พวกมันมีชื่อเรียกว่า "แพะภูเขา" ไม่มีในเมืองไทยนะ เจอได้ที่แถบอเมริกาเหนือ ในป่าอนุรักษ์หลายแห่งด้วยกัน
ทั้งแพะภูเขาตัวเมียและตัวผู้จะมีเครา หางสั้น และเขาสีดำยาวประมาณ 15-18 เซนติเมตร ซึ่งจะมีรอยห่วงรอบเขาหลายวง บอกจำนวนอายุของมัน แพะภูเขาสูงประมาณ 1 เมตรวัดจากพื้นถึงช่วงไหล่ หนักประมาณ 45-136 กิโลกรัม (อ้วนพอตัวนะเนี่ย)
แพะภูเขาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพียงชนิดเดียวที่พบในความสูงขนาดที่มัน อาศัยอยู่ คือสูงประมาณ 4 พันเมตรจากระดับน้ำทะเล แต่ก็มีอพยพขึ้นสูงกว่านี้บ้าง ลงต่ำกว่านี้บ้าง ตามฤดู
ขนสีขาวช่วยปกป้องพวกมันจากอากาศหนาวเย็นอันหฤโหด เนื่องจากพวกมันอยู่ในพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลมาก อากาศบริเวณนั้นจึงหนาวถึงขั้นติดลบ และที่ขนของพวกมันช่วยป้องกันความหนาวได้นั้น ก็เพราะมีสองชั้น ชั้นในจะสั้น ส่วนชั้นนอกจะยาวกว่า
ในหน้าหนาว ขนสองชั้นนี้จะช่วยป้องกันอากาศหนาวได้ถึง -46 องศาเซลเซียส และป้องกันลมที่มีความแรงได้ถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ พวกมันจะผลัดขนด้วยการเอาตัวไปถูกับต้นไม้หรือหิน
ส่วนที่พวกแพะภูเขาปีนเขาได้เก่งๆ แบบนี้ ก็เพราะพวกมันมีกีบเท้าที่สร้างมาเพื่อการปีนป่ายโดยเฉพาะ คือหนาและสาก ยึดเกาะได้ดี
แน่นอน เป็นแพะก็ต้องกินหญ้า ไม่เว้นแม้แต่แพะภูเขา พวกมันเป็นมังสวิรัติ และจะใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการเล็มหญ้า เคี้ยวเอื้อง อาหารของพวกมันได้แก่ หญ้าชนิดต่างๆ ใบเฟิร์น สมุนไพร มอส ใบไม้จากต้นไม้เล็กๆ และต้นสน
ส่วนสาเหตุที่พวกมันต้องปีนหน้าผากายกรรมกันแบบนี้ ก็มีหลายปัจจัยด้วยกัน
อย่างแรกเลยคือ เพื่อหาอาหาร และหลบภัยจากสัตว์นักล่า เหตุผลนี้ทำให้มันต้องปีนหน้าผาทุกวัน เพื่อหลบซ่อนและพักอาศัย
อย่างที่สองคือ เพื่อหาแร่ธาตุ ซึ่งเป็นกิจกรรมสุดโปรดของแพะภูเขาในช่วงฤดูหนาว แพะภูเขาจะไต่หน้าผาลงมาจากระดับ 4 พันเมตรที่พวกมันอยู่ มาที่หน้าผาระดับต่ำ เพื่อ "เลีย" แร่ธาตุจำพวกเกลือและแร่ธาตุอื่นๆ บนเนื้อหิน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกมันมาก อาจจะต้องเดินทางหลายกิโลเมตรในแนวตั้งเลยทีเดียว
No comments:
Post a Comment