Wednesday, December 7, 2011

เรื่องย่อ นางฟ้่กับมาเฟียตอนที่ 4 ละครช่อง 7


1เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน1 ละคร ช่อง7
2เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน2 ละคร ช่อง7
3เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน3 ละคร ช่อง7
4เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน4 ละคร ช่อง7
5เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน5 ละคร ช่อง7
6เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน6 ละคร ช่อง7
เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน7ละคร ช่อง7

ตอนที่ 4

รามเห็นแล้วว่าการข่มขู่และด่าทอเมขลาไม่มีประโยชน์จึงหันมาใช้ลูกอ้อนแทน ขอร้องให้เธอไขกุญแจมือให้ เขาจะได้กินข้าวได้ เมขลาไม่ยอม อาสาจะป้อนข้าวให้เขาเองแล้วตักข้าวยื่นมาใกล้ๆ รามเม้มปากแน่น เบือนหน้าหนีทั้งๆที่หิวจัด แต่ท้องเจ้ากรรมดันส่งเสียงร้องจ๊อกๆ เมขลากลั้นหัวเราะแทบตาย

“กินสักคำก็ได้ รับรองฉันไม่บอกใครให้คุณเสียฟอร์มหรอกน่า...กลิ่นก็ฮ้อมหอม นี่ไงได้กลิ่นมั้ย”

เมขลายกช้อนส่ายไปมาแถวจมูกเขา รามลืมตัวมองตาปรอยพอนึกได้ตวาดไล่เมขลาไปไกลๆ เมขลารอท่าอยู่แล้วยัดข้าวใส่ปากเขาทันที รามจำใจเคี้ยวเพราะข้าวอัดเต็มปาก เมขลาจงใจพูดยั่วราม พอเขาอ้าปากด่าเธอก็ยัดข้าวใส่ปากเขาอีก เป็นอย่างนี้ซ้ำๆจนข้าวหมดจาน ทรงวาดแอบมองอยู่ตรงประตูที่แง้มอยู่ ยิ้มพอใจ...

หลังจากปล่อยให้อาหารเย็นย่อยสักพัก  เมขลาชวนรามอาบน้ำ ขยับจะเข้ามาถอดกระดุมเสื้อให้ รามถอยหนีไขว้ขา ไว้แน่น เมขลาชอบใจที่เห็นรามรักนวลสงวนตัวยิ่งกลั่นแกล้งหนักมือ รามร้องลั่นไล่เมขลาไปไกลๆ

“ไปก็ได้ แหม...ฉันคิดจะไขกุญแจพาคุณไปอาบน้ำอยู่พอดี” เมขลาพูดจบเขย่าพวงกุญแจในกระเป๋าแกล้งราม แล้วคว้าถาดอาหารเดินออกจากห้อง รามรีบตะโกนเรียกให้กลับมาก่อน เธอทำหูทวนลมไม่สนใจ รามหงุดหงิด กวาดตามองหาของใกล้มือจะขว้างใส่แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นรูปถ่ายตัวเองถ่ายคู่กับลักษณ์

“บอกฉันทีสิว่า ฉันควรจะทำยังไงกับเรื่องบ้าๆนี่ดี” รามตะโกนขึ้นอย่างอัดอั้น

ooooooo

เช้าวัดถัดมา เรืองฤทธิ์เห็นปลอดคน แม่บ้านกับเด็กคนงานง่วนอยู่ในครัว ส่วนทรงวาดก็ยังอยู่ในห้องนอนเขาเข้าไปหาราม พูดปั่นหัวให้เกลียดชังทรงวาด แล้วหยิบลูกกุญแจขึ้นมาทำท่าจะไขกุญแจมือให้ เพื่อจะพารามไปเข้าห้องน้ำ รามไม่อยากเข้าห้องน้ำ แต่อยากคุยกับแม่มากกว่า

“งั้นอาจะรีบไปตามให้นะ” เรืองฤทธิ์กระวีกระวาดออกจากห้อง แกล้งลืมลูกกุญแจทิ้งไว้ปลายเตียง รามมัวแต่คิดโน่นคิดนี่ ไม่ทันสังเกตเห็น เรืองฤทธิ์เดินมาเจอจักรกำลังยกถาดใส่อาหารเช้าจะเอามาให้ราม

“ถ้าเป็นของราม แกเอาไปกินเองเถอะ” เรืองฤทธิ์พูดไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี

“นี่คุณรามหนีไปแล้วหรือครับ...ค่อยยังชั่วหน่อย ผมกำลังวิตกอยู่พอดีเพราะถ้าคุณรามกลับมาจริงๆ ต้องสอบบัญชีเจอเรื่องเราใช้บริษัทเป็นที่ฟอกเงินแน่ๆ”

“แกคิดว่าฉันจะปล่อยให้ถึงวันนั้นเหรอ” เรืองฤทธิ์ ยิ้มเจ้าเล่ห์ มั่นใจรามต้องหนีไปได้แน่ๆ...

ความมั่นใจของเรืองฤทธิ์ถูกเพียงครึ่งเดียว รามเจอลูกกุญแจที่เขาจงใจทิ้งไว้ ปลดกุญแจมือให้ตัวเอง หนีออกจากห้องสำเร็จ แต่หนีออกจากบ้านรัตนมณีไม่พ้น ขณะที่รามกำลังจะโดดรั้วหนี เมขลามาเจอเข้าเสียก่อนโดดล็อกขาไว้ รามพยายามดิ้นรนสุดชีวิต ปากก็ร้องตะโกนให้ปล่อย เมขลายิ่งออกแรงดึง

“ไม่ปล่อยดีนักใช่มั้ย...เดี๋ยวก็รู้ว่าคุณจะจับผมได้มั้ย” รามตัดสินใจปลดซิบกางเกงออก

เมขลาหลับหูหลับตาดึงสุดแรงจนหงายท้องก้นจ้ำเบ้ากางเกงของรามหลุดติดมือมาด้วย หญิงสาวลืมตามองเห็นรามอยู่ในกางเกงบอกเซอร์ ถึงกับร้องเสียงหลง เอามือปิดตาแทบไม่ทัน ทรงวาดได้ยินเสียงเอะอะวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับเรืองฤทธิ์ ตกใจที่เห็นรามจะหนี ขณะที่เรืองฤทธิ์ทำเนียน

“ราม...อาว่าเราลงมาคุยกันก่อนดีกว่า รามหนีแบบนี้ มันแก้ปัญหาไม่ได้หรอก”

ครู่ต่อมา รามเดินตามทรงวาดเข้าบ้าน สองแม่ลูกได้คุยเปิดอกกันเพียงลำพังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รามหนีออกจากบ้านหลังนี้ ทรงวาดยื่นข้อเสนอเพื่อแลกกับอิสรภาพ ถ้ารามรับปากจะกลับมาอยู่บ้านนี้เหมือนเมื่อก่อนจะเลิกทำงานกับพวกมาเฟียและกลับมาช่วยเธอกับเรืองฤทธิ์ดูแลงานที่บริษัท รามรับปากส่งๆแล้วขยับจะไป

“เดี๋ยว...แม่อยากให้รามแต่งงานกับหนูเมด้วย”

รามปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีทางแต่งงานกับยัยจุ้นนั่นเด็ดขาด ทรงวาดขู่ถ้าไม่แต่งงานกับเมขลา ข้อตกลงเมื่อครู่เป็นอันยกเลิก รามไม่เข้าใจทำไมเขาถึงต้องแต่งงานกับเมขลา หรือทรงวาดอยากใช้เมขลาเป็นเหยื่อล่อเพื่อหวังจะฮุบมรดกส่วนของเขา สมบัติที่พ่อของเขาแบ่งให้เธอไม่พอหรืออย่างไร เธอบีบให้ลักษณ์ตายไปคนหนึ่งแล้วต้องให้เขาตายไปอีกคนใช่ไหมเธอถึงจะพอใจ ทรงวาดมองรามอย่างปวดร้าวใจมาก

“ไม่เคยมีสักวันที่แม่จะเลิกเสียใจกับการตายของลักษณ์และไม่เคยมีวันไหนที่แม่ไม่คิดถึงราม ตั้งแต่รามหนีออกจากบ้านไป แม่ไม่มีความสุขเลยสักนิด เฝ้าคิดแต่ว่าลูกจะนอนไหน จะอยู่จะกินยังไง”

“ไม่ต้องมาทำเป็นหน้าไหว้หลังหลอก คนที่ผลักไสให้ผมออกไปจากที่นี่ก็คือแม่ แต่ผมก็ต้องขอบคุณแม่นะครับที่ทำให้ผมได้พบกับชีวิตใหม่ ได้พบกับคนที่ดีกับผมจริงๆ”

“คนที่ทำให้ลูกมีสภาพอย่างทุกวันนี้นะหรือคือคนดีของลูก เขาเป็นใครล่ะหัวหน้ามาเฟียหรือนักเลงหัวไม้”

“แม่ไม่ต้องรู้หรอก แม่รู้แต่ว่าเขาดีกว่าแม่เป็นร้อยเท่าก็พอ” รามโกรธเกรี้ยว ขอให้ทรงวาดเลิกยุ่งกับเขา

พลันภาพในอดีตผุดขึ้นมาในสมองราม ตอนนั้น เขาระหกระเหินอยู่ที่อเมริกาไม่มีบ้านจะอยู่ต้องนอนอยู่ข้างถนน

หากินด้วยการฉกชิงวิ่งราว โชคดีที่เขาได้พบกับท่านก้องภพซึ่งช่วยฉุดเขาให้พ้นจากสภาพเลวร้ายนั้น หาที่อยู่และที่เรียนให้ ความเมตตาและเอาใจใส่ของท่านก้องภพช่วยให้เขากลับเนื้อกลับตัว จนสอบเข้าโรงเรียนตำรวจที่นั่นได้และเรียนจบในเวลาต่อมา รามให้ความรักและเคารพท่านก้องภพเสมือนเป็นพ่อคนที่สอง...

ทรงวาดออกจากห้องรามด้วยน้ำตานองหน้า เสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ของราม สูดลมหายใจเข้าฮึดสู้ต่อ

“ไม่ว่ารามจะพูดยังไง แม่ก็จะทำในสิ่งที่คนเป็นแม่ต้องทำต่อไป” ทรงวาดว่าแล้วรีบปาดน้ำตาทิ้ง

เมขลาตามมาถามทรงวาดด้วยความเป็นห่วงว่ามีอะไรให้เธอช่วยไหม ทรงวาดตัดสินใจขอให้เมขลาช่วยแต่งงานกับรามที เมขลาขอเปลี่ยนเป็นช่วยอย่างอื่นแทนได้ไหม เพราะเธอกับรามแทบจะไม่รู้จักกันเลยและที่สำคัญรามเกลียดขี้หน้าเธอ ทรงวาดยืนยันเมขลาเป็นคนเดียวที่จะช่วยดึงรามขึ้นจากปลักโคลนนี้ได้

“ช่วยแม่สักครั้งเถอะนะเม แล้วแม่จะไม่ขออะไรจากหนูอีกแล้ว”

“หนูขอเวลาคิดสักหน่อยได้มั้ยคะ” เมขลาสีหน้าหนักใจ...

เวลามีเรื่องไม่สบายใจ เมขลาจะแวะไปที่บ้านเด็กกำพร้าช่วยละมุนดูแลพวกเด็กๆ และมักจะได้ข้อคิดดีๆ จากละมุนเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ละมุนพูดให้เมขลาคิดได้ว่าทรงวาดมีบุญคุณกับเธอมากแค่ไหนที่ส่งเสียให้ร่ำเรียนจนจบ ทำให้เธอตามความฝันได้สำเร็จ เพื่อตอบแทนบุญคุณ เมขลาตกลงจะทำตามที่ทรงวาดขอร้อง...

รามมองจากหน้าต่างห้องนอนลงมาเห็นคนของเรือง–ฤทธิ์เฝ้าอยู่ตามจุดต่างๆรอบบ้านอย่างเข้มงวด ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ ต้องเสียงานเสียการหมดแน่ เขาไม่มีทางเลือกอื่น จำต้องตอบรับข้อเสนอของทรงวาด แต่มีข้อแม้พิธีแต่งงานต้องจัดแบบเงียบๆ ทรงวาดจึงไปขอร้องเรืองฤทธิ์ให้ช่วยไปเชิญเจ้าหน้าที่จากเขตมาจดทะเบียนสมรสให้รามกับเมขลาที่นี่หลังเสร็จพิธีแต่งงาน เรืองฤทธิ์ถึงกับตะลึง

“หา...รามกับหนูเมขลาจะแต่งงานกัน?”

“ใช่...พี่คิดว่าถ้ารามได้มีครอบครัวก็น่าจะมีความรับผิดชอบมากขึ้นและคงไม่กล้าทิ้งบ้านไปไหนอีกแล้ว”

เรืองฤทธิ์ไม่เห็นด้วย เราไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเมขลาจะให้แต่งงานกับรามได้อย่างไร ทรงวาดเชื่อว่าตัวเองมองคนไม่ผิด เมขลาเป็นคนดี เรืองฤทธิ์ก็ยังไม่เห็นด้วยอยู่ดี บังคับให้แต่งงานแบบนี้ออกจะเกินเหตุไปหน่อย

“แต่งงานกับหนูเมน่ะดีกว่าถูกใส่กุญแจมือล่ามไว้กับเตียงเป็นไหนๆนะฤทธิ์ แล้วฤทธิ์ก็เป็นคนบอกพี่เองนะว่าต้องใจแข็งกับรามเสียบ้าง” เจอทรงวาดยอกย้อนเข้าให้ เรืองฤทธิ์ถึงกับพูดไม่ออก

ooooooo

เรืองฤทธิ์ยอมให้รามแต่งกับเมขลาไม่ได้ จึงวางแผนให้จักรดึงพวกการ์ดที่เฝ้ารอบบ้านไปรวมตัวกันหลังบ้านเพื่อเปิดทางให้รามหนีได้ง่ายๆ จากนั้น เรืองฤทธิ์เข้าไปหารามซึ่งกำลังแต่งตัวเตรียมเข้าพิธีแต่งงาน ทำทีเห็นอกเห็นใจที่รามต้องแต่งงานกะทันหัน อาสาจะลงไปถ่วงเวลาให้ ถ้าเขายังไม่พร้อมจะเข้าพิธี

“หรือถ้ารามอยากออกไปขับรถเล่นแก้เครียดก็เอากุญแจรถนี่ไป” เรืองฤทธิ์โยนกุญแจรถให้ราม

“อาไม่กลัวผมหนีหรือครับ”

“ถ้ารามหนี อาก็ไม่ตำหนิรามหรอก ใครจะไปอยากแต่งงานกับผู้หญิงที่เราไม่รู้จัก พี่วาดก็เหลือเกินแค่สั่งให้อาพาคนไปโปะยาสลบรามกลับมาก็มากไปแล้ว นี่ใจคอจะล่ามโซ่รามไว้ทั้งชีวิตเลยหรือไง”

“ขอบคุณมากครับอาที่เข้าใจผม แต่ผมไม่อยากให้อาเดือดร้อนไปด้วย แล้วผมก็อยากทำอย่างที่อาบอก คนเราเผชิญหน้าเพื่อแก้ปัญหาไม่ใช่วิ่งหนีปัญหาเพราะมันคงไม่จบง่ายๆ”

เรืองฤทธิ์ผิดหวังที่ยุแยงรามไม่สำเร็จ แต่ยังไม่ยอมแพ้ ขอให้รามเก็บกุญแจรถไว้ก่อน ถือเสียว่าเขายกรถคันนี้เป็นของขวัญวันแต่งงาน รามขอบคุณเรืองฤทธิ์อีกครั้ง แล้วเอากุญแจรถใส่กระเป๋ากางเกงไว้...

พิธีแต่งงานระหว่างเมขลากับรามมีขึ้นอย่างเรียบง่ายที่บ้านรัตนมณี เมขลาสวยสง่าในชุดแต่งงานที่ทรงวาดเคยใช้เข้าพิธีกับโรจน์พ่อของราม ส่วนรามเองก็หล่อเหลาสะอาดสะอ้านจนรุจต้องแอบเช็ดน้ำลาย อยากจะเป็นเจ้าสาวเสียเอง เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเซ็นชื่อในทะเบียนสมรสต่อหน้าเจ้าหน้าที่จากเขต จากนั้น ทั้งคู่สวมแหวนทองเกลี้ยงให้กัน เป็นอันเสร็จพิธี ทรงวาดกับละมุนน้ำตาซึมด้วยความปีติ

มีงานเลี้ยงฉลองสมรสเล็กๆจัดขึ้นในสวน รามเห็นทุกคนกำลังรุมปลื้มสะใภ้คนใหม่ของบ้านรัตนมณีค่อยๆหลบฉากออกมา อีกนิดเดียวรามก็ก้าวพ้นรั้วบ้าน อยู่ๆเมขลาโผล่พรวดมาขวางหน้า แกล้งถามจะไปไหนจังหวะที่รามไม่ทันระวังตัว เมขลาสับกุญแจมือที่ข้อมือซ้ายของรามอย่างรวดเร็ว ส่วนกุญแจมืออีกข้างหนึ่งคล้องที่มือขวาของเธออยู่ก่อนแล้ว รามยกแขนตัวเองขึ้นมาดูอย่างไม่เชื่อสายตา สั่งให้เมขลาไขกุญแจมือออก

“ไม่ได้หรอก นี่มันเป็นกำไลคู่รัก เป็นตัวแทนบอกว่าเราจะอยู่ด้วยกันจนชั่วฟ้าดินสลาย”

“คุณอยากอยู่กับผมนักใช่มั้ย...ได้” รามล้วงกระเป๋าหยิบกุญแจรถขึ้นมา แล้วลากเมขลาไปที่โรงรถ เมขลาใจคอไม่ดี แต่ยังฝืนยิ้มสู้

“อ๋อ...จะพาฉันไปฮันนีมูนเหรอ...ขอบคุณนะคะที่รัก”

รามขบกรามแน่น เปิดประตูรถด้านคนขับออก เนื่องจากติดกุญแจมือกว่าทั้งคู่จะเข้าไปนั่งในรถได้ทุลักทุเลมาก เมขลาจะต้องก้าวข้ามเบาะคนขับไปนั่งด้านคนนั่งคู่กับคนขับ เพื่อที่รามจะได้นั่งที่นั่งคนขับได้...

ขณะทรงวาดกำลังคุยอยู่กับละมุน เห็นรามขับรถออกมาจากโรงรถ รีบวิ่งมาขวางไม่ยอมให้ไป  อ้างคนโบราณถือ คนที่เพิ่งแต่งงานไม่ควรออกนอกบ้าน รามหงุดหงิดโวยลั่น ไอ้โน่นก็ทำไม่ดี ไอ้นี่ก็ทำไม่ได้ ตกลงเขาเป็นลูกชายหรือเป็นนักโทษกันแน่ ทรงวาดไม่เคยเห็นรามเป็นนักโทษ ที่มาขวางเพราะเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณแม่ หนูรับรองว่าคุณรามออกไปทำธุระแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว” เมขลาพูดจบยกมือข้างขวาที่ล็อกกุญแจมือติดกับมือข้างซ้ายของรามให้ดู รามรีบดึงลงอย่างเสียหน้า...

ระหว่างนั่งรถมาด้วยกัน เมขลาไม่วายหาเรื่องกลั่นแกล้ง ราม หลอกว่ามีของขวัญแต่งงานจะให้ รามไม่สนใจไม่อยากได้ เข้าทางเมขลาทันที หยิบมือถือของรามออกจากกระเป๋าสะพาย

“ว้า...น่าเสียดายจัง ฉันกะจะให้มือถืออันเก่าคืนคุณอยู่พอดี แต่คุณไม่อยากได้ก็ไม่เป็นไร...ลาก่อนนะหนูน้อย นายแกเขาไม่ต้องการแกแล้ว บ๊ายบาย” เมขลาแกล้งกดกระจกรถลงทำท่าจะเหวี่ยงมือถือทิ้ง รามตาเหลือกรีบเบนรถจอดข้างทาง สั่งให้เมขลาเอามือถือมาคืน เมขลาต่อรองถ้ารามอยากได้คืนต้องพูดเพราะๆกับเธอก่อน รามจนแต้ม ยอมพูดจาภาษาดอกไม้ด้วย เมขลายิ้มอย่างผู้ชนะ ก่อนจะคืนมือถือให้

แต่พอรามเช็กดูเบอร์โทร.และข้อความที่ส่งมาทั้งหมดถูกลบเกลี้ยง เขาฉุนขาดแต่พยายามข่มอารมณ์ไว้พอใจเย็นลง ก็คิดแผนแก้เผ็ดขึ้นมาได้ ขับรถฉวัดเฉวียนจนเมขลาเมารถจะอ้วก ต้องขอร้องให้เขาลดความเร็วลงและขับรถดีๆ
หน่อย เลิกแกล้งเธอได้แล้ว

“ผมไม่ได้แกล้งนะ แต่คุณเล่นใส่กุญแจมือผมแบบนี้ แล้วผมจะขับถนัดได้ไง”

เมขลาแค้นใจมาก จำต้องไขกุญแจมือออกมาให้ แต่ไม่วายพูดดักคอ อย่าคิดว่าไม่มีกุญแจมือแล้วจะหนีไปจากเธอได้ง่ายๆ จังหวะนั้น รถแล่นมาถึงสี่แยก รามตัดสินใจขับรถฝ่าไฟแดงหน้าตาเฉย ตำรวจจราจรเข้าเวรที่สี่แยกนั้นพอดี ขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ตาม แทนที่เขาจะจอดรถ กลับขับเบียดมอเตอร์ไซค์ตำรวจแล้วเร่งเครื่องหนี ตำรวจโกรธมากวิทยุเรียกกำลังเสริม ก่อนจะไล่ตามรถรามต่อไป

รามขับรถผิดกฎจราจรไปตลอดทาง เมขลาทนไม่ไหวสั่งให้จอดรถ รามทำตามอย่างว่าง่าย ดับเครื่องยนต์โยนกุญแจรถให้เมขลา แล้วเปิดประตูรถวิ่งข้ามถนนไปอีกฝั่ง เมขลาจะวิ่งตามแต่เห็นรามขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์รับจ้างวิ่งย้อนไปอีกทางหนึ่ง เธอรีบย้ายนั่งฝั่งคนขับจะขับรถตาม แต่ตำรวจจราจรขี่รถมาประกบเสียก่อน

“ขอดูใบขับขี่ด้วยครับ” ตำรวจขอร้องอย่างสุภาพ

เมขลาได้แต่ยิ้มแหยๆเพราะไม่ได้เอาติดตัวมา ตำรวจจึงต้องเชิญตัวไปโรงพัก ครู่ต่อมา เมขลามาถึงโรงพักเธอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ได้เป็นคนขับรถ ถ้าจ่าไม่เชื่อ

ให้ไปดูกล้องวงจรได้เลย ภาคภูมิได้ยินเสียงเอะอะเดินมาดู เห็นเมขลาถึงกับส่ายหน้าเอือมระอา หันไปถามจ่าว่าคุณผู้หญิงคนนี้ทำผิดอะไร พอรู้ว่าขับรถหนีตำรวจและฝ่าสัญญาณไฟจราจร ภาคภูมิชักสงสัยในรถของเธอจะมีของผิดกฎหมายสั่งให้จ่าไปค้นรถ เมขลาโวยทันที

“เดี๋ยวๆๆพวกคุณมีหมายค้นหรือเปล่า จะมาค้นรถฉันเนี่ย...ฉันไม่ได้ขนอะไรผิดกฎหมาย”

ภาคภูมิหมั่นไส้ สั่งให้คุมตัวไปสอบสวน เมขลารีบคว้ามือถือโทร.ขอความช่วยเหลือจากทรงวาด ไม่นานนักทรงวาดส่งเรืองฤทธิ์มาประกันตัวเมขลาออกจากห้องขัง หญิงสาวยังไม่มีเวลาอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น ขอตัวไปตามรามก่อน เธอสัญญากับทรงวาด จะเอาตัวรามกลับไปกินข้าวเย็นกับทรงวาดให้ได้ จากนั้น ทั้งคู่ต่างแยกย้ายกันไปคนละทาง โดยมีสายตาของภาคภูมิจ้องจับผิดมาจากบนโรงพัก ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์

ooooooo

ที่หน่วยงานพิเศษของ ป.ป.ส.ท่านก้องภพได้ยินยุทธบ่นๆ ทำไมใครๆถึงอยากได้ประวัติผู้หญิงคนนี้กันนักจึงหันไปถามว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ได้ความว่าภาคภูมิกับรามต่างสนใจประวัติผู้หญิงคนเดียวกัน ท่านก้องภพรีบซักทันทีว่ารามติดต่อมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นเงียบหายไปหลายวันแล้ว ถ้ายุทธว่างช่วยลองติดต่อรามให้เขาที จังหวะนั้น รามโทร.เข้ามือถือยุทธพอดี ยุทธรีบส่งมือถือให้ท่านก้องภพรับสาย

“สวัสดีครับท่าน พอดีผมโทร.เข้าเครื่องท่านแล้วไม่มีคนรับสาย ผมเลยโทร.หายุทธแทน”

“ไม่เป็นไร แค่นายปลอดภัยก็ดีแล้ว แล้วพอจะบอกได้มั้ยว่าที่นายหายไปมันเกิดอะไรขึ้น”


รามมีปัญหาทางบ้านนิดหน่อย แต่ตอนนี้เคลียร์ได้แล้ว ท่านก้องภพแปลกใจ ทางบ้านหารามเจอได้อย่างไร แล้วทำไมรามไม่บอกเขา รามอึกๆอักๆ ท่านก้องภพเลยไม่อยากซักไซ้อะไรอีก สั่งให้ลุยงานต่อให้เต็มที

“ไว้มีอะไรคืบหน้าค่อยติดต่อมา อ้อ...แต่อย่าหายเงียบไปแบบนี้อีกล่ะ แล้วก็ห้ามปิดมือถืออย่างที่ผ่านมาด้วย” ท่านก้องภพวางสาย คืนมือถือให้ยุทธที่ยืนรออยู่ ยุทธดูๆแล้วท่านคงจะสนิทกับรามมาก ท่านก้องภพถอนใจยาว พยักหน้ารับ ถ้าลูกชายของเขายังอยู่ก็จะมีอายุเท่ารามพอดี ยุทธไม่เคยรู้มาก่อนว่าท่านมีลูก

“เขาเสียไปตอนจะเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ตอนนั้นฉันทำใจไม่ได้อยู่พักใหญ่เลยอาสาไปเป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานระหว่างอินเตอร์โปลของไทยกับอเมริกาอยู่ระยะหนึ่ง ฉันก็เลยเจอรามที่นั่น” ท่านก้องภพเล่า...

รามลุยงานต่ออย่างที่ท่านก้องภพสั่ง โดยแวะไปหาเย็นที่ห้องคาราโอเกะเพื่อขอให้เย็นช่วยเขาได้กลับมาทำงานที่นี่อีกครั้ง และรับรองกับเย็นว่าเมียของเขาจะไม่มาวุ่นวายอะไรอีก เย็นช่วยอะไรไม่ได้ รามต้องไปให้คำรับรองกับธิดาเอาเอง ถ้าธิดายอมยกโทษให้ รามคงได้งานคืน...

หลังจากได้คำแนะนำจากเย็น รามตามไปอ้อนวอนขอร้องให้ธิดายกโทษให้ และช่วยรับเขากลับมาทำงานให้เธออีกครั้ง เขาจำเป็นต้องหาเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยหนัก ธิดามีใจให้รามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แกล้งโกรธพอเป็นพิธี ก่อนจะส่งกุญแจรถของเธอให้ รามยิ้มดีใจ กระวีกระวาดเปิดประตูรถให้ธิดาขึ้นนั่ง

ระหว่างทางที่รามขับรถให้ ธิดาแกล้งสั่งให้รามขับรถวนไปวนมาอยู่หลายรอบ แล้วสั่งให้แวะปั๊มน้ำมันที่มีร้านขายอาหารตั้งเรียงรายอยู่

“ฉันอยากได้แซนด์วิชแฮมชีส แล้วก็ไส้กรอก

พริกไทยดำกับน้ำส้มแบบผสมเกล็ดส้ม อ้อ...โดนัทอีกหกชิ้น มอคค่าปั่นใส่วิปครีมแก้วนึง”

รามรีบทำตามคำสั่ง ลงจากรถหายเข้าไปในร้านขายอาหาร ธิดาแกล้งทิ้งรองเท้าไว้หนึ่งข้าง ทำทีเหมือนโดนลักพาตัว แล้วไปแอบซุ่มดูอยู่ท้ายรถอีกคันหนึ่งไม่ห่างกัน

สักพัก เธอเห็นรามเดินกลับมาที่รถพร้อมถุงใส่อาหารหลายชนิด พอเขาเห็นสภาพโดยรอบ รีบโยนของกินใส่รถ วิ่งตามหาธิดาให้ควั่ก แล้วเดินไปหาเด็กปั๊ม ธิดาแอบยิ้มสะใจ แต่ต้องหุบยิ้มเมื่อเห็นรามวิ่งกลับขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว เธอมองตะลึง ก่อนจะตั้งสติได้ ถือรองเท้าอีกข้างหนึ่งวิ่งออกจากที่ซ่อน หันรีหันขวางไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตัดสินใจเดินไปหาเด็กปั๊ม ขอยืมมือถือ แต่จำเบอร์รามไม่ได้ ปรี๊ดแตก ทำท่าจะขว้างมือถือทิ้ง

รามเข้ามาคว้าไว้ได้ทัน แล้วดึงมือถือคืนเจ้าของ ธิดาต่อว่ารามยกใหญ่ที่ไม่รู้จักเป็นห่วงเธอ รามรู้ทันว่านี่เป็นแผนกลั่นแกล้งของเธอก็เลยแกล้งกลับ ธิดาเจ็บใจที่รามรู้ทัน เดินกระฟัดกระเฟียดขึ้นรถ

ooooooo

เมขลามาตามหารามที่ร้านเสื้อของธิดาแต่ร้านปิดแล้ว ขณะยืนเคว้งไม่รู้จะไปทางไหนดี เทวัญเดินเข้ามาทักทาย พอเขารู้ว่ารามหนีเมขลาออกมาในวันแต่งงานที่ถูกต้องตามกฎหมายของทั้งคู่ รู้สึกเห็นใจเมขลาคิดหาทางช่วย เทวัญชวนเมขลาเข้ามารอในร้าน แล้วโทร.ถามเด็กในร้านให้ เด็กบอกว่าเห็นรามออกไปกับธิดา

“ฉันไม่เข้าใจทำไมรามต้องดิ้นรนกลับมาทำงานกับพวกคุณให้ได้ จะเพราะเงินก็ไม่น่าใช่”

“ท่าทางคุณคงเหนื่อยมาก” เทวัญสงสารเมขลา

“เหนื่อยยังไงฉันก็ต้องเอาตัวเขากลับไปให้ได้ ฉันรับปากกับแม่เขาไว้แล้ว”

เทวัญเดินไปเลือกชุดที่ราวแขวนเสื้อในร้านมาให้เมขลาเปลี่ยน ถึงชุดแต่งงานที่เธอใส่อยู่จะสวย แต่ไม่เหมาะกับที่ที่เราสองคนกำลังจะไป...

ขณะที่เมขลากำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ที่ร้านเสื้อของธิดา รามถูกแปลงโฉมใหม่หล่อเลิศทั้งตัวโดยฝีมือของธิดา แล้วควงแขนเขาพาไปงานปาร์ตี้วันเกิดจีน่าเพื่อนของธิดาที่จัดขึ้นในโรงแรมหรูกลางกรุง เพื่อนๆของธิดาเห็นความหล่อของรามแล้วกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ไม่เชื่อว่ารามเป็นแค่บอดี้การ์ด...

ไม่นานนัก เทวัญพาเมขลามาส่งหน้างานปาร์ตี้ของจีน่า เมขลาต้องเข้าไปในงานคนเดียวเพราะเทวัญไม่อยากให้ลูกสาวเจ้านายเห็นว่าเขาเป็นคนพาเธอมาที่นี่

“ฉันเข้าใจ คุณอาจจะเดือดร้อน แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ คุณเป็นคนดีจริงๆ”

“ผมจะรออยู่แถวนี้ มีอะไรโทร.มานะครับ” เทวัญรอส่งเมขลาจนเดินหายเข้าไปในฝูงคน...

อีกมุมหนึ่งของงานปาร์ตี้ เสียงเพลงหวานโรแมนติกบรรเลงขึ้นเพื่อให้จีน่าเจ้าของวันเกิดกับแฟนหนุ่มออกไปเต้นเปิดฟลอร์ จีน่าโบกมือเรียกธิดาให้ออกมาเต้นด้วยกัน เพื่อนๆผลักธิดาออกไปกับรามที่กลางฟลอร์ รามเห็นท่าไม่ดี แกล้งปวดท้องทำตัวงอ ธิดาตกใจรีบเข้าไปประคอง ถามด้วยความเป็นห่วงว่าเป็นอะไร

“สงสัยส้มตำปลาร้าที่ผมกินไปเมื่อตอนบ่ายจะทำพิษเข้าให้แล้ว อู๊ย...ไม่ไหวแล้วครับ”

รามเล่นละครได้สมบทบาทจนธิดาต้องรีบไล่ให้ไปเข้าห้องน้ำ รามไม่รอให้ไล่ซ้ำ จ้ำอ้าวผ่านด้านหลังเมขลาที่มัวแต่ชะเง้อคอมองหาราม ต่างฝ่ายต่างไม่เห็นกันและกัน...

ธิดาเดินมาหยิบเครื่องดื่มระหว่างรอบอดี้การ์ดสุดหล่อของตัวเอง แทบไม่เชื่อสายตาที่เห็นเมขลายืนอยู่เธอวางแผนจะฉีกหน้าเมขลากลางงาน โดยให้จีน่าเข้ามาดึงเมขลาไปยืนกลางฟลอร์ จากนั้นธิดาตบมือเรียกทุกคนในงานหันมาฟังทางนี้

“เพื่อนๆ...ฉันขอแนะนำให้รู้จักแขกของฉัน ชื่อฉันขี้เกียจจำ รู้แต่ว่าสถานภาพทางครอบครัว...ถูกผัวทิ้ง”

“คุณเข้าใจผิดแล้ว สามีฉันโดนผู้หญิงอื่นฉกมามากกว่า” เมขลาโต้ไม่ยอมแพ้ ธิดาฉุนขาดที่เป็นฝ่ายถูกฉีกหน้า ประกาศจะให้รางวัลกับใครก็ได้ที่สามารถตบหน้าเมขลาได้ สิ้นเสียงธิดา เพื่อนๆของเธอกรูกันเข้าใส่เมขลาแต่รามพุ่งเข้ามาชิงตัวเธอหนีไปได้หวุดหวิด ธิดาเจ็บใจมาก วิ่งตามแต่ไม่ทัน รามกับเมขลาลงลิฟต์ไปเสียก่อนเธอทุบประตูลิฟต์โวยวายลั่น เทวัญรีบเข้ามาห้าม ธิดาไม่ยอมหยุดจนกว่าจะคุยกับรามให้รู้เรื่องก่อน

“คุยเรื่องอะไร เรื่องที่เขามีเมียแล้วงั้นหรือ...เชื่อพี่สิ อย่าไปยุ่งกับนายรามเลย เขาแต่งงานกับคุณเมแล้วและคุณเมก็รักนายรามมากด้วย” เทวัญเผลอหลุดปาก ธิดาจ้องหน้าพี่ชายเขม็ง

“คุณเม...นี่พี่เทพรู้จักนังนั่นด้วยหรือ...พี่เทพเป็นคนพามันมาที่นี่ใช่มั้ย พี่เทพพามันมาทำไมหรือคิดจะแกล้งฉีกหน้าน้อง ทำให้น้องอายเพื่อนๆ”

เทวัญไม่เห็นจะต้องอายตรงไหนในเมื่อรามเป็นแค่บอดี้การ์ดไม่ใช่แฟนของธิดาสักหน่อย ธิดาเถียงข้างๆคูๆถึงรามจะเป็นแค่บอดี้การ์ด เธอก็ไม่อยากให้เขามีเมีย เทวัญเซ็ง

เมื่อไหร่น้องสาวเขาจะรู้จักโตเสียที...

ด้านรามผลักเมขลาขึ้นรถแท็กซี่แล้วต่อว่าต่อขานเธอยกใหญ่ ทำแบบนี้เขาต้องเสียงานไปอีกแน่ๆ เมขลาไม่สนใจ ควักกุญแจมือจากกระเป๋ามาสับเข้าที่ข้อมือรามแล้วสับอีกข้างหนึ่งที่ข้อมือตัวเองเพื่อกันไม่ให้รามหนีไปไหนอีก ครู่ต่อมา รามกับเมขลากลับถึงบ้านรัตมณีเห็นทรงวาดยืนรออยู่ก่อนแล้ว รามโมโหไม่พูดไม่จาลากเมขลาถูลู่ถูกังเข้าบ้าน แล้วแกล้งเดินชนข้าวของในบ้านแตก เมขลาตกใจ นี่รามจะมาไม้ไหนอีก

“ก็ผมเดินไม่ถนัด” รามว่าพลางเขย่ากุญแจมือ เมขลาจำใจหยิบลูกกุญแจมาไขให้

“ทีนี้คงเดินถนัดขึ้นแล้วใช่มั้ย”

“ก็ดีขึ้น แต่คงจะดีกว่านี้ ถ้าคุณจะไสหัวไปจากบ้านผมเสียที” รามว่าแล้วเดินกระแทกเท้าขึ้นบ้าน

ทรงวาดขอโทษเมขลาแทนรามที่ปากร้ายแถมเอาแต่ใจตัวเอง เมขลาเข้าใจดี วันนี้เราสองคนเหนื่อยกันมาก ถ้ารามได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วคงจะอารมณ์ดีขึ้น ทรงวาดฝากเมขลาดูแลรามให้ด้วยส่วนเธอจะไปสั่งให้เด็กตั้งโต๊ะรอ พอเมขลาเดินลับสายตา เรืองฤทธิ์เข้ามาเห็นข้าวของล้มระเนระนาด ถามทรงวาดว่าเกิดอะไรขึ้น พอรู้ว่าเป็นฝีมือของราม เรืองฤทธิ์ตกใจ

“นี่รามยอมกลับมาด้วยหรือครับ”

“พี่บอกฤทธิ์แล้วไงว่า หนูเมทำได้ทุกอย่าง” ทรงวาดยิ้มพอใจ ขณะที่เรืองฤทธิ์กลับรู้สึกตรงกันข้าม

ooooooo

No comments:

Post a Comment