับไปแล้ว บุปผาสำนึกบุญคุณกราบแทบอกกำพลด้วยท่าทีกระชด กระช้อย
“บุปผาต้องกราบขอบคุณคุณกำพลมากนะคะที่ มาช่วยบุปผา นี่ถ้าไม่ได้คุณกำพล บุปผาคงต้องแย่แน่ๆ”
มุกยืนซุบซิบกับผองเพื่อนอยู่อีกมุม จ้องบุปผาอย่างชิงชัง แน่ใจแล้วว่าที่แท้บุปผาโทร.หากำพลนี่เอง
“ฉัน ว่าบุปผามันเก่งนะที่คิดได้ว่าต้องโทร.หาคุณกำพลน่ะ เพราะพ่อค้าคนไหนๆก็ต้องกลัวต้องเกรงใจพวกทหารทั้งนั้นแหละ คุณกำพลเขาเป็นลูกนายทหารใหญ่” พิกุลพูดซื่อๆ แต่มันทำให้มุกอารมณ์เสียแหวใส่เสียงเขียว
“เออ! ไม่ต้องพูดแล้ว”
อ่านต่อ คลิก link
เรื่องย่อ ละคร ไฟหวน ตอน1 ช่อง7
เรื่องย่อ ละคร ไฟหวน ตอน2 ช่อง7 โดย มารุต สาโรวาท
เรื่องย่อ ละคร ไฟหวน ตอน3 ช่อง7 โดย มารุต สาโรวาท...
No comments:
Post a Comment