Tuesday, October 11, 2011

เรื่ิองย่อ รอยมารตอน11ละคร ช่อง3



เรืองย่อ ละคร รอยมาร 
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน1   
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน2   
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน3  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน4  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน5  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน6  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน7  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน8  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน9  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน10  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน11  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน12  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน13  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน14  

ตอนที่ 11

น้องหมาที่อาทิตย์เอามาให้เป็นของขวัญวันเกิด ทำให้สไบนางสดชื่นมีชีวิตชีวาขึ้นมากเพราะได้เล่นได้พูดคุยกับน้องหมาแก้เหงา คืนนี้ก็นั่งแปรงขนให้ลูบตัวน้องหมาไปมา นึกได้เลยตั้งชื่อให้ว่า “ซันไชน์” เพราะคนให้ชื่อ “ซันนี่” พอตั้งชื่อให้คล้องจองกันแล้วก็หัวเราะขำเองคนเดียว

มีเสียงเปิดประตูห้องเข้ามา สไบนางรู้ว่าต้องเป็นอุปมาแน่ รีบวางซันไชน์ลงบนเบาะกระซิบบอกเบาๆว่า “ห้ามส่งเสียงดังนะ ยักษ์วัดแจ้งมาแล้ว”

แต่พออุปมาเดินเข้ามา เจ้าซันไชน์ก็เห่าต้อนรับทันที อุปมาฉุนขาดสั่งให้เอามันออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้เลย

“ไม่...ถ้าเอาซันไชน์ออกไป ฉันจะเห่าแทน ดูซิ เสียงเห่าตัวไหนจะดังกว่ากัน”

“เธอมันหมาบ้า...โอ๊ย...” อุปมาหัวเสียเดินไปเข้าห้องน้ำปิดประตูโครม

สไบนางบอกซันไชน์ว่าไม่ต้องกลัวนะ ยักษ์ไปแล้ว กู๊ดไนต์กับมันแล้วเลื่อนตัวลงนอนยิ้มอารมณ์ดี

อุปมาออกมาขึ้นเตียงนอนอย่างหงุดหงิด จนกระทั่งใกล้สางเขาก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะถูกเจ้าซันไชน์ลุกขึ้นมาเลียหน้าแผล็บๆ เขาลุกขึ้นโวยวายเอาเสื้อขึ้นเช็ดน้ำลายอย่างรังเกียจ

สไบนางเรียกซันไชน์ไปอุ้มอย่างแสนรัก อุปมาโวยวายขึ้นอีกเมื่อรู้สึกที่กางเกงบอกเซอร์แฉะๆจับดูเลยรู้ว่าถูกเจ้าซันไชน์ฉี่ใส่ เขาลุกพรวดจากเตียง สไบนางกลั้นหัวเราะถามว่า

“ฉี่ราดเองรึเปล่า”

“จะบ้าเรอะ เอามันออกไปจากห้องฉันเลยนะ ถ้าฉันออกมาจากห้องน้ำเจอมันอีกที จะเตะให้คอหักเลย” พูดแล้วเดินหัวเสียเข้าห้องน้ำ

“ไอ้ใจโหด” สไบนางด่าเบาๆกอดซันไชน์ไว้แน่น

ooooooo

อาทิตย์โทร.มาคุยกับสไบนางแต่เช้าถามว่า

เมื่อคืนเจ้าตัวเล็กสร้างความวุ่นวายอะไรรึเปล่า สไบนางคุยเสียงแจ่มใสว่าไม่เลย เลี้ยงง่าย คนมากกว่าที่เป็นตัวสร้างปัญหา แล้วบอกอาทิตย์ว่าตนตั้งชื่อให้น้องหมาว่า “ซันไชน์” ถามว่าชอบไหม พลางมองเจ้าซันไชน์ที่วิ่งอยู่แถวสนาม

อุปมากำลังจะออกไปข้างนอก เหล่ๆใส่สไบนางตาขวาง สไบนางได้ทีเลยพูดเสียงดัง

“ส่วนไอ้ตัวใหญ่ขนหน้าดกๆชื่อไอ้ซันเซตกำลังจะออกไปข้างนอกแล้ว”

เสียงอาทิตย์ขำครืดๆดังจากปลายสาย สไบนางยิ้มสะใจ ยิ่งเมื่อเห็นอุปมาเดินหน้าหงิกไปก็ยิ่งชอบใจ คุยโทรศัพท์ต่อแอบด่าไปด้วยว่า

“เปลี่ยนใจแล้ว ให้ชื่ออัพเซตดีกว่า คนบ้าอะไรจะหน้าหงิกหน้างอบูดบึ้งเป็นตูดได้ทั้งวัน”

เสียงอาทิตย์หัวเราะขำชอบใจดังมาอีก  สไบนางเอะใจกวาดตามองหาซันไชน์ไม่เห็นแล้ว เลยคุยโทรศัพท์ไปบ่นไปว่าไม่รู้ซันไชน์หายไปไหนแล้ว ตกคลองหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วเดินหาไปเรื่อย

ทันใดนั้น ซันไชน์ร้องเอ๋งสุดเสียงแล้วเงียบไป ตามด้วยเสียงแรมที่วี้ดว้ายอย่างตกใจ

“ว้าย...คุณมาร์ค ทับลูกหมาค่ะ”

อุปมาลงจากรถมาดู สไบนางวิ่งตะบึงมาถึงผลักอุปมาให้พ้นทาง ก้มมองร้องเรียกซันไชน์! ในขณะที่อุปมาเบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกผิด เอ่ยขอโทษเบาๆ

สไบนางตาแดงก่ำตะโกนด่าอุปมา “ไอ้คนใจร้าย” อุปมาเสียงอ่อยว่าตนไม่ได้ตั้งใจ แต่สไบนางไม่ฟังเสียงหาว่าเขาตั้งใจแกล้งตนด้วยการฆ่ามัน แล้วทุบตีอุปมา ด่า “ไอ้ฆาตกร ไปตายเลยไป”

ครู่หนึ่ง สไบนางไปดึงผ้าเช็ดตัวจากแรมไปห่อเจ้า

ซันไชน์อุ้มเดินร้องไห้ไปทางสนาม อุปมามองตามแล้วสั่งแรมให้เรียกเด็กมาทำความสะอาดให้เกลี้ยงเลย อดหันมองตามหลังสไบนางไปหน้าจ๋อยๆไม่ได้

สไบนางเอาเจ้าซันไชน์ไปฝังไว้ที่ริมสวน คุกเข่าเอ่ยลาน้ำตาคลอ อุปมาเดินมาคุกเข่าลงข้างๆเธอ เขาเด็ดดอกไม้จากในสวนมากิ่งหนึ่ง ปักลงที่หลุมศพเจ้าซันไชน์ สไบนางเหลือบมองด่าว่าเขาเป็นตัวมารทำลายความสุขทุกอย่างในชีวิตตนแล้วลุกขึ้นดึงกิ่งดอกไม้ที่อุปมาปักปาหน้าเขาก่อนวิ่งหนีไป

อุปมาถอนใจยาว ลุกขึ้นยืนมองหลุมเจ้าซันไชน์ เอ่ยอย่างเสียใจว่า

“แกคงรู้นะว่าฉันไม่ได้ตั้งใจ” ก้มหยิบดอกไม้กิ่งนั้นปักไว้ที่เดิมแล้วเดินหงอยๆกลับไป

ooooooo

ตกเย็น อาทิตย์มาปลอบใจสไบนางว่าไม่ต้องเสียใจเดี๋ยวจะหาซื้อให้ใหม่ สไบนางไม่เอากลัวจะตายอีก อาทิตย์บอกว่าอุปมาคงไม่ได้ตั้งใจก็ถูกหาว่าพูดแก้ต่าง

ให้กัน อาทิตย์เลยไม่พูดต่อ ส่วนสไบนางขอโทษเขาที่ดูแลของขวัญไว้ไม่ได้

“อย่าคิดมากเลยบี กรรมของมัน” อาทิตย์ปลอบ แล้วนึกสนุกแซวว่า “เดี๋ยวมันก็ไปเกิดเป็นลูกเธอเองแหละ” ทำให้สไบนางพลอยขำไปด้วย ถามว่าลูกตนออกมาหน้าจะเหมือนซันไชน์ใช่ไหม อาทิตย์ถามแซวๆว่า “คุณมาร์คหน้าเหมือนซันไชน์เหรอ”

“ซันนี่!” สไบนางคว้าแก้วน้ำตั้งท่าจะสาด อาทิตย์หัวเราะแล้ววิ่งหนี ถูกสไบนางไล่ตามสาดใส่จนได้ ทั้งสองวิ่งไล่

หัวเราะร่าเริงไปทางสวน

คุณหญิงกับบังอรยืนดูอยู่บนบ้าน คุณหญิงพูดด้วยสีหน้าไม่สบายใจนักว่า

“เดี๋ยวบีจะกลับไปบ้านโน้น ให้ระเบียบตามไปส่งนะ อย่าให้กลับไปกับอาทิตย์ตามลำพัง”

ooooooo

ด้วยความรู้สึกผิด อุปมาซื้อลูกหมามาใช้ให้ สไบนางไม่เอาบอกว่าซันไชน์มีได้แค่ตัวเดียวเลยถูกอุปมาประชดว่า แน่ซิก็เป็นของคนรักให้นี่ หมาตัวไหนก็ทดแทนไม่ได้

สไบนางตอบประชดว่าแน่อยู่แล้ว ตัวนี้เอามาจากไหน คืนเจ้าของไปเลย อุปมาบอกว่าตนจะเลี้ยงเอง เลยถูกสไบนางขู่ๆว่า

“ก็เรื่องของคุณ บ้านของคุณ ถ้าฉันไม่เห็นเดินเหยียบมันตายอย่ามาว่ากันก็แล้วกัน”

“คนใจยักษ์” อุปมาด่า เลยถูกสวนไปทันควันว่า “ไอ้ฆาตกรใจโหด” แล้ววิ่งปรู๊ดขึ้นบ้านไปเลย อุปมาถอนใจพรืด แล้วอุ้มลูกหมาเดินออกจากบ้านไป

ooooooo

ตกค่ำ ยายจันทร์ยกอาหารและผลไม้ไปให้ประมุขที่ห้องนอน พบประมุขนอนหมดสติอยู่ข้างเตียง คุณหญิงรีบให้คนพาส่งโรงพยาบาล แล้วโทร.บอกวิจิตราให้กลับมาเยี่ยมประมุขบ้าง แต่อย่าบอกเมธาวีเรื่องพ่อเธอป่วยเข้าโรงพยาบาลเดี๋ยวจะทรุดไปอีกคน

“แม่คุยกับหมอแล้ว บอกตามตรงว่าแม่ไม่สบายใจเลย” คุณหญิงเปรยๆ

“ค่ะคุณแม่ วันสองวันนี้หนูจะกลับไปบ้านสวนค่ะ...ค่ะ... ค่ะ...สวัสดีค่ะคุณแม่” วางสายจากคุณหญิงแล้ว วิจิตราหันมองเมธาวีที่นอนหลับอยู่ น้ำตารื้น รู้สึกสลดหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูกที่ลูกยังนอนอาการไม่ดีอยู่ สามีก็ต้องเข้าโรงพยาบาลไปอีกคน

ooooooo

ที่บริษัทอุปมา มีการประชุมเตรียมจัดงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้า หลังจากเลขารายงานเรื่องอาหารที่จะจัดในงาน ว่าจะเลือกแต่เจ้าอร่อยจากทุกย่าน และจะมีการจับสลากของขวัญ 20 รางวัลด้วย

“น่าจะมีการแสดงสักหน่อยไหม งานจะได้ไม่กร่อย” บารมีเสนอ อุปมาบอกว่าหัสดินจะให้วงของเพื่อนมาเล่นให้ บารมีเห็นด้วย เลขายกมือเสนอว่า

“หนูว่าน่าจะให้คุณบีรำโชว์ในงานด้วยนะคะ ได้ยินว่า คุณบีเธอรำเก่ง ลูกค้าคงตื่นเต้นที่จะได้เจอตัวภรรยาคุณมาร์คด้วย”

“ไอเดียไม่เลวเหมือนกันนะ” บารมียิ้มพอใจ พออุปมาตั้งท่าจะแย้ง บารมีก็ตัดบทว่า “เลี้ยงขอบคุณลูกค้าทั้งที ก็ต้องมีอะไรพิเศษหน่อยสิมาร์ค ภรรยาเอ็มดี ลงทุนขึ้นเวทีรำเอง มันแสดงให้เห็นถึงความจริงใจกับลูกค้านะมาร์ค”

อุปมาเลยพูดไม่ออก บารมีถามว่ามีใครเห็นด้วยบ้าง ทุกคนในห้องประชุมก็ยกมือกันพรึบ อุปมาเลยหน้าจ๋อยไป

ooooooo

วันรุ่งขึ้น อุปมาอาศัยบารมีของคุณหญิงมาเจรจาให้สไบนางรำในงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้า สไบนางปฏิเสธอ้างว่าไม่อยากช่วยฆาตกรใจโหด และไม่ใช่งานบริษัทของตน

คุณหญิงกล่อมว่าไม่ใช่ก็เหมือนใช่ เพราะตัวเองเป็นภรรยาของอุปมายังไงก็คือ สไบนาง บุญอนันต์อยู่ดี แล้วเอ่ยขอ

“ทำเพื่อบริษัทของตระกูลตัวเอง ไม่ควรปฏิเสธหรอกบี ไปจ้างคนอื่นมารำ ก็รำสวยสู้บีของย่าไม่ได้หรอก”

เจอลูกยอเข้า สไบนางก็แกล้งทำหน้าเซ็งต่อรองว่า รำชุดเดียวกับงานคุณย่าก็แล้วกัน อุปมาแอบโล่งใจแต่ก็อดแขวะไม่ได้ว่า “แต่เอาแบบเต็มเพลงนะครับ”

สไบนางค้อนควับพูดเชิดๆอย่างไม่เต็มใจว่า ก็อย่าคาดหวังอะไรนักตนไม่มีเวลาซ้อม รำถูกรำผิด พวกพ่อค้าลูกค้าเขาก็คงดูไม่ออกหรอก พูดแล้วเหยียดปากดูถูก ลุกเดินกระแทกไหล่อุปมาออกไป

อุปมาเหล่มองตามทั้งเจ็บใจทั้งหมั่นไส้ คุณหญิงส่ายหน้ายิ้มๆ อ่อนใจกับคู่กัดคู่นี้เหลือเกิน

ooooooo

เมื่อรู้ว่าประมุขเข้าโรงพยาบาล สไบนางจึงไปเยี่ยม แต่พอฟังประมุขโอดครวญเรื่องหนี้สินว่า บารมียึดบ้านไปแล้วยังชำระหนี้ได้แค่ 1 ใน 3 เท่านั้น สไบนาง ถามว่าทำไมหนี้ถึงได้มากมายขนาดนั้น ประมุขก็ด่าบารมีว่าโกงตน พลิกลิ้นไปเรื่อย คิดดอกเบี้ยอะไรก็ไม่รู้จนตนไม่มีแรงจะสู้รบปรบมือด้วยแล้ว

พอเห็นสไบนางไม่สบายใจ ประมุขก็หว่านล้อมให้สไบนางช่วยขอร้องให้บารมีปลดหนี้ให้ แบบนี้ตนก็ยังพอจะมีความหวังในชีวิตกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง

“บีคงช่วยลุงไม่ได้หรอกค่ะ” สไบนางหน้าเครียด พอประมุขทำท่าจะอ้อนอีก เธอตัดบทว่า “ถ้าลุงยังพูดเรื่องนี้ อีก บีจะไม่มาเยี่ยมลุงอีกเลย” พูดแล้วเดินไปทางประตูห้องคุณหญิงแอบฟังอยู่รีบหลบออกไป พอสไบนางเดินออกจากห้อง คุณหญิงได้แต่มองตามด้วยความเห็นใจหลานสาว

ปากก็บอกอุปมาว่าตนไม่มีเวลาซ้อมและขี้เกียจซ้อมฉะนั้นอาจจะรำได้ไม่ดี แต่ปรากฏว่า ค่ำนี้อุปมาเห็นเธอไปซุ่มซ้อมอยู่ข้างสนามท่ามกลางแสงสลัวๆ เขายิ้มทั้งขำๆและพอใจแล้วหลบไป

วิมาดามารับเช็คพร้อมค่าขนมปลอบใจจากอุปมาที่บริษัทเป็นงวดสุดท้าย ทราบจากเลขาว่าจะมีการจัดงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าโดยมีสไบนางรำโชว์ด้วย นึกหมั่นไส้ แต่ทำทีตื่นเต้นอยากดูขออนุญาตมางานได้ไหม พนักงานยินดีจัดให้ วิมาดายิ้มสมใจที่จะได้มาทำอะไรให้สะใจตัวเอง

ooooooo

ที่สนามบ้านไทยประยุกต์ เย็นนี้ขณะสไบนางปูเสื่อนอนอ่านตำราภาษาอังกฤษที่สนาม อุปมาในชุดนักกีฬาจ๊อกกิ้งผ่านมาแวะชวนไปจ๊อกกิ้งกันไหม สไบนางปฏิเสธเลยถูกแซวว่านอนทั้งวัน ระวังบั้นท้ายใหญ่ใส่ชุดรำไม่เข้า

พอดีแรมมาบอกว่าอาทิตย์มาหา สไบนางรีบไปพบเพราะฝากให้ช่วยซื้อชุดนางรำมาให้ ปรากฏว่าอาทิตย์ซื้อได้ ถูกใจมาก อาทิตย์แบมือขอบัตรเข้างานเป็นรางวัล สไบนางคุยว่าให้บัตรวีไอพีเข้างานไปดูตนรำฟรีๆได้เลย

อุปมายืนฟังอยู่ขัดขึ้นขวางๆว่างานเลี้ยงขอบคุณลูกค้า คนนอกไม่เกี่ยว สไบนางเลยเล่นแง่บ้างว่าถ้าอาทิตย์เป็นคนนอกตนก็เป็นคนนอกเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตนก็ไม่เกี่ยว ถ้าเข้างานไม่ได้ตนก็ไม่รำ

“ไม่มีคนรักมาดู สงสัยจะไม่มีแรงรำ” อุปมาแขวะอย่างหมั่นไส้ สไบนางเลยยั่วเดินไปโอบบ่าอาทิตย์ชวนไปจ๊อกกิ้งกันดีกว่า เย้ยอุปมาว่า

“กำลังใจตัวจริงอยู่นี่ นายมันตัวปลอม ไปจ๊อกกิ้งกันเถอะซันนี่ บีชอบจ๊อกกิ้งกับตำรวจ ปลอดภัยไม่ต้องกลัวถูกจับปล้ำ” ว่าแล้วลากแขนอาทิตย์ออกไปจากบ้าน อุปมาเหล่ตามอย่างหมั่นไส้เต็มที

ooooooo

ค่ำวันจัดงาน จู่ๆวิมาดาในชุดสุดสวยก็นวยนาดเข้ามา พอเจออุปมาเธอเข้าไปอ้อนว่าคงไม่ไล่ตนออกจากงานใช่ไหม ตนอยากมาชมรำเปิดงานโดย ภรรยาของเขา เห็นร่ำลือกันว่าสวยไม่แพ้มืออาชีพ

อุปมาบอกว่าถ้าไม่มาสร้างความวุ่นวายในงานก็ไม่มีปัญหาอะไร วิมาดาสัญญาว่าถ้าตนสร้างความวุ่นวายปุ๊บก็จะออกจากงานทันทีเลย อุปมาหันไปบอกหัสดินให้คอยจับตาเอาไว้ให้ดี มองตามวิมาดาไปอย่างไม่สบายใจ

พอพ้นจากสายตาของอุปมา วิมาดาก็ตรงไปที่ห้องแต่งตัวรี่เข้าไปหาสไบนางที่นั่งอยู่หน้ากระจก พอสไบนางมองจากกระจกเห็นวิมาดา เธอตั้งหลักเตรียมรับมือเต็มที่

หลังจากทักทายแบบประชดประชันกันไม่กี่คำ วิมาดาก็เข้าไปพูดได้ยินกันเพียงสองคนว่า

“ฉันรู้นะว่าเธอเป็นเจ้าสาวส้มหล่นของคุณมาร์ค อย่าหวังเลยว่าจะหว่านเสน่ห์จับคุณมาร์คได้สำเร็จ” พูดแล้วจ้องตาผ่านกระจกกันอย่างไม่มีใครลงให้ใคร

พอดีอาทิตย์ในชุดลำลองเดินเข้ามา สไบนางได้ทีร้องเสียงดังพลางชี้ไปทางวิมาดา

“คุณตำรวจช่วยด้วยค่ะ เมียน้อยบุกค่ะคุณตำรวจ ผิดศีลธรรม จับเข้าคุกไปเลยค่ะ”

ทุกคนหันมองไปทางวิมาดาเป็นตาเดียว จนวิมาดาทำท่าไม่ถูกด่าสไบนาง “อีเด็กบ้า” แล้วเดินงุดๆออกจากห้องแต่งตัวไปเลย ขณะที่ทุกคนพากันงงนั้น อาทิตย์กลับหัวเราะตำหนิสไบนางว่าขยันสร้างศัตรูเสียจริง สไบนางยักไหล่อย่างไม่แคร์ ยิ้มสะใจที่ได้ฉีกหน้าวิมาดาจนต้องเป็นฝ่ายถอยไปไม่เป็นท่า

ฝ่ายอุปมาก็เริ่มรู้สึกดีๆกับสไบนางขึ้นเมื่อเห็นเธอมาแอบซ้อมรำก่อนขึ้นเวทีอย่างจริงจัง นึกสนุกจะเดินไปชมไปแซวเล่น แต่พอเดินพ้นมุมตึกก็เห็นอาทิตย์นั่งขัดสมาธิกับพื้นคอยถ่ายคลิปวีดิโอให้สไบนางอยู่

สุดท้ายอุปมาก็ถอยออกไปเซ็งๆ

ooooooo

เกิดเรื่องจนได้ เมื่อสไบนางถูกวิมาดาสาดซ่าหริ่มใส่ขณะเตรียมออกไปรำ สาดเสร็จตัวเองก็เดินกระหยิ่มยิ้มย่องออกจากงานไป

เมื่อเพลงขึ้น สไบนางตัดสินใจออกไปรำทั้งที่ซ่าหริ่มย้อยทั้งที่หน้าและตัว เธอรำไปยิ้มแย้มไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่บารมีและอุปมาที่ดูอยู่ต่างสงสัยว่าทำไมตัวเธอถึงได้เลอะเทอะขนาดนั้น

อาทิตย์ที่ถ่ายวีดิโออยู่ถึงกับชะงักหยุดการถ่ายคลิปมองสไบนางด้วยสีหน้าเป็นห่วงมาก แต่เธอก็ยังยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาทิตย์เห็นวิมาดาเดินยิ้มกริ่มออกไป ฉุกคิดได้ว่าต้องเป็นฝีมือแม่นั่นแน่ๆรีบตามไป แต่พอถาม วิมาดา

ก็ทำไขสือจนอาทิตย์จับไม่มั่นคั้นไม่ตายต้องปล่อยไป

พอรำเสร็จ สไบนางจะกลับหลังเวที อุปมาก็ก้าวขึ้นไปคว้าไมค์จากหัสดินแล้วไปดึงมือสไบนางมากลางเวที พูดกับแขกในงาน โดยมือหนึ่งจับไมค์และอีกมือจับมือสไบ– นางบีบแน่น

“คุณบีตั้งใจฝึกรำชุดนี้อย่างเต็มที่เพื่อแสดงให้แขกทุกคนในงานชม แต่เผอิญก่อนแสดงเจอแอกซิเดนท์นิดหน่อย แต่เธอก็ยังมีสปิริตออกมารำจนจบเพลง ขอเสียงปรบมือให้ภรรยาผมอีกครั้งด้วยครับ”

สิ้นเสียงอุปมา เสียงปรบมือก็กึกก้องไปทั้งห้องจัดงาน แขกทุกคนยืนขึ้นอย่างให้เกียรติ อุปมาปล่อยมือที่จับมือสไบนางปรบมือให้อย่างชื่นชม จังหวะนั้นเอง สไบนางน้ำตารื้นรีบวิ่งกลับเข้าหลังเวทีไป

อุปมามองตามตกใจเล็กน้อย แต่หัสดินเชาว์ดีรีบคว้าไมค์จากอุปมาพูดอารมณ์ดีว่า

“จบโชว์ซึ้งๆของสามีภรรยาแล้ว เรามาสนุกกับลีลาหางเครื่องของพนักงานสาวๆอวบๆของบริษัทกันต่อเลยนะครับ ขอเสียงปรบมือด้วยคร้าบบบบ”

ooooooo

สไบนางร้องไห้ทั้งอายทั้งปลาบปลื้มระคนกัน  อุปมารีบเดินตามมา แต่เจออาทิตย์มาจากอีกทางหนึ่งอุปมาเลยชะงัก

พอเห็นคนรู้ใจเข้าใจกัน สไบนางก็ร้องไห้ออกมาจนตัวสั่น อาทิตย์สงสารจับใจกอดเธอไว้ปลอบใจ ให้กำลังใจชมว่า เธอทำหน้าที่เสร็จแล้วเราไปหาอะไรอร่อยๆกินกันดีกว่า สไบนางพูดทั้งที่ยังร้องไห้ว่า

“ไม่เอาซ่าหริ่มนะ”

อาทิตย์​อด​ขำ​ไม่ได้ เลย​กอด​สไบ​นาง​ไว้​ทั้ง​มัน​เขี้ยว​ทั้ง​เอ็นดู อุปมา​มอง​ภาพ​นั้น​อย่าง​บาดตา​บาดใจ​ตัดสินใจ​หัน​เดิน​กลับ​ไป​ตาม​ทาง​เดิน พอดี​อาทิตย์​เห็น​เข้า เขา​หน้า​ขรึม​ลง​มอง​ตาม​อุปมา​อย่าง​ครุ่นคิด

จนกระทั่ง​จะ​กลับ​บ้าน อุปมา​บอก​สไบ​นาง​ว่า​จะ​กลับ​กับ​อาทิตย์​ก็ได้​นะ สไบ​นาง​สวน​ไป​ว่า​ตน​ก็​อยาก​กลับ​ด้วย​แต่​อาทิตย์​ต้อง​กลับ​ไป​อาบ​น้ำ​แล้ว​เข้า​เวร อาทิตย์​จึง​ฝาก​อุปมา​พา​สไบ​นาง​กลับ​ไป​ด้วย กระซิบ​บอก​เธอ​ว่า

“ขึ้นรถ​ก็​ทำ​เป็น​หลับ​ไป​เลย​รู้​ไหม เถียง​กัน​ไป​เถียง กัน​มา​เดี๋ยว​ก็​ทะเลาะ​กัน​อีก”

พอดี​อุปมา​บีบ​แตร​เร่ง ​สไบ​นาง​จึง​ไป​ขึ้น​รถ แต่​พอ​นั่งรถ​เธอ​ก็​เอียง​ตัว​หัน​หน้า​ไป​ทาง​หน้าต่าง​รถ ​จน​ดูเหมือน​หัน​หลัง​ให้​อุปมา​เลย​ทีเดียว แต่​เขา​ก็​ไม่​สนใจ ชวน​คุย​อย่าง​สนุกสนาน​อารมณ์​ดี​ว่า

“วัน​นี้​มี​แต่​คน​ชม​เธอ​กัน​ยกใหญ่​เลย​นะ” เงียบ... “นอกเหนือ​จาก​เรื่อง​รำ​สวย​แล้ว ทุก​คน​ชื่นชม​สปิริต​ของ​เธอ​ที่สุด” ยัง​เงียบ​อยู่​อีก...อุปมา​เลย​ชะโงก​ไป​ดู พูด​ขำๆ “หลับ​ไป​ซะ​แล้ว เธอ​เข้มแข็ง​กว่า​ที่​ฉัน​คิด​ไว้​เยอะ...ฉัน​นับถือ​ใจ​เธอ วัน​นี้​ฉัน​ชื่นชม​เธอ​จาก​ใจ​จริง”

อุปมา​พูด​คน​เดียว ยิ้ม​คน​เดียว ใน​ขณะ​ที่​สไบ​นาง​นั่ง​หลับตา​พริ้ม​เหมือน​นอน​หลับ แต่​ที่แท้​เงี่ยหู​ฟัง​อยู่ อด​แอบ​ยิ้ม​ปลื้ม​กับ​คำ​ชม​นั้น​ไม่ได้

กลับ​ถึง​บ้าน เมื่อ​สไบ​นาง​เข้า​ห้องน้ำ อุปมา​ก็​เปิด​คอมฯ​ดู​รูป​เธอ​ที่​รำ​อย่าง​อ่อนช้อย​ยิ้มแย้ม​ทั้งที่​มี​เส้น​ซ่าหริ่ม​ห้อย​รุงรัง เห็น​แล้ว​ก็​อด​ขำ​ไม่ได้

พอ​สไบ​นาง​ออก​มา​เขา​ก็​รีบ​ปิด​หน้า​จอ แต่​สไบ​นาง​รู้ทัน​ว่า​ต้อง​มี​อะไร​ผิด​ปกติ​จึง​เปิด​ดู​เห็น​รูป​ตัว​เอง​แล้ว​ก็​ยิ่ง​เจ็บใจ ซ้ำ​มา​ถูก​อุปมา​หัวเราะ​ขำๆอีก เลย​คว้า​หมอนข้าง​ไล่​ฟาด​เสีย​ฝ่าย​นั้น​จุก​ตัว​งอ​อยู่​บน​เตียง

ooooooo

หลังจาก​คุณหญิง​โทร.​บอก​ให้​วิ​จิตรา​กลับ​มา​เยี่ยม​ประมุข​บ้าง​แล้ว วิ​จิตรา​บอก​เมธา​วี​ว่า​จะ​กลับ​กรุงเทพฯ เมธา​วี​จะ​ตาม​ไป​ด้วย วิ​จิตรา​อ้าง​ว่า​กะทันหัน​เกินไป​เอา​ไว้​แม่​กลับ​มา​ปรึกษา​หมอ​แล้ว​คราว​หน้า​ไป​ด้วย​กัน

กล่อม​จน​เมธา​วี​ยอม​แล้ว วิ​จิตรา​ก็​นึก​กังวล​ว่ายัง​มี​ อีก​หลาย​เรื่องราว​ที่​ลูก​ไม่​รู้ จะ​บอก​ลูก​อย่างไร​ดี

เมื่อ​กลับ​มา​เห็น​สภาพ​ที่​ทรุดโทรม​ของ​ประมุข วิ​จิตรา​ตกใจ​มาก​ถาม​ว่า​ทำไม​ถึง​เป็น​ขนาด​นี้ คุณหญิง​บอก​ว่า

“ใจ​ประมุข​ไม่​สู้​เสีย​แล้ว โรค​ที่​เป็น​อยู่​มัน​ก็​ยิ่ง​รุม ข้าว​ปลา​อาหาร หยูกยา​ก็​ไม่​ยอม​กิน อีก​ไม่​นาน​ก็​คง​เหลือ​แต่​หนัง​หุ้ม​กระดูก”

วิ​จิตรา​เสนอ​ให้​พา​ไป​อยู่​โรงพยาบาล​เลย​ดี​ไหม คุณหญิง​ส่าย​หน้า​เล่า​ว่า​ประมุข​ไม่​ยอม​ไป​ถ้า​ไม่​ล้ม​หมด​สติ​ก็​ไม่​มี​ทาง​ได้​เจอ​หน้า​หมอ​หรอก

วิ​จิตรา​ถอน​ใจ​อย่าง​กลัดกลุ้ม คุณหญิง​พูด​หน้า​เครียด​จริงจัง​ว่า ถ้า​เมธา​วี​หาย​ก็​ให้​รีบ​กลับ​มา​ได้​ไหม ตน​กลัว​จะ​ไม่ทัน​ได้​เห็นใจ...

คุณหญิง​น้ำ​ตา​รื้น​พูด​ไม่​ออก ใน​ขณะ​ที่​วิ​จิตรา​ตกใจ​มาก​เมื่อ​แม่​คาด​การณ์​ถึง​ขั้น​นั้น...

ฝ่าย​เมธา​วี​ที่​รักษา​ตัว​อยู่​ใน​โรงพยาบาล​ที่​เชียงใหม่ วันนี้​พยาบาล​พา​นั่ง​รถ​เข็น​ไป​เปลี่ยน​บรรยากาศ​ข้าง​นอก เธอ​เห็น​พยาบาล​ถือ​หนังสือพิมพ์​อยู่​จึง​ขอ​อ่าน

เธอ​รับ​หนังสือพิมพ์​มา​เปิด​ดู​ไป​เรื่อยๆ จน​เจอ​กรอบ​ข่าว​ประชาสัมพันธ์ มี​รูป​อุปมา​ถ่าย​หมู่​ยิ้มแย้ม​ใน​กลุ่ม​ลูกค้า​และ​มี​รูป​กรอบ​เล็ก​ตรง​มุม เป็น​รูป​เดี่ยว​สไบ​นาง​ใน​ชุด​นางรำที่สวยงาม เมธา​วี​หยุด​กึก​รีบ​อ่าน​เนื้อ​ข่าว สีหน้า​เธอ​เครียด​ขึ้น​ทุกที จนกระทั่ง​มือ​สั่น ตา​เบิก​โพลง

เมื่อ​พยาบาล​รีบ​พา​ขึ้น​ห้อง​พัก เมธา​วี​โวยวาย​ดิ้นรน​ไม่​ยอม​อยู่ จะ​กลับ​กรุงเทพฯ​ให้​ได้ พยาบาล​จะ​ฉีดยา​เธอ​ก็​ดิ้น​สุด​แรง​ไม่​ยอม​ให้​ฉีด ร้อง​จะ​ขอ​กลับ​กรุงเทพฯ​  ร้อง​ถาม​หา​แม่ตลอดเวลา

แต่​ใน​ที่สุด​หมอ​และ​พยาบาล​ก็​จับ​ฉีดยา​จน​ได้ เมธา​วี​อ่อน​แรง​ไม่​ดิ้นรน​ขัดขืน​อีก แต่​ร้องไห้​ฟูมฟาย​กับ​ข่าว​อุปมา​และ​สไบ​นาง​ที่​อ่าน​พบ เป็น​ปัญหา​ค้าง​คา​ใจ​ที่​ไม่​อาจ​ลบเลือนได้...จนกว่า​จะ​ตื่น​ขึ้น​มา​อีก​ครั้ง...

ooooooo

เช้า​นี้ สไบ​นาง​นั่ง​ทาน​อาหาร​อยู่​คน​เดียว เมื่อ​อุปมา​ลง​มา​ใน​ชุด​เตรียม​ไป​ทำ​งาน เขา​ถาม​ว่า​เย็น​นี้​ว่าง​ไหม​ตน​อยาก​เลี้ยง​ขอบ​คุณ​ที่​ช่วย​งาน​บริษัท

“ไม่​เป็นไร​หรอก ถือว่า​ทำเอา​บุญ ไม่​มี​อะไร​แล้ว​ใช่ไหม” พูด​แล้ว​ลุก​จาก​โต๊ะ ทำเอา​อุปมา​ยืน​เห​วอ มอง​ตาม​พลางถอนใจยาว...

สไบ​นาง​เลี่ยง​ไป​คุย​โทรศัพท์​กับ​หยาด​ฝน  เล่า​บรรยากาศ​เมื่อ​คืน​ที่​ตัว​เอง​รำ​ให้​เพื่อน​รัก​ฟัง เล่า​ว่า​พอ​ตน​รำ​เสร็จ​คน​ดู​ต่าง​ลุก​ขึ้น​ปรบมือให้​กำลังใจ หยาด​ฝน​บอก​เพื่อน​ว่า​ฟังแล้ว ขนลุกเลย

แต่​พอ​ถาม​ว่า อุปมา​เป็น​อย่างไร​บ้าง เขา​ไม่​หัวเราะ​กลิ้ง​กับ​ซ่าหริ่ม​เต็มตัว​ของ​เธอ​หรือ สไบ​นาง​กลับ​นิ่ง​เงียบ สุดท้าย​อ้อมแอ้ม​บอก​ว่า​หัวเราะ​นิดหน่อย แล้ว​เงียบ​ไป

“วัน​นี้​แก​แปลกๆนะ​บี ไม่​เห็น​ด่า​คุณ​มาร์ค​ให้​ฉัน​ฟัง​เลย” หยาด​ฝน​เอะใจ สไบ​นาง​ตัดบท​ว่า ตน​ปวด​หัว​นิดหน่อย​ขี้เกียจ​พูด​ถึง​เขา บอก​หยาด​ฝน​ให้​จัด​กระเป๋า​เสีย​แล้ว​กด​ตัด​สาย แต่​แล้วก็​ชะงัก​เมื่อ​เห็น​บารมี​กำลัง​เดิน​มา

“เมื่อ​คืน​เกิด​อะไร​ขึ้น เล่า​ให้​ลุง​ฟัง​อย่าง​ละเอียด​ซิ” บารมี​เข้า​มา​โอบ​ไหล่​พา​เดิน​คุย​กัน​ไป​ทาง​ริม​น้ำ...

ตก​เย็น​เมื่อ​อุปมา​กลับ​จาก​ทำ​งาน​มา​ถึง​ห้อง​นอน​ไม่​เจอ​สไบ​นาง​ก็​เอะใจ​เปิด​ตู้​เสื้อ​ผ้า​ก็​ยิ่ง​ตกใจ ลง​บันได​พลาง​ร้อง​เรียก​แรม​ลั่น​ไป​หมด ถาม​ว่า​สไบ​นาง​ไป​ไหน กระเป๋า​เสื้อ​ผ้าก็ไม่อยู่

แรม​ถาม​ว่า เธอ​ไม่ได้​บอก​เขา​หรือ​ว่า​จะ​ไป​เที่ยว​ต่างจังหวัด ตน​ก็​ไม่​แน่ใจ​ว่า​จังหวัด​ไหน อุปมา​ถาม​เสียง​ดัง​ว่า​แล้วไป​กับใคร แรม​ตกใจ​ผงะ อุปมา​ถาม​อย่าง​ไม่ทัน​ใจ​ว่า “ฉัน​ถาม​ว่า​ไปกับใคร”


“ไป​กัน​หลาย​คน​น่ะ​ค่ะ เห็น​คุณ​หัสดิน​เอา​รถ​ตู้​มา​รับ​ไป​น่ะ​ค่ะ”

อุปมา​ไม่​พอใจ​มาก บ่น​ว่า​ทำไม​ไม่​ขอ​อนุญาต​ตน​สัก​คำ เขา​คำราม​ชื่อ​หัสดิน​ออก​มา​อย่าง​เจ็บใจ​แล้ว​กด​โทรศัพท์​มือ​ถือ​เดิน​ออก​ไป​จาก​บ้าน​อย่าง​หัวเสีย

ooooooo

ที่แท้ สไบ​นาง อาทิตย์ หยาด​ฝน  และ​หัสดินพา​กัน​ไป​เที่ยว “ฮัท​ริม​แคว” ของ​สาย​ทิพย์​ที่​สร้าง​บน​ที่ดิน​มรดก เธอ​จะ​มา​ดูแล​รี​สอร์ต​เพื่อ​เตรียม​เปิด​เป็น​ทางการ​เร็วๆนี้​ถี่​ขึ้น ส่วน​ลูก​ชาย​ก็​ฝาก​ไว้​กับ​คุณ​ตา​คุณ​ยาย กลับ​เมื่อ​ไร​ก็​รับ​ไป​อยู่​บ้าน

หยาด​ฝน​เล่า​ให้​เพื่อนๆฟัง​ว่า พี่​สาว​สดชื่น​ขึ้น​เยอะ​หลังจาก​เริ่ม​ทำ​รี​สอร์ต ส่วน​ธนู​นั้น​อย่า​พูด​ถึง​เลย เพราะ​กลับ​ไป​ขลุก​อยู่​กับ​วิ​มา​ดา​ตามเคย

สี่​หนุ่ม​สาว​ชวน​กัน​พาย​เรือ​แคนู​ล่อง​ไป​ตาม​ลำธาร​น้ำตก​อย่าง​สนุกสนาน อาทิตย์​กับ​สไบ​นาง​อยู่​แค​นู​ลำ​เดียวกัน ส่วน​หัสดิน​ไป​กับ​หยาด​ฝน หยอก​ล้อ​กัน​ประสา​หนุ่ม​สาว​ที่​กำลัง​มี​ความ​รัก

เมื่อ​กลับ​มา​ที่​ห้องพัก หัสดิน​ก็ได้​รับ​โทรศัพท์​จาก​อุปมา โดน​ด่า​ว่า​ทำไม​ไม่​รับ​โทรศัพท์ หัสดิน​บอก​ว่า​ตน​เพิ่ง​ไป​พาย​เรือ​มา​เลย​ทิ้ง​โทรศัพท์​ไว้​ที่​ห้อง​พัก

หัสดิน​เล่า​ว่า รี​สอร์ตของ​สาย​ทิพย์​บรรยากาศ​ดี มี​กิจกรรม​เยอะ​แยะ​สนุก​มาก ถูก​อุปมา​ต่อว่า​ที่​ไม่​ชวน​ตน​มา​ด้วย หัสดิน​โต้​ว่า “อ้าว...ก็​คุณ​บีบ​อก​แก​แล้ว​นี่ แก​ไม่​อยาก​มา​เอง”

ความ​เลย​แตก​ว่า​สไบ​นาง​ไม่ได้​บอก หัสดิน​บ่น​ว่า​ตน​ถูก​เธอ​ต้ม​เสีย​แล้ว

“ตกลง​แก​ไป​เที่ยว​ที่ไหน​กัน” อุปมา​ถาม​อย่าง​อยาก​รู้ หัสดิน​บอก​แล้ว​ดักคอ​เพื่อน​ว่า​จะ​ตาม​มา​หรือ

“ฉัน​จะ​ตาม​ไป​ทำไม ไม่​อยาก​เป็น​ก้างขวางคอ​ใคร” อุปมา​ตอบ​อย่างหมั่นไส้​เพราะ​นึก​ว่า​หัสดิน​ไป​กับ​สไบ​นาง​เพียง​สอง​คน

เพียง​เช้า​วัน​รุ่ง​ขึ้น อุปมา​ก็​มา​ถึง “ฮัท​ริม​แคว” ของ​สาย​ทิพย์ เข้าไป​เจอ​พวก​สไบ​นาง​กำลัง​ทาน​อาหาร​เช้า​อยู่ พอ​สไบ​นาง​เห็น​อุปมา​เท่านั้น​ก็​หมด​สนุก ยิ่ง​เมื่อ​สาย​ทิพย์​ถาม​เขา​ว่า​ทาน​อะไร​มา​หรือ​ยัง อุปมา​ตอบ​ทำ​ตา​กรุ้มกริ่ม​ไป​ทาง​สไบ​นาง​ว่า

“ยัง​เลย​ครับ เป็น​ห่วง​ภรรยา​เลย​รีบ​ขับ​รถ​ตรง​ดิ่ง​มา​เลย” พอ​สาย​ทิพย์​เชิญ​ทาน​ด้วย​กัน เขา​มอง​หน้า​อาทิตย์​พูด​กวนๆ “ขอ​ผม​นั่ง​ติด​กับ​ภรรยา​ตัว​เอง​ได้​ไหม​ครับ” ว่า​แล้ว​ก็​ทำท่า​จะ​เข้าไป​นั่ง

สไบ​นาง​ลุก​พรวด​พูด​กระแทก​ใส่​ว่า “หมด​อร่อย​แล้ว ไป​นอน​ต่อดี​กว่า” ว่า​แล้ว​ลุก​ไป​เลย

ooooooo

หลัง​อาหาร​เช้า​ก็​เตรียม​ทัวร์บริเวณ​รี​สอร์ตกัน​ สาย​ทิพย์​แนะนำ​ว่า​ใคร​ชอบ​ขี่​ม้า​ก็​มี​ให้​บริการ พอดี​พนักงาน​มา​บอก​ว่า​วัน​นี้​อย่า​เพิ่ง​ไป​พาย​เรือเล่น​กัน​เพราะ​น้ำ​ค่อนข้าง​เชี่ยว

แม้​บรรยากาศ​จะ​น่า​เที่ยว แต่​เวลา​นี้​ทุก​คนใจ​ไม่​อยู่​กับ​ตัว​เพราะสไบ​นาง​หาย​ไป จึง​ต้อง​ช่วย​กัน​ออก​ตาม​หา พนักงาน​ใน​รี​สอร์ตก็​ถูก​เกณฑ์​มา​ช่วย​ตาม​หา​ด้วย ครู่​หนึ่ง​พนักงาน​เข้า​มา​รายงาน​ว่า​ตาม​หา​ที่ไหน​ก็​ไม่​เจอ แต่​พบ​ว่า​เรือ​แค​นู​หาย​ไป​ลำ​หนึ่ง

ที่แท้​สไบ​นาง​แอบ​เอา​เรือ​แค​นู​ไป​พาย​เล่น​ใน​ลำธาร เรือ​แล่น​ไป​ตาม​แรง​น้ำ​ที่​เชี่ยว​กราก​จน​เธอ​เริ่มใจไม่ดี ยิ่ง​ไป​ก็​ยิ่ง​ใจเสีย เลย​ทั้ง​จิ้ม​ทั้ง​งัด​ริม​ธาร​หมาย​ให้​เรือ​หยุด แต่​น้ำ​เชี่ยว​มาก​เรือ​พุ่ง​ไป​จนถึง​แอ่ง​น้ำ​เชี่ยว​เพราะ​ลำธาร​ลด​ระดับ​ลง

“ช่วย​ด้วย...” สไบ​นาง​ร้อง​อย่าง​ขวัญ​เสีย น้ำ​สาด​เข้า​จนไม่​เห็น​อะไร แต่​เลย​แก่ง​ไป​มี​แต่​เรือ​แค​นูตะแคง​เกย​ข้าง​ลำธาร ไม่​มี​สไบ​นาง​อยู่​บริเวณ​นั้น​แล้ว!

เมื่อ​อุปมา​รู้​ว่า​เรือ​แค​นู​ลำ​หนึ่ง​หาย​ไป เขา​เอา​เรือแคนู​ลง​ลำธาร​พาย​ไป​อย่าง​ชำนาญ​เพราะ​เคย​พาย​ตอน​อยู่​เมืองนอก​มา​แล้ว มือ​พาย​เรือ​ปาก​ก็​ตะโกน​เรียก

“บี...บี...ได้ยิน​ผม​ไหม...บี...”

สไบ​นาง​ถูก​น้ำ​ซัด​ไป เธอ​พยายาม​เกาะ​ยึด​หิน​ไว้ ตาก็​กวาด​มอง​หา​คน​ช่วย แต่​เพราะ​อ่อน​แรง​และ​เกาะ​โขด​หิน​ไม่​มั่น เธอ​ถูก​น้ำ​ซัด​หลุด​ไป โชค​ดี​ที่​คว้า​ราก​ไม้​ไว้​ได้ แต่​ก็​หมิ่นเหม่​เต็มที

อุปมา​พยายาม​พาย​เรือ​ไป​ให้​เร็ว​ที่สุด ปาก​ก็​ตะโกน​เรียก​สไบ​นาง​ไม่​หยุด เขา​ดีใจ​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​ร้องขอ​ความ​ช่วยเหลือ​ของ​สไบ​นาง​แว่ว​มา รีบ​พาย​ไป​ตาม​เสียง​จน​เจอ​เธอ​ใน​สภาพ​จะ​หลุด​มิ​หลุด​แหล่​จาก​ราก​ไม้ เขา​ตะโกน​ให้​อดทน​อีก​นิด จับ​ราก​ไม้​ไว้​แน่นๆ

สไบ​นาง​มือ​หลุด​จาก​ราก​ไม้ อุปมา​ฉวย​ไว้​ทัน​ร้อง​บอก​ให้​กอด​เอว​ตน​ไว้​แน่นๆ สไบ​นาง​กอด​ไว้​แน่น จน​ใน​ที่สุด​ทั้ง​คู่​ก็​ปลอดภัย​เมื่อ​พนักงาน​รีสอร์ต​ตาม​มา​ช่วย​ได้​ทัน

เมื่อ​พา​ขึ้น​ฝั่ง อาทิตย์ หยาด​ฝน และ​หัสดิน​ก็ตาม​มาถึง สาย​ทิพย์​เสนอ​ให้​พา​สไบ​นาง​ไป​โรงพยาบาล​ดี​กว่า เพราะ​ท่าทาง​อิดโรย​มาก อุปมา​เห็น​ด้วย ฝาก​หยาด​ฝน​ให้​ช่วย​เก็บ​เสื้อ​ผ้า​ของใช้​ส่ง​ตาม​ไป​ด้วย

อุปมา​อุ้ม​สไบ​นาง​เดิน​ตาม​สาย​ทิพย์ไป สไบ​นาง​ยอม​ให้​อุ้ม​โดย​ดี จน​หยาด​ฝน​คุย​กับ​หัสดิน​ว่า

“บี​เงียบกริบ ไม่​มี​ปาก​มีเสียง​เลย สงสัย​จะ​เจ็บ​จริง”

“วัน​นี้​สอง​คน​นี้​ค่อย​ดู​เป็น​สามี​ภรรยา​กัน​ขึ้น​หน่อย​ว่า​ไหม”

หยาด​ฝน​สะกิด​หัสดิน​ให้​มอง​ไป​ทาง​อาทิตย์ เห็น​อาทิตย์​นั่ง​จ๋อยๆอยู่​คน​เดียว เขา​ชะเง้อ​มอง​ตาม​อุปมา​ที่​อุ้ม​สไบ​นาง​ไป​ด้วย​ความ​เป็น​ห่วง...

ooooooo

จาก​การ​ตรวจ​ของ​หมอ ปรากฏ​ว่า​ประมุข​เป็น​มะเร็ง​ใน​กระเพาะ​อาหาร ทั้ง​คุณหญิง​และ​วิ​จิตรา​ตกใจ ใจเสีย ต่าง​มี​ความ​เห็น​ตรง​กัน​ว่า​ไม่​ต้อง​บอก​ประมุข ให้​ประมุข​รู้​แค่​ว่า​ตัว​เอง​เป็น​ความ​ดัน​กับ​โรค​หัวใจ​ตาม​เดิม​เท่านั้น เพราะ​เกรง​ว่า​รู้ความ​จริง​แล้ว​จะ​ยิ่ง​ทรุด

คุณหญิง​บอก​วิ​จิตรา​ให้​รีบ​พา​เมธา​วี​กลับ​มา​ดูใจ​พ่อ ก็​พอดี​วิ​จิตรา​ได้​รับ​โทรศัพท์​จาก​พยาบาล​ที่​ดูแล​เมธา​วี​อยู่ เธอ​บอก​คุณหญิง​อย่าง​กังวล​ว่า ไม่​รู้​มี​อะไร​รึ​เปล่า

วิ​จิตรา​เดินทาง​ไป​หา​เมธา​วี​เร็ว​ที่สุด ไป​ขอ​อนุญาต​หมอ​พา​ลูก​กลับ​กรุงเทพฯ อีก​ทั้ง​เล่า​เรื่อง​อุปมา​กับ​สไบ​นาง​ให้​ฟัง​เพื่อ​ให้​ลูก​เตรียม​ทำใจ​รับ​สถานการณ์ เมธา​วี​เสียใจ​คิด​ไม่​ตก​กลัว​สไบ​นาง​จะ​ไม่​คืน​อุปมา​ให้​ตน วิ​จิตรา​บอก​ว่า​ไม่​ต้อง​ห่วง​เพราะ​เท่า​ที่​รู้​มา สอง​คน​นั้น​โต้เถียง​กัน​ทุก​วัน

“แต่​ที่​แม่​ยอม​ขอ​คุณ​หมอ​ให้​เม​กลับ​กรุงเทพฯ ทันที​ไม่​ใช่​เพราะ​เรื่อง​นี้​หรอก​ลูก” วิ​จิตรา​พูด​หน้า​เครียด​ขรึม​จน​เมธา​วี​สงสัย​ถาม​ว่า​มี​เรื่องอะไร​อีก​หรือ วิ​จิตรา​จึง​ตัดสินใจ​เล่า​ให้​ฟัง “คุณ​พ่อ​ไม่สบาย​มาก จะ​จาก​เรา​ไป​วัน​นี้​พรุ่งนี้​ก็​ไม่​รู้” พูด​ได้​แค่​นั้น​วิ​จิตรา​ก็​ร้องไห้​จน​พูด​ไม่​ออก

เมธา​วี​ยัง​เข้าใจ​ว่า​พ่อ​เป็น​ความ​ดัน​และ​โรค​หัวใจ เชื่อ​ว่า​มี​ยา​คุม​ได้​ไม่​น่า​จะ​มี​อะไร

“ไอ้​ที่​มี​อะไร​มัน​ไม่​ใช่​โรค​พวก​นี้​น่ะ​สิ​เม หมอ​เพิ่ง​ตรวจ​เจอ​มะเร็ง​ใน​กระเพาะ​อาหาร​ระยะ​สุดท้าย ตอน​นี้​ลาม​ไป​ทั่ว​แล้ว” วิ​จิตรา​ร้องไห้​โฮ​ออก​มา โผ​เข้า​กอด​เมธา​วี​ที่​ตกใจ​จนช็อก

ooooooo

เพียง​เย็นๆ อุปมา​ก็​พา​สไบ​นาง​กลับ​ถึง​บ้าน​ไทย​ประยุกต์ บารมี​ออก​มา​รับ​ด้วย​ความ​เป็น​ห่วง​ถาม​ว่า​เป็น​ยัง​ไง​บ้าง อุปมา​บอก​ว่า​ข้อ​เท้า​พลิก​ข้าง​หนึ่ง ขา​อีก​ข้าง​ต้อง​ใส่​เฝือก​อ่อน

เมื่อ​สไบ​นาง​ผลัก​ประตู​เข้า​มา อุปมา​จะ​เข้าไป​ช่วย​อุ้ม ถูก​เธอ​ปัด​มือ​ออก อุปมา​ขู่​ว่า

“หมอ​กำชับ​ไม่​ให้​ลง​น้ำหนัก​ที่​ขา ยัง​จะ​อวด​เก่ง​อีก อยู่​เฉยๆฉัน​เกือบ​ตาย​เพราะ​เธอ​แล้ว​อย่า​มา​ทำ​ฤทธิ์​เยอะ​แยะ” สไบ​นาง​ทำ​ปาก​ขมุบขมิบ​ว่า​ไม่ได้​ขอร้อง​ให้​ช่วย​ซะ​หน่อย อุปมา​ถลึงตา​ใส่ บอก​บารมี​ว่า “ผม​เอา​หลาน​คุณ​พ่อ​ไป​โยน​ทิ้ง​บน​เตียง​ก่อน​นะ​ครับ”

สไบ​นาง​เริ่ม​กลัว​มอง​บารมี​เรียก “คุณ​ลุง” หวัง​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ ถูก​อุปมา​ตวาด “เงียบ!” เท่านั้น​เธอ​ก็​เงียบกริบ หน้า​แหยๆปล่อย​ให้​อุปมา​อุ้ม​ขึ้น​ไป​ที่​ห้อง​นอน

บารมี​มอง​อุปมา​กับ​สไบ​นาง​อย่าง​เริ่ม​สงสัย​ใน​ความรู้สึก​ที่​มี​ต่อ​กัน​ของ​ทั้ง​คู่​ขึ้น​มา​ตงิดๆ

ooooooo

ขณะ​คุณหญิง​นั่ง​สวด​มนต์​อยู่​ใน​ห้อง​พระ​บ้านสวน​นั้น บังอร​เข้า​มา​ขอโทษ​บอก​ว่า​ประมุข​ต้องการ​พบ​ด่วน​เลย​ต้อง​รีบ​เข้า​มาร​บก​วน

เมื่อ​คุณหญิง​ไป​พบ​ประมุข​ที่​ห้อง​นอน คุณหญิง​บอก​ว่าวิ​จิตรา​กับ​เมธา​วี​กลับ​ถึง​กรุงเทพฯแล้ว​พัก​อยู่​ที่​บ้าน​แม่​เขา พรุ่งนี้​คง​จะ​มา​เยี่ยม ประมุข​ยิ้ม​ออก​มา​ด้วย​ความ​ดีใจ คุณหญิง​ถาม​ว่า​อยาก​พบ​แม่​เรื่อง​อะไร ประมุข​หน้า​เศร้า​ถาม​ว่า “ตกลง​บี​เชื่อ​รึ​เปล่า​ครับ​ว่า​ผม​เป็น​พ่อ”

“มัน​สำคัญ​สำหรับ​แก​มาก​เหรอ​เจ้า​มุข”

“ครับ...ผม​เพิ่ง​รู้ตัว​ว่าความ​รัก​ของ​ผม​เป็น​สิ่ง​ผิด ผม​ควร​ให้​เขา​บริสุทธิ์ เป็น​ลูก​ของ​ประจักษ์...ความ​รัก​ที่​ผม​จะ​มอบ​ให้​เขา​ได้​มาก​ที่สุด​ก็​คือ เก็บ​ทุก​อย่าง​ไว้​เป็น​ความ​ลับ ให้​มัน​ดับ​ไป​พร้อม​กับ​ชีวิต​ของ​ผม...”

ประมุข​น้ำตา​ซึม แต่​คุณหญิง​น้ำตา​ท่วม เลื่อน​มือ​ไป​บีบ​แขน​ประมุข บอก​ให้​ทำใจ​ดีๆไว้​อย่า​เพิ่ง​คิด​อะไร​มาก

“ผม​รัก​บี​ครับ​แม่...อยาก​ได้ยิน​คำ​ว่า​พ่อ​จาก​ปาก​ของ​เขา​สัก​ครั้ง ผม​ไม่​เคย​ได้ยิน​จาก​ปาก​เขา​ตั้งแต่​เล็ก​จน​โต...ผม​เพิ่ง​รู้​ว่า รัก​ของ​ผม​คือ​บาป คำ​ว่า​พ่อ​ของ​ผม​คือ​รอย​ดำ​ที่​ทำให้​บี​สกปรก ผม​ไม่​ควรทำร้าย​ลูก​ใช่​ไหม​ครับ​แม่...” ประมุข​น้ำตา​ไหล​ร้องไห้​อยู่​เงียบๆ

“ทำไม​ลูก​ถึง​รัก​บี​มาก ไม่​ยอม​ให้​เรื่อง​ทั้งหมด​ตาย​ไป​เหมือน​ประจักษ์​กับ​ศรี​อำไพ”

ประมุข​เล่า​อย่าง​เจ็บปวด​ว่า เพราะ​ตน​รัก​ศรี​อำไพ​มาก ตน​สุขใจ​ที่​ได้​รัก​เธอ​แต่​ก็​เจ็บปวด​เหลือเกิน​ที่​เธอ​ไม่​รัก​ตอบ คุณหญิง​ถาม​ว่า​เพราะ​เขา​ทำ​กับ​พ่อ​แม่​เธอ​ไว้​หรือ​เปล่า

“อาจจะ​ใช่ ผม​เสียใจ ผม​อยาก​แก้ไข​ความ​ผิด แต่​ชีวิต​คน​แก้ไข​ตามใจ​เรา​ไม่ได้ ผม​ทำร้าย​เขา​ทั้งที่​รัก” ประมุข​ยิ่ง​เล่า​ก็​ยิ่ง​เศร้า คุณหญิง​ถาม​ว่า เรื่อง​อุบัติเหตุ​นั้น​ใช่​ไหม เขา​ส่าย​หน้า “ผม​ทำร้าย​เขา​จริง แต่​ผม​ไม่​เคย​คิด​ฆ่า​ไพ ผม​ทำ​ไป​เพราะ​ผม​รัก​บี...ไพรักบี ลูก​ที่​เกิด​จาก​ผม ผม​ควร​พอใจ​เท่านั้น ผม​ไม่​น่า​เลย​จริงๆ...”

ประมุข​ร้องไห้​ออก​มา​ด้วย​ความรู้สึก​ผิด เจ็บ​ช้ำ ทรมาน​ใจ.

เรืองย่อ ละคร รอยมาร 
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน1   
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน2   
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน3  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน4  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน5  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน6  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน7  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน8  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน9  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน10  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน11  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน12  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน13  
เรื่องย่อละคร รอยมาร   ตอน14  

No comments:

Post a Comment