Friday, September 23, 2011

ขาย แพทเทิร์นเสื้อโปโล สำเร็จรูป ( ไซด์มาตนฐานs.m.l.xl.xxl )โทร 0802591675

เมื่อ อยากทำเสื้อขาย  คุณจำเป็นต้องมี แพทเทิร์นเสื้อโปโล ต้องวิ่งไปจ้างเขาทำ แพทเทิร์น ถ้าคุณมีช่างที่เขาทำแพทเทิร์นอยู่แล้ว คงไม่มีปัญหาอะไร   แต่ ...ถ้าคุณไม่มีช่างทำแพทเทิร์น ที่รู้จัก ปัญหาเกิด ทันที ต้องวิ่งไปหาช่างทำแพทเทิร์น เปลืองทั้งคา่น้ำมัน เสิิยทั้งเวลา ไปก็ใช่ว่าจะได้เลย ต้องรอ ว่าช่างคนนั้นเขาว่าง คุยกับเราหรือ ถ้าไม่ว่าง ต้องนั้งรอ เสียอารมณ์ เสียเวลา พาลจะเลิกทำอาชีพทำเสื้อขายไปเลยก็มี
         ทางเรา รู้ถึงปัญหา ที่ท่านจะต้องเจอ แน่ๆ เราจึงเตรียมทางที่ดีกว่าไว้ให้ เพื่อเพิ่มความพร้อม ความรวดเร็ว ในการทำเสื้อเอาใว้ให้ท่านแล้ว
    แพทเทิร์นเสื้อโปโล สำเร็จรูป มีทุกไซด์ s.m.l.xl.xxl.  เป็น แบบมาตรฐานที่เขาใช้กันอยู่ในวงการ

โทรสั่งล่วงหน้ามา ถึงรับงานใด้ ทันที ติดต่อ ป่อง 0802591675
รับแกะแบบ เสื้อ ต่างๆ ด้วย นะพี่น้อง

เรื่อง รอยใหม ตอน10 ละครช่อง3


ตอนที่ 10

มณีรินพาคำเที่ยงกับบริวารมาเก็บดอกพิกุลในสวนเพื่อร้อยมาลัยถวายพระชายา อีเม้ยนำบริวารกลับมาจากตลาดเห็นเข้า ก็แกล้งเดินผ่ากลางวง คำเที่ยงไม่พอใจจะตามไปเอาเรื่อง แต่มณีรินห้ามไว้เพราะไม่คิดถือสา
ฝ่ายอีเม้ยเมื่อเดินพ้นไปแล้วก็สั่งให้บริวารนำของสดที่ซื้อมาไปเก็บก่อน ส่วนตัวเองวกกลับมาแอบดูความเป็นไปของมณีริน
“มึงเจอดีแน่...บ่เมินเกินรอหรอก” อีเม้ยถอยกลับออกมา พลันสะดุ้งเพราะเจ้าศิริวงศ์ยืนมองอยู่ มันออกตัวว่า จะเก็บดอกพิกุลไปให้บัวเงินถวายพระ แต่ไม่กล้าขอมณีรินเพราะเธอคงหวง แล้วขยับจะเดินหนี แต่เจ้าศิริวงศ์เรียกไว้พลางเอ่ยถามว่าบัวเงินเป็นอย่างไรบ้าง
“เปิ้นสบายดี ตามประสาเปิ้น เปิ้นทำใจ๋มาเมินแล้ว ว่าเปิ้นเป็นแค่เมียหม่อม คงจะมีความสุขบ่ได้มากไปกว่านี้ดอกเจ้า” อีเม้ยแนบเนียนไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรแล้วรีบจากไป เจ้าศิริวงศ์มองตามไม่วางใจนัก
สายวันเดียวกัน มณีรินนำมาลัยดอกพิกุลขึ้นถวายพระชายา และทูลว่าจะนำไปให้บัวเงินที่เรือนด้วย พระชายาชื่นชมน้ำใจของมณีริน เจ้าศิริวัฒนาที่นั่งอยู่ด้วยเห็นมาลัยยังเหลืออีกพวงจึงออกปาก
“ถ้ายังงั้น ก็ยังเหลืออีกพวงนึง...อ้ายขอได้ก่อ” เจ้าศิริวัฒนาส่งสายตาเว้าวอน
“จะไดจะบ่ ได้เจ้า เจ้ารินเปิ้นตั้งใจร้อยมาลัยพวงนี้มา ถวายเจ้าอยู่แล้วเจ้า” คำเที่ยงตอบแทน
เจ้าศิริวัฒนายิ้มเอื้อมมือมารับพวงมาลัยจากมณีริน “อ้ายจะเอาวางไว้ข้างหมอนคืนนี้ กลิ่นหอมๆ ของดอกพิกุลพวงน้อยนี่คงจะทำให้อ้ายนอนหลับฝันดี”
คำเที่ยงยิ้มหวานรู้สึกวาบหวามแต่มณีรินกลับอึดอัดใจเป็นที่สุด
“แม่บ่ได้ไปเยี่ยมบัวเงินสองสามวันแล้ว อาการแพ้เป็นจะไดพ่องก็บ่ฮู้” พระชายานึกขึ้นได้
เจ้าศิริวัฒนาทำท่าหนักใจทูลพระชายาว่า บัวเงินไม่มีอาการแพ้เท่าไหร่นัก แต่ที่น่าห่วงคือ เธอร้องจะกินแต่ของสดๆ คาวๆ ทั้งที่หมอบอกว่าไม่ดีต่อลูกในท้อง
“แล้วจะไดบ่เชื่อบ่ฟังหมอเปิ้น” พระชายาตำหนิ
“นังเม้ยน่ะแหละตัวดี แม่เจ้า นายมันอยากกินอะหยัง ก็บ่ทัดบ่ทาน สรรหามาให้กินจนได้”
“มันฮักนายของมันอย่างใดกันน้อ” พระชายาไม่ชอบใจนัก
ooooooo
เจ้าศิริวงศ์มาคุยอยู่กับสล่าพันเรื่องบัวเงินเพราะกลัวเธอจะไม่ยอมหยุดแค่นี้ สล่าพันมองโลกในแง่ดีปรามว่าบางทีเจ้าน้อยอาจคิดมากไป
“อ้ายพันอย่าลืมเน้อ ก่อนหน้านี้ เปิ้นยะอะหยังไว้ เปิ้นสมหวังมีลูกกับเจ้าอ้ายแล้วก็จริง แต่พ่อเจ้าก็เปลี่ยนกฎมณเฑียรบาล ยังไงเปิ้นก็บ่มีวันได้ขึ้นเป็นพระชายาเจ้าอ้าย ถ้าคิดอย่างเข้าข้างตัวเอง วิธีใดล่ะอ้ายที่จะทำให้เปิ้นสมหวังได้”
“ในเมื่อมีคนขวางทาง เฮาก็ต้องกำจัดคนที่ขวางทางนั้นให้พ้นไปเสีย เจ้าคิดว่าเปิ้นจะกล้าขนาดนั้นก๊ะ” สล่าพันไม่อยากเชื่อ
“คนเฮา...ทำได้ทุกอย่างละอ้าย เวลาเข้าตาจน ผิดถูกดีชั่วจะได ก็ช่างหัวมัน อู้ตามตรง...เฮาเป็นห่วงเจ้านางน้อยเปิ้น”
“แล้วเฮาควรจะยะอย่างใดดีเจ้า บอกให้ผู้ใดฮู้ก็บ่ได้”
“ทางที่ดีที่สุด ก็คงต้องคอยระวังอย่าให้มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับเปิ้นน่ะแหละอ้าย” เจ้าศิริวงศ์หนักใจ
ooooooo
มณีรินนำมาลัยดอกพิกุลกับขนมมาเยี่ยมบัวเงินที่เรือน บัวเงินสวมบทพี่สาวคนดีออกมาต้อนรับแล้วเรียกให้อีเม้ยเข้ามาฝากเนื้อฝากตัวกับมณีรินไว้ อีเม้ยรับมุกลงทุนก้มกราบมณีริน คำเที่ยงที่ตามมาด้วย นั่งคิ้วขมวดเป็นเลขแปดไม่เข้าใจว่า สองนายบ่าวจะมาไม้ไหนกันอีก
แต่เมื่อทั้งสองลากลับไปแล้ว บัวเงินก็กลับมาโหดเหี้ยมดังเดิม นางสั่งให้อีเม้ยนำขนมที่มณีรินนำมาเยี่ยมไปทิ้ง เพราะกลัวว่าจะทำของใส่มาให้กิน แล้วหันไปหยิบมาลัยดอกพิกุลมากระทืบด้วยความแค้นใจ อีเม้ยสะใจเป็นที่สุด แล้วกลางดึกคืนนั้นมันก็แอบไปที่เรือนมณีริน เพื่อนำงูเห่าใส่ลงในกระชุที่มณีรินใช้เก็บดอกไม้อยู่เป็นประจำเพื่อกำจัดศัตรูหัวใจให้ผู้เป็นนาย
เช้าวันใหม่ เจ้าศิริวัฒนาให้คนไปเรียกสล่าพันมาพบและตามเจ้าศิริวงศ์มาหารือเรื่องกิจการค้าไม้ เพราะคิดจะใช้เครื่องจักรมาชักลากไม้แทนช้าง แต่เจ้าศิริวงศ์ไม่เห็นด้วย แล้วสล่าพันก็คลานเข้ามา เจ้าศิริวัฒนาหยุดพักเรื่องงานหันมาคุยกับสล่าพันเรื่องงานแต่งงานของตนกับมณีรินเพราะอยากให้สล่าพันช่วยแต่งลำนำบทใหม่ให้
สล่าพันแนะนำให้เจ้าศิริวงศ์ทำหน้าที่แทน พร้อมการันตี “ฝีมือเจ้าน้อยเปิ้นดีวันดีคืน ยิ่งเอ่อ...เรื่องความฮักละก็ จับจิตจับใจนักขนาด ผมรับรอง”
“อ้ายพันก็พูดเกินไป” เจ้าศิริวงศ์จะปฏิเสธ แต่ไม่ทันเพราะเจ้าศิริวัฒนาเข้ามาขอร้องแกมบังคับ
“นึกซะว่าช่วยอ้าย อ้ายอยากให้ลำนำบทนี้เป็นของขวัญวันแต่งงานอีกอย่างนึงกับเจ้ารินเปิ้น ยังพอมีเวลา บ่ได้เร่งร้อนอะหยัง อย่าปฏิเสธอ้ายเลยเน้อ”
เจ้าศิริวงศ์นั่งอึ้งเหมือนถูกต้อนให้จนมุม
ขณะที่เจ้าศิริวงศ์กำลังคิดหนักเรื่องแต่งลำนำ มณีรินก็ชวนคำเที่ยงกับเหล่าบริวารไปเก็บดอกพิกุลในสวนเพราะอ่านหนังสือพบว่า ดอกพิกุลใช้เข้าเครื่องยาได้ด้วย จึงคิดจะนำมาผสมกับธูปที่จุดไหว้พระ
คำเที่ยงรีบคว้ากระชุจะตามมณีรินไป เธอนึกสงสัย ที่วันนี้กระชุหนักกว่าทุกวันจึงจะเปิดดู แต่บริวารนางหนึ่งร้องบอกว่า มณีรินออกไปแล้ว คำเที่ยงจึงเปลี่ยนใจหิ้วกระชุใบนั้นตามไปทันที
ระหว่างที่มณีริน คำเที่ยง และเหล่าบริวารเข้ามาในสวน อีเม้ยก็เข้าไปรายงานบัวเงินเรื่องงานวิวาห์ระหว่างเจ้าศิริวัฒนากับมณีรินว่า เจ้าหลวงตั้งใจจัดงานให้ทั้งคู่เป็นงานใหญ่ที่สุด หมดเปลืองเท่าไหร่ไม่ว่า แถมพระชายายังสั่งให้สล่าพัน ตีเครื่องทองชุดใหญ่และเลือกทับทิมเม็ดใหญ่เท่าไข่ห่านมาประดับเพื่อเป็นของขวัญให้มณีริน
“เม้ยบ่แปลกใจ๋เลย ว่าจะไดมันคืนแหวนทับทิมวงนี้มาให้หม่อมง่ายดายนัก ที่แท้แล้วมันฮู้ว่ามันกำลังจะได้ลาภก้อนใหญ่” อีเม้ยตบท้าย
“หุบปาก มึงจะพล่ามให้กูปวดหัวใจไปถึงไหนอีเม้ย” บัวเงินน้ำตาร่วง
“หม่อมกะเจ้า หม่อมบ่ต้องกลัวดอก คนมีบุญอย่างหม่อม ยังไงเทวดาอารักษ์ก็ปกปักฮักษา อีมารมณีรินน่ะ หม่อมเชื่อเม้ยเต๊อะ อายุมันบ่ยืนจนถึงวันแต่งงานดอก” อีเม้ยปลอบใจแล้วรีบคลานออกไปดูผลงานในสวน

เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าศิริวงศ์ลงมาเดินทำใจในสวน สล่าพันตามมาคุยด้วยเพราะอยากรู้ว่าหญิงที่อยู่ในใจเจ้าน้อยคือใคร เจ้าศิริวงศ์ละอายใจรีบปฏิเสธ

“เจ้าจะขี้จุ๊ไปทำไม ก็เสียงพิณที่เจ้าเล่นแต่ละครั้งมันฟ้องอยู่ อ้ายเห็นแม่หญิงของเจ้าจากเสียงพิณ แม่หญิงคนนั้นงดงาม อ่อนหวาน เหมือนดอกไม้ เหมือน...เหมือนใครดีน้อ...นึกออกแล้ว...งดงามเพียบพร้อมเหมือนเจ้านางมณีรินเปิ้น”สล่าพันแกล้งล้อ

“เหลวไหลใหญ่แล้ว อ้ายพัน”เจ้าศิริวงศ์ใจเต้นแรงรีบเดินหนี

สล่าพันมองตามยิ้มๆยังไม่เฉลียวใจอะไร แล้วเดินแยกไปอีกทางก็พบมณีริน คำเที่ยง และเหล่าบริวารช่วยกันเก็บดอกพิกุลอยู่ สล่าพันเข้าไปทำความเคารพมณีรินแล้วพูดคุยกับคำเที่ยงจนหลุดปากบอกเรื่องตนได้รับมอบหมายจากพระชายาให้ตีเครื่องทองชุดใหญ่เป็นของขวัญให้มณีรินในวันแต่งงานออกไป

“จะได บ่รอให้เอื้อยบัวเงินคลอดลูกก่อน เผื่อลูกเปิ้น ออกมาเป็นชาย” มณีรินได้ยินก็รีบค้าน

“จะเป็นชายหรือหญิงก็บ่สำคัญดอกครับเจ้านางน้อย เจ้าหลวงเปิ้นให้ยกเว้นกฎมณเฑียรบาลแล้ว อย่างใดเสียเจ้านางน้อยก็ต้องเป็นเจ้าเวียงเชียงใหม่คนต่อไปครับ” สล่าพันยืนยัน

มณีรินหน้าซีดฝันสลาย ผิดกับคำเที่ยงที่ยิ้มหน้าบานสมใจเป็นที่สุด

ooooooo

เจ้าศิริวงศ์เดินทอดอารมณ์มาในสวน เห็นคนสวนดายหญ้าอยู่มุมหนึ่งและมีธูปจุดปักเอาไว้จึงเอ่ยถาม

“ดายหญ้าต้องจุดธูปด้วยก๊ะ”

คนสวนยกมือไหว้เจ้าศิริวงศ์พลางอธิบายว่า เป็นการขอขมาลาโทษเพราะเมื่อวันก่อนเจองูเห่าตัวใหญ่คิดว่าคงเป็นงูเจ้าที่ก็เลยจับใส่กระสอบตั้งใจจะเอาไปปล่อยในป่า แต่อีเม้ยมาเห็นเข้า จึงเอ่ยปากขอ

“มันว่าหม่อมเปิ้นกำลังอยากกินอยู่พอดี มันจะเอาเนื้อไปผัดเผ็ด ดีงูก็จะดองเหล้าทำยาให้นายมันครับ ผมมานึกดูอีกที ผมบ่น่าให้มันไปเลย บาปกรรมแต๊ๆ ถ้าเปิ้นเป็นงูเจ้าที่เจ้าทางจริงๆ ผมว่าเปิ้นจะปิ๊กมาล้างแค้นผมน่ะครับ” คนสวนไม่สบายใจนัก

เจ้าศิริวงศ์อึ้งรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมา

เวลาเดียวกันนั้น มณีรินก็หันมาปรับทุกข์กับคำเที่ยงถึงเรื่องบัวเงิน เพราะเห็นใจที่ไม่ได้รับความยุติธรรม แต่คำเที่ยงยังยืนกรานว่ายังไงเจ้านางน้อยก็แต่งงานกับเจ้าศิริวัฒนาและขึ้นเป็นพระชายาอยู่ดี

“จะไดเสีย เฮาก็บ่อยากแต่ง เฮาจะไปทูลเจ้าหลวงกับแม่เจ้าเปิ้นตามตรง ว่าเฮาบ่อยากแต่ง เฮาว่าเปิ้นมีเมตตาพอที่จะเข้าใจความฮู้สึกของเฮา เฮาจะกราบทูลเปิ้นวันนี้เลย”

“วันนี้ฟ้าหลัว ฤกษ์บ่ดีดอก”

“จะเร็วจะช้า เฮาก็ต้องพูดความจริงจากใจเฮา ฤกษ์ยามบ่สำคัญดอกพี่คำเที่ยง”มณีรินดึงกระชุไปจากมือคำเที่ยง คำเที่ยงขยับจะตามแต่มณีรินสั่งห้าม“อย่าตามเฮามาเน้อ เฮาอยากอยู่เงียบๆคนเดียว”มณีรินเดินลิ่วๆออกไป

อีเม้ยที่แอบดูอยู่หลังพุ่มไม้ ตามไปห่างเพราะอยากเห็นช็อตเด็ดด้วยตาตัวเอง

มณีรินเดินมาได้สักพักก็หยุดชะงักเพราะเห็นเจ้าศิริวงศ์เดินมาจากอีกทาง เธอตรงเข้าต่อว่าทั้งน้ำตา

“โตก็ฮู้เรื่องที่เจ้าหลวงเปิ้นยกเว้นกฎมณเฑียรบาลใช่ก่อ แล้วจะไดโตบ่บอกเฮาซักคำ ปล่อยให้เฮามีความหวังจะได้ปิ๊กบ้านเกิดของเฮาอยู่ได้ โตเป็นเพื่อนเฮาจะได บ่ยอมบอก ความจริงกับเฮา เฮาชังโตนัก โตจะแกล้งให้เฮาทุกข์ใจไปถึงไหน”

“เจ้านางน้อยแล้วเจ้านางน้อยคิดว่า เฮาบ่ทุกข์ใจ๋ก๊ะ ที่ต้องทนเห็นน้ำตาเจ้านางน้อยจะอี้”

“คนที่สมควรจะได้แต่งงานกับเจ้าเปิ้น คือเอื้อยบัวเงิน บ่ใช่เฮา...เฮาไปหาเจ้าอ้ายของโต เฮาจะไปบอกความจริงเปิ้นทั้งหมด ว่าเฮาบ่ได้ฮักเปิ้น เฮาบ่ต้องการเข้าพิธีแต่งงานกับเปิ้น”

“เจ้านางน้อย...ฟังเฮาเน้อ...เฮาได้เกิดมาเป็นคนกะเปิ้นชาตินึง นับว่าเป็นบุญแล้ว โชคชะตาได้กำหนดทุกอย่างเอาไว้แล้ว ความภาคภูมิใจอะหยังก็คงบ่เท่าได้ทำหน้าที่ของตัวเองในฐานะข้าแผ่นดินให้สมบูรณ์พร้อม เชียงใหม่กับเชียงตุงจะสานสัมพันธ์เป็นบ้านพี่เมืองน้องกันสืบไปก็เพราะความเสียสละของเจ้านางมณีรินเน้อ” เจ้าศิริวงศ์เตือนสติ

มณีรินยิ่งน้ำตาร่วงพรู เจ้าศิริวงศ์อยากจะสวมกอดปลอบใจ ใจแทบขาด แต่ก็ทำไม่ได้ จำต้องรักษาระยะห่างเอาไว้

อีเม้ยที่แอบดูอยู่ห่างๆอึดอัดใจเป็นที่สุดเพราะมณีรินไม่ถูกงูเห่ากัดสักที ขณะที่มันเฝ้าภาวนาอยู่นั้น สล่าพันก็ผ่านมาเห็นเข้าจึงร้องถามว่า มาทำอะไรแถวนี้

อีเม้ยสะดุ้งรีบโกหก “ข้าเจ้า...ข้าเจ้ามาหาดูผึ้ง เผื่อว่าจะมีรังใหญ่ๆน้ำหวานนักๆจะได้ให้คนมาตี”

“บ่มีดอก แถวนี้ แล้วจะได เอ็งบ่อยู่ดูแลนายเอ็ง ทุกทีเห็นนายเอ็งที่ใดก็เห็นเอ็งที่นั่น”สล่าพันซักต่อเพราะไม่ไว้ใจมันนัก

“หม่อมเปิ้นเอนหลังอยู่ ข้าเจ้าเลยออกมาเดินเล่น ป่านนี้คงจะตื่นแล้ว ข้าเจ้าไปละเน้อ”  อีเม้ยชิ่งออกมา เพราะเหลือบเห็นมณีรินกับเจ้าศิริวงศ์เดินออกไปอีกทางแล้ว

เจ้าศิริวงศ์ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้มณีรินซับน้ำตา มณีรินเริ่มคิดได้รับปากว่าจะไม่ร้องไห้อีกแต่ไม่วายบ่นว่าคงหมดโอกาสได้กลับเชียงตุงบ้านเกิดแล้ว

“ทำไมโตคิดจะฮั้น แต่งงานกับเจ้าอ้ายของเฮาแล้ว ได้เป็นชายาเปิ้น โตจะปิ๊กไปเยี่ยมบ้านเกิดเมื่อใดก็ได้”

“แล้วโตยังอยากจะไปแอ่วเชียงตุงก่อ”

“ไปสิ...จะไดก็ต้องไปแอ่วสักครั้งนึงในชีวิตให้ได้” เจ้าศิริวงศ์ส่งยิ้มให้

มณีรินยิ้มเศร้าแล้วเปลี่ยนเรื่องชวนเจ้าศิริวงศ์ช่วยกันเก็บดอกพิกุลเพื่อนำไปทำธูป

ooooooo

เมื่อเก็บได้มากพอแล้วมณีรินก็เรียกหากระชุมาใส่ เจ้าศิริวงศ์เอื้อมไปหยิบกระชุมาส่งให้และรู้สึกแปลกๆเพราะมันหนักอึ้งๆ มณีรินยื่นมือมารอจะใส่ดอกไม้ เจ้าศิริวงศ์เปิดฝากระชุออก อีเม้ยที่แอบดูพึมพำแช่งให้มณีรินไปลงนรกเพราะงูเห่าที่อยู่ในกระชุกำลังแผ่พังพานแล้วพุ่งออกมา
เจ้าศิริวงศ์ผลักมณีรินออกไปพร้อมเหวี่ยงกระชุทิ้งออกไปจากตัว มณีรินล้มลงกับพื้น งูเห่าถูกเหวี่ยงอยู่กลางอากาศ แต่ไม่วายหันมาฉกเข้าที่แขนของเจ้าศิริวงศ์เต็มเขี้ยว มณีรินกรีดร้องสุดเสียง
อีเม้ยสะใจคิดว่ามณีรินโดนกัดเพราะเธอเห็นมณีรินล้มลงไป คำเที่ยงกับหมู่มวลได้ยินเสียงมณีรินก็วิ่งกรูกันมาจากอีกทาง พลางวิ่งหาไม้ไล่ตีงูกันจ้าละหวั่น
เจ้าศิริวงศ์ทนพิษไม่ไหวทรุดลงกับพื้น มณีรินรีบเข้ามาดู แล้วเรียกให้คำเที่ยงไปตามหมอ
“อะหยังนะเจ้าริน” คำเที่ยงยังงงไม่หาย
“เจ้าน้อยเปิ้น โดนงูขบ ช่วยกันโวยๆ” มณีรินตะโกนลั่น
อีเม้ยเงี่ยหูฟังและได้ยินชัดเจนถึงกับหัวเสีย “เป็นจะอี้ได้จะไดวะ”
“เจ้าน้อยโดนงูขบ อีพวกนี้ยังยืนเฉยกันอยู่อีก ใครก็ได้ไปตามหมอมาโวย” คำเที่ยงสติแตก เห็นบริวารคนหนึ่งวิ่งออกไป
เจ้าศิริวงศ์ปวดหนักขึ้นเรื่อยๆอาการไม่สู้ดีนัก คำเที่ยงปราดเข้ามาถามเรื่องราวเพราะสงสัยว่างูเข้าไปอยู่ในกระชุได้อย่างไร
“อย่าเพิ่งถามอะหยังตอนนี้เลยพี่คำเที่ยง เฮาต้องช่วยเจ้าน้อยเปิ้นให้ได้ก่อน” มณีรินน้ำตาร่วงร้องเรียกเจ้าน้อยเสียงสั่น “เจ้าน้อย โตจะตายบ่ได้เน้อโตจะตายบ่ได้ ได้ยินเฮาก่อ เฮาบ่ยอมให้โตตายดอก เฮายังมีอะไรๆที่ต้องบอกโตอีกมากมาย โตจะจากเฮาไปตอนนี้บ่ได้ หมอมารึยัง พี่คำเที่ยงหมอมารึยัง”
“ยังบ่เห็นหัวเลย จะไดมันช้านัก”
“เจ้านางน้อย...เจ้าอ้ายของเฮา เปิ้นเป็นคนดีนักขนาด เจ้านางน้อยจะฮักเปิ้นได้บ่ยากดอก เปิ้นจะเป็นที่พึ่งเจ้านางน้อยได้” เจ้าศิริวงศ์สั่งเสียเพราะคิดว่าตนคงไม่รอดแน่
“อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้ตอนนี้ได้ไหม หมอมารึยัง พี่คำเที่ยง”
คำเที่ยงพูดไม่ออก ได้แต่ส่ายหน้า
มณีรินตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ก้มลงดูดพิษงูจากแผลรอยเขี้ยวทันที คำเที่ยงกับบริวารกรีดร้องตกใจ
“เจ้านางน้อย...ทำอย่างนี้ทำไม” เจ้าศิริวงศ์ร้องห้ามเมื่อเห็นมณีรินดูดพิษงูออกมาบ้วนทิ้งและจะทำซ้ำ
“เฮาบ่กลัวดอกความตาย เฮาเคยตายมาแล้วหนนึง แล้วคนที่ดึงเฮาปิ๊กมาก็คือโต วันนี้ยังไงเฮาก็ต้องดึงโตปิ๊กมาให้ได้เหมือนกัน โตจะตายบ่ได้ อย่างน้อยโตก็ต้องทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ โตเคยบอกว่าจะไปแอ่วเชียงตุงบ้านเกิดเฮาไง เจ้าน้อยโตต้องไปเชียงตุงกับเฮาเน้อเจ้าน้อย” มณีรินทวงสัญญาแล้วก้มลงดูดพิษอีก
เจ้าศิริวงศ์แทบจะหายเจ็บในทันที
อีเม้ยเห็นทุกสิ่งทุกอย่างกับตา มันคิดว่ายังไงเจ้าศิริวงศ์ก็คงไม่รอด และถ้าโชคดีอีกชั้น มณีรินก็อาจจะมีอันเป็นไปด้วย มันรีบผละออกจากไป จึงไม่ทันเห็นสล่าพันวิ่งเข้ามาและช่วยรักษาเจ้าศิริวงศ์ด้วยสมุนไพรจนอาการดีขึ้นพ้นขีดอันตราย แต่มณีรินกลับอาการทรุดเพราะกลืนพิษงูเข้าไป สล่าพันใช้สมุนไพรตัวเดียวกันต้มให้มณีรินดื่มเพื่อขับพิษ
เป็นเวลาเดียวกันที่เจ้าหลวง พระชายา และเจ้าศิริวัฒนาทราบเรื่องจากมหาดเล็ก ทั้งหมดร้อนใจรีบลงมาดู แต่เจ้าศิริวัฒนามาถึงก่อนจึงเข้าประคองมณีรินที่กำลังจะหมดสติ
เจ้าศิริวงศ์มองมณีรินที่อยู่ในอ้อมกอดเจ้าศิริวัฒนาด้วยความเป็นห่วง มณีรินมองเจ้าศิริวงศ์ฝืนยิ้มให้ ก่อนจะหมดสติลงท่ามกลางเสียงเรียกของเหล่าบริวาร
ขณะที่บัวเงินก็เดินพล่านเพราะกลัวมณีรินจะไม่ตายสมใจ อีเม้ยรีบเข้ามารายงานว่า อาการมณีรินกับเจ้าศิริวงศ์หนักพอกันทั้งคู่ แต่เจ้าหลวงโกรธมากสั่งจะตัดหัวคนสวนที่ปล่อยให้มีงูเห่าในคุ้ม
“อีเม้ย...ถ้าเปิ้นสืบสาวราวเรื่องเค้นคอมันขึ้นมา จะว่าจะไดกั๋น มึงกับกูบ่พลอยติดร่างแหไปตวยก๊ะ อย่างน้อยเปิ้นก่อต้องสงสัยว่าไอ้เห่าตั๋วนั้นมันเข้าไปอยู่ในกระชุได้อย่างใด กูควรทำยังใดดี” บัวเงินร้อนรน
“จะอั้น หม่อมก่อต้องทำเป๋นรีบไปผ่อเหตุการณ์เจ้า”
“กูควรจะทำเป๋นฮ้องไห้ตกใจ๋แต่พองามใจ่ก่ออีเม้ย”
“เจ้า หื้อแต่พองาม เม้ยแน่ใจ๋ว่าหม่อมของเม้ยทำได้เจ้า” อีเม้ยยิ้มให้กำลังใจ
บัวเงินรีบรุดออกไปหน้าบันได อีเม้ยจัดรองเท้ามาวางให้บัวเงินใส่ก่อนลงไป บัวเงินก้าวลงบันได แต่เหยียบเอาชายผ้าคล้องไหล่ที่ชายห้อยลงมาจึงเสียหลักกลิ้งตกบันได
“หม่อมกะเจ้า หม่อมของเม้ย” อีเม้ยตามมาประคอง
บัวเงินยันกายลุกขึ้นก็เห็นมีเลือดไหลออกมาก็กรี๊ดลั่น “อีเม้ย...ลูกกู...ลูกกู”
ooooooo
เจ้าหลวงกับพระชายาถึงกับนั่งไม่ติดเพราะเป็นห่วงมณีริน ทั้งสองตามมาเฝ้าอยู่หน้าห้องเพราะหมอหลวงกำลังตรวจอาการมณีรินอยู่ สักพักอีเม้ยก็พรวดพราดเข้ามาทูลเจ้าหลวงกับพระชายา ว่าบัวเงินตกบันไดเลือดออกมากสงสัยจะแท้งลูก และขอให้หมอไปรักษาบัวเงิน แต่เจ้าหลวงสั่งให้คอยก่อนเพราะหมอกำลังรักษามณีรินอยู่
“เจ้าหลวงบ่คิดว่า  ลูกในท้องของหม่อมเปิ้นเป็นหลานก๊ะ ถึงจะต้องให้คอย” อีเม้ยลืมตัว
“อีเม้ย อีไพร่ระยำ มึงอู้อะหยังออกมา มึงฮู้ตัวมึงก่อ” เจ้าหลวงโกรธชี้หน้าอีเม้ยจะเอาเรื่อง
อีเม้ยจำใจก้มหน้าลงทั้งที่ตายังแข็งกร้าว กัดฟันแน่นเจ็บแค้นแทนนาย
หมอตรวจอาการมณีรินเสร็จก็หันมาทูลเจ้าศิริวัฒนาว่า เจ้านางน้อยปลอยภัยแล้วให้พักผ่อนมากๆอีกไม่นานก็กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม เจ้าศิริวัฒนาเบาใจ สั่งให้หมอไปดูอาการเจ้าศิริวงศ์ด้วย หมอรับคำขยับจะคลานออกไป แต่ คำเที่ยงคลานสวนเข้ามารายงานว่า อีเม้ยมาตามให้หมอไปดูหม่อมบัวเงิน
มณีรินได้ยินชื่อบัวเงินก็ลืมตาขึ้น
“มันบ่ฮู้ก๊ะว่ามีคนเจ็บที่หมอเปิ้นต้องดูแล นายมันจะเป็นอะหยังนักหนา นอกจากแพ้ท้อง อ้วกแตก อ้วกแตน” เจ้าศิริวัฒนาไม่พอใจ

หุ่นยนต์เต็น nobody wonder girl น่ารักโครตๆๆๆ



Nobody 機器人





sorry sorry


Nobody 機器人




Nobody 機器人