Tuesday, November 29, 2011

เรื่องย่อ นางฟ้ากับมาเฟีย ตอน1 ละครช่อง7


1เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน1 ละคร ช่อง7
2เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน2 ละคร ช่อง7
3เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน3 ละคร ช่อง7
4เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน4 ละคร ช่อง7
5เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน5 ละคร ช่อง7
6เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน6 ละคร ช่อง7
เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน7ละคร ช่อง7



ตอนที่ 1

หลังจาก ราม รัตนมณี ตำรวจลับหนุ่มฝีมือฉกาจเสร็จภารกิจปราบผู้ร้ายในอเมริกา เขาถูกท่านก้องภพแห่งหน่วยปราบปรามยาเสพติดเรียกตัวกลับมาช่วยงานที่เมืองไทย เป้าหมายงานครั้งนี้คือการให้รามเข้าไปแฝงตัวอยู่ในแก๊งของพ่อเลี้ยงปองธรรมเจ้าพ่อมาเฟียตัวกลั่นเพื่อให้สาวถึงนายใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลัง

เมื่อสายของท่านก้องภพรายงานเข้ามาว่าจะมีการส่งมอบสารผลิตยาเสพติดลอตใหญ่ที่เกาหลีใต้ พ่อเลี้ยงปองธรรมส่งแสงกับเย็นไปดำเนินการ รามวางแผนจะใช้แสงกับเย็นเป็นสะพานเข้าถึงตัวพ่อเลี้ยงมาเฟียจึงต้องตามพวกนั้นไปเกาหลีใต้ด้วย ระหว่างที่แสงกับเย็นเข้าห้องน้ำในสนามบินสุวรรณภูมิ รามพยายามจะเอาอุปกรณ์ดักฟังเป็นปากกาด้ามหรูดูดีเสียบไว้ในกระเป๋าสะพายของเย็นที่วางไว้กับพื้นห้องน้ำติดทางออก

เมขลาแอร์โฮสเตสสาวสวยซึ่งจะขึ้นบินเป็นครั้งแรกเดินทะเล่อทะล่าด้วยความรีบร้อนกลัวจะขึ้นบินไม่ทัน เข้ามาชนรามที่กำลังก้มๆเงยๆอย่างจัง เธอส่งเสียงโวยวายลั่น รามตาเหลือกพุ่งไปปิดปากขอร้องไม่ให้ส่งเสียง เมขลากัดมือเขาจมเขี้ยว ถึงกับร้องลั่น รามเหลือบเห็นประตูห้องน้ำที่แสงเข้าไปกำลังเปิดออก รีบปล่อยเมขลา วิ่งปรู๊ดออกไปทันที ไม่อยากให้แสงเห็นหน้า เมขลามองตามรามยิ้มสะใจ

“คนโรคจิตก็ต้องเจอแบบนี้แหละ”

“มีอะไรหรือครับ” แสงมองหน้าเมขลางงๆ

“ก็ผู้ชายคนนั้นน่ะสิคะ เข้ามาในห้องน้ำผู้หญิงได้ยังไง...เอ๊ะ” เมขลาเอะใจ เหลียวมองไปรอบๆเห็นโถปัสสาวะผู้ชายเรียงรายอยู่ ยิ้มเจื่อน “สงสัย...เขาไม่ได้ผิดหรอกค่ะ แต่ฉันเองที่ผิด...เข้าผิดที่” เมขลาเผ่นแนบ...

ในเวลาต่อมา เครื่องบินที่รามนั่งก็บินขึ้นจากสนามบินมุ่งหน้าสู่เกาหลีใต้ รามนั่งข้างหลังเย็นติดทางเดิน ส่วนแสงนั่งริมหน้าต่างคู่กับเย็น ที่นั่งข้างรามว่างไม่มีผู้โดยสาร แต่อีกฝั่งของทางเดินมีนักธุรกิจหนุ่มต่างชาติท่าทางภูมิฐานนั่งอยู่ รามคอยจ้องกระเป๋าสะพายของเย็นที่วางไว้ใต้เก้าอี้เขม็ง คิดหาทางเสียบปากกา

ถึงเวลาเสิร์ฟเครื่องดื่ม เมขลาเข็นรถใส่เครื่องดื่มมาตามทางเดิน เห็นรามนั่งอยู่ นิ่วหน้าจะใช่คนเดียวกับไอ้โรคจิตที่เจอในห้องน้ำหรือเปล่า รามเงยหน้าเห็นเมขลา รีบก้มหน้า คว้าหนังสือพิมพ์ที่เสียบไว้ในช่องที่นั่งขึ้นมากางปิดหน้า เมขลายิ่งสงสัย ร้องถามชายหนุ่มต้องการรับชาหรือกาแฟ รามทำเป็นไม่สนใจ โบกมือไล่ เมขลายังคาใจพยายามล่อหลอกให้พูด รามไม่หลงกล เธอจำต้องเข็นรถใส่เครื่องดื่มเดินต่อไปถึงแถวของแสงกับเย็น

จังหวะที่เมขลากำลังจะเสิร์ฟกาแฟร้อนให้แสง นักธุรกิจหนุ่มต่างชาติจิตทรามจับก้นเธอเต็มๆ หญิงสาวสะดุ้งโหยง กาแฟในมือหกรดตักเย็นร้องลั่น เมขลาหันขวับมาเจอรามกำลังก้มจะเอาปากกาใส่กระเป๋าสะพายของเย็น เข้าใจผิดคิดว่าเขาจับก้นเธอ ร้องเรียก “คุณ” เสียงเข้ม รามสะดุ้ง ปากกาหลุดมือ รุจเพื่อนซี้แอ๊บแมนของเมขลาเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เมขลาอ้าปากจะฟ้อง แต่เปลี่ยนใจ

“ไม่มีอะไร...มดกัด ก็เลยตกใจ...ต้องขอโทษนะคะ” เมขลาหันไปบอกเย็น แล้วดึงกระดาษทิชชูส่งให้นักธุรกิจแอบยิ้มชอบใจ รามมองเขาอย่างแค้นใจ ก่อนจะกวาดตามองหาปากกา เห็นกลิ้งไปอยู่หน้าเคบินเตรียมอาหารของลูกเรือ ขยับจะลุกไปเก็บ เมขลาหยิบขึ้นมาเหน็บไว้ที่กระเป๋าเสื้อตัวเองเสียก่อน รามถึงกับเซ็ง

ooooooo

เสร็จจากขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้ รามมาดักรอเมขลาหรือเมอยู่หน้าสนามบินเพื่อจะฉกปากกาเครื่องดักฟังคืน ไม่นานนัก เมขลาในชุดธรรมดาเดินออกมากับรุจ รามซึ่งสวมหมวกใส่แว่นดำอำพรางใบหน้ารีบหลบหลังเสา ก่อนจะค่อยๆชะเง้อมองเห็นเมขลากับรุจพากันขึ้นรถแท็กซี่ รามรีบขึ้นแท็กซี่ตาม

เมขลามองวิวข้างทางอย่างตื่นเต้นเพราะเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก ผิดกับรุจซึ่งผู้เชี่ยวชาญเรื่องเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือดารา เขาจึงอาสาเป็นไกด์พาเมขลาทัวร์กรุงโซล โดยมีรามคอยตามติดหาทางเอาปากกาคืนตลอดการท่องเที่ยว แต่พลาดเสียทุกครั้งเพราะนอกจากจะต้องคอยหลบหน้าเมขลา

เขายังต้องคอยเอาตัวรอดจากการจ้องจะลวนลามของรุจ จนกระทั่งหนุ่มหวานใจของรุจโทร.มานัดให้ไปเจอ รุจเลยทิ้งเมขลาให้เที่ยวคนเดียว รามรอจังหวะที่เมขลาหยิบปากกาของเขาขึ้นมาจะเขียนชื่อตัวเองใส่กุญแจคู่รักบนหอคอยโซล ตัดสินใจพุ่งเข้าไปแย่งจากมือเธออย่างหน้าด้านๆแล้ววิ่งหนี เมขลาโกรธวิ่งตาม แต่ไม่ทัน

“บ้าที่สุด ปากกาด้ามเดียวก็ยังเอา นี่ถ้าเป็นเมืองไทยฉันไม่ปล่อยแกลอยนวลแน่” เมขลาเจ็บใจมาก...

ด้านรามกะว่าหนีพ้นเมขลาแล้ว หยิบมือถือขึ้นมาโทร.หาท่านก้องภพ ขอให้ช่วยเช็กทีว่าแสงกับเย็นพักโรงแรมไหน ห้องเบอร์อะไร จากนั้นไม่นาน รามตัวติดหนวดอำพรางใบหน้าที่แท้จริง ปลอมตัวเป็นพนักงานของโรงแรม ทำทีเข็นรถใส่เครื่องดื่มหลากหลายชนิดมาเคาะประตูห้องพักของแสงกับเย็น บอกเย็นซึ่งเป็นคนมาเปิดประตูห้องรับเป็นภาษาอังกฤษว่าเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นอภินันทนาการจากโรงแรม
เย็นฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ปฏิเสธว่าไม่ได้สั่ง แต่พอรามพูดคำว่า “ฟรี” เท่านั้น เย็นถึงกับยิ้มออกผายมือให้รามยกถาดใส่เครื่องดื่มเข้ามาวางบนโต๊ะ ตำรวจหนุ่มอาศัยช่วงที่เย็นไม่ทันมอง เสียบปากกาเครื่องดักฟังไว้ที่กระเป๋าสะพายของเย็น ก่อนจะรีบออกไป

จากนั้น รามลงมานั่งหลบมุมอยู่ที่ล็อบบี้ กำลังปรับเครื่องสัญญาณให้ตรงกับเครื่องดักฟังที่เขาเพิ่งเอาไปเสียบไว้ในกระเป๋าของเย็น เมขลากลับจากเที่ยว เดินอย่างเหนื่อยอ่อนเข้าไปเช็กอินที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ เหลือบเห็นรามสวมแว่นดำนั่งอยู่ เธอขยี้ตาตัวเอง ไม่อยากจะเชื่อโลกกลมได้ขนาดนี้ พึมพำเบาๆว่า

“นี่ฉันตาฝาดเห็นไอ้หมอนี่อีกแล้วเหรอเนี่ย”

เมขลามองไปอีกที รามหายไปแล้ว จังหวะนั้น เสียงมือถือของเมขลาดังขึ้น โรสเพื่อนของเมขลาโทร.มาถามเรื่องฝากซื้อของ เมขลาร้องเอะอะ ขอโทษเพื่อนเป็นการใหญ่ที่ลืม รับปากจะไปซื้อให้เดี๋ยวนี้ แล้วผลุนผลันออกจากโรงแรม ลืมเรื่องหนุ่มโรคจิตคนนั้นไปสนิท...

เนื่องจากในล็อบบี้สัญญาณไม่ชัด รามแอบขึ้นบันไดหนีไฟมาอยู่ชั้นเดียวกับห้องพักของแสง ขยับหาสัญญาณจนได้ยินเสียงเย็นถามแสงว่าปากกาด้ามนี้ใช่ของแสงหรือเปล่า ทำไมมาอยู่ในกระเป๋าของเขา แสงปฏิเสธว่าเปล่า ถ้าเย็นไม่เอาก็ทิ้งไป เย็นไม่ทิ้ง เอาปากกาเหน็บไว้ที่คอเสื้อ แล้วหยิบเอกสารการท่องเที่ยวที่วางอยู่ในห้องขึ้นมาดู มีเสียงมือถือของแสงดังขึ้น แสงอยู่ในห้องน้ำ เย็นจึงรับสายแทน

“สวัสดีครับพ่อเลี้ยง...ถึงแล้วครับ...ได้ครับ” เย็นวางสายแล้วเดินไปเคาะประตูห้องน้ำ “พี่แสง...พ่อเลี้ยงโทร.มาแล้ว บอกว่าเราจะขนของตอนเที่ยงคืน...ถ้างั้นฉันขอออกไปข้างนอกหน่อยนะ” เย็นว่าแล้วรีบออกไปทันที เกรงแสงจะไม่อนุญาต รามแอบสะกดรอยตามเย็นมาห่างๆเห็นเดินออกมา หน้าโรงแรม ขึ้นรถแท็กซี่ รามรีบโบกมือเรียกแท็กซี่ให้ตามคันของเย็นไปห่างๆแล้วหยิบมือถือขึ้นมาโทร.แจ้งท่านก้องภพ

“ทุกอย่างเรียบร้อยครับ...การแสดงใหญ่จะเริ่มตอนเที่ยงคืน...ช่วยเตรียมนักแสดงสมทบให้มารวมตัวกันที่ห้องลูกค้าด้วยนะครับ...ตอนนี้ผมกำลังตามเป้าหมายคนหนึ่งออกจากโรงแรม ถ้าโชคดีอาจจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม”

รามแจ้งท่านก้องภพเป็นรหัสเพื่อกันรั่วไหล การแสดงใหญ่ที่ว่าหมายถึงการปะทะกันของพวกแสงและเย็นกับพวกตำรวจ นักแสดงสมทบคือพวกของภาคภูมินายตำรวจไทยกับพวกตำรวจลับเกาหลีใต้

ooooooo

เย็นแวะเข้าบ่อนกาสิโน แต่เล่นไพ่โกงจึงถูกนักเลงคุมบ่อนจับโยนออกมาทางประตูบ่อนด้านหลัง แล้วตามเข้ามารุมสหบาทา เย็นค่อยๆคลานหนีจากวงล้อมโดยที่พวกนั้นไม่เห็น รามสบช่องร้องเรียกเย็นให้หนีมาทางนี้ พวกนักเลงรู้ตัววิ่งไล่กวด เย็นสะดุดขาตัวเอง ทำปากกาเครื่องดักฟังหล่น

“เฮ้ย...เดี๋ยว ปากกาข้า”

รามหันไปมองเห็นปากกาของตัวเอง จะพุ่งไปเก็บแต่ไม่ทัน พวกนักเลงตามมาเสียก่อน รามมีฝีมือเข้าต่อสู้กับพวกนักเลงจนหมอบไปหลายคน แล้วช่วยหิ้วปีกเย็นพาหนี โดยมีพวกนักเลงวิ่งไล่อย่างไม่ลดละ...

ขณะที่รามพาเย็นวิ่งหนีสุดชีวิตมาตามซอย อีกฟากหนึ่งของถนนใหญ่รถแท็กซี่ที่เมขลานั่งกลับจากซื้อของให้โรสเกิดดับดื้อๆ เธอเห็นคนขับรถแก่มากแล้วจึงลงไปเข็นรถให้ เมขลาเข็นสุดกำลังจนรถแท็กซี่เครื่องยนต์ติด เธอยิ้มดีใจ ปาดเหงื่อเดินมาที่รถแท็กซี่ ยังไม่ทันจะเปิดประตู รามกับเย็นวิ่งพรวดเข้ามาตัดหน้าขึ้นไปนั่งรถแท็กซี่คันที่เธอเข็นแทบตายไปหน้าตาเฉย เมขลามองตามรามอย่างเจ็บแค้นใจ ทำไมต้องเป็นหมอนี่ทุกที...

แสงไม่พอใจมากที่เย็นพารามมาที่ห้องพัก แม้รามจะช่วยชีวิตเย็นไว้ แต่เราสองคนมีงานสำคัญต้องทำจะให้รามอยู่ที่นี่ไม่ได้ ไม่ว่าเย็นจะขอร้องอย่างไรแสงก็ไม่ยอม ครู่ต่อมา รามเดินออกมาหน้าโรงแรมอย่างผิดหวังสวนกับภาคภูมิที่เดินเข้ามากับนายตำรวจลับเกาหลีใต้ ภาคภูมิไม่สนใจราม แต่รามคุ้นๆหน้าภาคภูมิ แอบสะกดรอยตาม เมขลาลงรถแท็กซี่หน้าโรงแรมพอดีเห็นรามไวๆจำได้ รีบเดินตามแต่ไม่ทัน เขาหายตัวไปแล้ว...

ใกล้ถึงเวลาส่งมอบสารผลิตยาเสพติด ภาคภูมิกับตำรวจลับเกาหลีใต้อยู่ในห้องข้างๆห้องแสงจ้องจอภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งพวกตำรวจแอบติดตั้งไว้ในห้องพักของแสงก่อนหน้านี้ โดยไม่รู้ว่ารามคอยซุ่มดูอยู่ตรงโถงทางเดินหน้าห้องพัก สักพัก พ่อค้ายาเกาหลีสองคนมาเคาะประตูห้องพักของแสงอยู่ครู่หนึ่ง เย็นเปิดประตูรับ

เป็นจังหวะเดียวกับเมขลาก้าวออกจากประตูลิฟต์ เห็นรามแอบซุ่มอยู่ ถึงกับปรี๊ดแตก ปราดเข้าไปฟาดกระเป๋าถือใส่รามอุตลุด รามหันมาเงื้อหมัดจะชก แต่เห็นหน้าเมขลาเงื้อค้าง เอ็ดเสียงเขียวมาตีเขาทำไม

“ยังจะกล้าถามอีกนะ คุณทั้งลวนลามฉันบนเครื่องบิน ทั้งแย่งแท็กซี่ฉันแถมยังขโมยของฉันอีก แบบนี้มันสมควรตาย” เมขลาว่าแล้วโดดบีบคอ รามพยายามแกะมือเธอออก ปฏิเสธลั่นว่าไม่รู้เรื่อง เมขลาขู่จะลากคอเขาเข้าคุก รามมองไปทางห้องพักของแสงอย่างพะวักพะวน ก่อนจะตัดสินใจเล่นบทน่าสงสาร ขอร้องเธออย่าส่งเขาให้ตำรวจ ที่เขาทำไปเพราะจนตรอกจริงๆ เมขลาไม่เชื่อ จนตรอกบ้าอะไรมีปัญญาบินมาเที่ยวเกาหลี

“ถ้าคุณเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาแถมยังมีแม่ที่ป่วยหนัก คุณก็ต้องคิดหาทางเสี่ยงโชคเป็นครั้งสุดท้ายเหมือนผม” รามตีหน้าเศร้า ขอความเห็นใจ เมขลาไม่เชื่อ ชายหนุ่มทำเป็นเจ็บหน้าอกเหมือนเป็นโรคหัวใจ แล้วแกล้งเป็นลมชักกระแด่ว เมขลาใจไม่ดี รีบลากรามเข้าห้องพักตัวเองที่อยู่ติดกับห้องพักของแสงอีกด้านหนึ่ง


ด้วยความเป็นคนใจดี มีเมตตา เมขลาพยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตรามที่นอนแน่นิ่ง สุดท้ายตัดสินใจจะปั๊มหัวใจและผายปอดให้ รามตกใจโกหกว่าหายแล้ว ทำท่าจะลุก เมขลารั้งไว้ อยากรู้ที่เขาว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หายคือโรคอะไร รามแต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะว่าเป็นมะเร็งสมองระยะสุดท้าย แถมเป็นลิ้นหัวใจรั่วอีกต่างหาก เมขลาหลงเชื่อ สงสารและเห็นใจรามมาก อาสาจะแนะนำหมอเก่งๆให้แล้วคว้ากระเป๋ามาค้นหานามบัตร

รามเริ่มกระสับกระส่าย พยายามหาทางชิ่งกลัวจะไม่ทันการ กวาดตามองไปรอบๆเห็นระเบียงห้อง ปิ๊งไอเดียทันที แกล้งกุมขมับร้องโอดโอยโผเข้าหาเมขลาจนหน้าเกือบจะชนกัน โกหกว่าปวดหัวมาก ขอผ้าชุบน้ำสักผืน เมขลาหลงกลพุ่งเข้าไปในห้องน้ำ รามสบช่องวิ่งไปที่ระเบียงห้องชะโงกไปดู ประตูระเบียงห้องพักของแสงเปิดอยู่ เห็นเย็นเดินไปเดินมาแถวนั้น จึงปีนระเบียงเข้าไปใกล้ๆส่งเสียงเตือนเย็นว่าตำรวจมา

เย็นตกใจอ้าปากค้าง จังหวะนั้น เมขลาเข้าใจผิดคิดว่ารามคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย พุ่งมารวบเอวไว้ เย็นไม่เห็นเมขลาเพราะรามยืนบัง ร้องเอะอะเป็นภาษาไทยและอังกฤษว่าตำรวจมา ทั้งหมดตาเหลือกวิ่งหนีออกจากห้อง ภาคภูมิกับตำรวจลับเห็นคนร้ายจะหนีรีบกรูออกจากห้อง รามเห็นแสงกับพวกปะทะกับกลุ่มของภาคภูมิผ่านทางระเบียงห้อง อยากจะเข้าไปช่วยพวกแสง แต่เมขลาเกาะแน่นยิ่งกว่าปลิง รามขอร้องให้เธอปล่อย

“ไม่...ฉันไม่มีทางปล่อยให้คุณฆ่าตัวตายไปต่อหน้าหรอก”

รามดิ้นรนสุดฤทธิ์ จนพลัดตกระเบียง แต่มือไวคว้าราวระเบียงไว้ทัน เมขลากรี๊ดร้องลั่นด้วยความตกใจ...

พวกแสงฝ่าวงล้อมของตำรวจไปได้ ภาคภูมิขยับจะตาม แต่เสียงร้องของเมขลาทำให้ชะงัก รีบวิ่งเข้าไปในห้องพักของแสง เมขลายื่นมือให้รามจับ แต่รามเห็นภาคภูมิกำลังเดินมาที่ระเบียง

ทั้งสองหนุ่มสบตากัน ภาคภูมิรู้สึกคุ้นๆหน้า รามเกรงแผนแตก ก้มมองลงไปเบื้องล่างเห็นรถบรรทุกผักแล่นผ่านมารีบปล่อยมือ เมขลาตกใจสุดขีดไม่เคยเห็นคนตกตึกมาก่อน เป็นลมล้มพับไปตรงนั้น จึงไม่ทันเห็นรามตกลงบนรถบรรทุกผักอย่างปลอดภัยดีไม่มีอะไรแตกหัก รามรีบคว้ามือถือขึ้นมาโทร.หาท่านก้องภพ

“ผมเองครับ...ผมจะโทร.มาบอกว่าการแสดงวันนี้ยกเลิกนะครับ พอดีมีอุปสรรคเกิดขึ้นน่ะครับ” รามเซ็ง...

ในเวลาต่อมา ที่สถานีตำรวจเกาหลี ภาคภูมิคิดว่าเมขลาเกี่ยวข้องกับพวกค้ายาเสพติด ทันทีที่เธอฟื้น เขาพาตัวไปห้องสอบสวน ซักถามเธอเพื่อเค้นเอาความจริงโดยไม่ฟังข้อแก้ตัวใดๆ เมขลาถูกกักตัวไว้ที่นั่นทั้งคืน ทำให้ตกเครื่อง ขึ้นบินตามกำหนดไม่ทัน

ooooooo

ทันทีที่กลับถึงเมืองไทย เมขลาถูกทางบริษัทสายการบินสั่งพักงาน ผู้บริหารไม่พอใจมากที่เธอเข้าไปพัวพันกับคดีค้ายาเสพติด ซึ่งอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของบริษัท เมขลาแก้ตัวว่าบริสุทธิ์ไม่รู้ไม่เห็นอะไรด้วย แต่ไม่เป็นผล รุจพยายามปลอบ แต่เมขลากลับยิ่งร้องไห้หนัก คร่ำครวญว่าตัวเองผิดอะไรนักหนาถึงต้องเจอแต่เรื่องแบบนี้

“แกไม่ได้ทำผิดหรอก แต่แกน่ะดีเกินไป แม่นางฟ้า”

เมขลาโต้ เธอไม่ใช่นางฟ้า เพียงแต่ทนเห็นคนเป็นลมชักตรงหน้าแถมป่วยด้วยโรคมะเร็งสมองกับโรคหัวใจไม่ได้ รุจเตือนอย่าเป็นคนดีมากเกินไป หัดเลียนแบบตัวอิจฉาในละครบ้าง ระหว่างนั้น โรสโทร.เข้ามือถือของเมขลา ขอร้องให้มาช่วยประกันตัว รุจส่ายหน้า ยกมือขึ้นทำเป็นรูปกากบาท

เมขลาแข็งใจปฏิเสธโรสว่าต่อไปนี้เธอจะไม่ช่วยโรสอีกแล้ว แต่พอโรสออกปากฝากฝังให้ดูแลแม่ของเธอแทนเธอด้วย เพราะคราวนี้อาจติดคุกนาน เมขลาพยายามทำใจแข็งแต่ไม่สำเร็จ...

ขณะเดียวกัน รามกลับถึงห้องเช่าซึ่งอยู่เหนือสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านรัชดา สาวๆในสถานบันเทิงต่างตรงเข้ามากอดต้อนรับเขาเป็นการใหญ่ มาม่าซังเจ้าของสถานบันเทิงที่หลงรักรามเข้ามาทักทายส่งตาหวานให้

“ตอนผมไม่อยู่นี่ มีอะไรบ้างไหมครับเจ๊”

“ไม่นะ ไม่มีใครกล้ามากวนเจ๊แล้วล่ะ ตั้งแต่รามมาอยู่ที่นี่...อ้อ...จะมีก็แต่คนตาบอดขายลอตเตอรี่มาหาราม บอกว่ารามอยากซื้อลอตเตอรี่”

รามชะงักเพราะนั่นเป็นรหัสติดต่อของเขากับท่านก้องภพ รีบไขกุญแจห้องพักเอาของไปเก็บ แล้วตรงไปยังร้านน้ำชา ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบ เจอท่านก้องภพในคราบคนขายลอตเตอรี่ตาบอดนั่งรออยู่ก่อนแล้ว รามทำทีเข้าไปซื้อลอตเตอรี่ แต่ให้คนขายช่วยเลือกให้ ท่านก้องภพทำเป็นเลือกๆก่อนจะหยิบลอตเตอรี่ให้เขาหนึ่งคู่ รามยัดเงินใส่มือท่านก้องภพ แล้วเดินออกจากร้านมาถึงมุมปลอดคน รีบพลิกลอตเตอรี่ดูด้านหลัง มีข้อความเขียนว่า

“เสือลงจากดอยแล้ว”

รามรู้ทันทีว่านี้เป็นรหัสบอกว่า พ่อเลี้ยงปองธรรมตอนนี้ลงมากรุงเทพฯแล้ว...

ที่บ้านของพ่อเลี้ยงปองธรรมในกรุงเทพฯ ธิดาหรือเทเรซ่าลูกสาวของพ่อเลี้ยงปองธรรมออกมารอต้อนรับ พ่อของเธอพร้อมด้วยลูกสมุนของพ่อเลี้ยง รวมทั้งแสงกับเย็น สักพัก รถหรูคันหนึ่งแล่นมาจอด พ่อเลี้ยงปองธรรมกับเทวัญลูกชายของเขาก้าวลงจากรถ ธิดาวิ่งเข้าไปกอดพ่อ ดีใจที่ท่านจะมาร่วมงานเปิดตัวบูติกของเธอ

หลังจากทักทายลูกสาวสุดรักสุดห่วงเสร็จ พ่อเลี้ยงปองธรรมเรียกแสงกับเย็นมาชำระความที่การซื้อขายสารผลิตยาเสพติดไม่สำเร็จ ครั้งนี้พ่อเลี้ยงปองธรรมจะละเว้นโทษไว้ก่อน ลูกสาวของเขากำลังจะเปิดร้าน ไม่อยากให้มีเรื่องอัปมงคล แสงกับเย็นกราบขอบคุณพ่อเลี้ยงปลกๆขยับจะถอยออกไป

พ่อเลี้ยงปองธรรมเรียกไว้ ยังคาใจไม่หาย ทำไมทั้งคู่ถึงรอดเงื้อมือตำรวจมาได้ เย็นรีบรายงานว่าเป็นเพราะรามมาเตือนพวกตนเสียก่อน พ่อเลี้ยงไม่พอใจที่มีคนนอกมาเกี่ยวข้องเรื่องนี้ด้วย เย็นลนลานอธิบาย

“รามเป็นผีพนันครับ มันช่วยผมจากไอ้พวกมาเฟียคุมบ่อนที่เกาหลี ฝีไม้ลายมือยังกะจาพนม ผมยังคิดจะชวนมาทำงานกับพ่อเลี้ยงเลย”

“ฉันไม่ได้รับคนง่ายๆ แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่ามันเก่งจริงและเชื่อใจได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง” พ่อเลี้ยงปองธรรมเสียงเข้มเย็นค่อยคลายกังวลไปได้

No comments:

Post a Comment