ตอนที่ 3
เช้าวันรุ่งขึ้น แตลอยมายืนตะโกนเรียกสายชลที่หน้าบ้าน สายชลสะดุ้งตื่น รีบลุกไปโผล่หน้าต่างตะโกนบอกว่า เดี๋ยวออกไป โดยไม่รู้ว่าหน้าตาตัวเองถูกนางฟ้าแต้มแต่งไว้สีจัดจ้าน ปากแดงแจ๋ ตาสีฟ้า คิ้วดำเมี่ยม แก้มชมพูแจ๊ด
แตลอยผงะ ขยี้ตาแรงๆพึมพำกับตัวเอง “นี่กูตาฝาดไปป่าววะ”
สายชลยังไม่รู้ตัว รีบตักน้ำบ้วนปาก ล้างหน้าลวกๆ ทำให้เครื่องสำอางที่แต้มไว้บนหน้าเลอะเทอะไปหมด เสร็จแล้วรีบเดินออกไป บอกแตลอยว่าไปได้แล้ว แตลอยมองหน้างงๆย้อนถามว่าแน่ใจว่าจะไปอย่างนี้หรือ
“เออ...เร็วสิ” พูดแล้วก็เดินนำอ้าวไป แตลอยเกาหัวแกรกๆแล้วรีบตามไป
พากันเดินไปจนถึงบริเวณชุมชน พวกสาวๆพากันมองสายชลตะลึงอึ้งจนเขาแปลกใจถามแตลอยเบาๆว่าเขามองอะไรกัน แตลอยบอกว่า “มองแกนั่นแหละ”
แตลอยยังไม่ทันบอกอะไรอีก อารีฟะก็อุ้มหนูแดงออกมา พอเห็นหน้าสายชลก็อุทานเหมือนถูกผีหลอก
“คุณพระช่วย...ทำไมหน้าตาเป็นแบบนี้สายชล...อย่าบอกนะว่าแกเป็นตุ๊ด”
สายชลเหวอไม่รู้ว่าอารีฟะหมายถึงอะไร จนกระทั่งเข้าไปที่หน้าบ้าน อารีฟะเอากระจกให้ส่องดู สายชลถึงกับตาเหลือกหันเล่นงานแตลอยว่าทำไมไม่บอกตน แตลอยยิ้มแหยๆบอกว่าไม่รู้จะบอกยังไง
“แล้วใครทำกับสายชลแบบนี้” อารีฟะถาม สายชล แทบไม่ต้องคิด กำหมัดแน่น นึกถึงนางฟ้าทันที พูดอย่างหัวเสีย
“จะใครซะอีกล่ะ!”
ooooooo
ที่ใต้ต้นมะพร้าว แม่ตัวแสบกำลังหัวเราะขำๆอยู่คนเดียว สวยถามว่าหัวเราะอะไร เธอบอกว่าไม่รู้ มันรู้สึกว่ามีความสุขเลยอยากหัวเราะ พูดแล้วก็หัวเราะคิกๆๆๆ
“นางฟ้า!” เสียงสายชลดังขึ้น ทันทีที่ได้ยินเสียง นางฟ้าตกใจเหมือนวัวสันหลังหวะ ลุกได้ก็วิ่งอ้าวไป สายชล วิ่งตามพลางร้องถาม “จะไปไหนตัวแสบ!”
สวย กอยา และซาติน ที่มาสุมหัวกันอยู่กับนางฟ้า พากันมองงงๆ กอยาถามว่าสายชลกับนางฟ้าเล่นอะไรกัน สวยเองก็ไม่รู้ เลยชวนกันรีบตามไปดูดีกว่า
นางฟ้าวิ่งหนีสายชลเข้าไปในบริเวณชุมชน สายชลวิ่งตามไม่ลดละ เจอซะละกับนาราแบกท่อนไม้เดินมาตามทาง ซะละตกใจร้องลั่น “นางฟ้า ระวัง...”
ช้าไปแล้ว นางฟ้าหยุดไม่ทัน เลยก้มหัวลอดท่อนไม้ไป สายชลวิ่งตะบึงมาเบรกไม่ทัน เลยโดนท่อนไม้ฟาดจนหน้าหงายล้มผลึ่งเห็นดาวเต็มฟ้า มามิโผล่มาเห็น ตกใจตะโกนเรียก “สายชล...” นางฟ้าได้ยินหยุดกึกหันมอง เห็นสายชลนอนแผ่ที่พื้นก็หน้าเสีย
เหตุการณ์วุ่นวายยิ่งขึ้น เมื่อซะละตกใจปล่อยท่อนไม้ทำให้นาราเสียหลักเซแซดๆ แสงดาวกับปีร์กะถือตะกร้าผักมาเห็นนาราก็ตกใจ นาราพยายามประคองท่อนไม้ไว้ไม่ให้หมุนไปฟาดใครเข้า แตลอยตัวยุ่งมาถึงพอดีรีบเข้าไปช่วยจับนารา แต่สะดุดพุ่งถลาเข้าชนปีร์กะเข้าอย่างจัง ปีร์กะเซไปชนแสงดาวทำตะกร้าผักหล่น ผักหกกระจุยกระจาย...
นาราเสียหลักล้มลง ท่อนไม้หล่นทับตีนตัวเองจนร้องจ๊าก บอกให้สวยช่วยที สวยไม่สนใจพ่อเพราะตั้งหน้าตั้งตาแย่งกับมามิเข้าไปหาสายชล
นางฟ้าที่หยุดดูเหตุการณ์อยู่ เห็นเรื่องวุ่นวายกันใหญ่โตดูท่าไม่ดี เลยย่องหนีไป สายชลลุกขึ้นมองหาไม่เจอ เขาบ่นอย่างหัวเสีย “ตัวต้นเหตุหายไปไหนแล้ว”
ooooooo
สายชลโมโหมากทั้งเจ็บตัวทั้งเจ็บใจ เดินอ้าวกลับบ้านหมายคิดบัญชีกับนางฟ้าเสียให้เข็ด แต่พอเข้าบ้านมองหาไม่เห็นร้องเรียกก็ไม่ตอบ เลยแกล้งพูดว่าไม่อยู่ก็ดีแล้วตนจะออกข้างนอกดีกว่า เขาแกล้งเปิดประตูแล้วปิดปัง ทำเหมือนออกไปแล้ว
นางฟ้าซ่อนอยู่ใต้เตียง ได้ยินเสียงพูดและเสียงปิดประตูปังก็นึกว่าสายชลออกไปแล้ว ค่อยๆ คลานออกมากวาดตามองไปรอบๆอย่างระวัง พลันก็สะดุ้งโหยงเมื่อมีมือมาสะกิดไหล่ หันไปเห็นสายชลก็ตั้งท่าจะวิ่งหนี
ช้าไปแล้ว เพราะสายชลคว้าแขนไว้กระชากอย่างแรง แต่แรงไปหน่อยนางฟ้าเลยถลาเข้าไปติดตัวเขา สายชลเป็นฝ่ายตกใจอึ้งไปเอง แล้วรีบผละออก ทำเสียงเข้มปราม “หนีสายชลไม่พ้นหรอก...”
นางฟ้าถูกสายชลเอาตัวไปที่แปลงผัก ที่ซะละ แสงดาว นารา มามิ และปีร์กะกำลังเก็บผักอยู่ เขาบอกให้นางฟ้าขอโทษทุกคน แต่ไม่มีใครโกรธเธอ และให้อภัย สายชลไม่ยอมยืนยันต้องลงโทษที่เธอทำให้ทุกคนวุ่นวายไปหมด
วิธีลงโทษของสายชลคือ ให้นางฟ้าเก็บผักแทนพวกซะละ ส่วนตัวเองนอนเปลญวนใต้ต้นไม้คอยมองไม่ให้นางฟ้าอู้งาน พอโดนค้อนก็พูดขู่ขำๆว่า
“เอ้า...ค้อนอยู่นั่นแหละ ตาเหล่ไม่รู้ด้วยนะ”
ไม่เพียงเท่านั้น ยังสั่งให้ไปกวาดใบไม้ที่ลานหมู่บ้าน โดยตัวเองนอนเอกเขนกคุมตามเคย ขู่ว่าถ้ากวาดใบไม้ไม่หมดวันนี้ไม่ให้กินข้าว
นางฟ้ากวาดไปเจอขี้แพะ เธอไม่รู้จักหยิบขึ้นมาดู แหงนมองต้นไม้เห็นมีผลไม้เล็กๆอยู่เต็มต้นก็นึกว่าขี้แพะ
คือผลไม้ที่หล่นลงมา เลยลองชิม ทำหน้าเหยเก บ่นว่ารสมันแปลกๆ
สายชลเห็นแต่ร้องห้ามไม่ทัน บอกเธอว่านั่นมันขี้แพะ แล้วอดหัวเราะขำไม่ได้ นางฟ้างอนถามว่ารู้แล้วทำไมไม่บอกกัน สายชลบอกว่า “ก็กำลังจะบอก แต่บอกไม่ทัน คนอะไรกินขี้แพะ ฮ่าๆๆๆ”
ขณะสายชลอ้าปากกว้างหัวเราะนั่นเอง นางฟ้าหยิบขี้แพะปาเข้าปากเขาพอดี สายชลหุบปากเพราะเธอปาขี้แพะเข้าปากลงไปถึงคอเลย ถามว่าปาอะไรมา
“ขี้แพะไง ฮ่าๆๆๆ” นางฟ้าหัวเราะทีหลังดังกว่า เห็นสายชลวิ่งไปอ้วกก็ยิ่งขำ
ooooooo
ตกบ่าย สายชลพานางฟ้าไปที่ริมผา ชี้ให้เธอดูหอยเม่นใต้น้ำ บอกว่า มันคือหอยเม่นที่มีหนามแหลมๆ รอบตัวพลางส่งถุงมือให้บอกว่า เราจะลงไปเก็บหอยเม่นกัน เตือนให้ระวังอย่าโดนหนามเข้าล่ะ เพราะว่ามันมีพิษ
“ถ้านางฟ้าเก็บหอยเม่นได้มากกว่าสายชล สายชลจะหยุดลงโทษนางฟ้า” สายชลบอก
ทั้งสองใส่ถุงมือดำลงไปเก็บหอยเม่น ปรากฏว่าสายชลเก็บได้มากกว่า 1 ตัว นางฟ้าเลยแพ้ แต่นางฟ้าเล่นบทขี้แพ้ชวนตี อ้างว่า สายชลแข็งแรงกว่าก็ต้องชนะอยู่แล้ว พาลหยิบหอยเม่นปาใส่เขา แต่ลืมใส่ถุงมือเลยถูกหอยเม่นตำร้องลั่น
สายชลตกใจรีบจับมือขึ้นมาดู นึกสงสารแต่ก็บ่น ถามว่าจะสมน้ำหน้าดีไหมที่เตือนแล้วไม่ระวังเอง
จนเย็นพากลับบ้าน นางฟ้ายังเจ็บมืออยู่ เขาบอกว่าอดทนหน่อยพรุ่งนี้ก็คงดีขึ้น แล้วนึกได้ว่าตั้งแต่กลางวันเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย จึงจัดหาอาหารมากินกัน นางฟ้ายังเจ็บมือกินข้าวไม่ถนัดจนปากเลอะเทอะ สายชลจึงป้อนให้ป้อนเธอคำตัวเองคำ
“รีบๆกินเข้า กินเสร็จสายชลจะพานางฟ้าไปดูอะไรบางอย่าง”
สิ่งที่สายชลพาไปดูคือชิงช้าที่เขาซ่อมเสร็จแล้วนั่นเอง นางฟ้าดีใจมากขึ้นนั่งชิงช้าชมว่า
“สายชลรู้ไหม ว่าสายชลเป็นคนที่น่ารักที่สุดในโลก” แล้วขอให้เขาไกวชิงช้าให้
นั่งชิงช้าอยู่นานจนสายชลชวนกลับกันเถอะตนง่วงแล้ว นางฟ้ายังติดใจ ไม่ยอมกลับ แหงนมองท้องฟ้าเห็นดวงดาวพราวเต็มฟ้า ก็รบเร้าสายชลอ้อนว่าอยากได้ดาวให้ไปเอามาให้หน่อยได้ไหม
สายชลบอกว่าไม่ได้ เพราะดวงดาวอยู่ในจักรวาล เราต้องนั่งจรวดถึงจะไปจักรวาลได้ แต่ตนไม่อยากไปเพราะไม่รู้ว่าโลกภายนอกมีอะไรบ้าง ที่นี่เป็นบ้านเกิดของตน พ่อแม่ของตนอยู่ที่นี่ แล้วก็...ตายที่นี่...
พูดถึงพ่อแม่แล้วเขาก็เศร้าไปถนัด นางฟ้าพลอยเศร้าไปด้วยถามว่า “พ่อกับแม่สายชลตายแล้วเหรอ”
“ฮื่อ...พายุพังบ้านสายชล แล้วมันก็เอาพ่อกับแม่ของสายชลไปด้วย สายชลพยายามจะช่วยพ่อกับแม่ แต่ตอนนั้นสายชลยังเด็กมาก สายชลได้แต่มองพ่อกับแม่ตายไปตรงหน้า” เสียงเขาสั่นเครือ มือกำแน่น น้ำตาคลอ จนนางฟ้ามองซึม...
ooooooo
ฟังสายชลเล่าเรื่องพ่อกับแม่แล้ว นางฟ้าเปรียบเทียบกับตัวเองว่าเขายังดีที่ได้เห็นหน้าพ่อแม่ แต่ตนจำไม่ได้เลยว่าตัวเองมีพ่อกับแม่หรือเปล่า พ่อแม่ ตนหน้าตาเป็นยังไง แล้วตอนนี้พ่อกับแม่ตนอยู่ที่ไหน... พูดแล้วก็ร้องไห้ สายชลเช็ดน้ำตาให้ปลอบโยนว่า
“ถึงนางฟ้าจะจำพ่อกับแม่ตัวเองไม่ได้ แต่นางฟ้าก็ยังมีสายชล ครอบครัวของสายชล ก็คือนางฟ้า”
นางฟ้ายิ้มออก พูดด้วยน้ำเสียงแจ่มใสขึ้นว่า “ครอบครัวของนางฟ้าก็คือสายชล” สายชลย้ำว่าเราจะอยู่ด้วยกันที่นี่ตลอดไป นางฟ้าบอกให้เขาสัญญา
“สัญญา สายชลกับนางฟ้าจะอยู่ที่นี่ด้วยกันตลอดไป”
“สัญญา” นางฟ้าพูดสบตากันดวงตาแจ่มใส สายชลจับหัวนางฟ้าซบที่ไหล่ตัวเอง ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด เหลือบมองหน้าสายชลแล้วยิ้มด้วยความรู้สึกดีๆ อย่างไม่เคยมีมาก่อน...
ooooooo
ชมพูแพรกับหมอวัฒนา ยังออกตามหาฟ้าลดาไม่ลดละ วันนี้ก็พากันไปไหว้พระอธิษฐานขอให้ตามเจอน้อง หมอวัฒนาเห็นเธอหน้าซีดๆ ถามว่าไม่สบายอีกหรือเปล่า เธอปฏิเสธ บอกว่าตนไม่อยากรู้สึกหมดหวัง แต่พอมาถึงวันนี้ก็นึกถึงอย่างที่ตำรวจบอก...น้องอาจจะตายไปแล้ว...ตนรู้สึกผิดกับน้อง พูดแล้วร้องไห้ จนหมอวัฒนาดึงเข้าไปกอดปลอบ
เมื่อทำใจให้เข้มแข็งได้แล้ว ชมพูแพรบอกว่า ต่อไปจะไม่ท้อ เราจะตามหาฟ้าลดากันต่อไป แล้วจับมือกันเดินออกไปอย่างมุ่งมั่น
ทั้งสองพากันไปที่ท่าเรือ ชมพูแพร หมอวัฒนา และตำรวจที่ไปด้วย ต่างเอารูปของฟ้าลดาให้ชาวประมงและคนที่ท่าเรือดู แล้วก็ต้องออกมาอย่างผิดหวังทุกครั้ง
ขณะเดินออกจากชาวประมงรายสุดท้ายนั้น ทั้งสองเห็นยาซะกำลังเดินอยู่ แต่พอจะเดินไปหา มือถือของชมพูแพรก็ดังขึ้นเสียก่อน
คุยโทรศัพท์แล้ว เธอบอกหมอวัฒนาหน้าตาเคร่งเครียดว่า ตนต้องรีบกลับกรุงเทพฯแล้ว เพราะหญิงฉวยโอกาสที่ตนไม่อยู่เล่นตุกติก ตอนนี้โรงแรมกำลังจะถูกโอนเป็นชื่อของหญิงคนเดียว บอกหมอวัฒนาแล้วก็เดินเลี่ยงออกไปโทร.ขอเลื่อนวันเดินทางกลับกรุงเทพฯกับสายการบิน ย้ำว่าต้องการไฟลต์เร็วที่สุด
ขณะทั้งสองกำลังร้อนใจเรื่องที่กรุงเทพฯนั้น ข้างหลังของทั้งสอง ยาซะ หมึก และฉลามก็ออกเรือไปแล้ว
ooooooo
ทันทีที่กลับถึงกรุงเทพฯ ชมพูแพรตรงดิ่งไปที่โรงแรม บอกให้หมอวัฒนารอข้างนอกตนจะเข้าไปคนเดียวเพราะเป็นเรื่องระหว่างตนกับหญิงสองคนเท่านั้น
ชมพูแพรถูกพนักงานกันไม่ให้เข้าไปในโรงแรม เธอไม่สนใจเดินลุยตรงไปที่ห้องประชุม เจอหญิงพอดี หญิงบอกให้ รปภ.ออกไปได้แล้ว จากนั้นเธอก็เผชิญหน้ากับชมพูแพร พูดกันอย่างไม่เหลือความเป็นเพื่อน
หญิงอ้างว่าเราสร้างโรงแรมนี้มาด้วยกัน แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอชอบแสดงให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองเป็นเจ้าของโรงแรมแต่เพียงผู้เดียว ชมพูแพรบอกว่าตนไม่เคยคิดแบบนั้น หญิงไม่เชื่อเพราะรู้ “สันดาน” เธอดี ตัดบทว่า
“ฉันทุ่มเทแรงกายแรงใจให้โรงแรมนี้มากกว่าเธอ เพราะฉะนั้นโรงแรมนี้ควรเป็นของฉัน ไม่ใช่สิ โรงแรมนี้ต้องเป็นของฉัน...”
ชมพูแพรถามว่าเธอต้องการแบบนี้ใช่ไหม ถ้างั้นเตรียมตัวไว้ ประกาศว่า “ฉันจะกลับมาทวงโรงแรมของฉันคืน”
“ถ้าเธอมีเงินสัก 500 ล้านแล้วค่อยมาว่ากัน ตอนนี้เชิญออกไปจากโรงแรมฉันได้แล้ว” หญิงไล่
ชมพูแพรออกมาด้วยความแค้นแน่นอก หญิงมองตามอย่างสะใจ
ออกมาเจอหมอวัฒนา เธอร้องไห้โฮ บอกหมอว่าตนไม่เหลืออะไรแล้ว หมอวัฒนากอดเธอไว้อย่างปลอบใจ
ooooooo
ที่เกาะมิน นางฟ้ายังคงสนุกกับชีวิตที่ลืมหมดทุกอย่างในอดีต ความนึกคิดเหมือนเด็กไร้เดียงสาจนสายชลปวดหัว
วันนี้เธอเก็บเสื้อให้สายชล เห็นเสื้อเขาขาด นึกอะไรได้ เอาเสื้อลายดอกของตัวเองมาขลิบที่ชายเอามาทาบที่รอยขาด พลันก็ตกใจรีบเอาซ่อนไว้ในตะกร้า เมื่อได้ยินเสียงสายชลร้องเรียกแล้วเดินเข้ามา ถามว่าทำอะไรอยู่
นางฟ้ารีบลุกขึ้นเดินออกไปบอกว่าจะไปเก็บผัก สายชล เห็นตะกร้าใส่ผักวางอยู่ก็บ่นขำๆว่าไปเก็บผักแล้วไม่เอาตะกร้าไป พลางหยิบตะกร้าขึ้นดูก่อนเดินตามไป
นางฟ้าเดินมาได้ยินเสียงนารากับอารีฟะอยู่หลังพุ่มไม้ สงสัยเลยแอบดู เห็นทั้งสองกำลังจู๋จี๋กันประสาผัวเมีย นางฟ้าตกใจอ้าปากจะร้อง สายชลมาถึงพอดีรีบเอามือปิดปากเธอไว้แล้วลากออกจากตรงนั้น
นางฟ้าสงสัยตามเคยถามว่าเมื่อกี้นี้นารากับอารีฟะทำอะไรกัน สายชลตอบแบบผ่านๆไปว่าเขาจูบกันอยู่
นางฟ้ามองเขาตาแป๋วถามว่าทำไมต้องจูบ รบเร้าคาดคั้นจนสายชลจำต้องบอกว่าเป็นการแสดงความรักต่อกัน
“คนรักกันต้องกอดกันแล้วก็จูบกัน” นางฟ้าพึมพำ
“แต่คนที่จะกอด จะจูบกันได้ นอกจากเป็นคนรักกันแล้ว ยังต้องเป็นผัวเมียกันอีกด้วย” สายชลรีบบอกกลัวเธอจะไปทำอะไรแบบที่เอาหมอนไปซักอีก นางฟ้าฟังทำหน้างงๆ พึมพำคำว่า “ผัวเมีย...”
แตลอยผงะ ขยี้ตาแรงๆพึมพำกับตัวเอง “นี่กูตาฝาดไปป่าววะ”
สายชลยังไม่รู้ตัว รีบตักน้ำบ้วนปาก ล้างหน้าลวกๆ ทำให้เครื่องสำอางที่แต้มไว้บนหน้าเลอะเทอะไปหมด เสร็จแล้วรีบเดินออกไป บอกแตลอยว่าไปได้แล้ว แตลอยมองหน้างงๆย้อนถามว่าแน่ใจว่าจะไปอย่างนี้หรือ
“เออ...เร็วสิ” พูดแล้วก็เดินนำอ้าวไป แตลอยเกาหัวแกรกๆแล้วรีบตามไป
พากันเดินไปจนถึงบริเวณชุมชน พวกสาวๆพากันมองสายชลตะลึงอึ้งจนเขาแปลกใจถามแตลอยเบาๆว่าเขามองอะไรกัน แตลอยบอกว่า “มองแกนั่นแหละ”
แตลอยยังไม่ทันบอกอะไรอีก อารีฟะก็อุ้มหนูแดงออกมา พอเห็นหน้าสายชลก็อุทานเหมือนถูกผีหลอก
“คุณพระช่วย...ทำไมหน้าตาเป็นแบบนี้สายชล...อย่าบอกนะว่าแกเป็นตุ๊ด”
สายชลเหวอไม่รู้ว่าอารีฟะหมายถึงอะไร จนกระทั่งเข้าไปที่หน้าบ้าน อารีฟะเอากระจกให้ส่องดู สายชลถึงกับตาเหลือกหันเล่นงานแตลอยว่าทำไมไม่บอกตน แตลอยยิ้มแหยๆบอกว่าไม่รู้จะบอกยังไง
“แล้วใครทำกับสายชลแบบนี้” อารีฟะถาม สายชล แทบไม่ต้องคิด กำหมัดแน่น นึกถึงนางฟ้าทันที พูดอย่างหัวเสีย
“จะใครซะอีกล่ะ!”
ooooooo
ที่ใต้ต้นมะพร้าว แม่ตัวแสบกำลังหัวเราะขำๆอยู่คนเดียว สวยถามว่าหัวเราะอะไร เธอบอกว่าไม่รู้ มันรู้สึกว่ามีความสุขเลยอยากหัวเราะ พูดแล้วก็หัวเราะคิกๆๆๆ
“นางฟ้า!” เสียงสายชลดังขึ้น ทันทีที่ได้ยินเสียง นางฟ้าตกใจเหมือนวัวสันหลังหวะ ลุกได้ก็วิ่งอ้าวไป สายชล วิ่งตามพลางร้องถาม “จะไปไหนตัวแสบ!”
สวย กอยา และซาติน ที่มาสุมหัวกันอยู่กับนางฟ้า พากันมองงงๆ กอยาถามว่าสายชลกับนางฟ้าเล่นอะไรกัน สวยเองก็ไม่รู้ เลยชวนกันรีบตามไปดูดีกว่า
นางฟ้าวิ่งหนีสายชลเข้าไปในบริเวณชุมชน สายชลวิ่งตามไม่ลดละ เจอซะละกับนาราแบกท่อนไม้เดินมาตามทาง ซะละตกใจร้องลั่น “นางฟ้า ระวัง...”
ช้าไปแล้ว นางฟ้าหยุดไม่ทัน เลยก้มหัวลอดท่อนไม้ไป สายชลวิ่งตะบึงมาเบรกไม่ทัน เลยโดนท่อนไม้ฟาดจนหน้าหงายล้มผลึ่งเห็นดาวเต็มฟ้า มามิโผล่มาเห็น ตกใจตะโกนเรียก “สายชล...” นางฟ้าได้ยินหยุดกึกหันมอง เห็นสายชลนอนแผ่ที่พื้นก็หน้าเสีย
เหตุการณ์วุ่นวายยิ่งขึ้น เมื่อซะละตกใจปล่อยท่อนไม้ทำให้นาราเสียหลักเซแซดๆ แสงดาวกับปีร์กะถือตะกร้าผักมาเห็นนาราก็ตกใจ นาราพยายามประคองท่อนไม้ไว้ไม่ให้หมุนไปฟาดใครเข้า แตลอยตัวยุ่งมาถึงพอดีรีบเข้าไปช่วยจับนารา แต่สะดุดพุ่งถลาเข้าชนปีร์กะเข้าอย่างจัง ปีร์กะเซไปชนแสงดาวทำตะกร้าผักหล่น ผักหกกระจุยกระจาย...
นาราเสียหลักล้มลง ท่อนไม้หล่นทับตีนตัวเองจนร้องจ๊าก บอกให้สวยช่วยที สวยไม่สนใจพ่อเพราะตั้งหน้าตั้งตาแย่งกับมามิเข้าไปหาสายชล
นางฟ้าที่หยุดดูเหตุการณ์อยู่ เห็นเรื่องวุ่นวายกันใหญ่โตดูท่าไม่ดี เลยย่องหนีไป สายชลลุกขึ้นมองหาไม่เจอ เขาบ่นอย่างหัวเสีย “ตัวต้นเหตุหายไปไหนแล้ว”
ooooooo
สายชลโมโหมากทั้งเจ็บตัวทั้งเจ็บใจ เดินอ้าวกลับบ้านหมายคิดบัญชีกับนางฟ้าเสียให้เข็ด แต่พอเข้าบ้านมองหาไม่เห็นร้องเรียกก็ไม่ตอบ เลยแกล้งพูดว่าไม่อยู่ก็ดีแล้วตนจะออกข้างนอกดีกว่า เขาแกล้งเปิดประตูแล้วปิดปัง ทำเหมือนออกไปแล้ว
นางฟ้าซ่อนอยู่ใต้เตียง ได้ยินเสียงพูดและเสียงปิดประตูปังก็นึกว่าสายชลออกไปแล้ว ค่อยๆ คลานออกมากวาดตามองไปรอบๆอย่างระวัง พลันก็สะดุ้งโหยงเมื่อมีมือมาสะกิดไหล่ หันไปเห็นสายชลก็ตั้งท่าจะวิ่งหนี
ช้าไปแล้ว เพราะสายชลคว้าแขนไว้กระชากอย่างแรง แต่แรงไปหน่อยนางฟ้าเลยถลาเข้าไปติดตัวเขา สายชลเป็นฝ่ายตกใจอึ้งไปเอง แล้วรีบผละออก ทำเสียงเข้มปราม “หนีสายชลไม่พ้นหรอก...”
นางฟ้าถูกสายชลเอาตัวไปที่แปลงผัก ที่ซะละ แสงดาว นารา มามิ และปีร์กะกำลังเก็บผักอยู่ เขาบอกให้นางฟ้าขอโทษทุกคน แต่ไม่มีใครโกรธเธอ และให้อภัย สายชลไม่ยอมยืนยันต้องลงโทษที่เธอทำให้ทุกคนวุ่นวายไปหมด
วิธีลงโทษของสายชลคือ ให้นางฟ้าเก็บผักแทนพวกซะละ ส่วนตัวเองนอนเปลญวนใต้ต้นไม้คอยมองไม่ให้นางฟ้าอู้งาน พอโดนค้อนก็พูดขู่ขำๆว่า
“เอ้า...ค้อนอยู่นั่นแหละ ตาเหล่ไม่รู้ด้วยนะ”
ไม่เพียงเท่านั้น ยังสั่งให้ไปกวาดใบไม้ที่ลานหมู่บ้าน โดยตัวเองนอนเอกเขนกคุมตามเคย ขู่ว่าถ้ากวาดใบไม้ไม่หมดวันนี้ไม่ให้กินข้าว
นางฟ้ากวาดไปเจอขี้แพะ เธอไม่รู้จักหยิบขึ้นมาดู แหงนมองต้นไม้เห็นมีผลไม้เล็กๆอยู่เต็มต้นก็นึกว่าขี้แพะ
คือผลไม้ที่หล่นลงมา เลยลองชิม ทำหน้าเหยเก บ่นว่ารสมันแปลกๆ
สายชลเห็นแต่ร้องห้ามไม่ทัน บอกเธอว่านั่นมันขี้แพะ แล้วอดหัวเราะขำไม่ได้ นางฟ้างอนถามว่ารู้แล้วทำไมไม่บอกกัน สายชลบอกว่า “ก็กำลังจะบอก แต่บอกไม่ทัน คนอะไรกินขี้แพะ ฮ่าๆๆๆ”
ขณะสายชลอ้าปากกว้างหัวเราะนั่นเอง นางฟ้าหยิบขี้แพะปาเข้าปากเขาพอดี สายชลหุบปากเพราะเธอปาขี้แพะเข้าปากลงไปถึงคอเลย ถามว่าปาอะไรมา
“ขี้แพะไง ฮ่าๆๆๆ” นางฟ้าหัวเราะทีหลังดังกว่า เห็นสายชลวิ่งไปอ้วกก็ยิ่งขำ
ooooooo
ตกบ่าย สายชลพานางฟ้าไปที่ริมผา ชี้ให้เธอดูหอยเม่นใต้น้ำ บอกว่า มันคือหอยเม่นที่มีหนามแหลมๆ รอบตัวพลางส่งถุงมือให้บอกว่า เราจะลงไปเก็บหอยเม่นกัน เตือนให้ระวังอย่าโดนหนามเข้าล่ะ เพราะว่ามันมีพิษ
“ถ้านางฟ้าเก็บหอยเม่นได้มากกว่าสายชล สายชลจะหยุดลงโทษนางฟ้า” สายชลบอก
ทั้งสองใส่ถุงมือดำลงไปเก็บหอยเม่น ปรากฏว่าสายชลเก็บได้มากกว่า 1 ตัว นางฟ้าเลยแพ้ แต่นางฟ้าเล่นบทขี้แพ้ชวนตี อ้างว่า สายชลแข็งแรงกว่าก็ต้องชนะอยู่แล้ว พาลหยิบหอยเม่นปาใส่เขา แต่ลืมใส่ถุงมือเลยถูกหอยเม่นตำร้องลั่น
สายชลตกใจรีบจับมือขึ้นมาดู นึกสงสารแต่ก็บ่น ถามว่าจะสมน้ำหน้าดีไหมที่เตือนแล้วไม่ระวังเอง
จนเย็นพากลับบ้าน นางฟ้ายังเจ็บมืออยู่ เขาบอกว่าอดทนหน่อยพรุ่งนี้ก็คงดีขึ้น แล้วนึกได้ว่าตั้งแต่กลางวันเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย จึงจัดหาอาหารมากินกัน นางฟ้ายังเจ็บมือกินข้าวไม่ถนัดจนปากเลอะเทอะ สายชลจึงป้อนให้ป้อนเธอคำตัวเองคำ
“รีบๆกินเข้า กินเสร็จสายชลจะพานางฟ้าไปดูอะไรบางอย่าง”
สิ่งที่สายชลพาไปดูคือชิงช้าที่เขาซ่อมเสร็จแล้วนั่นเอง นางฟ้าดีใจมากขึ้นนั่งชิงช้าชมว่า
“สายชลรู้ไหม ว่าสายชลเป็นคนที่น่ารักที่สุดในโลก” แล้วขอให้เขาไกวชิงช้าให้
นั่งชิงช้าอยู่นานจนสายชลชวนกลับกันเถอะตนง่วงแล้ว นางฟ้ายังติดใจ ไม่ยอมกลับ แหงนมองท้องฟ้าเห็นดวงดาวพราวเต็มฟ้า ก็รบเร้าสายชลอ้อนว่าอยากได้ดาวให้ไปเอามาให้หน่อยได้ไหม
สายชลบอกว่าไม่ได้ เพราะดวงดาวอยู่ในจักรวาล เราต้องนั่งจรวดถึงจะไปจักรวาลได้ แต่ตนไม่อยากไปเพราะไม่รู้ว่าโลกภายนอกมีอะไรบ้าง ที่นี่เป็นบ้านเกิดของตน พ่อแม่ของตนอยู่ที่นี่ แล้วก็...ตายที่นี่...
พูดถึงพ่อแม่แล้วเขาก็เศร้าไปถนัด นางฟ้าพลอยเศร้าไปด้วยถามว่า “พ่อกับแม่สายชลตายแล้วเหรอ”
“ฮื่อ...พายุพังบ้านสายชล แล้วมันก็เอาพ่อกับแม่ของสายชลไปด้วย สายชลพยายามจะช่วยพ่อกับแม่ แต่ตอนนั้นสายชลยังเด็กมาก สายชลได้แต่มองพ่อกับแม่ตายไปตรงหน้า” เสียงเขาสั่นเครือ มือกำแน่น น้ำตาคลอ จนนางฟ้ามองซึม...
ooooooo
ฟังสายชลเล่าเรื่องพ่อกับแม่แล้ว นางฟ้าเปรียบเทียบกับตัวเองว่าเขายังดีที่ได้เห็นหน้าพ่อแม่ แต่ตนจำไม่ได้เลยว่าตัวเองมีพ่อกับแม่หรือเปล่า พ่อแม่ ตนหน้าตาเป็นยังไง แล้วตอนนี้พ่อกับแม่ตนอยู่ที่ไหน... พูดแล้วก็ร้องไห้ สายชลเช็ดน้ำตาให้ปลอบโยนว่า
“ถึงนางฟ้าจะจำพ่อกับแม่ตัวเองไม่ได้ แต่นางฟ้าก็ยังมีสายชล ครอบครัวของสายชล ก็คือนางฟ้า”
นางฟ้ายิ้มออก พูดด้วยน้ำเสียงแจ่มใสขึ้นว่า “ครอบครัวของนางฟ้าก็คือสายชล” สายชลย้ำว่าเราจะอยู่ด้วยกันที่นี่ตลอดไป นางฟ้าบอกให้เขาสัญญา
“สัญญา สายชลกับนางฟ้าจะอยู่ที่นี่ด้วยกันตลอดไป”
“สัญญา” นางฟ้าพูดสบตากันดวงตาแจ่มใส สายชลจับหัวนางฟ้าซบที่ไหล่ตัวเอง ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด เหลือบมองหน้าสายชลแล้วยิ้มด้วยความรู้สึกดีๆ อย่างไม่เคยมีมาก่อน...
ooooooo
ชมพูแพรกับหมอวัฒนา ยังออกตามหาฟ้าลดาไม่ลดละ วันนี้ก็พากันไปไหว้พระอธิษฐานขอให้ตามเจอน้อง หมอวัฒนาเห็นเธอหน้าซีดๆ ถามว่าไม่สบายอีกหรือเปล่า เธอปฏิเสธ บอกว่าตนไม่อยากรู้สึกหมดหวัง แต่พอมาถึงวันนี้ก็นึกถึงอย่างที่ตำรวจบอก...น้องอาจจะตายไปแล้ว...ตนรู้สึกผิดกับน้อง พูดแล้วร้องไห้ จนหมอวัฒนาดึงเข้าไปกอดปลอบ
เมื่อทำใจให้เข้มแข็งได้แล้ว ชมพูแพรบอกว่า ต่อไปจะไม่ท้อ เราจะตามหาฟ้าลดากันต่อไป แล้วจับมือกันเดินออกไปอย่างมุ่งมั่น
ทั้งสองพากันไปที่ท่าเรือ ชมพูแพร หมอวัฒนา และตำรวจที่ไปด้วย ต่างเอารูปของฟ้าลดาให้ชาวประมงและคนที่ท่าเรือดู แล้วก็ต้องออกมาอย่างผิดหวังทุกครั้ง
ขณะเดินออกจากชาวประมงรายสุดท้ายนั้น ทั้งสองเห็นยาซะกำลังเดินอยู่ แต่พอจะเดินไปหา มือถือของชมพูแพรก็ดังขึ้นเสียก่อน
คุยโทรศัพท์แล้ว เธอบอกหมอวัฒนาหน้าตาเคร่งเครียดว่า ตนต้องรีบกลับกรุงเทพฯแล้ว เพราะหญิงฉวยโอกาสที่ตนไม่อยู่เล่นตุกติก ตอนนี้โรงแรมกำลังจะถูกโอนเป็นชื่อของหญิงคนเดียว บอกหมอวัฒนาแล้วก็เดินเลี่ยงออกไปโทร.ขอเลื่อนวันเดินทางกลับกรุงเทพฯกับสายการบิน ย้ำว่าต้องการไฟลต์เร็วที่สุด
ขณะทั้งสองกำลังร้อนใจเรื่องที่กรุงเทพฯนั้น ข้างหลังของทั้งสอง ยาซะ หมึก และฉลามก็ออกเรือไปแล้ว
ooooooo
ทันทีที่กลับถึงกรุงเทพฯ ชมพูแพรตรงดิ่งไปที่โรงแรม บอกให้หมอวัฒนารอข้างนอกตนจะเข้าไปคนเดียวเพราะเป็นเรื่องระหว่างตนกับหญิงสองคนเท่านั้น
ชมพูแพรถูกพนักงานกันไม่ให้เข้าไปในโรงแรม เธอไม่สนใจเดินลุยตรงไปที่ห้องประชุม เจอหญิงพอดี หญิงบอกให้ รปภ.ออกไปได้แล้ว จากนั้นเธอก็เผชิญหน้ากับชมพูแพร พูดกันอย่างไม่เหลือความเป็นเพื่อน
หญิงอ้างว่าเราสร้างโรงแรมนี้มาด้วยกัน แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอชอบแสดงให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองเป็นเจ้าของโรงแรมแต่เพียงผู้เดียว ชมพูแพรบอกว่าตนไม่เคยคิดแบบนั้น หญิงไม่เชื่อเพราะรู้ “สันดาน” เธอดี ตัดบทว่า
“ฉันทุ่มเทแรงกายแรงใจให้โรงแรมนี้มากกว่าเธอ เพราะฉะนั้นโรงแรมนี้ควรเป็นของฉัน ไม่ใช่สิ โรงแรมนี้ต้องเป็นของฉัน...”
ชมพูแพรถามว่าเธอต้องการแบบนี้ใช่ไหม ถ้างั้นเตรียมตัวไว้ ประกาศว่า “ฉันจะกลับมาทวงโรงแรมของฉันคืน”
“ถ้าเธอมีเงินสัก 500 ล้านแล้วค่อยมาว่ากัน ตอนนี้เชิญออกไปจากโรงแรมฉันได้แล้ว” หญิงไล่
ชมพูแพรออกมาด้วยความแค้นแน่นอก หญิงมองตามอย่างสะใจ
ออกมาเจอหมอวัฒนา เธอร้องไห้โฮ บอกหมอว่าตนไม่เหลืออะไรแล้ว หมอวัฒนากอดเธอไว้อย่างปลอบใจ
ooooooo
ที่เกาะมิน นางฟ้ายังคงสนุกกับชีวิตที่ลืมหมดทุกอย่างในอดีต ความนึกคิดเหมือนเด็กไร้เดียงสาจนสายชลปวดหัว
วันนี้เธอเก็บเสื้อให้สายชล เห็นเสื้อเขาขาด นึกอะไรได้ เอาเสื้อลายดอกของตัวเองมาขลิบที่ชายเอามาทาบที่รอยขาด พลันก็ตกใจรีบเอาซ่อนไว้ในตะกร้า เมื่อได้ยินเสียงสายชลร้องเรียกแล้วเดินเข้ามา ถามว่าทำอะไรอยู่
นางฟ้ารีบลุกขึ้นเดินออกไปบอกว่าจะไปเก็บผัก สายชล เห็นตะกร้าใส่ผักวางอยู่ก็บ่นขำๆว่าไปเก็บผักแล้วไม่เอาตะกร้าไป พลางหยิบตะกร้าขึ้นดูก่อนเดินตามไป
นางฟ้าเดินมาได้ยินเสียงนารากับอารีฟะอยู่หลังพุ่มไม้ สงสัยเลยแอบดู เห็นทั้งสองกำลังจู๋จี๋กันประสาผัวเมีย นางฟ้าตกใจอ้าปากจะร้อง สายชลมาถึงพอดีรีบเอามือปิดปากเธอไว้แล้วลากออกจากตรงนั้น
นางฟ้าสงสัยตามเคยถามว่าเมื่อกี้นี้นารากับอารีฟะทำอะไรกัน สายชลตอบแบบผ่านๆไปว่าเขาจูบกันอยู่
นางฟ้ามองเขาตาแป๋วถามว่าทำไมต้องจูบ รบเร้าคาดคั้นจนสายชลจำต้องบอกว่าเป็นการแสดงความรักต่อกัน
“คนรักกันต้องกอดกันแล้วก็จูบกัน” นางฟ้าพึมพำ
“แต่คนที่จะกอด จะจูบกันได้ นอกจากเป็นคนรักกันแล้ว ยังต้องเป็นผัวเมียกันอีกด้วย” สายชลรีบบอกกลัวเธอจะไปทำอะไรแบบที่เอาหมอนไปซักอีก นางฟ้าฟังทำหน้างงๆ พึมพำคำว่า “ผัวเมีย...”
“สายชลไม่มีทางเอาสวยเป็นเมียหรอก” นางฟ้าเถียง เพราะ “สายชลบอกว่านางฟ้าเป็นคนในครอบครัวของสายชลแล้วสายชลก็สัญญากับนางฟ้าว่าเราจะอยู่ที่นี่ อยู่ด้วยกันตลอดไป เพราะฉะนั้น สายชลไม่มีทางให้ไปอยู่ที่อื่น”
พูดแล้วนางฟ้าก็เดินงอนๆไป สวยมองเหวอ กอยากับซาตินแอบขำ แต่พอสวยมองตาเขียวก็หุบปากเงียบ
กลับมาถึงบ้าน เห็นสายชลหลับสนิทอยู่ นางฟ้าย่องไปหยิบตะกร้าใส่ผัก เอาเสื้อสายชลมาปะอย่างตั้งอกตั้งใจ ถูกเข็มตำมือหลายครั้งก็ยังอดทนปะจนเสร็จ
ooooooo
รุ่งขึ้น สายชลตื่นขึ้นมาไม่เห็นนางฟ้า ได้ยินเสียงเจ้าแก้วตา นกแก้วแสนรู้ร้อง “หิว...หิว...” สายชลเลยไปหยิบอาหารจะมาเทให้ จับพลาดอาหารหกรดเสื้อเปื้อน เขาจึงไปหยิบเสื้อมาเปลี่ยน มามิที่มาหาแต่เช้า เจอสายชลกำลังถอดเสื้อจะเปลี่ยน เห็นกล้ามเป็นมัดๆ เห็นเขาอยู่คนเดียวด้วย เป็นโอกาสทองแท้ๆ จะเข้าไปปล้ำ
นางฟ้าที่ไปหลับอยู่หลังบ้านตื่นขึ้นมา มองเสื้อในมือแล้วยิ้มอย่างดีใจ บอกตัวเองว่าสายชลต้องชอบแน่ๆ ถือเสื้อเดินเข้าไป เจอมามิกำลังปล้ำจูบสายชลพอดี
นางฟ้านึกถึงคำพูดของสวยที่บรรยายความเป็นผัวเมียกันให้ฟังที่ใต้ต้นมะพร้าว นึกถึงที่สวยบอกว่าถ้าสายชลมีเมียเธอก็ต้องถูกเฉดออกจากบ้าน แต่พอนึกถึงคำมั่นสัญญาของสายชลที่บอกว่าเราจะอยู่ด้วยกันที่นี่ตลอดไป นางฟ้าก็รับไม่ได้มองภาพตรงหน้ากำมือแน่น เสียใจอย่างที่สุด
เป็นจังหวะที่สายชลผลักมามิออก เห็นนางฟ้าเข้าพอดี เขาเป็นห่วงความรู้สึกของเธอ รีบเดินไปหา
“สายชลโกหก ไหนสายชลบอกว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไหนบอกว่าจะอยู่กับนางฟ้าตลอดไป” ต่อว่าแล้ววิ่งร้องไห้ออกไป สายชลร้องเรียก วิ่งตามไป
มามิมองเหวอร้องถามว่า สายชลจะไปไหน จะไปไหน...
แล้ววิ่งตามไปกอดสายชลไว้ บอกว่าเราต้องเป็นผัวเมียกันเพราะเขาจูบตนแล้ว สายชลบอกว่าเธอจูบตนต่างหาก แกะมือมามิออกแล้ววิ่งตามนางฟ้าไป
ooooooo
นางฟ้าวิ่งไปริมหาด เจอเรือจอดอยู่ก็กระโดดลงเรือพายออกไปสุดแรง สายชลกระโดดลงเรืออีกลำตามไป เมื่อตามทันก็ดึงเรือไว้ นางฟ้าเอาพายฟาดมือ แม้จะเจ็บแต่สายชลก็คว้าพายขว้างทิ้งไป แล้วกระโดดข้ามไปที่เรือของนางฟ้า
ทั้งคู่ยื้อยุดกันในเรือจนเรือล่ม พอนางฟ้าโผล่พ้นน้ำก็จะว่ายหนี ถูกสายชลคว้าตัวเข้าไปกอด ดุว่าทำอะไรให้หัดคิดเสียบ้าง ถ้าเธอเป็นอะไรไปตนจะอยู่ได้ยังไง
นางฟ้าต่อว่าสายชลว่าไม่รักษาสัญญา คร่ำครวญว่าถ้าสายชลเป็นผัวเมียกับมามิแล้ว ตนต้องถูกไล่ออกจากบ้าน แล้วตนจะไปอยู่ที่ไหน ตนกลัวไม่กล้าอยู่คนเดียว พูดไปร้องไห้ไปอย่างน่าสงสาร สายชลเช็ดน้ำตาให้ชี้แจงว่า
“สายชลกับมามิไม่ได้เป็นผัวเมียกัน สายชลไม่ได้รักมามิ” นางฟ้าหยุดร้องไห้ถามว่าจริงหรือ “จริงสิ สายชลสัญญาว่าจะไม่ทิ้งนางฟ้าเราจะอยู่กันไปอย่างนี้เรื่อยๆดีไหม”
นางฟ้าถามว่าแล้วเขาจะไม่รักใครหรือ หรือว่าจนกว่าจะเจอคนที่ใช่เราถึงจะรู้ว่ารัก เหมือนอย่างที่เขาเคยบอกตน
“ใช่ และถึงสายชลจะรักใครนะ สายชลก็จะไม่ปล่อยให้นางฟ้าอยู่คนเดียว”
ทั้งคู่ยิ้มให้กันอย่างอบอุ่น มีความสุขกับคำมั่นสัญญาและความรู้สึกที่มีต่อกัน
ดังนั้น เมื่อกลับถึงบ้าน เจอมามิหิ้วปิ่นโตมาส่งสายชล นางฟ้าจึงบอกมามิว่าเลิกตื๊อสายชลได้แล้วเพราะสายชลไม่ได้รักเธอ มามิไม่เชื่อถามสายชลว่าพูดอย่างนั้นจริงหรือ พอสายชลบอกว่าจริง เธอก็แผดเสียงเหมือนคนบ้าใส่ทั้ง
สองคน กระทืบเท้าเร่าๆวิ่งกลับไป แต่พอกลับมาถึงหน้าบ้านมามิหยุดคำรามเบาๆอย่างหมายมาดว่า
“นางฟ้านะนางฟ้า ไม่ช่วยกันเล้ย...ยังไงฉันก็ไม่มีวันล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆหรอก สายชลต้องเป็นผัวฉันคนเดียวเท่านั้น!”
ส่วนสายชล พอมามิไปแล้วก็นึกได้ หยิบเสื้อที่นางฟ้าปะให้ออกมาถามว่า
“นางฟ้าทำให้สายชลเหรอ” พอเธอพยักหน้า เขายิ้มจับมือเธอขอบใจ แต่ไปจับถูกนิ้วที่ถูกเข็มตำ เธอร้องโอ๊ย... พอรู้ว่าเธอถูกเข็มตำเพราะปะเสื้อให้ตน สายชลก็ยิ่งซึ้งใจ ลูบหัวโอ๋ แค่นั้นนางฟ้าก็ยิ้มแฉ่งแล้ว พูดอย่างดีใจว่า
“ไม่เป็นไร นางฟ้าไม่เจ็บ นางฟ้าดีใจที่สายชลชอบ สายชลใส่สิ นางฟ้าอยากเห็น” พอสายชลใส่ถามว่าหล่อไหม เธอชมว่าหล่อ แล้วหัวเราะกันอย่างร่าเริง
ooooooo
ที่บ้านชมพูแพร ทนายนัดเปิดพินัยกรรม เมื่อชมพูแพรเข้ามานั่ง ทนายถามว่าพร้อมแล้วใช่ไหม แล้วเริ่มอ่านพินัยกรรม
ในพินัยกรรมของนายภมร พิมุขมนตรา ผู้เป็นพ่อ ระบุว่า
1. บ้านที่อยู่ในปัจจุบัน บ้านสวนหลังเล็ก บริษัทฟลายฟาสแอร์ไลน์ เครื่องเพชรทอง และเงินสดจำนวน 1,300 ล้านบาท ขอมอบให้นางสาวฟ้าลดา พิมุขมนตรา
2. กิจการบ้านเช่า และเงินสดจำนวน 300 ล้าน ขอมอบ ให้นางสาวชมพูแพร พิมุขมนตรา
ชมพูแพรนิ่งอึ่งไปครู่หนึ่ง เมื่อทนายอ่านพินัยกรรมจบ เธอเอ่ยขึ้นว่า
“คุณอาคงทราบว่าตอนนี้เรายังหายัยฟ้าไม่พบ ถ้าเกิด...ยัยฟ้าเสียชีวิต ส่วนที่ยัยฟ้าต้องได้จะทำยังไงคะ”
ทนายสมคิดบอกว่าก็ต้องตกเป็นของทายาทลำดับต่อไปซึ่งก็คือตัวเธอนั่นเอง ชมพูแพรถามอีกว่า แล้วถ้าเกิดเราไม่รู้ว่าตอนนี้ฟ้าลดาเป็นหรือตายล่ะ
“ถ้ายังไม่พบคุณฟ้าลดาภายในห้าปี คุณฟ้าลดาก็จะเป็นบุคคลหายสาบสูญ แต่ในกรณีอย่างคุณฟ้าลดาที่หายตัวไปเพราะเรือล่ม คุณชมพูแพรมีสิทธิ์ที่จะยื่นเรื่องให้คุณฟ้าลดาเป็นบุคคลหายสาบสูญภายในหนึ่งปีครับ”
ชมพูแพรฟังทนายสมคิดแล้วนิ่ง แววตาตรึกตรอง
ooooooo
ป้าเนียมเก็บแก้วน้ำเข้าไปไว้ในครัว เจอแหวนสาวใช้รุ่นใหม่เจ๋อเข้ามาสาระแนว่า ชมพูแพรจ๋อยไปเลยที่ได้สมบัตินิดเดียว ป้าเนียมมองหน้าแหวนอย่างตำหนิ ถามว่าไปแอบฟังมาหรือ แหวนแก้ตัวว่าเปล่า แค่บังเอิญได้ยิน
“นังนี่...สาระแนจริงๆ เมื่อไหร่แกจะเลิกมองคุณแพรในแง่ร้ายเสียที” ป้าเนียมฉุน
แหวนยังเถียงว่าตนไม่ได้มองชมพูแพรในแง่ร้าย ถามป้าเนียมว่าไม่เห็นแววตาเธอหรือ มันไม่บริสุทธิ์เหมือนคุณฟ้าลดาเลย ทั้งยังพูดอย่างอวดรู้อวดดีว่า “ก็เพราะงี้แหละคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงถึงรักคุณฟ้ามากกว่าคุณแพร”
แหวนพูดไม่ทันขาดคำก็ถูกป้าเนียมเขกหัวดังโป๊ก ปรามว่าถ้าไม่รู้อะไรอย่าพูด แทนที่จะหยุด แหวนทำตาโตถามว่าป้ารู้อะไรที่ตนไม่รู้เหรอ เลยโดนเขกหัวอีกโป๊กหนึ่งถึงหยุดแหวนได้ แหวนคลำหัวป้อยๆบ่นว่าเขกหัวตนแบบนี้สมองเสื่อมหมด
“ถ้าไม่อยากโดนอีก ก็เลิกเม้าท์เจ้านายได้แล้ว คุณแพรเธอเป็นคนน่าสงสาร แล้วตอนนี้ก็ยิ่งน่าสงสารเข้าไปใหญ่ เสียทั้งคุณพ่อคุณแม่ แล้วคุณฟ้าก็มาหายตัวไปอีก” พูดแล้วป้าเนียมกวาดตามองพวกคนใช้บอกว่า “พวกเราต้องเห็นใจคุณแพรให้มาก มีอะไรที่ช่วยได้ พวกเราต้องช่วย เข้าใจไหม”
ทุกคนพยักหน้ารับ ยกเว้นแหวนที่นั่งคอแข็งหน้างออยู่
ooooooo
ชมพูแพรเข้าไปในห้องนอนตัวเอง หยิบรูปครอบครัวที่มีพ่อ แม่ ฟ้าลดา และตนเอง ถ่ายร่วมกันขึ้นดู อดคิดถึงอดีตไม่ได้...
เวลานั้นเธอเพิ่งอายุได้ 5 ขวบ ลัดดากับภมรไปรับเธอจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เมื่อพี่เลี้ยงจูงเธอมา ลัดดาเป็นคนอุ้มเธอขึ้น ชวนอย่างอบอุ่น เมตตาว่า “มาเป็นลูกของแม่นะลูกนะ”
แต่หลังจากนั้นไม่นาน วันหนึ่งลัดดาก็บอกเธอว่า “ดีใจไหมแพร ลูกกำลังจะมีน้องแล้วนะ” ชมพูแพรไม่ตอบแต่กำมือแน่น ตาแข็งกร้าวอย่างไม่พอใจ
5 ปีผ่านไป ชมพูแพรอายุได้ 10 ขวบ และฟ้าลดาอายุได้ 5 ขวบ เธอแย่งของเล่นกับน้อง เธอดุจนน้องร้องไห้ ภมรมาเจอเข้าเอ็ดชมพูแพรว่า “เราเป็นพี่ ทำไมถึงแย่งของน้อง คืนน้องไปซะ”
ลัดดาขอว่าอย่าดุชมพูแพรเลย ภมรไม่ยอม บ่นอย่างเบื่อหน่ายว่า
“ไม่ได้ เด็กอะไรนิสัยไม่ดี ไม่น่าเอามาเลี้ยงเลยจริงๆ”
นั่นคือตราบาปที่อยู่ในใจของชมพูแพรตลอดมา แต่นั้นมา เธอรู้สึกว่าชีวิตตัวเองเป็นส่วนเกินของครอบครัว
คิดถึงอดีตแล้วก็ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำของตนกับฟ้าลดา เธอเดินไปมองตัวเองในกระจกพึมพำอย่างสมเพชตัวเองว่า
“ขนาดพ่อกับแม่ตายไปแล้ว ก็ยังยกทุกอย่างให้ ยัยฟ้ามากกว่าแพร...”
ป้าเนียมมาเคาะประตู ชมพูแพรรีบปรับสีหน้าหันไปดูเห็นป้าเนียมเอาน้ำส้มมาให้ เธอขอบคุณพลางวางกรอบรูปไว้บนชั้น ป้าเนียมถามว่าได้ข่าวฟ้าลดาบ้างหรือยัง เธอส่ายหน้าบอกว่ายังไม่พบเบาะแสอะไรเลย แล้วเล่าว่า
“ใครๆก็บอกให้แพรถอดใจ บอกว่ายัยฟ้าไม่รอด แต่ตราบใดที่ยังไม่พบศพน้อง แพรเชื่อว่าน้องต้องยังไม่ตายค่ะ”
“คุณฟ้าเธอเป็นคนดี เธอต้องไม่เป็นอะไร ส่วนคุณแพร...คุณก็เป็นคนดีเช่นกัน ถึงใครไม่เห็นแต่เบื้องบนต้องเห็นเชื่อป้านะคะ”
ชมพูแพรพยักหน้าน้ำตาไหลด้วยความอัดอั้น ป้าเนียมขยับเข้ามากอดเธอไว้อย่างให้กำลังใจ ชมพูแพรมองไปทางรูปของฟ้าลดาอย่างครุ่นคิด
ooooooo
ที่เกาะมินวันนี้ ขณะที่สายชลกำลังสอนนางฟ้าเกี่ยวกับการทำธนาคารปูอยู่นั้น สวยก็เดินมาหาอย่างรีบร้อน ขอร้องนางฟ้าให้ช่วยตนด้วย นางฟ้าบอกว่าต้องรู้ก่อนว่าจะให้ช่วยอะไรถึงจะรับปากได้ สวยบอกว่าจะให้นางฟ้าเข้าประกวดธิดาสมุทรในปีนี้ สายชลถามอย่างสงสัยว่านึกยังไงถึงมาชวนนางฟ้าเข้าประกวด
สวยจึงยอมบอกว่า เพราะปีนี้มามิจะเข้าประกวด ตนเชื่อว่าถ้านางฟ้าเข้าประกวดต้องชนะเลิศแน่ๆ แตลอยฟังแล้วเชียร์สุดใจขาดดิ้น ท้าพนันกับสายชลว่า ถ้านางฟ้าชนะสายชลต้องแก้ผ้าวิ่งรอบเกาะ แต่ถ้านางฟ้าแพ้ตนจะแก้ผ้าวิ่งรอบเกาะเอง
สายชลตอบตกลงทันที สวยสัญญาว่าตนจะทำให้นางฟ้าชนะเลิศให้ได้
แสงดาวรับเป็นพี่เลี้ยงให้นางฟ้า นอกจากสอนเดินให้ไม่เป็นม้าดีดกะโหลกแล้วยังจับสอนให้เต้นระบำเกาะมิน
อีกด้วย แสงดาวเต้นให้ดูเป็นตัวอย่าง เธอเต้นได้พลิ้วไหวสวยงามมาก แต่พอนางฟ้าทำบ้างก็แข็งทื่อกระโดกกระเดกขัดๆเขินๆ
“ค่อยๆทำ ไม่ต้องรีบร้อน เราต้องให้ความรู้สึกประสานไปกับท่าเต้น แล้วจะทำให้การเต้นของเรามีเสน่ห์จนไม่มีใครละสายตาไปได้” แสงดาวแนะเคล็ดลับให้
นางฟ้าพยักหน้าแล้วพยายามทำตาม มานิมาแอบดูเห็นนางฟ้าเต้นได้ดีก็กำมือแน่นอย่างแค้นใจ มุ่งมั่นจะเอาชนะนางฟ้าให้ได้
ooooooo
นางฟ้าพยายามทำตามคำแนะนำของแสงดาว ไม่ว่าจะทำอะไร เดินไปไหน ก็พยายามฝึกทั้งกลางวันกลางคืน มามิก็ไม่ประมาท ฝึกอย่างหนักทั้งกลางวันกลางคืนเช่นกัน พูดกับตัวเองอย่างมั่นใจว่า
“คนอย่างมามิไม่เคยกลัวใคร และฉันมั่นใจว่าฉันต้องชนะ นางฟ้าไม่มีทางสู้ฉันเรื่องเต้นได้แน่นอน”
มามิซ้อมเต้นอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่เวลายกถาดสมุนไพรไปตากแดดก็ยังไปในท่าเต้น ทั้งยังคิดท่าเต้นใหม่ๆเพื่อเอาชนะนางฟ้า จนปีร์กะบอกว่าพักเสียบ้างเถอะ เดี๋ยวเอวเคล็ดถึงวันประกวดจริงๆจะเต้นไม่ได้
“อ้าวป้า...ทำไมปากเสียแบบนี้ล่ะ คนอย่างมามิ
ไม่มีทางแพ้หรอก” ว่าแล้วก็เต้นต่อ พลันก็รู้สึกเจ็บแปล๊บที่เอวแต่ยังทำเหมือนไม่เป็นไร ปีร์กะมองหลานสาวอย่างรู้ทัน แต่ไม่พูดอะไร ไม่อยากถูกด่าว่าปากเสียอีก
ooooooo
วันงานมาถึงแล้ว ยาซะ หมึก และฉลามมาเที่ยวงานเหมือนทุกปี ยาซะคึกคักเป็นพิเศษเพราะจะได้ดูอาหารตาเสียให้เต็มอิ่ม ระหว่างเดินเที่ยวก็ทักทายบรรดาสาวๆไปตลอดทางอย่างแช่มชื่นเบิกบานใจ
ไม่นาน ซะละในฐานะหัวหน้าเกาะออกมาประกาศกลางลานอย่างน่าตื่นเต้นว่า
“สวัสดีพ่อแม่พี่น้องชาวเกาะมิน พ่อแม่พี่น้องคงอยากเห็นสาวๆผู้เข้าประกวดกันแล้วใช่ไหม” เสียงตอบรับ
กันกึกก้อง โดยเฉพาะเสียงของพวกหนุ่มๆ ซะละหัวเราะชอบใจประกาศว่า “ถ้าอย่างนั้น เชิญพบกับสาวงามทั้งเจ็ดได้เลย” ซะละผายมือแล้วถอยไป
สาวงามทยอยเดินออกมาท่ามกลางเสียงปรบมือ เสียงเชียร์และเสียงเป่าปากของหนุ่มวัยคะนองจ้องบนเวทีเขม็ง มามิเดินมาเป็นคนที่หกตามด้วยนางฟ้า พอนางฟ้าเดินออกมาเสียงเชียร์ก็ยิ่งกึกก้อง สายชลมองตะลึง แตลอยมองตาค้าง
ยาซะกับหนุ่มชาวเกาะอีกส่วนหนึ่ง มองนางฟ้าที่วันนี้นอกจากจะสวยแล้วยังดูเซ็กซี่ใสๆด้วย ยาซะมองหื่น
มามิจับตามองสายชล รู้สึกแปลกๆกับสายตาของเขาที่มองนางฟ้า สวยก็เช่นกัน ถึงจะเป็นคนเชียร์นางฟ้าให้มาประกวดเพื่อเอาชนะมามิ แต่ก็อดรู้สึกแปลกๆกับสายตาของสายชลไม่ได้
เมื่อถึงเวลาเต้นโชว์ ปรากฏว่ามามิเต้นได้ไม่นานก็ปวดเอวจนเต้นไม่ไหวล้มลง เธอเสียใจมาก แต่ก็ได้รับกำลังใจจากซะละว่า “พวกเราปรบมือให้มามิกันหน่อย ไม่เป็นไรนะมามิ ไม่เป็นไร”
สุดท้ายคือนางฟ้า เธอเต้นได้สวยงามมาก ตลอดเวลาที่เต้นก็นึกถึงคำแนะนำของแสงดาวที่ว่า “เราต้องให้ความรู้สึกประสานไปกับท่าเต้น แล้วจะทำให้การเต้นของเรามีเสน่ห์จนไม่มีใครละสายตาได้” แล้วเธอก็ทำได้จริงๆ
หลังจากนั้น ซะละประกาศว่า “หนุ่มๆชาวเกาะมิน ถูกใจสาวคนไหน ให้เอาพวงมาลัยมาคล้องคอสาวๆ ที่ชื่นชอบได้เลย เชิญไปหยิบพวงมาลัยดอกไม้ที่แม่แสงดาวกับอารีฟะได้เลยจ้ะ”
หนุ่มๆพากันไปหยิบพวงมาลัย รุมกันไปคล้องให้นางฟ้า แตลอยไปหยิบแล้วยิ้มให้มามิ แต่กลับเดินไปคล้องให้นางฟ้า ยาซะคล้องพวงมาลัยให้นางฟ้าชมว่าวันนี้นางฟ้าสวยมาก ส่วนสายชลถือพวงมาลัยเดินมา มามิยิ้มรอรับพวงมาลัย เขาเดินมาชมว่าวันนี้เธอเต้นได้สวยมาก แต่กลับเดินไปคล้องพวงมาลัยให้นางฟ้า มามิยิ้มเก้อ มองอย่างไม่พอใจมาก
ooooooo
เมื่อถึงเวลาตัดสินผู้ครองตำแหน่งธิดาสมุทร ปรากฏว่านางฟ้าได้คะแนนท่วมท้น ท่ามกลางเสียงเฮชอบใจจากชาวบ้าน โดยเฉพาะหนุ่มๆ แตลอยกระโดดตัวลอยบอกสายชลว่าแพ้ตนแล้ว ต้องแก้ผ้าวิ่งรอบเกาะตามสัญญา พูดอย่างสะใจมากว่า
“เพิ่งจะมีวันนี้แหละที่ฉันเอาชนะแกได้ อย่าลืมสัญญานะเว้ย วิ่งแก้ผ้า ฮ่าๆๆๆ” แตลอยหัวเราะชอบใจมาก
สายชลมองไปที่นางฟ้า เห็นยาซะกับพวกหนุ่มๆกำลังกลุ้มรุมเธออยู่ เขาพรวดเข้าไปจับแขนเธอบอกให้กลับบ้านได้แล้ว ซะละติงว่ายังมีงานฉลองต่ออีก เดี๋ยวจะให้นางฟ้าเลือกผู้ชายที่อยากออกไปเต้นรำด้วย สายชลเลยต้องปล่อยมือ
“เลือกเลยนางฟ้า อยากเต้นรำกับใคร” ซะละร้องบอก นางฟ้ามองไปรอบๆ แล้วเธอก็เลือกสายชล เธอตรงไปจับมือสายชลพากันออกไปเต้นรำ ทำให้ยาซะไม่พอใจ หาทางกันนางฟ้าออกจากสายชล ด้วยการเต้นเข้าไปแทรกกลางระหว่างสายชลกับนางฟ้า สองหนุ่มแก่งแย่งนางฟ้ากันไปมาด้วยลีลาการเต้นที่กลมกลืนแนบเนียน
สายชลยังไม่หายหงุดหงิดที่ยาซะพยายามเข้าแทรกระหว่างตนกับนางฟ้า เลยเข้าไปลากแขนนางฟ้าพูดเสียงดังสั่งให้กลับบ้าน แต่นางฟ้ายังไม่อยากกลับ ยังอยากสนุกต่อ สายชลถามอย่างไม่พอใจว่า เพราะอยากเต้นรำกับยาซะใช่ไหม ทำให้นางฟ้าไม่พอใจ บอกว่าเสียงดังใส่ตนแบบนี้ตนไม่ชอบ แล้วเดินหัวเสียไป
ยาซะมองสายชลอย่างสะใจที่ถูกนางฟ้าทิ้ง สายชลจะตามนางฟ้าไปแต่ก็ถูกพวกสาวๆพากันมาห้อมล้อมจนไปไม่ได้ สุดท้ายก็ได้แต่มองตามนางฟ้าไปด้วยความรู้สึกหึงหวงโดยไม่รู้ตัว
ooooooo
กลายเป็นความไม่พอใจกันระหว่างนางฟ้ากับสายชล เมื่อกลับมาถึงบ้านนางฟ้าชมยาซะว่าเต้นรำเก่งกว่าสายชลอีก ทั้งยังไม่เคยเสียงดังกับตน เป็นคนใจดีซื้อของมาให้ตนบ่อยๆ ผิดกับสายชลที่ใจร้าย ชอบทำหน้าโหดใส่ ตนไม่ชอบเลย
สายชลโมโหรับไม่ได้ นางฟ้าตกใจวิ่งหนีออกจากบ้านไป สายชลขยี้หัวตัวเองอย่างหัวเสีย เดินออกจากบ้านไปอีกคน
เช้าวันรุ่งขึ้น นางฟ้าเห็นสายชลนอนหลับเป็นตายอยู่ ก็ย่องออกจากบ้านไปที่ชายหาด ยาซะอยู่บนเรือเห็นนางฟ้าก็รีบลงมาหา แกล้งหยอกด้วยการวักน้ำใส่ นางฟ้าสนุกเลยเล่นด้วย สายชลมาเจอยิ่งโมโหลากนางฟ้าขึ้นจากทะเลพากลับบ้าน
สายชลดุนางฟ้า สั่งไม่ให้ไปเล่นกับผู้ชายอื่นแบบนี้อีก ยิ่งเมื่อนางฟ้าพูดชื่นชมยาซะ สายชลก็ยิ่งโมโหกวาดของที่ยาซะซื้อให้นางฟ้าใส่ถุงเอาไปทิ้งทะเล ทำให้นางฟ้ายิ่งไม่พอใจ ตะโกนใส่หน้าว่า
“สายชลใจดำ ใจร้ายที่สุด สายชลไม่น่ารักเลย นางฟ้าไม่ชอบสายชลแล้ว” พูดแล้ววิ่งออกไป แม้สายชลจะใจคอไม่ดีแต่ก็ทำฟอร์มว่าไม่แคร์ พูดเหมือนปลอบใจตัวเองว่า อยากรู้นักว่าจะไปไหนได้สักกี่น้ำ
นางฟ้าวิ่งร้องไห้ไปทางท่าเรือ ยาซะรีบลงมาหา ถามว่าเป็นอะไร สายชลว่าอะไรหรือ
“สายชลใจร้าย สายชลทิ้งของที่พี่ยาซะให้นางฟ้าหมดเลย นางฟ้าไม่อยากอยู่กับสายชลแล้ว”
ยาซะมองนางฟ้าอย่างมีแผน ชวน “ถ้างั้นไปอยู่กับพี่ยาซะไหม”
นางฟ้ามองหน้ายาซะนิ่งอย่างชั่งใจ
ooooooo
นางฟ้าถูกหว่านล้อมจนลงเรือไปกับยาซะ ยาซะสั่งหมึกกับฉลามให้รีบออกเรือ แต่เจ้ากรรมเรือสตาร์ตไม่ติด เสียเวลาจนสายชลตามมาเจอเรือติดแล้วจะออกไปพอดี สายชลตะโกนเรียก พอได้ยินเสียงสายชลนางฟ้าบอกให้หยุดเรือ ยาซะเห็นทีจะฝืนไปไม่ได้เลยทำเป็นทักสายชลแล้วสั่งให้หยุดเรือ สายชลไม่สนใจขึ้นเรือไปจับแขนนางฟ้าบอกให้กลับบ้าน
เหมือนถูกลูบคม ยาซะไม่ยอม เกิดชกต่อยกันขึ้น หมึกกับฉลามเข้าช่วยยาซะรุมสายชล นางฟ้าเห็นดังนั้นก็เข้าช่วยสายชลด้วยการคว้าถังน้ำครอบหัวหมึกกับฉลาม มันสองคนคว้ามือลากกันตกน้ำไปทั้งคู่ นางฟ้ารีบเข้าไปดูสายชลที่ถูกชกจนปากแตก ยาซะเลยได้แต่ยืนมองเซ็งๆ
เมื่อพานางฟ้ากลับถึงบ้าน เธอทำแผลให้เขา สายชลขอโทษที่พูดไม่ดีกับเธอ ขอร้องว่าต่อไปอย่าเข้าใกล้ยาซะ
ได้ไหม เพราะเขาไม่ใช่คนดี นางฟ้าเชื่อฟังรับปากว่าจะไม่เข้าใกล้ยาซะอีก
ไม่ทันไรแตลอยก็มาตะโกนเรียกสายชลที่หน้าบ้านบอกว่าชาวบ้านมารอกันเต็มหาดแล้วจะดูเขาแก้ผ้าวิ่งรอบเกาะเพราะแพ้พนันตน สายชลมึนแต่ต้องรักษาสัญญา เดินตามแตลอยไป พอไปถึงทุกสายตาจ้องรอเขาแก้ผ้าวิ่งกันลุ้นๆ
สายชลแก้สถานการณ์แบบศรีธนญชัย เขาแก้กางเกงออก พอถูกประท้วง เขายกกางเกงชูขึ้นถามว่านี่ผ้าใช่ไหม ทุกคนบอกว่าใช่ เขาบอกว่าตนแก้ผ้าแล้วแต่ไม่ได้สัญญาว่าจะแก้หมด ฉะนั้นตนไม่ได้ผิดสัญญา
แตลอยเสียท่าสายชลตามเคย บ่นกับตัวเองเซ็งๆว่า “โธ่เว้ย...เมื่อไรฉันจะฉลาดกว่าไอ้สายชลวะ!”
ส่วนชาวบ้านก็พากันผิดหวัง แต่ก็โล่งอกที่ตาไม่ต้องเป็นกุ้งยิงกันทั้งเกาะ
ooooooo
หลังจากรู้ว่าตนจะได้เงินสดแค่ 300 ล้าน ชมพู-แพรคิดหนักว่าจะหาเงินที่ไหนมาซื้อโรงแรมที่หญิงบอกว่าต้องใช้เงินถึง 500 ล้านบาท ตัดสินใจโทร.
นัดทนายสมคิดมาปรึกษา
หลังจากนัดพบกันที่ร้านกาแฟ เมื่อชมพูแพรแสดงเจตนาของตนแล้ว ทนายสมคิดบอกว่า
“การยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก จะกระทำได้ต่อเมื่อมีเหตุจำเป็นจริงๆ ที่ต้องจัดการมรดก อย่างเช่น จำเป็นที่จะต้องใช้หนี้”
คำพูดของทนายทำให้ชมพูแพรสนใจขึ้นมาทันที
ooooooo
ชมพูแพรไปที่ออฟฟิศสายการบินที่พ่อยกเป็นมรดกให้ฟ้าลดา ไปตรวจและขอดูเอกสารกับบัญชีต่างๆ หลังจากนั้นก็เอากลับบ้าน ทำทีตรวจบัญชีหน้าดำคร่ำ เคร่ง หมอวัฒนามาเห็น ถามอย่างตกใจว่าทำไมตัวเลขติดลบมากอย่างนี้
ชมพูแพรตีหน้าเศร้า บอกว่าตนไม่เคยรู้เลยว่าบริษัทขาดทุนมีหนี้สินมากมาย กำลังจะถูกธนาคารยึดถ้าหาเงินมาใช้หนี้ไม่ทัน ทำเอาหมอวัฒนาตกใจถามว่า มีปัญหามากมายอย่างนี้ทำไมไม่บอกตน มีอะไรจะให้ตนช่วยได้ไหม
“พี่หมอช่วยเป็นกำลังใจให้แพรก็พอค่ะ แพรคิดว่าแพรรับมือกับปัญหานี้ได้ค่ะ”
เมื่อเธอกลับเข้าห้องนอน เธอมองฟ้าลดาในรูปบอกน้องอย่างรู้สึกผิดว่า
“พี่ขอโทษนะฟ้า พี่จำเป็นต้องโกหก ถ้าพี่ไม่ทำแบบนี้ พี่ก็ไม่มีเงินมาซื้อโรงแรมของพี่คืน”
แต่แล้วก็ความแตกจนได้ เมื่อคุณเจตน์เพื่อนของภมรพ่อชมพูแพรที่ทำงานในสายการบินป่วยเข้าโรงพยาบาล หมอวัฒนามาตรวจ พบว่าความดันสูง เจตน์บ่นว่าตั้งแต่ไม่มีภมรมันก็วุ่นไปหมด หมอบอกว่าตนพอรู้เรื่องจากชมพูแพรบ้างแล้ว
คุยกันจึงรู้ว่าสายการบินของภมรไม่ได้ขาดทุนอย่างที่ชมพูแพรบอก เมื่อหมอเจอเธออีกครั้งจึงบ่นเชิงตำหนิว่าทำไมต้องโกหกตน เพราะบริษัทไม่ได้ขาดทุนอย่างที่เธอพูด ชมพูแพรยอมรับผิดและบอกถึงความจำเป็นที่ต้องทำอย่างนั้น ขอหมออย่าโกรธตนเลย
“ผมไม่โกรธแพรหรอกครับ ผมแค่น้อยใจที่แพรไม่พูดความจริง ทั้งที่ผมเป็นแฟนแพร วันหลังถ้าแพรมีปัญหา ต้องบอกผมนะครับ อย่าเก็บไว้คนเดียว เราจะได้ช่วยกัน”
“ค่ะ...” เธอตอบเศร้าๆ บอกว่าเวลานี้ตนคิดถึงน้องที่สุด ถามว่าถ้าน้องอยู่หมอรู้ไหมว่าน้องจะทำอย่างไร หมอวัฒนาเลยทำหน้าหมูหยอก จนเธอหัวเราะออกมา พอดีฝนทำท่าจะตก หมอจึงชวนกลับบ้านกันก่อนดีกว่า
ooooooo
เพราะในวันประกวดธิดาสมุทร มามิกับสวย ต่างเห็นเหมือนกันว่า สายชลมองนางฟ้าด้วยสายตาแปลกๆ เลยรวมหัวกันคิดหาทางพิสูจน์ความจริง จากนั้น พากันไปแอบดูที่หน้าบ้านสายชล
เห็นสายชลกับนางฟ้าอยู่กันอย่างมีความสุข กระจุ๋ง กระจิ๋งกัน เวลากินข้าวสายชลก็คอยป้อนคอยเช็ดรอยเปื้อน ที่ปากให้ เห็นสายชลถักเปียให้นางฟ้า แม้จะถักเปียไม่เป็นแต่ สายชลก็พยายามทำให้ ระหว่างนั้นก็หยอกล้อกันอย่างแจ่มใส
มามิกับสวยเห็นพ้องกันว่า สงสัยสายชลจะชอบนางฟ้าแล้วจริงๆ
ระหว่างนั้น เจ้าแก้วตา นกแก้วแสนรู้เห็นมามิกับสวย
ก็ร้อง “ขโมย...ขโมย...” สายชลวิ่งออกมาดูเลยเจอสองสาวถามว่ามาทำอะไร มามิโกหกว่าจะมาหานางฟ้า พอดีนางฟ้าวิ่งออกมา มามิเลยฉวยมือชวนไปกันเถอะ แล้วพาวิ่งไปเลย
พากันไปนั่งที่ใต้ต้นไม้ แล้วมามิก็ถามนางฟ้าว่าชอบสายชลรึเปล่า นางฟ้าตอบทันทีว่าชอบ เพราะสายชลเป็นคนดี คอยดูแลตน มามิคาดคั้นให้นางฟ้ารับปากว่าจะไม่ชอบสายชลแบบคนรัก เพราะเราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนต้องทำให้เพื่อนได้ทุกอย่าง นางฟ้าเลยตกลง
“ดีมาก แต่เรื่องนี้นางฟ้าต้องเก็บเป็นความลับนะ ห้ามบอกสายชลเด็ดขาดว่าเราคุยอะไรกัน”
นางฟ้าพยักหน้ารับ ทำให้มามิกับสวยมองหน้ากันอย่างสบายใจขึ้น
ความสวยของนางฟ้าทำให้บรรดาหนุ่มๆ บนเกาะมินพากันหลงใหล บ่ายวันนี้ก็มีพวกหนุ่มๆพากันทยอยเอาดอกไม้มาให้นางฟ้าบ้าง เอาปลามาฝากนางฟ้าบ้าง แตลอยก็ไม่
น้อยหน้าใครเอามะพร้าวมาฝากนางฟ้า
ทั้งหมดถูกสายชลกันท่าไม่ให้พบนางฟ้า บอกว่านางฟ้าไม่ชอบของพวกนี้ให้เอากลับไปให้หมด สองหนุ่มหัวอ่อนพากันกลับ แต่แตลอยหัวดื้อรออยู่หน้าบ้าน จนสายชลออกมาอีกทีพบว่ายังอยู่ เลยลงไปสั่งให้หันหลังล่อลูกแปเข้าป้าบหนึ่งแล้วสั่ง
“กลับไปก่อนที่ฉันจะโมโหมากกว่านี้...ไป!”
แตลอยเลยโกยแน่บไป
เมื่อนางฟ้ากลับมา สายชลปะเหลาะถามว่าไปคุยอะไรกันมา นางฟ้าเกือบพลั้งปากบอกไปแล้ว แต่นึกถึงคำเตือนของมามิที่ว่าต้องเก็บเรื่องที่คุยกันเป็นความลับ เลยปดสายชลว่าแค่ไปเดินเล่นมา
สายชลเอาปลาปิ้งให้กิน กินแล้วนางฟ้าบอกว่าหิวน้ำ แล้วลุกจะไปเอาน้ำ รู้สึกหน้าร้อนผ่าว จนสะดุดจะล้ม สายชลประคองไว้จมูกชนกันเบาๆ ต่างมองหน้ากันอึ้งๆ แล้วสายชลก็รีบผละไป บอกว่าจะไปเอาน้ำให้เองดีกว่า
พอสายชลเดินไป นางฟ้ายกมือลูบหน้าตัวเองบ่นเบาๆ “ทำไมรู้สึกหน้าร้อนๆนะ”
ฝ่ายสายชลเดินเข้าไปเอาน้ำ เอามือจับหน้าตัวเอง
บ่นเบาๆ
“ทำไมหน้าร้อนยังงี้วะ เป็นไรเนี่ย...”
ooooooo
วันนี้ ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง บ้างไปเก็บผัก บ้างเลี้ยงไก่ อารีฟะเก็บผักครู่หนึ่งก็คลื่นไส้เวียนหัวอยากอาเจียน
นาราคาดว่าเมียตัวเองท้อง เมื่อพาไปหาปีร์กะหมอผีและหมอยาสมุนไพรประจำเกาะ ปีร์กะบอกว่าอารีฟะท้องเลยเป็นที่รู้กันทั่ว นางฟ้าถามท้องเป็นอย่างไร ทำไมถึงท้องได้ แตลอยทะเล้นบอกว่าตนจะสอนให้เอาไหม เลยถูกสายชลเอ็ด บอกนางฟ้าว่าอย่าไปฟังมัน
“เงียบ...” ปีร์กะตวาด พอทุกคนเงียบก็ตำหนิว่า “พวกเอ็งนี่มันจริงๆเลย นางฟ้า...ถ้าใครมาบอกว่าจะทำให้เอ็งท้องอย่าไปเชื่อ เอ็งต้องท้องกับคนที่เอ็งรักเท่านั้น”
นางฟ้าพยักหน้าหงึกๆ
ooooooo
คืนนี้ฝนตกหนักฟ้าคำราม นางฟ้าตกใจจนสายชลต้องปลอบว่าไม่เป็นไรแค่ฟ้าร้องเท่านั้น
ไม่นานนักแตลอยมาตะโกนบอกสายชลว่าที่บ้านน้าสนโดนต้นไม้ล้มทับบ้านให้ไปช่วยกันหน่อย สายชลลุกขึ้นทันที นางฟ้าขอตามไปด้วย เขาบอกว่าข้างนอกอันตรายให้อยู่บ้านดีกว่า ไม่ต้องกลัวเพราะมีแก้วตาเป็นเพื่อน แล้วสั่งแก้วตาว่า
“แก้วตาดูแลนางฟ้าด้วยนะ” เจ้าแก้วตาก็น่าหมั่นไส้ตอบเสียงใสว่า “จ้าาาา”
สายชลกับแตลอยพากันวิ่งฝ่าสายฝนไป ฟ้ายังร้องเป็นระยะ ฝนยังคงกระหน่ำลงมาอย่างหนัก
ไม่นานนักก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น นางฟ้าดีใจนึกว่าสายชลกลับมาแล้ว แต่พอเปิดประตูก็ตกใจเมื่อเห็นยาซะยืนถือขวดเหล้าสีเงินอยู่ ถามว่ามาทำอะไร ยาซะตอบเมาๆว่า เห็นนางฟ้าอยากรู้ว่าทำยังไงถึงท้องได้ ตนเลยอยากมาสอนให้
“ไม่...ป้าปีร์กะบอกว่าเราต้องท้องกับคนที่เรารักเท่านั้น นางฟ้าไม่ได้รักพี่ยาซะ”
ยาซะในสภาพเมาหื่น บุกเข้ารวบตัวนางฟ้าไว้ เธอพยายามดิ้นร้องให้ปล่อย แต่ถูกยาซะกอดไว้แน่นลากตัว
นางฟ้าออกไป
นางฟ้าดิ้นสุดฤทธิ์ ทั้งจิกทั้งข่วนยาซะก็ไม่ยอมปล่อย อุ้มเธอออกจากบ้านไป ทำขวดเหล้าสีเงินหล่นไม่รู้ตัว
No comments:
Post a Comment