Sunday, September 11, 2011

ละคร รอยมาร ตอน1 ช่อง3



เรืองย่อ ละคร รอยมาร 
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน1   
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน2   
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน3  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน4  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน5  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน6  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน7  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน8  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน9  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน10  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน11  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน12  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน13  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน14  

***แนะนำ ..ขับรถโครตเทพ   สามสิบหกล้าน เพจวิว ทำไปได้ KEN BLOCK GYMKHANA TWO THE INFOMERCIA  แล้วคุณจะชอบ.... 

***แนะนำ +++หุ่นยนต์เต็น nobody wonder girl น่ารักโครตๆๆๆ


ตอนที่ 1
เช้านี้ ที่หน้าบ้านไทยประยุกต์ บรรยากาศครึกครื้นรื่นเริงด้วยขบวนขันหมากที่มีดนตรีบรรเลงมีผู้เฒ่าผู้แก่และเด็กลอยหน้ารำกันเฉิบๆ อยู่หน้าขบวน
เป็นขบวนขันหมากของอุปมาหรือมาร์ค หนุ่มลูกครึ่งพ่อไทยคือบารมี และแม่อเมริกันอาหรับคือซาร่า เพื่อไปสู่ขอเมธาวีหรือเม ลูกสาวของประมุขกับวิจิตรา ที่บ้านของคุณหญิงรุจา อัคราช ผู้เป็นย่า
บรรยากาศครึกครื้นกลายเป็นตึงเครียดทันที เมื่ออุปมาในชุดเจ้าบ่าวควงแขนซาร่าเดินลงบันไดมา ถูกวิมาดาที่เป็นคนรักเก่า นั่งรถคันหรูเข้ามาทวงถามความรักที่เคยมีต่อกันด้วยน้ำตาคลอเบ้า
“มาร์ค ทำกับวิแบบนี้ได้ยังไง มาร์คไม่รักวิแล้วเหรอคะ” วิมาดาโผเข้ากอดอุปมาร้องไห้โฮๆ
ooooooo
ส่วนที่บ้านคุณหญิงรุจา บังอรคนสนิทของคุณหญิง ไปเคาะประตูเรียก บีหรือสไบนาง หลานสาวคนเล็กของตระกูลอัคราช ลูกสาวของประจักษ์กับศรีอำไพซึ่งเสียชีวิตแล้วทั้งคู่ สไบนางจึงอยู่ในความดูแลของคุณย่าตลอดมา
บังอรเคาะประตูปลุกสไบนาง เร่งให้รีบแต่งตัวเพราะขบวนขันหมากจะมาถึงแล้ว สไบนางลุกพรวดร้องบอกว่า
“ตื่นแล้วค่ะคุณบังอร บีอาบน้ำก่อนนะคะ” เธอกระโดดแผล็วจากเตียงวิ่งตึงตังไปเข้าห้องน้ำ
ส่วนที่ห้องเมธาวี ยังปิดประตูเงียบ จนช่างแต่งหน้าแต่งผมต้องไปตามวิจิตรามาเพราะเกรงจะแต่งหน้าแต่งผมไม่ทัน วิจิตราเอากุญแจไขห้องเข้าไปอย่างเร็วแล้วก็ต้องแจ้นไปบอกประมุขกับคุณหญิงว่าไม่รู้ว่าเมธาวีหายไปไหนแล้ว
“รึว่ายัยเมจะรู้ความจริงว่าต้องแต่งงานเพราะอะไร” คุณหญิงมองหน้าประมุขอย่างหนักใจ
“งานล้มไม่ได้เด็ดขาดนะคะคุณแม่ เสียหน้าตายเลย แขกผู้ใหญ่ทั้งนั้น นี่นักข่าวก็มารอทำข่าวอยู่หน้าบ้านเต็มไปหมดแล้ว เราจะทำยังไงกันดีคะ” วิจิตราโพล่งขึ้น
“ไม่มีเจ้าสาวแล้วจะให้พ่ออุปมาแต่งงานกับใครล่ะจิตรา” คุณหญิงเสียงขุ่น
“ถ้าเราเปลี่ยนตัวเจ้าสาวตอนนี้ก็ยังทันนะครับคุณแม่” ประมุขเสนอหน้าขรึม วิจิตรากับคุณหญิงหันมองเขาขวับ
ระหว่างที่บ้านไทยประยุกต์กำลังวุ่นๆ นั่นเอง บารมีก็ได้รับโทรศัพท์จากประมุข บอกให้หยุดขบวนขันหมากไว้ก่อนแล้วให้รีบมาที่บ้านตนเดี๋ยวนี้เลย
“มีเรื่องอะไร” บารมีถาม เหลือบมองไปทางอุปมาที่กำลังโต้เถียงกับวิมาดาอยู่อย่างหนักใจ
ooooooo
ที่บ้านอัคราช เวลาผ่านไป แขกผู้มีเกียรติทั้งหลายเริ่มทะยอยกันมาแล้ว ทั้งคุณหญิงที่บินตรงจากอังกฤษเพื่อมาร่วมงานนี้โดยเฉพาะ และหม่อมเกศ หญิงฉัตร วิจิตราต้อนรับแขกอย่างยิ้มแย้มยินดี แต่พอแขกถามว่ารดน้ำไปแล้วหรือยัง วิจิตราก็ยิ้มแหยๆบอกว่า
“ยังเลยค่ะ ฤกษ์คลาดเคลื่อนนิดหน่อยน่ะค่ะ น่าจะอีกสักครึ่งชั่วโมงนะคะ”
ขณะที่วิจิตราต้อนรับแขกรับหน้าสถานการณ์อยู่นั้น ที่ห้องทำงานของคุณหญิงรุจา ทั้งคุณหญิง ประมุข และบารมีกำลังคุยกันอย่างตึงเครียด
บารมีไม่เห็นด้วยที่จะเอาบีมาเกี่ยวข้องด้วย เธอไม่ควรเสียหายเพราะเรื่องนี้ แต่ประมุขยืนกรานว่าบีนั้นคืออัคราชคนหนึ่งก็ต้องร่วมชดใช้ด้วย ถูกบารมีตำหนิว่าพูดเห็นแก่ได้ ประมุขตัดบทเอาดื้อๆว่า
“ถ้าแกไม่ยอมรับบีเป็นเจ้าสาว หนี้สินทั้งหมดก็ถือว่าหายกัน”
คุณหญิงรุจาแทรกขึ้นอย่างหนักใจว่า นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกัน ให้ช่วยกันคิดหาทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ก่อนจะดีกว่า
“ผมก็หาทางออกให้อยู่นี่ไงครับคุณแม่” ประมุขโต้แล้วหันไปทางบารมี “ลูกชายแกก็ไม่ได้รักอะไรยัยเมอยู่แล้ว ยอมแต่งเพื่อความสาแก่ใจของแกเท่านั้น จะเปลี่ยนเจ้าสาวเป็นอัคราชคนไหนก็มีค่าเท่ากัน”
บารมีสบตาคุณหญิงรุจา ถูกประมุขเร่งรัดว่า “จะเอายังไงก็รีบตัดสินใจ แขกเหรื่อมากันเต็มบ้านแล้ว ผมไม่อยากขายขี้หน้าเอาตอนแก่” คุณหญิงติงว่า ไม่ว่างานล่มหรือเปลี่ยนตัวเจ้าสาวมันก็ขายขี้หน้าไม่ต่างกัน ประมุขเถียงทันทีว่า “ต่างสิครับคุณแม่ ถ้างานแต่งล่มเพราะแกไม่รับยัยบีเป็นเจ้าสาวมันก็เท่ากับว่าแกปฏิเสธการใช้หนี้ ยอมยกหนี้สินทั้งหมดให้ฉันเอง”
บารมีจ้องหน้าประมุขอย่างชิงชัง บอกแทนคำตอบว่า
“ขบวนขันหมากจะมาถึงหน้าบ้านแกภายใน 15 นาที”
ooooooo
คุณหญิงรุจากับประมุขไปคุยกับสไบนางที่ห้องนอน เธอกอดคุณย่าร้องไห้ไม่ยอมแต่งงานกับอุปมา บอกคุณย่าอย่างมีอารมณ์ว่า “บีเกลียดไอ้มาร์ค เกลียดมันค่ะคุณย่า”
คุณหญิงกอดหลานสาวไว้ด้วยความสงสาร สไบนางมองหน้าประมุขผู้เป็นลุง ตัดพ้ออย่างน้อยใจว่า
“บียังมีความฝันอีกเยอะแยะ มันไม่ใช่เวลาแต่งงานของบี นี่คุณลุงรักหน้าตัวเองมากขนาดยอมแลกกับอนาคตของบีเลยเหรอคะ”
“นี่ไม่ใช่แค่การแต่งงานธรรมดานะบี แต่มันคือการล้างหนี้ให้กับตระกูลของเรา” ประมุขหว่านล้อมเมื่อสไบนาง หันมองหน้าย่า ประมุขตอกย้ำว่า “ถ้าบีไม่ยอมแต่งงานแทนพี่เม เราจะล้มละลาย บ้านก็จะไม่มีให้ซุกหัวนอน คุณย่าก็จะต้องลำบากไปด้วยนะลูก”
สไบนางมองหน้าย่า คุณหญิงพานจะน้ำตาไหลเลยเบือนหน้าไปทางอื่นกลบเกลื่อนเสีย
“ทำเพื่อคุณย่ากับลุงสักครั้งได้ไหมบี ถือว่าขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แล้วค่อยหาทางแก้ไขกันทีหลัง”
สไบนางโผเข้ากอดย่าร้องไห้โฮออกมาอย่างกดดัน คุณหญิงได้แต่ลูบหลังหลานสาวด้วยความสงสาร ประมุขเองก็สงสารหลานแต่ความเห็นแก่ตัวมีมากกว่าความสงสาร...
ooooooo
ในที่สุด พิธีแต่งงานก็เริ่มขึ้น มีพิธีรดน้ำสังข์ที่โถงบ้าน เจ้าบ่าวอุปมานั่งหน้านิ่งขรึมสวมมงคลพร้อมรอรดน้ำสังข์อยู่ข้างๆเจ้าสาวสไบนางที่ตาแดงก่ำ กะพริบตาถี่ๆกลืนน้ำตาไม่หยุด
คุณหญิงรุจาเข้ามารดน้ำสังข์ให้เจ้าบ่าวต่อด้วยรดเจ้าสาว พูดพอได้ยินกันแค่สามคนว่า
“ขอบใจทั้งสองคนมากที่ช่วยรักษาหน้าผู้ใหญ่ ผ่านงานวันนี้ไปก่อน แล้วเราค่อยหาทางแก้ไขกัน” แล้วพูดกับสไบนางอย่างสะเทือนใจจนน้ำตาคลอ “ย่าขอโทษนะบี”
คุณหญิงรีบเดินออกไปก่อนที่น้ำตาจะไหลท่วม บารมีเดินเข้ามารดน้ำสังข์ สั่งลูกชายเสียงเข้ม
“แกห้ามล่วงเกินน้องเด็ดขาดเข้าใจไหมมาร์ค นี่คือคำสั่ง...รับปากพ่อ” เมื่ออุปมารับปาก บารมีเดินไปรดน้ำสังข์ ให้สไบนางต่อ พูดอ่อนโยนอย่างเห็นใจ “คิดเสียว่านี่คือการเล่นละครฉากนึงก็แล้วกันนะหนูบี”
สไบนางช้อนตาขึ้นมอง บารมีพูดจริงจังว่า “ลุงจะดูแลชีวิตหนูและหาทางชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหนูในวันนี้ให้ดีที่สุด ลุงสัญญา”
“ชีวิตบีจบแล้วล่ะค่ะลุงมี” สไบนางทนไม่ได้ร้องไห้ออกมา ถูกมาร์คแขวะว่าจะร้องทำไมนักหนา ดีใจมากหรือ สไบนางจิกมองด่าเบาๆ “ไอ้บ้ามาร์ค ฉันเกลียดแก”
“ฉันรักเธอตายล่ะ” อุปมาพึมพำใส่แล้วทำหน้านิ่ง
“ชีวิตฉันพังพินาศหมดแล้ว” สไบนางร้องไห้โฮออกมาคาตั่งรดน้ำสังข์นั่นเอง...
ooooooo
ย้อนไปเมื่อหลายเดือนก่อน...
ที่บ้านสวน สไบนางในวัย 17 ปี เด็กสาวผู้แก่นแก้ว ดื้อรั้น มั่นใจตัวเอง และเอาแต่ใจนุ่งกางเกงขาสั้น ใส่เสื้อยืด ไปกระโดดน้ำเล่นที่สะพานสูง โดยมีระเบียบเด็กหญิงรุ่นน้องเป็นลูกไล่
ทั้งสองไปกระโดดน้ำจากสะพานสูง จนยายจันทร์คนเฝ้าบ้านสวนตกใจเฝ้ามองอย่างใจหายใจคว่ำจนสไบนางโผล่ขึ้นมาจึงโล่งอก
เมื่อกลับถึงบ้าน บังอรบอกให้รีบไปอาบน้ำสระผมเดี๋ยว จะเป็นหวัด สไบนางเถียงว่าตนหัวแข็งอยู่แล้วไม่เป็นไรหรอก ครั้นวิจิตรามาเห็นถามว่าไปทำอะไรมา ก็ตอบหน้าตายว่าโดดน้ำคลองเล่นมา
วิจิตราบ่นว่าไม่รู้จักโตเสียที แทนที่จะเอาเวลาไปอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย สอนให้เอาอย่างพี่เมเขาที่เรียนเก่งได้เกียรตินิยมอันดับ 1
สไบนางพูดต่อให้อย่างรู้ทางว่า “สอบทุนรัฐบาลได้ไปเรียนเมืองนอกได้ทำงานมีหน้ามีตาในกระทรวงต่างประเทศ” เลยถูกวิจิตราเอ็ดว่าตนเตือนเพราะความหวังดี พอดีคุณหญิงรุจาเดินมาได้ยินถามว่า มีอะไรกันอีก แต่พอเห็นสภาพเปียกม่อลอก ม่อแลกของสไบนางก็บ่นว่าไปเล่นน้ำคลองมาอีกแล้วสินะ
สไบนางยิ้มแหยๆ ครั้นคุณย่าไล่ให้ไปอาบน้ำก็ทำพูดทะเล้นว่า “ขอบคุณค่ะคุณย่า มาช่วยชีวิตหนูทันพอดี” แล้วโผเข้ากอดทั้งที่ตัวเองเปียก จนคุณหญิงโวยวายไล่ให้รีบไปอาบน้ำเสีย
เมื่อสไบนางวิ่งขึ้นห้องไปแล้ว วิจิตรายังบ่นว่าไม่มีความเป็นกุลสตรีเอาเสียเลย คุณหญิงเหล่มองสะใภ้อย่างไม่พอใจนัก สั่งบังอรให้ช่วยเก็บเสื้อผ้าของสไบนางให้เรียบร้อยด้วยพรุ่งนี้จะกลับแล้ว
“เอ่อ...คุณแม่ค่ะ ที่ท้ายคลองใครย้ายมาอยู่เหรอคะ เห็นสร้างบ้านซะใหญ่โต” วิจิตราถาม
“แม่ก็ไม่แน่ใจนะ กว้านซื้อที่ไปทั่ว เห็นยายจันทร์บอกว่าเป็นเศรษฐีย้ายกลับมาจากเมืองนอก”
ooooooo

บ้านใหญ่โตหลังที่ว่านั้น คือบ้านไทยประยุกต์ที่บารมีสร้างให้อุปมาผู้เป็นลูกชายนั่นเอง หัสดินที่เป็นสถาปนิกเพื่อนสนิทของอุปมาซึ่งดูแลงานนี้อยู่ บอกบารมีว่า ได้ติดต่อขอซื้อที่ดินทำถนนไว้แล้วเขาเรียก 7 ล้าน 5
บารมีเห็นว่า 7 ล้าน 5 แพงไปสำหรับความจริง แต่ถูกมากถ้าจะทำให้ความฝันเป็นจริง หันมองไปรอบๆถอนใจ พลางรำพึง
“สามสิบกว่าปี ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก แต่ลุงก็ดีใจนะที่ได้กลับมาเป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้อีกครั้ง ไม่ใช่สิ ของเจ้ามาร์คมันตะหาก บ้านลุงหลังเล็กโน่น”
บารมีชี้แจงว่าตนไปๆมาๆจะอยู่บ้านหลังใหญ่ทำไม สร้างบ้านหลังนี้ไว้เป็นเรือนหอของมาร์คต่างหาก หัสดินตกใจพึมพำงงๆ “เรือนหอเหรอครับ...”
ooooooo
ตกค่ำสไบนางในชุดอยู่กับบ้าน รำไทยโชว์คุณหญิง ประมุข บังอร และยายจันทร์ดูที่ลานบ้าน ยายจันทร์คนเก่าแก่ชมว่ารำได้สวยงามไม่แพ้คุณแม่เธอเลย บังอรยิ้มปลื้มบอกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นก็แบบนี้แหละ
รำโชว์เสร็จประมุขให้รางวัลหลานสามพันบาท ทำเอาสไบนางดีใจจนเต้นเป็นลิงเป็นค่างรับเงินแล้วยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มประมุขซ้ายขวา จนคุณหญิงพูดขำๆว่า
“ตายๆนางรำฉันกลายเป็นหนุมานไปเสียแล้ว”
ส่วนวิจิตรานั่งหน้าบึ้งตำหนิประมุขว่าให้มากไปรำกะโหลกกะลาแก้บนแค่นี้ให้ร้อยสองร้อยก็พอแล้ว เลยทำให้บรรยากาศกร่อยไปทันที ยายจันทร์บ่นเบาๆ
“วงแตกแล้วคุณบังอร...นังเบียบไปนอน”
สไบนางไม่ได้สะดุ้งสะเทือนกับคำตำหนิของวิจิตรา ซ้ำยังย้อนถามว่าแล้วเมธาวีรำได้สวยเท่าตนรึเปล่าล่ะ ทำให้วิจิตราโกรธ พาลหาว่าสไบนางทำแต่เรื่องไร้สาระ อยากรู้นักว่าเอาเวลาตอนไหนไปอ่านหนังสือสอบ จนคุณหญิงตัดบทไล่ให้สไบนางไปอ่านหนังสือในห้องเสีย
วิจิตราบ่นไม่พอใจหาว่าทุกคนถือหางสไบนางจนแตะต้องไม่ได้น่าหมั่นไส้นัก แต่ประมุขกลับเห็นว่าเด็กรุ่นใหม่อย่างสไบนางสนใจอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างนี้น่าชื่นชมมากกว่า
“เข้าข้างกันเสียจริ๊ง คุณก็เลิกรักหลานสาวให้มันออก นอกหน้าได้แล้วนะ ยัยเมน้อยใจจะตายอยู่แล้ว รู้ตัวมั่งไหมว่าลูกสาวในไส้ตัดพ้อว่าพ่อรักบีมากกว่าตัวเองให้ฉันฟังแทบทุกคืน ฉันสงสารลูกจนพูดไม่ออกเพราะคุณทำตัวน่าเกลียดยังงั้นจริงๆ”
ว่าแล้วค้อนกระแทกใส่อีกทีก่อนเดินไป ประมุขสบตาคุณหญิงอย่างอ่อนใจ คุณหญิงถอนใจแล้วเบือนหน้าไปอีกทางอย่างไม่อยากออกความเห็น
ooooooo
เมธาวีในวัย 24 ปี ลูกหัวแก้วหัวแหวนของวิจิตรา เป็นญาติผู้พี่ของสไบนาง เธอดีพร้อมทุกกระเบียดนิ้ว วางมาดระเหิดระหงตลอดเวลา มีเพื่อนชายคนสนิทคืออาทิตย์ ผู้กองหนุ่มนักเรียนนอก
คืนนี้ ทั้งเมธาวีและอาทิตย์กับเพื่อนๆ ที่ไปเที่ยวชะอำเดินคุยกันที่หน้าตลาดโต้รุ่งเพื่อหาอะไรทานกัน แต่เมธาวีไม่ยอมเข้าตลาด เธอหยุดมองอย่างรังเกียจ บอกอาทิตย์ว่าอยากนั่งร้านห้องแอร์ บรรยากาศดีๆสบายๆไม่ต้องมาเบียดเสียดผู้คนอย่างนี้
อาทิตย์เห็นว่ามาทะเลทั้งทีเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ดีเพราะร้านแบบนั้นก็ทานกันที่กรุงเทพฯเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เมธาวีไม่ยอมจะปลีกตัวไป ชายหนุ่มจึงตามไปโดยโทร.บอกเพื่อนๆว่าเมธาวีไม่สบายต้องพากลับ นัดเจอกันที่โรงแรมก็แล้วกัน
เมธาวีพอใจที่อาทิตย์ต้องตามใจตน เห็นตนสำคัญกว่าเพื่อนๆกลุ่มนั้น
ooooooo
สไบนางก็มีเพื่อนสนิทที่เป็นเพื่อนบ้านกันมาตั้งแต่เด็กคือชันษา ชันษาเรียนจบมีอาชีพเป็นทนายความเล็กๆ แต่ก็ยังเล่นกับสไบนางเหมือนตอนเด็กๆ มีความรู้สึกดีๆกับสไบนาง แต่สไบนางแก่นกะโหลกจนไม่สนใจอะไร
วันนี้ชันษามาหาแต่เช้า บังอรขึ้นไปตาม สไบนางวิ่งพรวดๆลงมา ชนวิจิตราที่เดินเลี้ยวจากห้องรับแขกพอดี เลยโดนตำหนิตามเคยทั้งยังทวงคำขอโทษด้วย สไบนางยกมือไหว้ขอโทษอย่างขอไปที ยังโดนด่าว่าเดินประสาอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือ


เรืองย่อ ละคร รอยมาร 
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน1   
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน2   
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน3  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน4  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน5  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน6  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน7  


No comments:

Post a Comment