ตอนที่ 10
ในถ้ำ พวกเดชายังระดมยิงกันหูดับตับไหม้ จนกระทั่งเดชาเอะใจสั่งให้หยุด ชี้ไปที่หมวกของสิงห์ที่วางอยู่บนโขดหิน จึงรู้ว่าเสียท่าหลงกลสิงห์แล้ว
ทันใดนั้นเอง พวกเดชาได้ยินเสียงก้อนหินถมที่ปากถ้ำ มองไปจึงรู้ว่าพวกภูตะวันกำลังปิดปากถ้ำ กรณ์ตกใจถามว่าเราจะออกไปยังไง
“เข้าทางไหนก็ออกทางนั้นสิวะ แค่นี้ทำเป็นปอดแหกไปได้” เดชาตวาด กรณ์โล่งอกที่มีทางออกไปจากถ้ำได้
ที่ปากถ้ำ พอยกหินปิดปากถ้ำสำเร็จ สิงห์ก็เห็นพวกจรัญขี่ม้ายกโขยงกันมาแต่ไกล เพชรรุ้งสั่งให้กลับไปตั้งหลักที่ไร่ฟ้ารุ่งก่อน
พอดีศรเห็นพวกเพชรรุ้ง มันชี้ให้จรัญดู จรัญสั่งให้ตามไปทันที
ระหว่างทางพลอยขวัญถามว่าถ้าพวกจรัญตามไปในไร่จะทำยังไง พรพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่าอย่างมากก็แค่สู้ตาย พวกตนจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องคุณหนูเด็ดขาด
ปรากฏว่า ที่อีกทางหนึ่งขบวนรถของณรงค์กำลังขับฝุ่นตลบมา พวกจรัญชะงักกึก มองเห็นตราข้างรถจรัญอุทาน “วงศ์เสมา!”
พริบตานั้นพวกทหารกระโดดลงจากรถตั้งแถวพร้อมยิงอย่างมีแบบแผน ทั้งกำลังคนและอาวุธเหนือกว่าพวกจรัญมาก ณรงค์ลงจากรถถามจรัญว่า
“สนุกพอรึยังครับพ่อเลี้ยง”
จรัญพูดไม่ออก ยิ่งเมื่อเห็นยศกับศักดาก้าวลงจากรถโดยรานีเกาะแขนศักดามาอย่างตีสนิทจรัญก็ ยิ่งอึ้ง ส่วนเพชรรุ้งกับพลอยขวัญโผเข้ากอดพ่อด้วยความดีใจ
“ไอ้ศักดา” จรัญพึมพำ
“ไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะไอ้จรัญ” ศักดาทัก
ภูตะวันหูผึ่งทันทีที่ได้ยินชื่อศักดา เขาหันมองขวับ
ศักดาเองก็เหลือบมองภูตะวันอย่างรู้สึกสังหรณ์ใจ
กลายเป็นว่า ณ ที่นี้ ทั้งภูตะวัน จรัญ และศักดา ต่างมองกันไปมาด้วยความแค้น
รานีผู้รู้เบื้องหลังเบื้องลึกของความขัดแย้ง มองภูตะวันอย่างนึกหวั่นกลัวเขาจะฆ่าศักดากับจรัญเสียตอนนี้
ooooooo
เผชิญหน้ากันอยู่ครู่เดียว ณรงค์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนว่าตอนนี้ทางเลือกของจรัญมีแค่สองทาง คือ ถอยกลับไปหรือจะยอมตายอยู่ที่นี่
“นายอำเภอ คุณคิดเหรอว่าทหารพวกนี้จะขู่ผมได้ ในเมื่อที่นี่คือเมืองภูพระกาฬ ที่นี่ผมเป็นเจ้าถิ่น”
“หมดเวลาหาความสำราญแล้วครับพ่อเลี้ยง อีกไม่นานเราคงต้องคุยกันเรื่องกฎหมาย ซึ่งผมรับรองว่า คุณโดนหลายคดีแน่” ณรงค์ยิ้มหยัน
จรัญขบกรามแน่นมองณรงค์และทหารที่ถือปืนจ้องมาทางตน แต่ละคนหน้าตาเถื่อนถ่อยสิ้นดี จรัญนิ่งชั่งใจนึดหนึ่งแล้วสบตากับศักดา อีกครั้งก่อนชักบังเหียนม้านำขบวนจากไปท่ามกลางเสียงเฮของพวกณรงค์
ศักดากลับมาอย่างยิ่งใหญ่ท่ามกลางเสียงแสดงความยินดีของคนที่ไร่ฟ้ารุ่ง คนงานพากันเฮโลมาห้อมล้อมด้วยความดีใจ ร้องบอกต่อๆกันว่า นายใหญ่มาแล้ว...นายใหญ่กลับมาแล้ว...
“ขอบใจทุกคน ขอบใจมาก ต่อไปนี้ฉันสัญญาว่าฉันจะอยู่ปกป้องไร่ฟ้ารุ่งของพวกเราตลอดไป จะไม่ยอมให้ใครมารุกรานอีกแล้ว!” ศักดาบอกแก่ทุกคนที่มาต้อนรับ พรดีใจจนยิงปืนขึ้นฟ้าอย่างฮึกเหิม
เพชรรุ้งยิ้มอย่างมีความสุข หันมองภูตะวันก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเขาจ้องศักดาไม่วางตา พอดีสิงห์เข้ามาสะกิดภูตะวันว่าต้องไปหาหมอเสียแล้วเพราะเลือดที่แผลไหลออก มาอีก
ฝ่ายณรงค์ เรียว และทหารที่ยกมา พากันไปที่หน้าวิไลบาร์ หลงหลบมองขบวนกำลังพลตื่นๆ
ณรงค์ลงจากรถสั่ง ผบ.หมวดอย่างมีอำนาจล้นฟ้าว่า
“ผู้หมวด ผมอยากให้คุณพาทหารไปนั่งรถเล่นรอบๆ ภูพระกาฬ ชาวบ้านจะได้รู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นที่นี่ แล้วหลังจากนั้นค่อยกลับไปตั้งแคมป์ที่ไร่ฟ้ารุ่ง”
รานีลงจากรถขอบคุณนายอำเภอที่มาส่ง ณรงค์ปากหวานว่าตนต่างหากที่ต้องขอบคุณเธอ ถ้าไม่ได้เธอช่วยป่านนี้พวกตนคงตายไปแล้ว
“ในฐานะพลเมืองของภูพระกาฬ ยินดีรับใช้เป็นอย่างยิ่งค่ะ” รานีปากหวาน แต่เรียวฟังแล้วมองอย่างเคลือบแคลงว่า หญิงโสเภณี อย่างเธอจะเสียสละเพื่อบ้านเมืองจริงๆหรือ
ooooooo
ที่หน้าโรงแรมสันติภาพ...เฮียเส็ง ครก รวมทั้งลูกค้าที่มาซื้อเหล้าและเฮียโชติ พากันออกมาที่หน้าร้านด้วยความงุนงงกับเสียงกระหึ่มของรถทหารที่กำลังแล่นมา โดยมีแก้ววิ่งโร่นำหน้ามาแต่ไกล ปากก็ป่าวประกาศว่า “ทหารมาแล้ว...ทหารมากันเยอะแยะเลยครับเถ้าแก่”
“เออ...เห็นแล้ว” เฮียเส็งตอบอย่างรำคาญแต่นึกสงสัยว่า “นี่มันแห่มาทำไมกันวะหรือว่าจะมีสงคราม”
ครกบอกว่าถ้ามีสงครามคงไม่มาแค่นี้หรอก ส่วนเฮียโชติเชื่อว่าพวกนี้มาจับคนมากกว่า ทำให้เฮียเส็งคิดถึงจรัญขึ้นมาทันที เฮียโชติเชื่อว่าใช่
ทันใดนั้นเอง พวกเดชาได้ยินเสียงก้อนหินถมที่ปากถ้ำ มองไปจึงรู้ว่าพวกภูตะวันกำลังปิดปากถ้ำ กรณ์ตกใจถามว่าเราจะออกไปยังไง
“เข้าทางไหนก็ออกทางนั้นสิวะ แค่นี้ทำเป็นปอดแหกไปได้” เดชาตวาด กรณ์โล่งอกที่มีทางออกไปจากถ้ำได้
ที่ปากถ้ำ พอยกหินปิดปากถ้ำสำเร็จ สิงห์ก็เห็นพวกจรัญขี่ม้ายกโขยงกันมาแต่ไกล เพชรรุ้งสั่งให้กลับไปตั้งหลักที่ไร่ฟ้ารุ่งก่อน
พอดีศรเห็นพวกเพชรรุ้ง มันชี้ให้จรัญดู จรัญสั่งให้ตามไปทันที
ระหว่างทางพลอยขวัญถามว่าถ้าพวกจรัญตามไปในไร่จะทำยังไง พรพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่าอย่างมากก็แค่สู้ตาย พวกตนจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องคุณหนูเด็ดขาด
ปรากฏว่า ที่อีกทางหนึ่งขบวนรถของณรงค์กำลังขับฝุ่นตลบมา พวกจรัญชะงักกึก มองเห็นตราข้างรถจรัญอุทาน “วงศ์เสมา!”
พริบตานั้นพวกทหารกระโดดลงจากรถตั้งแถวพร้อมยิงอย่างมีแบบแผน ทั้งกำลังคนและอาวุธเหนือกว่าพวกจรัญมาก ณรงค์ลงจากรถถามจรัญว่า
“สนุกพอรึยังครับพ่อเลี้ยง”
จรัญพูดไม่ออก ยิ่งเมื่อเห็นยศกับศักดาก้าวลงจากรถโดยรานีเกาะแขนศักดามาอย่างตีสนิทจรัญก็ ยิ่งอึ้ง ส่วนเพชรรุ้งกับพลอยขวัญโผเข้ากอดพ่อด้วยความดีใจ
“ไอ้ศักดา” จรัญพึมพำ
“ไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะไอ้จรัญ” ศักดาทัก
ภูตะวันหูผึ่งทันทีที่ได้ยินชื่อศักดา เขาหันมองขวับ
ศักดาเองก็เหลือบมองภูตะวันอย่างรู้สึกสังหรณ์ใจ
กลายเป็นว่า ณ ที่นี้ ทั้งภูตะวัน จรัญ และศักดา ต่างมองกันไปมาด้วยความแค้น
รานีผู้รู้เบื้องหลังเบื้องลึกของความขัดแย้ง มองภูตะวันอย่างนึกหวั่นกลัวเขาจะฆ่าศักดากับจรัญเสียตอนนี้
ooooooo
เผชิญหน้ากันอยู่ครู่เดียว ณรงค์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนว่าตอนนี้ทางเลือกของจรัญมีแค่สองทาง คือ ถอยกลับไปหรือจะยอมตายอยู่ที่นี่
“นายอำเภอ คุณคิดเหรอว่าทหารพวกนี้จะขู่ผมได้ ในเมื่อที่นี่คือเมืองภูพระกาฬ ที่นี่ผมเป็นเจ้าถิ่น”
“หมดเวลาหาความสำราญแล้วครับพ่อเลี้ยง อีกไม่นานเราคงต้องคุยกันเรื่องกฎหมาย ซึ่งผมรับรองว่า คุณโดนหลายคดีแน่” ณรงค์ยิ้มหยัน
จรัญขบกรามแน่นมองณรงค์และทหารที่ถือปืนจ้องมาทางตน แต่ละคนหน้าตาเถื่อนถ่อยสิ้นดี จรัญนิ่งชั่งใจนึดหนึ่งแล้วสบตากับศักดา อีกครั้งก่อนชักบังเหียนม้านำขบวนจากไปท่ามกลางเสียงเฮของพวกณรงค์
ศักดากลับมาอย่างยิ่งใหญ่ท่ามกลางเสียงแสดงความยินดีของคนที่ไร่ฟ้ารุ่ง คนงานพากันเฮโลมาห้อมล้อมด้วยความดีใจ ร้องบอกต่อๆกันว่า นายใหญ่มาแล้ว...นายใหญ่กลับมาแล้ว...
“ขอบใจทุกคน ขอบใจมาก ต่อไปนี้ฉันสัญญาว่าฉันจะอยู่ปกป้องไร่ฟ้ารุ่งของพวกเราตลอดไป จะไม่ยอมให้ใครมารุกรานอีกแล้ว!” ศักดาบอกแก่ทุกคนที่มาต้อนรับ พรดีใจจนยิงปืนขึ้นฟ้าอย่างฮึกเหิม
เพชรรุ้งยิ้มอย่างมีความสุข หันมองภูตะวันก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเขาจ้องศักดาไม่วางตา พอดีสิงห์เข้ามาสะกิดภูตะวันว่าต้องไปหาหมอเสียแล้วเพราะเลือดที่แผลไหลออก มาอีก
ฝ่ายณรงค์ เรียว และทหารที่ยกมา พากันไปที่หน้าวิไลบาร์ หลงหลบมองขบวนกำลังพลตื่นๆ
ณรงค์ลงจากรถสั่ง ผบ.หมวดอย่างมีอำนาจล้นฟ้าว่า
“ผู้หมวด ผมอยากให้คุณพาทหารไปนั่งรถเล่นรอบๆ ภูพระกาฬ ชาวบ้านจะได้รู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นที่นี่ แล้วหลังจากนั้นค่อยกลับไปตั้งแคมป์ที่ไร่ฟ้ารุ่ง”
รานีลงจากรถขอบคุณนายอำเภอที่มาส่ง ณรงค์ปากหวานว่าตนต่างหากที่ต้องขอบคุณเธอ ถ้าไม่ได้เธอช่วยป่านนี้พวกตนคงตายไปแล้ว
“ในฐานะพลเมืองของภูพระกาฬ ยินดีรับใช้เป็นอย่างยิ่งค่ะ” รานีปากหวาน แต่เรียวฟังแล้วมองอย่างเคลือบแคลงว่า หญิงโสเภณี อย่างเธอจะเสียสละเพื่อบ้านเมืองจริงๆหรือ
ooooooo
ที่หน้าโรงแรมสันติภาพ...เฮียเส็ง ครก รวมทั้งลูกค้าที่มาซื้อเหล้าและเฮียโชติ พากันออกมาที่หน้าร้านด้วยความงุนงงกับเสียงกระหึ่มของรถทหารที่กำลังแล่นมา โดยมีแก้ววิ่งโร่นำหน้ามาแต่ไกล ปากก็ป่าวประกาศว่า “ทหารมาแล้ว...ทหารมากันเยอะแยะเลยครับเถ้าแก่”
“เออ...เห็นแล้ว” เฮียเส็งตอบอย่างรำคาญแต่นึกสงสัยว่า “นี่มันแห่มาทำไมกันวะหรือว่าจะมีสงคราม”
ครกบอกว่าถ้ามีสงครามคงไม่มาแค่นี้หรอก ส่วนเฮียโชติเชื่อว่าพวกนี้มาจับคนมากกว่า ทำให้เฮียเส็งคิดถึงจรัญขึ้นมาทันที เฮียโชติเชื่อว่าใช่
No comments:
Post a Comment