Wednesday, December 7, 2011

เรื่องย่อ นางฟ้่กับมาเฟียตอนที่5 ละครช่อง 7


1เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน1 ละคร ช่อง7
2เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน2 ละคร ช่อง7
3เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน3 ละคร ช่อง7
4เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน4 ละคร ช่อง7
5เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน5 ละคร ช่อง7
6เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน6 ละคร ช่อง7
เรื่องย่อ นางฟ้ามาเฟีย ตอน7ละคร ช่อง7

ตอนที่ 5

ครู่ต่อมา เมขลาตามรามเข้ามาในห้องแต่ไม่เจอ ตกใจคิดว่าหนีไปอีก รีบเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปดู รามกำลังล้างหน้าล้างตาอยู่ หันมองเมขลาไม่พอใจมากที่ตามติดเหมือนเขาเป็นนักโทษหลบหนี เมขลาแก้ตัวว่าไม่ได้ตาม แค่จะมาผสมน้ำอุ่นให้เขาอาบก่อนลงไปกินข้าว รามเลยพาลไม่อาบน้ำทั้งๆที่เหนียวตัวแทบแย่ ขึ้นเตียงทั้งอย่างนั้น นอนหันหลังให้แล้วแกล้งหลับตา เมขลาเดินออกจากห้องอย่างเซ็งจัด

“โรคกลัวน้ำอย่างนายรามสูรนี่ต้องแก้ด้วยตัวอะไรดีน้า” เมขลากวาดตามองไปที่ต้นไม้ริมหน้าต่างเห็นบุ้งขนยาวน่าขยะแขยง ถึงกับยิ้มออก...
บุ้งที่เมขลาแอบเอาไปหย่อนใส่หลังรามได้ผลชะงัด รามคันคะเยอถอดเสื้อออกแทบไม่ทัน ส่องกระจกดูหลังตัวเองเห็นผิวหนังเป็นผื่นแดง รีบเอาเสื้อมาสะบัดๆถึงกับอึ้ง เจอบุ้ง ตกอยู่ที่พื้น รามรีบอาบน้ำฟอกสบู่เป็นการใหญ่ อาการคันยังไม่ทุเลา ออกจากห้องน้ำเจอเมขลายืนรอยื่นยาทาแก้คันให้ รามรู้ทันทีว่าเป็นฝีมือเมขลาต้องการเอาคืน ขอร้องให้เธอช่วยทายาให้ แล้วปลดผ้าเช็ดตัวที่นุ่งเพียงชิ้นเดียวออก เมขลาตะลึง

“ไม่ต้องเขินน่า เรามันเป็นคนคนเดียวกันแล้ว...มามะ” รามเดินเข้าหาอย่างหน้าไม่อาย

เมขลาถอยกรูด พอตั้งสติได้หยุดถอย “ใครว่าฉันเขิน ฉันแค่แปลกใจต่างหากว่าตัวโตเป็นยักษ์อย่างคุณ แค่นี้เองหรือ นึกว่าเด็กอนุบาลซะอีก” เมขลาแข็งใจก้มมองตรงนั้น รามทั้งอายทั้งโกรธ รีบคว้าผ้าเช็ดตัวขึ้นมานุ่งแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำ เมขลาเผ่นออกจากห้องอย่างรวดเร็ว ไปยืนร้องกรี๊ดๆด้วยความสยองอยู่ที่มุมบ้าน...

รามแพ้ขนบุ้ง จับไข้ตัวร้อนนอนซมอยู่บนเตียง เมขลาเป็นห่วงเอายามาให้กิน เขาปัดมือเธอออกแก้วน้ำกับยากระเด็น เมขลาชักโมโหคว้าหมอนกับผ้าห่มลงมานอนข้างเตียงไม่สนใจ แต่สุดท้ายทนไม่ไหว ลงไปในครัวหยิบเทียนไขกับอ่างใส่น้ำใบเล็กๆขึ้นมา เธอเอาเทียนไขลนไฟให้อ่อนตัว ปั้นเป็นก้อนแล้วคลึงตามหลังรามเอาขนบุ้งออกให้ จากนั้นหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาชุบน้ำคอยเช็ดตัวให้รามจนไข้ลด ส่วนตัวเองหลับฟุบอยู่ตรงนั้น

ooooooo

รามตื่นขึ้นตอนเช้าเห็นเมขลานั่งหลับอยู่ข้างเตียง มีผ้าเช็ดตัวกับอ่างน้ำวางอยู่ เขาเอื้อมไปหยิบก้อนขี้ผึ้งขึ้นมอง พึมพำเบาๆ อย่าคิดว่าทำคุณไถ่โทษอย่างนี้แล้วเขาจะยกโทษให้ แล้วเอื้อมมือจะดีดหูเมขลาแก้แค้น

แต่เสียงมือถือดังขึ้นเสียก่อน รามรีบคว้ามือถือออกจากห้อง หามุมลับตาคนก่อนจะรับสาย ท่านก้องภพ โทร.มาสอบถามความคืบหน้าเหมือนเช่นเคยและเร่งให้รามรีบทำงาน รามหนักใจมาก ขืนถูกเมขลาตามติดอย่างนี้อาจทำให้งานเสียหายได้ ต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง...

รามวางแผนใช้เรื่องงานที่บริษัทพ่อเขามาบังหน้า เพื่อหาทางออกจากบ้านและเป็นการกันไม่ให้เมขลาคอยตามติดเขาไปในตัว รามใส่สูทผูกไทอย่างดี ขอตามเรืองฤทธิ์ไปทำงานด้วย เรืองฤทธิ์ถึงกับอึ้ง ขณะที่ทรงวาดดีใจมากที่รามกลับตัวกลับใจได้รวดเร็ว และยกให้เป็นความดีความชอบของเมขลา

“นั่นสิ...เพราะในสายตาแม่ คนอย่างผมคิดดีทำดีไม่เป็นอยู่แล้ว” รามไม่พอใจพาลปัดจานใส่อาหารเช้ากระเด็น แล้วหันไปบอกเรืองฤทธิ์ว่าจะออกไปรอที่รถ เรืองฤทธิ์กลุ้มหนักที่รามจะไปบริษัท รีบหลบมุมโทร.หาจักร

“ไอ้หลานตัวดีของฉันมันคงสงสัยงานของฉันแล้ว แกรีบไปเตรียมตัวตามที่ฉันสั่งเดี๋ยวนี้เลย เราต้องรีบลงมือก่อน” เรืองฤทธิ์แววตาวาวโรจน์น่ากลัว...

ในเวลาต่อมา เรืองฤทธิ์ขับรถพารามมายังสถานที่ก่อสร้างคอนโดฯ แห่งใหม่ของบริษัทที่พ่อรามเป็นเจ้าของ รามแปลกใจพามาที่นี่ทำไม เรืองฤทธิ์อ้างจะพาเขามาเรียนรู้ที่ไซต์งานนี้ก่อน เพราะเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจของพวกเรา แล้วพารามเดินเข้าไปดูด้านในซึ่งยังก่อสร้างไม่เสร็จ รามสงสัยทำไมคนงานหายไปไหนหมด ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาพักเที่ยง เรืองฤทธิ์ทำทีหยิบมือถือออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วแกล้งทำผ้าเช็ดหน้าหล่น

จังหวะที่รามก้มเก็บผ้าเช็ดหน้า คนร้ายในคราบคนงาน คนหนึ่งถือไม้หน้าสามวิ่งเข้าใส่ แต่รามไวทายาดเบี่ยงตัวหลบ ก่อนจะเตะสวนเข้าหน้าหงายหลังตึง คนงานปลอมอีกกลุ่มหนึ่งกรูเข้าล้อมกรอบสองอาหลานไว้

“นี่มันอะไรกันเนี่ย พวกแกคิดจะทำอะไร” เรืองฤทธิ์ทำเป็นร้องเอะอะ

“แกโกงค่าแรงพวกฉัน แล้วจะเปลี่ยนคนงานชุดใหม่เข้ามา ฉันจะสั่งสอนนายทุนอย่างแกให้รู้สำนึก”

คนงานทำทีฟาดไม้ใส่เรืองฤทธิ์แต่ยั้งมือไว้ไม่ให้ไม้ถึงตัว เรืองฤทธิ์ตีบทแตกกระจุยแกล้งร้องโอดโอยทรุดลงไปกองกับพื้น รามถูกกลุ่มคนงานที่เหลือเล่นงาน แค่ลัดนิ้วมือเดียวรามจัดพวกนั้นล้มคว่ำไม่เป็นท่า เรืองฤทธิ์เห็นท่าไม่ดีแกล้งวิ่งเข้าไปกลางวงเพื่อดึงความสนใจจากราม   แล้วขยิบตาให้พวกคนงานที่นั่งหมดสภาพ พวกนั้นรู้งานรีบเผ่นหนีฝุ่นตลบ รามจะวิ่งตามแต่เรืองฤทธิ์ร้องห้ามไว้ แถมยังไม่ยอมให้ไปแจ้งความ

“อาครับ...ปล่อยไปอย่างนี้มันจะได้ใจ”

“อาไม่อยากให้เป็นข่าว มันจะกระทบถึงภาพลักษณ์ของคอนโดฯ คนงานพวกนี้มันร้ายกาจจริงๆเห็นมั้ยราม งานของบริษัทมันไม่ใช่ง่ายๆหรอก”

รามเปิดปากเล่าความจริงให้เรืองฤทธิ์ฟังว่าเขาไม่ได้สนใจงานในบริษัทของพ่อ เพียงแต่ยกมาเป็นข้ออ้างเพื่อให้ได้ออกจากบ้านกลับไปทำงานเก่าที่เขาชอบ เรืองฤทธิ์แอบดีใจที่รามจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบริษัท แต่เพื่อความไม่ประมาท เขาสั่งให้จักรสะกดรอยตามรามเพื่อให้เห็นกับตา สักพักเรืองฤทธิ์โทร.ถามข่าวจากจักร

“คุณรามมาที่คาราโอเกะพ่อเลี้ยงปองธรรมครับคุณฤทธิ์...จะให้ผมไปสืบมั้ยครับว่าคุณรามมาทำอะไร”

“ไม่เป็นไร แค่รู้ว่ามันอยู่ที่นั่นก็พอแล้ว” เรืองฤทธิ์วางสายยิ้มพอใจ

ooooooo

รามมาถึงร้านคาราโอเกะทันเวลาช่วยเย็นให้รอดพ้นจากการถูกธิดาลงโทษในความผิดที่ไม่ได้ทำ และขอร้องเธอให้ปล่อยเย็นไป ถ้าเธอโกรธเขาก็ควรจะลงโทษเขา ธิดาคว้ามีดขว้างใส่รามด้วยความแค้น แต่กลับหลับตาป๋ีกลัวมีดจะโดนราม พอลืมตาเห็นมีดพลาดเป้าแอบถอนใจโล่งอก รามดึงมีดออกจากผนังด้านหลัง เอามาคืนให้ธิดา

“ลองใหม่ซิ ระยะแค่นี้ไม่พลาดหรอก”

“ไปให้พ้น ไม่งั้น จากมีดมันจะกลายเป็นปืน” ธิดาปามีดทิ้งแล้วเดินหนี รามตามไปขอโอกาสเธออีกครั้งและสัญญาจะไม่ให้เมขลามาจุ้นจ้านวุ่นวายอีก ธิดาไม่เชื่อ รามจะทำได้อย่างไรในเมื่อเมขลาเป็นเมียเขา

“เธอเป็นเมียผมก็จริงแต่ไม่มีความหมายอะไรกับผมเลย ที่ผมต้องแต่งงานกับเธอเพราะแม่ขอร้อง”

“ฉันไม่เชื่อหรอก คนอย่างนายต้องมีเมียเพราะแม่บังคับ ไปหลอกเด็กปัญญาอ่อนเถอะ”

“แม่ของผมไม่สบายมากและผมเองก็ไม่เคยตอบแทนอะไรท่านเลย เลยอยากทำอะไรเพื่อท่านบ้าง” คำพูดของรามจี้ใจดำธิดาเต็มๆเพราะมีปมเรื่องแม่เหมือนกัน แม่ตายตอนที่คลอดเธอทำให้เธอรู้สึกต้องรับผิดชอบ ธิดารีบสลัดความรู้สึกนั้นทิ้ง สั่งให้รามหยุดพูดได้แล้ว ไม่อยากฟังเรื่องน้ำเน่า

รามยอมทำทุกอย่างถ้าเธอจะยกโทษให้ ธิดาเดินไปหยิบกระดาษกับปากกามาเขียนสิ่งที่เธอต้องการให้เขาทำ แล้วยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้อ่าน รามถึงกับตาโต

“ให้ผมไปรับที่บ้านตอนแปดโมงเช้า ห้ามมาสาย ห้ามกลับก่อน ห้ามขาดงาน และระหว่างวันห้ามไปไหน”

ธิดาต้องการได้คำตอบเดี๋ยวนี้ ถ้ารามทำไม่ได้เธอจะไล่เขาออก และจะไม่มีการยกโทษให้อีกแล้ว มีเสียงมือถือของรามดังขัดจังหวะ รามเห็นเบอร์เมขลาโชว์หน้าจอ รีบกด ตัดสาย อึดใจเดียวเสียงมือถือดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้รามปิดเครื่องเอาแบตฯออก หันไปถามธิดา แล้วเวลาเลิกงานมีกำหนดไหม

“แล้วแต่ความพอใจของฉัน แต่ถ้านายเป็นห่วงแม่เป็นห่วงเมีย ก็ไปดูแลกันให้พอ ฉันหาบอดี้การ์ดใหม่ได้” ธิดาพูดจบทำท่าจะกลับ รามไม่มีทางเลือก ตกลงทำตามข้อเรียกร้องของธิดา...

ขณะที่รามได้งานกลับคืนสมใจ เมขลายังกดโทรศัพท์หารามไม่หยุด หันไปบอกทรงวาดที่กำลังจัดสำรับอาหารว่ายังติดต่อรามไม่ได้ สงสัยจะติดประชุม ทรงวาดไม่ค่อยแน่ใจจะเป็นอย่างที่เมขลาว่า รามเกลียดบริษัทนี้มาก เขาคิดว่าที่พ่อของเขาบังคับจิตใจเขากับลักษณ์เพราะจะให้ทั้งคู่มารับช่วงกิจการต่อจากพ่อ

“เขาอาจจะทำใจได้แล้วก็ได้ค่ะ ไม่งั้นคงไม่ขอไปทำงานเอง หรือคุณแม่คิดว่า...เขาทำเพื่อให้เราตายใจ” เมขลาชักเป็นกังวลตามทรงวาดไปด้วย...

รามเริ่มนั่งไม่ติด ถ้ากลับบ้านผิดเวลาแผนใช้บริษัทของพ่อบังหน้าอาจจะแตกได้ ชะเง้อมองไปด้านในร้านเสริมสวยเห็นธิดายังนั่งให้ช่างเป่าผมอยู่ รามหยิบมือถือขึ้นมาเปิด มีข้อความจากเมขลา 109 ครั้ง ถึงกับบ่นอุบจะตามจิกกันไปถึงไหน แล้วแอบแวบออกจากร้าน ขณะรามกำลังโทร.หาเมขลา ธิดาถือวิสาสะกระชากมือถือของเขาไปกดปิดเครื่อง รามไม่พอใจ แต่ต้องเก็บอาการไว้ ธิดาถามเสียงเขียวว่า โทร.หาใคร

“ผมจะโทร.ไปเช็กอาการแม่น่ะครับ วันนี้ตอนผมออกจากบ้านมา ท่านดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยไม่รู้ว่าเย็นนี้จะต้องพาไปหาหมอมั้ย...แล้วตกลงคุณเทเรซ่าจะไปไหนต่อครับ”

ธิดาฟังเรื่องแม่ของรามแล้วเจ็บจี๊ด สั่งให้รามไปส่งเธอที่บ้าน ทั้งคู่ยังไม่ทันขยับไปไหน มีโจรกระชากสร้อยทองจากคอหญิงสูงอายุ แล้ววิ่งมายังทิศทางที่รามกับธิดายืนอยู่ รามรีบดึงเจ้านายสาวหลบได้ทัน รอดจากถูกชนหวุดหวิด ธิดานิ่งอึ้งอยู่ในอ้อมกอดราม ก่อนจะถูกเขาดันตัวออกห่าง แล้ววิ่งไล่ตามโจรอย่างไม่ลดละ และตามจับตัวได้ในที่สุด ธิดารู้สึกประทับใจบอดี้การ์ดหนุ่มของตัวเองมาก

ooooooo

ที่บ้านรัตนมณี เมขลากับทรงวาดรอรามกลับมากินข้าวเย็นอย่างใจจดจ่อ เรื่องฤทธิ์ถึงบ้านแล้วแต่รามไม่กลับมาด้วย เรืองฤทธิ์เองก็ไม่รู้เขาหายไปไหน ทรงวาดหวั่นใจ คราวนี้รามอาจไปแล้วไปลับก็ได้ เมขลาปลอบใจทรงวาดอย่าเพิ่งสิ้นหวัง เธอจะไปตามรามกลับมาให้เอง ขยับจะลุกขึ้น แต่รามมาถึงเสียก่อน

เมขลาต่อว่าต่อขานเขายกใหญ่ที่อยู่ๆหายไปจากบริษัท แทนที่จะช่วยเรืองฤทธิ์ทำงาน รามไม่ได้ไปไหนเผลอหลับในห้องประชุมเล็ก ตื่นมาก็ไม่เจอใครแล้ว และอีกอย่างหนึ่งที่นั่นไม่มีอะไรน่าสนใจ เขาเบื่อๆก็เลยหลบไปนอน เมขลาทำราวกับเป็นแม่สั่งสอนรามว่านั่นบริษัทของตัวเอง ควรจะเอาใจใส่ให้มากกว่านี้

“บริษัทของผม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ จะเดือดร้อนทำไม” รามยิ้มยั่ว

“ก็เพราะฉันเป็นเมียคุณไง”

“เออ จริงด้วย คุณไม่เตือน ก็ลืมไปแล้วนะเนี่ย งั้นเราไปทบทวนความจำกันหน่อย” รามไม่สนใจจะกินข้าวกินปลา ฉุดเมขลาขึ้นห้อง...

ขณะรอรามออกจากห้องน้ำ เมขลาเดินไปเดินมาสีหน้าครุ่นคิดจะทำอย่างไรถ้ารามเกิดหื่นขึ้นมาจริงๆรีบควานหาอาวุธจากกระเป๋าถือ ได้สเปรย์พริกไทยกับที่ช็อตไฟฟ้า เธอตัดสินใจเลือกที่ช็อตไฟฟ้าแล้วเอามาวางไว้ใกล้ๆมือ รามออกจากห้องน้ำเห็นเมขลานั่งยิ้มรออยู่บนเตียงไม่ค่อยจะไว้ใจนัก แต่ทำเก๊กเดินมานั่งข้างๆ

“ผมดีใจนะที่คุณจำได้ว่าเมื่อวานเราพลาดกิจกรรมที่สำคัญมากๆไปกิจกรรมหนึ่ง”

“ฉันก็ดีใจเหมือนกันที่คุณกระตือรือร้นขนาดนี้...แต่เตือนไว้ก่อนนะ ว่ารสนิยมฉันไม่ธรรมดา”

รามชอบอยู่แล้วผู้หญิงซาดิสต์ แกล้งทำหน้าหื่นใส่ แล้วแกะกระดุมเสื้อนอนตัวเอง เมขลายิ้มกริ่ม หยิบที่ช็อตไฟฟ้าขึ้นมากดโชว์ เห็นประกายไฟแปลบๆน่ากลัว รามกระเถิบหนี หญิงสาวชอบใจที่เห็นเขากลัว กดที่ช็อตไฟฟ้าเล่นสนุกสนาน แล้วชวนคุณสามีมาสนุกด้วยกัน รามเตรียมกระโจนใส่ ขณะที่เมขลาเตรียมตั้งรับ

เสียงโครมครามดังไปถึงห้องนั่งเล่นชั้นล่าง ทรงวาดตกใจจะขึ้นไปดู แต่เรืองฤทธิ์ห้ามไว้เรื่องของผัวๆเมียๆเราไม่ควรเข้าไปยุ่ง ทรงวาดได้แต่มองไปทางห้องนอนของรามอย่างเป็นห่วง

ทางด้านรามพยายามจับมือข้างที่มีที่ช็อตไฟฟ้าของเมขลาไว้ แต่เธอกดปุ่มขู่ตลอด รามกอดปล้ำจะแย่งที่ช็อตมาให้ได้ แต่เมขลาดิ้นสุดฤทธิ์ จังหวะหนึ่ง รามรวบตัวยัยจอมจุ้นไว้ได้ เธอสะบัดมือหลุดจากมือราม แล้วกดที่ช็อตเข้าอกรามเต็มๆ แต่ดันลืมไปว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดเขา จึงพลอยถูกกระแสไฟฟ้าช็อตไปด้วย ทั้งคู่สั่นพั่บๆก่อนจะร่วงตกเตียง

ooooooo

เมขลากับรามตื่นขึ้นมาตอนเช้าในสภาพหัวฟู หน้าดำเพราะถูกไฟช็อต พอตั้งสติได้ ต่างชวนกันมาสู้ต่อให้รู้ดำรู้แดง จังหวะนั้น เสียงนาฬิกาปลุกที่หัวเตียงดังขึ้น รามหันไปเห็นเกือบแปดโมงแล้ว ตาเหลือกรีบพุ่งเข้าห้องน้ำ ไม่ถึงห้านาที ก็วิ่งออกมาสวมเสื้อกับกางเกงอย่างลวกๆโดยไม่ลืมหยิบสูทติดมือไปด้วย

จากนั้น รามวิ่งกระหืดกระหอบลงมาข้างล่างทันเรืองฤทธิ์กำลังจะไปทำงานพอดี เรืองฤทธิ์กระซิบเตือนรามทำแบบนี้ไม่ดีแน่ๆ ถ้าทรงวาดรู้ว่าเขาช่วยราม คงต้องโกรธเขามาก

“เมื่อวานผมกลับมาช้าไปหน่อย แต่วันนี้ผมจะกลับให้ตรงเวลา...หรืออาจะอยากให้ผมอยู่ออฟฟิศให้อาปวดหัวละครับ” รามว่าแล้วเดินยิ้มออกไปรอที่รถ เรืองฤทธิ์มองตามหลานชาย ทำเป็นถอนใจ เพราะรู้ตัวตลอดว่าเมขลาแอบฟังอยู่ตรงบันได...

เรืองฤทธิ์คาดการณ์ล่วงหน้า เมขลาจะต้องตามมาที่บริษัท จึงวางแผนให้จักรเตรียมรถคันพิเศษไว้ให้ภายในติดแอร์รีเฟรชเชอร์ยาสลบเพื่อกันไม่ให้เมขลาตามรามเจอ ไม่นานนัก เมขลามาจริงตามคาด พอรู้แน่ชัดว่าการมาทำงานที่นี่ของรามเป็นแค่แผนตบตา เธอมุ่งมั่นจะไปตามเขากลับมาให้ได้ และรู้ด้วยว่าจะไปตามเขาได้ที่ไหน เรืองฤทธิ์เสนอให้เมขลาเอารถของบริษัทไป แล้วโทร.สั่งให้จักรเอารถคันพิเศษมาให้...

ขณะเดียวกัน ที่บ้านปองธรรม พ่อเลี้ยงปองธรรมยืนคุยอยู่กับแสงบนระเบียงบ้านเห็นรามเดินผ่านด้านล่างหันไปถามแสงว่าไอ้หมอนั่นมีปัญหาอะไรหรือเปล่า เมื่อวันก่อน ธิดามาขอให้เขาหาบอดี้การ์ดคนใหม่ให้

“มีครับ...เมียมันดุมาก หวงผัวมากด้วย ตามราวีจนแทบไม่ต้องทำงานทำการกันเลย พ่อเลี้ยงยังจะจ้างมันอีกมั้ยครับ” แสงรอคำตอบจากเจ้านายใหญ่ พ่อเลี้ยงปองธรรมกลับชอบใจดีเสียอีกที่รามมีลูกมีเมียแล้ว...

รามเห็นภายในบ้านพ่อเลี้ยงปลอดคน จะหาที่ติดเครื่องดักฟังแต่แสงเข้ามาเสียก่อน เลยต้องล้มเลิก แสงสั่งห้ามรามเข้ามาวุ่นวายในนี้อีก คราวหน้าให้รอที่โรงรถหรือสนามหน้าบ้าน เดี๋ยวเด็กคนงานจะไปตามคุณธิดาลงมาเอง รามรับคำขยับจะไปรอข้างนอก ได้ยินแสงคุยกับสมุนคนหนึ่งถึงงานชิ้นใหม่ รีบตามไปแอบฟัง

“ของลอตใหม่กำลังจะลงมาแล้ว แกไปบอกเด็กๆด้วยว่าให้เตรียมตัวให้พร้อมไว้”

“แล้วเรื่องเวลากับที่รับของล่ะครับพี่แสง”

แสงให้ใช้เวลาและสถานที่เดิมไปก่อน รามรีบย่องออกจากบ้านมาหลบมุมแถวรถของธิดา โทร.รายงานเรื่องนี้

ต่อท่านก้องภพ แต่ยังไม่ทันจะวางสาย ธิดาเข้ามาข้างหลัง ถามเสียงเขียวว่าแอบโทร.หาเมียหรือ รามสะดุ้งโหยง โกหกหน้าตายว่ากำลังคุยกับแม่ ธิดาจะขอคุยด้วย รามรีบแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้ายกมือถือมาขึ้นพูด

“เอ่อ...แม่ครับ คุณเทเรซ่าเจ้านายผมอยากจะคุยกับแม่ เธอเป็นห่วงอยากรู้ว่าแม่ไม่สบายเป็นยังไงบ้าง”


ท่านก้องภพแกล้งดัดเสียงเป็นหญิงแก่ พูดคุยโทรศัพท์กับธิดาผ่านฉลุย

ooooooo

ระหว่างที่เมขลาขับรถไปพลางคุยโทรศัพท์กับเทวัญไปพลาง ถึงเรื่องที่รามโกหกแม่ตัวเองว่าจะกลับไปทำงานสุจริตแต่กลับแอบหนี และเธอกำลังจะไปตามเขาที่สถานบันเทิงของเจ้านายเทวัญ ยาสลบเริ่มออกฤทธิ์

เมขลาเห็นภาพเบลอจนรถเสียการควบคุม จังหวะนั้น มีรถบรรทุกคันใหญ่แล่นออกจากซอยมาขวางทาง เมขลาถึงกับตาโต แหกปากร้องลั่น จากนั้นเสียงเธอก็เงียบหายไป เทวัญตกใจ คว้ากุญแจรถวิ่งออกไปทันที...

ในเวลาไล่เลี่ยกัน ธิดาพารามมางานปาร์ตี้ยาอีที่บ้าน

จีน่า แล้วยัดยาใส่มือเขาหนึ่งเม็ด พยายามคะยั้นคะยอให้เขาเสพ รามมองยาในมือ แล้วยัดใส่กระเป๋าเสื้อสูท รีบตามไปห้ามปรามแต่ธิดาไม่ฟัง เสพยาจนเมามาย รามเข้าไปพยุงให้ลุกขึ้น เธอกลับกอดเขาไว้ซบหน้าเกลือกกับแผ่นอก ลิปสติกเลอะเสื้อตัวในเต็มไปหมด แล้วยื่นปากจะจูบ รามรีบผลักเธอออก ทันใดนั้น มีเสียงของภาคภูมินายตำรวจหนุ่ม ประกาศผ่านทางเครื่องขยายเสียง

“ขอให้ทุกคนที่อยู่ในบ้าน อยู่ในความสงบ ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ล้อมบ้านนี้ไว้หมดแล้ว”

สิ้นเสียงภาคภูมิ เกิดความวุ่นวายไปทั่ว พวกที่ไม่ได้เมายาพยายามหาทางหนี ส่วนพวกที่เมานอนไม่รู้ร้อนรู้หนาว รามลากธิดาที่ครองสติไม่อยู่หนีมาทางหลังบ้าน พยายามดันเธอปีนกำแพงรั้ว ธิดาส่งเสียงโวยวายลั่นไม่ยอมปีน รามรีบปิดปากเธอไว้ ภาคภูมิได้ยินเสียงร้อง รีบวิ่งไปยังต้นเสียง เห็นธิดากำลังปีนรั้วพอดี ตะโกนลั่น

“อย่าหนีนะ”

รามรีบดันตัวธิดาพ้นกำแพง แล้วหันเผชิญหน้ากับภาคภูมิ ต่างฝ่ายต่างจำหน้ากันได้ ภาคภูมิชักปืนขึ้นมาเล็ง รามยกมือเหมือนจะยอมจำนน แต่พอภาคภูมิเข้ามาได้ระยะ เขาพลิกตัวใช้ท่าจระเข้ฟาดหางเตะปืนในมือกระเด็นแล้วตามเข้าไปต่อยซ้ำ ภาคภูมิร่วง รามรีบปีนกำแพงหนี เห็นธิดานั่งคลำข้อเท้าป้อยๆเพราะขาพลิก เขารีบอุ้มเธอวิ่งหนี ภาคภูมิตั้งหลักได้โดดขึ้นมาบนกำแพง ยิงปืนขู่ แต่รามอุ้มธิดาหนีหายเข้าพงหญ้าก่อนแล้ว...

ด้านเทวัญขับรถไปตามเส้นทางที่เมขลาบอกก่อนจะขาดการติดต่อ เจอกลุ่มชาวบ้านกำลังมุงดูรถคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง เทวัญจอดรถลงไปดู เห็นเมขลาหลับคาพวงมาลัย รีบพาเธอมาที่นอนพักที่ห้องทำงานของเขาในคาเฟ่ ไม่นานนัก เมขลารู้สึกตัวตื่น หลังจากเธอรวบรวมสติได้ เทวัญซักถามว่าเกิดอะไรขึ้น

“ฉันจำได้ว่า ฉันวูบหลับจนเกือบชนกับรถบรรทุก ฉันก็เลยตัดสินใจขับรถจอดข้างทางแล้วก็นอน”

เทวัญดูๆแล้วลักษณะเหมือนเมขลาถูกวางยา ขนาดเขาอุ้มเธอออกจากรถ ขับมาที่นี่ เธอยังไม่รู้สึกตัวเลย เมขลาเองก็แปลกใจเหมือนกัน ทำไมถึงได้ง่วงขนาดนี้ หรืออาจเป็นเพราะความเครียดก็ได้

“ที่ผมโทร.ไปเพราะเห็นว่าสามีคุณกลับมาทำงานให้ลูกสาวนายผมอีก”

เมขลาคงต้องจับรามล่ามโซ่ไม่ให้หนี เทวัญเตือนว่าผู้ชายยิ่งไล่ยิ่งหนี ทำไมเมขลาไม่หยุดบ้างจะได้ไม่เครียด เมขลาอธิบายว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความรัก แต่เกี่ยวกับบุญคุณและความกตัญญูต่างหาก เธอถึงต้องตามล่ารามแบบนี้ เทวัญหน้าหมองลงทันที เพราะเขาเองก็ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำเพราะความกตัญญูเหมือนกัน จังหวะนั้น พ่อเลี้ยงปองธรรมโทร.ตามเทวัญให้ไปจัดการเรื่องธิดา เทวัญรีบขอตัวออกไปทันที...

ครู่ต่อมา เทวัญขับรถมาจอดซุ่มอยู่แถวพงหญ้าห่างจากบ้านจีน่าพอสมควร ยังมีรถตำรวจ กับรถนักข่าวจอดอยู่หลายคัน แสงเข้ามารายงานเทวัญว่า ไม่เห็นธิดาถูกจับ เห็นแต่รถของเธอจอดอยู่

“หรือว่าหนีไปได้ งั้นพี่แสงดูลาดเลาอยู่ที่นี่ ผมจะไปลองหายายน้องดูตามบ้านเพื่อนเธอ เผื่อจะหนีไปหลบ แล้วถ้าใครเจอยายน้องก่อนก็โทร.บอกอีกฝ่ายแล้วกัน” เทวัญว่าแล้วรีบขึ้นรถขับออกไป...

มืดแล้ว รามกับธิดายังคงซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้ารกที่เดิม รามต้องการให้แน่ใจก่อนว่าตำรวจไปหมดแล้ว ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าคนใกล้เข้ามา รามกดธิดาให้หมอบลงกับพื้น ชักปืนจากเอวเตรียมพร้อม จังหวะที่ชายคนนั้นเข้ามาใกล้ รามล็อกคอแล้วกดเขาลงกับพื้น พอเห็นหน้าชัดๆถึงกับถอนใจโล่งอกชายคนนั้นคือเย็นนั่นเอง

ooooooo

เมขลาหมดปัญญาจะตามหาราม ตัดสินใจมานั่งรอหน้าบ้านรัตนมณีไม่อยากกลับเข้าบ้านโดยไม่มีราม เกรงทรงวาดรู้ว่ารามโกหกเรื่องไปทำงานแล้วจะเสียใจ เธอนั่งรอรามจนหลับไปตรงนั้น

ไม่นานนัก รามกลับถึงบ้าน เจอเมขลานั่งหลับอยู่ แกล้งตะโกนว่าไฟไหม้ เมขลาทะลึ่งพรวด หัวโขกหน้ารามเต็มๆมึนตึบ พอตั้งสติได้ ซักถามรามอุตลุดว่าหายไปไหนมา รามไม่รู้ว่าความลับแตก โกหกว่าไปทำงานแล้วเดินหนีเข้าบ้าน เมขลาไม่ปล่อยให้รามลอยนวล ตามมาซักไซ้ไล่เลียงอีก รามไม่ตอบเดินหนีขึ้นบ้าน

พอได้อยู่กันตามลำพังในห้องนอน เมขลาถึงเฉลยให้รามรู้ว่าเธอรู้แล้วว่าเขากลับไปทำงานให้ธิดา รามไม่ใส่ใจ อยากจะอาบน้ำเต็มที ถอดสูทพาดเก้าอี้ โดยไม่เห็นยาอีที่เขาใส่ไว้ในกระเป๋ากลิ้งไปใต้เตียง แล้วถอดเสื้อตัวในโยนลงตะกร้า เมขลาตาไวเห็นรอยลิปสติกหยิบเสื้อขึ้นมาดู

“คุณไปทำงานอะไรกันแน่ ทำไมมีแต่รอยจูบเต็มเสื้อ” เมขลาหึงไม่รู้ตัว

“แหม เล่นบทเมียขี้หึงเลยเหรอ...ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะมาชดเชยให้คุณอย่างเต็มที่ ให้ผมอาบน้ำอาบท่าก่อน อย่าลืมนะว่าสงครามระหว่างคุณกับผมน่ะยังไม่จบ” รามทำหน้าหื่น มองเมขลาทั่วเรือนร่าง ก่อนเดินเข้าห้องน้ำ เมขลานึกกลัว รีบหยิบที่ช็อตไฟฟ้าออกมา แต่ถ่านดันหมด หันไปหยิบสเปรย์พริกไทยลองฉีดดูแต่ไม่มีอะไรออกมา หญิงสาวคิดหนักจะทำอย่างไรดี นึกถึงยานอนหลับขึ้นมาได้ หยิบตลับใส่ยาขึ้นมาเปิด

แต่ออกแรงมากไป ยากระเด็นตกพื้น เมขลารีบคลานหาเพราะมีอยู่เม็ดเดียว แต่กลับเจอยาอีที่รามทำหล่น ซึ่งหน้าตาเหมือนยานอนหลับไม่มีผิดเพี้ยน เมขลาเอื้อมไปหยิบแล้วรีบลงไปในครัว รินน้ำส้มใส่แก้วสองใบ เอายานอนหลับละลายในน้ำส้มแก้วที่อยู่ขวามือ แล้วเอากล่องน้ำส้มไปเก็บ

ทรงวาดเข้ามาเห็นแก้วน้ำส้มวางอยู่บนเคาน์เตอร์ ก้นแก้วเลอะเทอะยกขึ้นเช็ด แก้วสองใบสลับกันโดยไม่รู้ตัว เมขลากลับมาเห็นทรงวาดยืนอยู่ แต่ไม่ทันเห็นว่าทำอะไรกับแก้วน้ำส้ม ทั้งสองคนคุยกันสักพัก แยกย้ายกันขึ้นห้อง เมขลาเดินท่องไปตลอดทาง แก้วขวาของราม แก้วซ้ายของตัวเอง

พอถึงห้องนอน เมขลายื่นแก้วน้ำส้มขวามือให้ราม แล้วขอดื่มสงบศึก สัญญาจะไม่ถามเซ้าซี้อีก รามไม่ไว้ใจไม่ยอมดื่ม เธอเลยวางแก้วใบนั้นลงแล้วยกแก้วในมือตัวเองขึ้นจิบ เห็นรามจ้องๆเลยแกล้งยั่วดื่มไปครึ่งแก้ว

“รสชาติอมเปรี้ยวอมหวานกำลังดี ชื่นใจจัง ไม่ดื่มแล้วจะเสียใจนะคะ คุณสามี” เมขลาว่าแล้วสะกิดราม

“คุณอยากให้ผมดื่มนักใช่มั้ย” แทนที่รามจะดื่มน้ำส้มแก้วที่เมขลาส่งให้ เขากลับคว้าแก้วที่เธอดื่มเหลือครึ่งหนึ่งมาดื่ม เมขลาตกใจที่ผิดแผน โวยวายทำไมไม่ดื่มแก้วของเขา

“แล้วมันไม่เหมือนกันเหรอ...ทำไม...คุณใส่อะไรลงไป”

“ไม่มีอะไรทั้งนั้น อย่ามาหาเรื่องน่ะ” เมขลาทำเนียนเดินหนีเข้าห้องน้ำ...

ผ่านไปสักพัก เมขลาแปลกใจที่รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัวทั้งๆที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ รามเองก็รู้สึกไม่ต่างจากเธอ ยาอีเริ่มออกฤทธิ์ เมขลาคึกวิ่งไล่จับรามไปทั่วห้อง รามขู่ถ้าไม่หยุดวิ่งไล่ จะถอดเสื้อผ้าให้หมด แล้วถอดเสื้อโยนลงพื้น เมขลาทำตาม ถอดเสื้อตัวนอกออก เหวี่ยงไปอีกทางหนึ่ง เหลือแต่เสื้อสายเดี่ยวบางๆ

“ทีนี้ก็กางเกง” เมขลาว่าแล้ว ทำท่าจะถอดกางเกง

รามพุ่งเข้ารวบเธอไว้ อารามรีบร้อนขาพันกันล้มลงไปทั้งคู่ ในสภาพรามนอนทับเมขลา ตาสบตากัน ด้วยฤทธิ์ยาพาไป รามกับเมขลาจูบกันอย่างเผ็ดร้อน อึดใจเดียวแน่นิ่งหลับไปทั้งคู่

ooooooo

No comments:

Post a Comment