เรื่องย่อ ละคร ในรอยรัก ช่อง7
1 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 1 ช่ อ ง 7
2 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 2 ช่ อ ง 7
3 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 3 ช่ อ ง 7
4 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 4 ช่ อ ง 7
5 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 5 ช่ อ ง 7
6 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 6 ช่ อ ง 7
7 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 7 ช่ อ ง 7
8 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 8 ช่ อ ง 7
9 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 9 ช่ อ ง 7
10 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน10 ช่ อ ง 7
11 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 11 ช่ อ ง 7
ตอน 3
กุเทพขับรถไปเล่นบีบีไปด้วย พอมีสายเข้าอีกเครื่องที่กานนถืออยู่ กุเทพจึงให้ช่วยรับสายที กานน รับแล้วต้องใจหายวาบเพราะได้ยินเสียงคุ้นหู
“ขอโทษทีค่ะ มัสแต่งตัวอยู่เลยไม่ได้รับสาย พี่กุรู้มั้ยคะว่ามัสเจอใครก่อนเข้ามาทํางาน”
“เอ่อ...ฟังอยู่ครับ”
“วันนี้มาแปลก ไม่สะดวกคุยรึเปล่าคะ หรือว่าอยู่ในห้องนํ้า” ม่านมัสลินหัวเราะ
“ครับ เอ๊ย ไม่ใช่ คือ...ผมไม่ใช่กุเทพหรอกนะครับ เป็นอาเขา”
ม่านมัสลินรีบขอโทษ กานนบอกจะให้กุเทพโทร.กลับ แต่เธอบอกไม่ได้มีธุระอะไร เห็นโทร.มาจึงโทร.กลับเท่านั้น ม่านมัสลินรู้สึกคุ้นเสียงกานนจึงถามว่าเราเคยคุยกันมาก่อนหรือเปล่า กานนก็รู้สึก แต่เขาอาจเคยรับสายแทนกุเทพมาก่อน กานนเห็นกุเทพเหล่มองจึงขอวางสาย
“ถึงกับเหม่อลอยเหรอครับ มัสลินของผมน่ารักสมคําคุยใช่มั้ยล่ะ” กุเทพกระเซ้า
“ฉันคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ต่างหาก มัสลินเสียงเหมือนคนที่ฉันรู้จัก...เหมือนมาก”
“งั้นเหรอฮะ ไม่แน่นะฮะ บางทีอาปลิวกับมัสอาจจะรู้จักกันอยู่แล้วก็ได้”
“ไอ้บ้ากุ ฉันไม่ได้แก่ขนาดจะจําไม่ได้นะว่าฉันรู้จักใคร ขับรถไป...”
ม่านมัสลินเองก็เหม่อลอยคิดถึงนํ้าเสียงกานน เกวลิน มาเห็นกระเซ้าว่ายิ้มคนเดียวได้ด้วย ม่านมัสลินรู้สึกว่าเกวลินเหมือนมีเรื่องในใจจึงถาม แต่เธอผลัดขอคุยหลังเลิกงาน เธอแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ เอยืนมองสองสาวคุยกันอย่างหมายมาด คิดถึงแผนร้ายที่พินสุดาสั่งมา
ในงานมีนักข่าวมากมาย กุเทพเห็นแล้วแขยงชักไม่อยากเข้าไป เกรงเจอกับพินสุดา แต่กานนเตือนว่าไม่ทันแล้ว เพราะเห็นมธุรินเดินคุยกับพินสุดา มธุรินยังไม่เห็นกานน
“ฉันคุยกับเขาว่าจะจบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกลางวัน แต่ฉัน ก็เผลอปากเล่าให้แกฟัง ฉันไม่คิดว่าจะเจอเขาแบบนั้นนี่ แถมแกยังไปด่าเขาซะลั่นอีก เฮ้อ...” มธุรินรู้สึกผิดต่อม่านมัสลิน
พินสุดาเอ็ดว่าเพี้ยนไปแล้วที่ไปเห็นใจม่านมัสลิน กานนกับกุเทพลอบมองสองสาวคุยกัน กุเทพบอกว่า เขาจะ เข้าไปจัดการซื้อนาฬิกาแล้วกลับเลย แต่กานนรู้สึกเป็นห่วงมธุรินว่ามีเรื่องอะไรกัน ดูท่ามธุรินจะปลีกตัวแต่พินสุดารั้งเธอไว้ กานนจึงเดินเข้าไปหา กุเทพจําต้องตาม
สุดท้ายกานนกับกุเทพเข้ามานั่งในงานคู่กับมธุรินและพินสุดา กุเทพนั่งนิ่งไม่สนใจพินสุดาจนเธอต้องชวนคุย
“เราไม่ได้ออกงานด้วยกันอย่างนี้มานานเท่าไรแล้ว เซอร์ไพรส์กิ๊บเหรอคะ” พอเห็นกุเทพนั่งนิ่งจึงแขวะ “รอดูนังมัสลินเหรอคะ”
“ถามจริงเถอะกิ๊บ เมื่อไหร่คุณจะเลิกคิดอคติกับมัสเขาซะที” กุเทพหันมาจ้องหน้า
พินสุดากัดฟันกรอดตอบว่า เมื่อมันตาย กุเทพทอดถอนใจ...กานนชวนมธุรินคุยให้สบายใจ พินสุดาหมั่นไส้แกล้งพูดเข้าหูกุเทพเรื่องที่มธุรินตบม่านมัสลิน กุเทพตกใจเล็กน้อย
“ผมไม่บ้าไปกับคุณหรอก แล้วถ้าคุณไม่หยุดพูดเรื่องไร้สาระ ผมจะลุกหนีให้คุณอายนักข่าวเดี๋ยวนี้เลย”
“มีคุณนั่นล่ะที่โง่คบมันอยู่คนเดียว” พินสุดาโมโห แต่พอกุเทพจะลุกขึ้น เธอรีบบอกว่า “มาโน่นแล้วแม่นางฟ้าของคุณ”
ทั้งกุเทพและกานนตะลึงมองบนเวที เห็นม่านมัสลินในชุดหรู สวมนาฬิกาเรือนสวยเดินแบบอย่างคล่องแคล่วกานนแทบช็อกเมื่อเห็นม่านมัสลิน ม่านมัสลินหยุดโพสท่า เหลือบตามาเห็นกานนก็ชะงักเช่นกัน แต่พอเห็นมธุรินคล้องแขนอยู่ข้างๆ ก็รีบเมินหน้าหนี
ระหว่างที่นางแบบอยู่บนเวที เอแอบถือถุงกระดาษมาที่ราวเสื้อผ้ากับรองเท้าของม่านมัสลิน...มธุรินเห็นกานนมองบนเวทีจึงมองตาม แล้วต้องอุทานเรียกชื่อม่านมัสลิน กานนตกใจเมื่อรู้ว่าเธอคนนั้นคือม่านมัสลิน มธุรินหน้าซีดนึกถึงคำขู่ของพินสุดาที่ว่า
“แล้วแกจะต้องขอบคุณฉัน นังมัสลินมันจะอยู่บนแคตวอล์กเลือด หึๆๆๆ”
มธุรินอยากจะบอกกานน เผอิญกุเทพขัดจังหวะถามขึ้นว่าเธอหน้าซีดไม่สบายหรือ...หลังเวที นางแบบรีบเปลี่ยนเสื้อชุดใหม่ เกวลินยืนดูม่านมัสลินอย่างชื่นชม แต่พอเธอสวมรองเท้าก็ร้องขึ้นแล้วทรุดลงกุมเท้า เลือดอาบ เกวลินเข้ามาดูรองเท้ามีเศษแก้วจึงโวยลั่นว่าใครทำ
พินสุดาได้รับข้อความว่าทุกอย่างเรียบร้อยก็ยิ้มย่อง มธุรินสังเกตเห็นหวั่นใจ นางแบบพากันทยอยเดินออกมา ม่านมัสลินบอกเกวลินว่าตนต้องทำงานให้เสร็จ ยังไปโรงพยาบาลไม่ได้ขอแค่เอาผ้าพันแผลไว้ก่อน แล้วม่านมัสลินก็เดินออกมาอย่างสง่างาม พินสุดาตาเหลือก มธุรินโล่งใจที่ไม่เกิดอะไรขึ้นกับม่านมัสลิน ไม่ทันไร ม่านมัสลินกัดฟันเดินจนจะกลับเข้าหลังเวทีก็ทรุดฮวบลง กานนกับกุเทพตกใจลุกพรวดขึ้นวิ่งไปช่วย มธุรินเขม่นมอง พินสุดาหัวเราะออกมา
“ก็บอกแล้วไง เวทีเลือด ไม่เห็นเหรอ ฮ่าๆๆๆ”
หลังเวทีเกิดความวุ่นวาย นักข่าวตามมาถ่ายภาพ เกวลินประคองม่านมัสลินไปปากก็บ่นว่าใครทำ เอถือกระเป๋าม่านมัสลินเข้ามาแกล้งทำสะดุดล้ม ของกระจายออกมา มีถุงเศษแก้วรวมอยู่ด้วย แล้วทำเป็นเอะอะ “ตายแล้ว ทำไมในกระเป๋าน้องมัสลินมีของแบบนี้ล่ะคะ”
ทุกคนตกตะลึง เข้าใจว่าม่านมัสลินสร้างกระแสให้ตัวเองดัง กานนกับกุเทพเข้ามาไม่สนใจรีบพาม่านมัสลินไปหาหมอ มธุรินเกาะแขนกานนยืนช็อก กุเทพจึงเป็นคนอุ้มเธอไป
ooooooo
กานนขับรถมาส่งมธุรินที่บ้าน ท่าทางเธอกังวลใจเรื่องม่านมัสลิน เธอเล่าให้กานนฟังที่มีเรื่องกัน เพราะเกรงม่านมัสลินจะเข้าใจว่าตนทำ กานนปลอบ ถ้าบริสุทธิ์ใจจะคิดมากไปทำไมคนที่ทำยังไม่คิดเลย มธุรินตกใจที่กานนรู้ กานนเดาเอาและปลอบมธุรินที่ดูยังขวัญเสีย...ออกจากบ้านมธุริน กานนก็วกรถไปดูอาการม่านมัสลินที่โรงพยาบาลทันที
เกวลินกระวนกระวายอยู่หน้าห้องฉุกเฉินกับกุเทพ ไม่นาน ดุสิตตามมาพร้อมคิมเพราะเห็นข่าว หมอออกมา ทุกคนกรูเข้าถาม หมออธิบายว่า เคสแบบนี้น่าจะรีบมาไม่ควรปล่อยให้เสียเลือดมาก หมอได้เย็บแผลและให้ยาคนไข้ได้พักผ่อน คิมรีบถามจะเดินได้เหมือนเดิมไหม
“ถ้าดูแลแผลดี ไม่ติดเชื้อ แผลหายคนไข้ก็เดินได้ปกติ อีกสักพักพยาบาลเขาก็จะย้ายคนไข้ไปห้องพักฟื้นชั่วคราว” หมอเดินไป พยาบาลเข้ามาบอกว่าหมออนุญาตให้กลับบ้านได้
บุรุษพยาบาลเข็นม่านมัสลินออกมา คิมถลาเข้าจับแขนเธออย่างห่วงใย กุเทพไม่พอใจดึงแขนเธอออกแล้วพูดอย่างเป็นเจ้าของไข้ “พี่ว่าจะให้มัสพักที่นี่สักคืน มัสว่าไงครับ”
ทุกคนรุมล้อมม่านมัสลิน เธอเหลือบไปเห็นกานนมุมหนึ่ง ทั้งสองสบตากัน กุเทพมองตามแต่กานนไปแล้ว เกวลินบอกจะอยู่เฝ้าไข้เอง...คืนนั้น กานนขับรถกลับบ้าน ในสมองเขานึกทบทวนถึงม่านมัสลิน แต่มาสะดุดที่คำพูดของกุเทพที่ว่า...คนนี้รักจริงหวังแต่ง
ม่านมัสลินตื่นมากลางดึก เห็นกุเทพนั่งเล่นเน็ตอยู่ก็ถามหาเกวลิน กุเทพตอบว่ากลับไปเอาเสื้อผ้า ม่านมัสลินอยากถามถึงใครบางคน จึงเอ่ยว่า เห็นเขามากับใครหลายคน
“อ๋อก็กิ๊บ...อาปลิวคุณอาพี่ ที่มัสเคยคุยโทรศัพท์ด้วยไง แล้วก็คุณเดียร์ แฟนอาปลิวเขา”
ม่านมัสลินเจ็บจี๊ดในใจ เกวลินเข้ามาพอดี ต่่อว่ากุเทพว่าทำให้คนไข้ตื่น ม่านมัสลินเหม่อลอยไร้ชีวิตชีวาเสียแล้ว เพราะความสุขเดียวที่พอจะมี มันหลุดลอยไปในพริบตา
คืนเดียวกัน จิรดามาบ้านสวนในสภาพเมา ม่านมุกบ่นมาแบบนี้ไม่มีประโยชน์จะคุยกัน
“คิดว่าหนูไม่รู้เหรอว่าแม่เรียกหนูมาทำไม นังมัสมันฟ้องเรื่องมันโดนตบละสิ ก็มันอยากแส่หาเรื่องไม่เข้าท่า ดีสมน้ำหน้ามัน” จิรดาโวย
“ฉันไม่ได้รู้เรื่องจากมัสลิน...บัวบงกชมาที่นี่”
จิรดาแทบสร่างเมา รีบถามว่ามาฟ้องอะไร ม่านมุกเดินหนีขึ้นห้อง จิรดาร้องเรียกให้กลับลงมา อาละวาดปาข้าวของ ม่านมุกน้ำตาซึมโทษตัวเองที่ทำให้ลูกเป็นแบบนี้...ทั้งม่านมุกและบัวบงกชต่างนอนไม่หลับด้วยกันทั้งคู่ นึกถึงที่บัวบงกชได้บากหน้ามาหาม่านมุก
“คุณน้าคงทราบเรื่องหนูจากภาษิตแล้ว” บัวบงกชได้ยินม่านมุกเอ่ยชื่อม่านมัสลินจึงว่า “ค่ะ ภาษิตเคยบอกว่าคนที่หนูจะปรึกษาเรื่องมัสลินได้หลังจากที่เขาไม่อยู่แล้วก็คือคุณน้า”
“ฉันรู้แค่ว่าคุณคือแม่ที่แท้จริงของมัสลิน นอกนั้นแล้วภาษิตไม่ได้เล่าอะไรให้ฉันฟัง” ม่านมุกฟังบัวบงกชเล่าเรื่องที่ผ่านมาแล้วถาม “คุณว่าคุณมีความจำเป็นต้องทิ้งมัสลินไว้กับภาษิตทั้งที่เขาเป็นแค่แฟนเก่างั้นเหรอ”
บัวบงกชน้ำตานองหน้า เล่าว่าตอนนั้นตนไม่มีทางเลือก ถ้าอนาคตในวงการบันเทิงดับลงก็เท่ากับว่าพ่อแม่และน้องๆจะต้องลำบาก ตนคิดแม้กระทั่งจะทำลายลูก แต่ภาษิตขอร้องให้เก็บไว้ เขาจะเลี้ยงเอง...ม่านมุกตำหนิ แล้วเธอก็สบายตัวไปแต่งงานใหญ่โตกับเศรษฐี
“ช่วงที่หนูหายตัวไปตั้งท้องมัสลิน คุณเตชแอบยื่นมือเข้าช่วยเหลือให้เงินทองพ่อแม่ใช้จนเลยเถิด หนูจำเป็นต้องแต่งงานกับเขาค่ะ”
ม่านมุกค่อนขอดว่าดูจะไม่มีทางเลือกเลยนะ บัวบงกชยอมรับ และที่ตนมาเพื่อขอร้องให้หยุดจิรดา เพราะจิรดากำลังพาม่านมัสลินไปเจอวังวนแบบเดิม ไปทำงานกับคนที่เคยทำลายตน
ม่านมุกนึกถึงคำพูดของบัวบงกชแล้วถอนใจ ลงมาดูจิรดาข้างล่าง เห็นหลับคาขวดเหล้าจึงห่มผ้าให้แล้วเปรยว่า “ให้เวรกรรมมันจบลงตรงนี้เถอะนะแม่ดา...”
วันรุ่งขึ้นจิรดาตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่บ้าน ก็แปลกใจว่ากลับมาได้อย่างไร ไม่ทันไร มือถือดังขึ้นก็หงุดหงิดแต่พอเห็นชื่อเตชก็รีบรับสาย ทำเสียงออดอ้อนจะให้ไปพบที่ไหน
ooooooo
หลังจากรู้แล้วว่าม่านมัสลินเป็นใคร เลขาก็เอาชื่อผู้โดยสารที่กานนให้หามาตอกย้ำอีก กานนเจ็บจี๊ดในใจ พลันมือถือดัง หน้าจอขึ้นชื่อปิ่น กานนมือไม้สั่นกดรับสาย พูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ เสียงกุเทพหัวเราะแล้วแซวว่า พูดเสียงเพราะเชียว นี่เขาเอง กานนแปลกใจ
“ไม่น่าบอกเลย นานๆจะได้ยินอาพูดกับผมสุภ้าพสุภาพซะที”
“แล้วนี่แกใช้เบอร์ใครโทร.มาล่ะ”
“เบอร์มัสเขาน่ะฮะ โทรศัพท์ผมแบตหมดเกลี้ยงเลย อาเมมเบอร์นี้ไว้ด้วยละกันนะฮะ”
กานนอึกอักถามอาการม่านมัสลิน กุเทพตอบว่าวันนี้กลับบ้านได้ ม่านมัสลินเขยกออกมาจากห้องน้ำ กุเทพรีบบอกกานนแค่นี้ก่อนนะแล้วปราดไปประคองเธอ ม่านมัสลินมองมือถือตัวเองแล้วถามว่าโทร.หาใคร พอกุเทพบอกว่าโทร.หากานน ก็ใจหายวาบ
“ก็มัสเป็นคนให้ยืมมือถือเองนะ อ้อ เดี๋ยวก่อน เหมือนมัสจะเมมเบอร์คนผิดนะ...ก็พอพี่กดเบอร์อาปลิว เครื่องมัสขึ้นชื่อคนส่งดอกไม้ ตอนแรกก็คิดว่าพี่คงกดผิด แต่กดใหม่ก็ขึ้นชื่อนี้”
ม่านมัสลินหน้าร้อนผ่าวอึกอัก ดีที่กุเทพไม่ติดใจบอกให้แก้เสียใหม่ ไม่อย่างนั้นโทร.ไปติดอาของเขาไม่รู้ด้วย ม่านมัสลินถอนใจ...
ที่เตชนัดจิรดามาครั้งนี้ เพื่อให้พูดกับม่านมัสลินยอมเล่นหนังของเขา จิรดาได้ทีเรียกเงินค่าเปิดปาก เตชเจ็บใจแต่ต้องยอมเพราะเป็นหนังร่วมทุนสามชาติ
มธุรินเสียใจที่เกิดเรื่องร้ายกับม่านมัสลิน เธอรู้สึกผิดเข้ามาสารภาพกับบัวบงกช สองแม่ลูกรีบมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล บัวบงกชสอนลูกไปในตัว รู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมถึงไม่ให้ไปเรียนเมืองนอกกับพินสุดา มธุรินพยักหน้า ขณะกำลังถามเจ้าหน้าที่ มธุรินเห็นม่านมัสลินนั่งรถเข็นออกมาจึงสะกิดแม่ บัวบงกชปรี่เข้าหาและนั่งลงลูบแผลที่เท้าม่านมัสลินอย่างแสนห่วงใย
“โธ่หนูมัส หนูเจ็บมากมั้ย”
ทุกคนแปลกใจ กุเทพรีบบอกว่ากำลังจะกลับบ้านกัน มธุรินสบตาม่านมัสลินแล้วเอ่ยขอให้หายเร็วๆม่านมัสลินผงกหัวรับงงๆ บัวบงกชพยายามแก้ให้ว่าลูกสาวเป็นห่วงมาก
“แต่มัสลินเขาเจ็บตัวค่ะ เส้นเอ็นเท้าหวิดขาดไปนิดเดียว ดิฉันว่าลูกสาวคุณกับเพื่อนเล่นแรงไปหน่อยนะคะ” เกวลินหงุดหงิดแทน
ม่านมัสลินปรามเกวลินแล้วขอตัวกลับ มธุรินสงสารแม่ ขอโทษที่ทำให้แม่ต้องถูกว่ากระทบ บัวบงกชกอดมธุรินอย่างเข้าใจว่าลูกไม่ได้ร่วมมือด้วย
ooooooo
วันต่อมา กุเทพจะออกไปหาม่านมัสลินเพราะเกวลินโทร.มาบอกว่ารู้ตัวคนที่ทำร้ายแล้วแต่หาตัวเธอไม่เจอ ที่บ้านก็ไม่มี กานนสังหรณ์ใจว่าม่านมัสลินน่าจะอยู่ที่ที่หนึ่ง จึงดั้นด้นไปหา
และก็ได้พบม่านมัสลินที่โรงทานจริงๆ เธอกำลังโดน ผู้ใหญ่ติงที่บาดเจ็บยังจะมาทำงานอีก กานนเข้ามาในชุดทำงานผูกไท เขาแย่งทัพพีจากมือเธอมาตักอาหารแจกผู้คนแทน แล้วดันให้เธอนั่งลง ม่านมัสลินได้แต่ทำปากมุบมิบเถียงไม่ออก...เสร็จงาน สองคนนั่งทานข้าวคุยกัน กานนเตือนให้เธอไปล้างแผลทุกวัน ม่านมัสลินจะพูดเข้าเรื่อง กานนเปลี่ยนเรื่องคุย ว่าถ้าเขาอยากเอาอาหารมาร่วมด้วยจะได้ไหม ม่านมัสลินตอบว่าได้
“งั้นดีเลย คุณต้องช่วยผมคิดเมนูด้วยนะ” เห็นม่านมัสลินอ้ำอึ้ง เขาจึงพูดต่อว่าน่าจะเปิดโรงทานแบบนี้อีกหลายสาขา
ม่านมัสลินขำที่กานนเรียกสาขา กานนมองเธออย่างเอ็นดู แล้วฉุกคิดได้ว่าเธอเป็นคนรักของหลาน จึงขอตัวกลับไปทำงาน ม่านมัสลินเรียกเขาไว้ “เดี๋ยวสิ...คุณไม่ควรมาที่นี่อีก”
กานนชะงักหันมาถามว่าทำไม ม่านมัสลินบอกว่าเขารู้แล้วว่าตนเป็นใครและเขาเป็นใคร
“แล้วไง คุณคือม่านมัสลินไม่ใช่ปิ่น ผม คือกานน แล้วไง เรารู้จักกันต่อไม่ได้งั้นสิ”
“แต่ฉันเคยมีเรื่องกับแฟนคุณ”
กานนทำหน้างงว่าใคร ม่านมัสลินโพล่งออกมาว่า “มธุริน ฉันไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว”
“ผมว่าคนที่คุณกลัวว่าจะไม่เข้าใจคุณ คือนายกุมากกว่า”
“ใช่ค่ะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะอธิบายให้พี่กุเข้าใจเลย ว่าคุณกับฉันบังเอิญรู้จักกัน”
“มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ผมตั้งใจที่จะรู้จักคุณ”
ม่านมัสลินอึ้งไปสักพักกว่าจะเถียงออก “แต่สำหรับฉันมันแค่เรื่องบังเอิญค่ะ ให้มันจบลงแค่นี้นะคะ อย่ามาที่นี่อีก”
“จะบ้าเหรอมัสลิน ในเมื่อผมรู้จักคุณ แล้วคุณจะมาบังคับให้ผมเห็นคุณเป็นคนแปลกหน้าได้ยังไง”
ม่านมัสลินเดินหนี รำพึงกับตัวเองอย่างโกรธๆว่า ก็เพราะตนดันรู้สึกดีกับเขาไง กานนมองตามหลังม่านมัสลินอย่างสับสน
ooooooo
เมื่อได้เงินจากเตช จิรดาก็ซื้อของมากมายรวมทั้งรถเก๋งขับกลับมาบ้าน ม่านมัสลินแปลกใจ จิรดา ส่งถุงเสื้อผ้าที่ซื้อมาให้หนึ่งถุง เพื่อเป็นบุญคุณว่าได้ซื้อของฝาก แล้วสั่งให้ไปเล่นหนังของเตช ม่านมัสลินไม่ยอมขอร้องให้เลิกยุ่งกับครอบครัวนั้น จิรดาตวาดแว้ด ทวงบุญคุณว่าเป็นแม่ ม่านมัสลินน้อยใจลุกเขยกเดินหนี จิรดาเห็นว่าบาดเจ็บจึงถาม
“แล้วนั่นเท้าไปโดนอะไรมา ฉันถามว่าแกเป็นอะไร นังมัสนี่แกอย่ามาทำหยิ่งกับฉันนะ”
“บอกไปแล้วแม่จะเชื่อมัสเหรอคะว่านี่แหละฝีมือลูกสาวนายเตชกับเพื่อนเขา”
เมื่อได้เงินจากเตช จิรดาก็ซื้อของมากมายรวมทั้งรถเก๋งขับกลับมาบ้าน ม่านมัสลินแปลกใจ จิรดา ส่งถุงเสื้อผ้าที่ซื้อมาให้หนึ่งถุง เพื่อเป็นบุญคุณว่าได้ซื้อของฝาก แล้วสั่งให้ไปเล่นหนังของเตช ม่านมัสลินไม่ยอมขอร้องให้เลิกยุ่งกับครอบครัวนั้น จิรดาตวาดแว้ด ทวงบุญคุณว่าเป็นแม่ ม่านมัสลินน้อยใจลุกเขยกเดินหนี จิรดาเห็นว่าบาดเจ็บจึงถาม
“แล้วนั่นเท้าไปโดนอะไรมา ฉันถามว่าแกเป็นอะไร นังมัสนี่แกอย่ามาทำหยิ่งกับฉันนะ”
“บอกไปแล้วแม่จะเชื่อมัสเหรอคะว่านี่แหละฝีมือลูกสาวนายเตชกับเพื่อนเขา”
วันต่อมา คิมเจอม่านมัสลินที่ออฟฟิศจึงเตือนว่าอย่าไปเล่นหนังให้เตช เพราะเขาร่วมมือกับศักดา ซึ่งศักดามีประวัติ
ว่าทำหนังลามก แม่ของเขากำลังจะถอนหุ้น ไม่ร่วมมือด้วยเพราะรู้ว่าศักดายักยอกเงินทุนไปทำหนังตัวเอง ม่านมัสลินสงสัยว่าทำไมพวกนี้ถึงเลือกตน คิมสันนิษฐานว่าจะเป็นศิธา เพราะแฟ้มประวัติของม่านมัสลินที่อยู่บนโต๊ะทำงานเขา หายไปในวันที่ศิธามา และที่สำคัญ ศิธาเป็นลูกของศักดา
พินสุดามาเลียบเคียงถามพนักงานในออฟฟิศของเตช ว่าม่านมัสลินเซ็นสัญญาเล่นหนังหรือยัง พอรู้ว่ายังก็โกรธโทร.ไปจิกศิธาให้มาจัดการทำให้ม่านมัสลินกลายเป็นนางเอกหนังโป๊ของศักดาให้ได้ บัวบงกชเดินมากับมธุรินเห็นพินสุดาก็แปลกใจ มธุรินรีบดึงพินสุดามาคุยลำพังต่อว่าที่ทำร้าย
ม่านมัสลิน ขอให้ต่างคนต่างอยู่ พินสุดากลับกล่อมมธุรินเสียเอง
“นังมัสลิน มันเสนอตัวเป็นนางเอกหนังให้พ่อแก นี่น่ะเหรอที่มันบอกว่ามันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวแกอีก ตอแหลชัดๆ”
ทำให้มธุรินต้องรอเตชดึกดื่น นั่งสัปหงกในห้องโถง เพื่อถามว่าม่านมัสลินเป็นนางเอกหนังให้บริษัทจริงหรือ เตชตอบ เอือมๆว่าใช่ มธุรินผิดหวังมาก เจ็บใจที่ไปเห็นใจม่านมัสลิน
ooooooo
กุเทพมุ่งมั่นจะสร้างเนื้อสร้างตัวทำงานเพื่อแต่งงานกับม่านมัสลิน เขามาขอเงินลงทุนจากกานนถึงยี่สิบล้าน กานนแม้จะสะเทือนใจแต่เพราะรักหลาน จึงยอมให้ แต่ต้องเขียนแผนงานและการใช้จ่ายให้เป็นเรื่องเป็นราวก่อน กุเทพดีใจมาก
ดุสิตตกลงกับเกวลินว่าจะให้งานม่านมัสลิน เธอจึงได้ถ่ายโฆษณาหลายชิ้น กุเทพมาหาที่กองถ่ายเพื่อชวนไปกับเขา เขามีเซอร์ไพรส์บางอย่าง คิมคอยขวางจึงปะทะคารมกันประปราย ม่านมัสลินไม่อยากให้มีเรื่องจึงยอมไปกับกุเทพ...
กานนมานั่งเล่นในสวน คิดถึงอดีตวัยเด็กตอนที่พี่ชาย พี่สะใภ้เสีย เขานั่งร้องไห้เสียใจ อุษยาอุ้มกุเทพมาให้เขาดูแล เพราะผู้ใหญ่ต้องจัดการงานศพ เขาจึงดูแลกุเทพมาตั้งแต่ตอนนั้น
“ไอ้ตัวเล็กเอ๊ย แกโตพอที่จะพาสาวมากินข้าวบ้านแล้วเหรอวะ” กานนทอดถอนใจ
ไม่นาน กุเทพก็ขับรถกลับมา และพาม่านมัสลินเข้ามาในบ้าน ท่าทางเธอประหลาดใจ กุเทพให้เธอสวัสดีกานน ทั้งสองสบตากันอย่างสะเทือนใจ มธุรินก็ได้รับเชิญ กำลังจะออกจากบ้าน พินสุดาโผล่มา สงสัยว่าต้องมีอะไรปิดบัง จึงตามติดไปด้วย มธุรินไม่รู้จะทำอย่างไร
กุเทพไปเชิญเจ้าสัวลงมา ปล่อยให้กานนอยู่เป็นเพื่อนม่านมัสลิน ทั้งสองอึดอัดใจ ม่านมัสลินพยายามจะเลี่ยงหนี กานนน้อยใจถามว่ากลัวเขาขนาดนี้เชียวหรือ
“ใครบอกฉันกลัวคุณ”
“อ้าว ถ้าไม่กลัวแล้วทำไมไม่หันมาคุยกันดีๆ คุยกันแบบสบตาเหมือนแต่ก่อนไง”
“คุณกานน...” ม่านมัสลินเรียก แต่กานนให้เรียกเขาว่า อาปลิว เธอจึงแย้ง “ฉันจะเรียกคุณว่าอะไรมันก็เรื่องของฉัน แต่คุณเลิกพูดอะไรเลอะเทอะได้แล้ว”
“การที่คุณเคยรู้จักผมมาก่อน มันเป็นเรื่องเสียหายนักรึไง”
ม่านมัสลินย้อนถามว่าเขากล้าบอกใครๆหรือว่าเรารู้จักกันมาก่อน กานนตอบว่ากล้า พอเห็นม่านมัสลินเหยียดปากไม่เชื่อ จึงตะโกนเรียกกุเทพ ม่านมัสลินตกใจโผเข้าจะปิดปาก แต่สะดุดถลาเข้าไปในอ้อมกอดกานน กุเทพกับเจ้าสัวเข้ามาเห็นพอดี...
ทุกคนนั่งร่วมโต๊ะอาหาร เจ้าสัวหัวเราะร่าเมื่อกานนแก้ตัวว่าม่านมัสลินตกใจกลัวจิ้งจก เจ้าสัวยังขอบใจม่านมัสลินที่ทำให้ตนได้ทานข้าวพร้อมหน้าลูกหลาน
“ตอนแรกผมก็คิดว่าคุณก๋งจะเป็นไปด้วยกับคุณย่าซะแล้ว” กุเทพปลื้มใจที่เข้ากันได้
“ฉันน่ะหัวสมัยใหม่พอเว้ย อะไรที่พิสูจน์ยังไม่ได้ฉันไม่ตัดสินเด็ดขาด ฉันเคยตัดสินใจพลาดมาครั้งใหญ่ในชีวิตครั้งนึงแล้ว จะไม่ให้เกิดกับลูกหลานตัวเองเด็ดขาด”
กุเทพแซวว่าเข้าช่วงตำนานอีกแล้ว เจ้าสัวหันมาคุยกับม่านมัสลินว่าชื่อเหมือนคนที่เขาคิดถึง ม่านมัสลินกำลังจะบอกว่าชื่อคล้ายยาย อุษยาเข้ามาเห็นก็แผดเสียงไล่ม่านมัสลินออกไป อุษยาซักไซ้กุเทพ พาผู้หญิงแบบนี้เข้ามาได้อย่างไร เจ้าสัวรำคาญเอ็ดอุษยาให้เงียบเสียที กานนให้กุเทพพาม่านมัสลินกลับไปก่อน พลันพินสุดาเข้ามาโวยวายใส่เมื่อเห็นม่านมัสลิน อย่างไม่เกรงใจผู้ใหญ่ มธุรินตามมาดึงให้พินสุดากลับ แต่เธอบ้าคลั่งที่โดนกุเทพไล่จึงคว้ามีดบนโต๊ะมาจะแทงม่านมัสลิน มธุรินเข้าแย่งมีดจนโดนบาดมือ
กานนดึงม่านมัสลินหนีออกไป
เจ้าสัวช็อกหมดสติ ทุกคนรีบพาส่งโรงพยาบาล กุเทพโทร.บอกกานน เขาจึงวกรถตามไป โดยให้ม่านมัสลินไปด้วยกันก่อน มาถึงโรงพยาบาลจึงรู้ว่า เจ้าสัวเส้นเลือดในสมองแตกผ่าตัดด่วน ม่านมัสลินรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุ จึงหลบกลับออกมา มธุรินขับรถมาถึงโรงพยาบาล เห็นม่านมัสลินเดินเศร้าอยู่ริมทาง จึงขอไปส่ง ม่านมัสลินเอ่ยปากขอโทษ แต่มธุรินไม่ได้โทษเธอ กลับถามเรื่องที่เธอมากับกานน ม่านมัสลินรับรองว่า ตนไม่มีอะไรกับทั้งกานนและกุเทพ...
“ฉันแค่อยากคุยกับเธอ ฉันทั้งอึดอัดทั้งงงที่ทุกคนรอบตัวฉันดูจะเกี่ยวข้องกับเธอไปซะหมด ยัยกิ๊บ กานน พ่อฉัน หรือแม้กระทั่งแม่ฉัน”
“แม่คุณ...ฉันไม่เกี่ยวอะไรกับแม่คุณ”
“แม่ฉันร้องไห้ตอนไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล เธอจำไม่ได้เหรอ...ไม่ว่ายัยกิ๊บจะโกรธแค้นเธอยังไง ฉันไม่เคยเห็นเธอเป็นศัตรู ฉันก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฉันพูดกับเธอตรงขนาดนี้แล้ว ฉันขอร้องอะไรเธอสักอย่างได้มั้ย”
ม่านมัสลินรอฟังอย่างตั้งใจ มธุรินสบตาเธอพูดเสียงเฉียบ “อย่ายุ่งกับกานน...ฉันอาจจะเจ็บปวดพอรู้ว่าพวกเธอมายุ่งกับพ่อฉัน ฉันอาจจะสับสนว่าทำไมแม่ฉันถึงสนใจเธอนัก แต่กับกานน...ฉันรู้สึกเกลียดเธอทุกครั้งที่ฉันนึกถึงสายตาที่เขามองเธอมัสลิน ใจฉันมันแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ ถ้าเธอรักใครสักคนมากๆ เธอจะเข้าใจความรู้สึกของฉัน”
ม่านมัสลินลงจากรถมธุรินด้วยจิตใจเลื่อนลอยโหวงเหวง พลันได้ยินเสียงแก้วแตกในบ้าน ตามด้วยเสียงเอ็ดตะโรของจิรดาเรียกหา จึงรีบวิ่งเข้าบ้าน “มัสอยู่นี่ค่ะแม่”
จิรดาเข้าบีบแขนม่านมัสลินทุบตียกใหญ่ จนม่านมัสลินต้องถามว่าเรื่องอะไรกัน
“อีลูกไม่รักดีแกยังมีหน้ามาถามฉันเหรอ วันนี้แกให้สัมภาษณ์นักข่าวใช่มั้ยว่าไม่รับเล่นหนังคุณเตช”
“ค่ะ ที่กองโฆษณา พอดีมีนักข่าวตามไปด้วย มัสก็พูดไปตามจริง”
จิรดาทุบตีไม่เลิกเพราะโกรธที่จะไม่ได้เงินอีก ม่านมัสลินถามแม่ว่ารู้ไหมว่าหนังนั่นเป็นหนังอะไร จิรดาไม่สนใจ “หนังอะไรแกก็ต้องเล่น ฉันรับตังค์ค่าตัวแกมาแล้ว ไม่แหกตาดูข้าวของที่ฉันซื้อให้แกโครมๆเหรอ”
“มัสบอกแล้วมัสไม่อยากได้ แม่ต่างหากที่อยากได้ของพวกนั้น”
“พูดอย่างนี้แกอยากเห็นฉันอาละวาดบ้านพังใช่มั้ย ได้ คืนนี้ไม่ต้องนอนกัน” จิรดาปัดแก้วบนโต๊ะ พลาดบาดมือเลือดอาบ
ม่านมัสลินตกใจ รีบดึงมือแม่ไว้ร้องว่าตนยอมแล้ว จิรดาย้อนถามว่าตกลงจะเล่นหนังของเตชใช่ไหม
“ไม่ค่ะ แต่มัสจะหาเงินไปใช้เขาทุกบาทที่แม่เอาของเขามา”
จิรดาโกรธตบหน้าม่านมัสลินเลือดที่มือติดบนหน้าเธอ แล้วพลั้งปาก “สมควรแล้วที่แกมันไม่ใช่ลูกฉัน”...ม่านมัสลินนิ่งงันตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน ทรุดฮวบลงอย่างใจสลาย
เรื่องย่อ ละคร ในรอยรัก ช่อง7
1 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 1 ช่ อ ง 7
2 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 2 ช่ อ ง 7
3 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 3 ช่ อ ง 7
4 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 4 ช่ อ ง 7
5 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 5 ช่ อ ง 7
6 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 6 ช่ อ ง 7
7 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 7 ช่ อ ง 7
8 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 8 ช่ อ ง 7
9 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 9 ช่ อ ง 7
10 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน10 ช่ อ ง 7
11 เรื่องย่อละคร ในรอยรัก ดูละครย้อนหลัง ตอน 11 ช่ อ ง 7
No comments:
Post a Comment