Saturday, September 10, 2011

เรื่องย่อ ตะวันเดือด ตอน14 ละครช่อง3


ตอนที่ 14
เย็นวันต่อมา ที่หน้าผาบนเส้นทางออกจากภูพระกาฬ เรียว เดชา และทหาร พากันมุงดูศพที่ถูกสัตว์แทะกินจนเหลือแต่กระดูกและเสื้อผ้าผู้ตาย วิเคราะห์กันแล้ว เรียวถามเดชาว่าแน่ใจหรือว่าเป็นศพของจรัญ

เดชาบอกว่าดูจากเสื้อผ้าแล้วน่าจะใช่ เสนอว่าเรากลับไปรายงานณรงค์ตามนี้ก่อนดีกว่า เพราะถ้าจรัญยังมีชีวิตอยู่เราต้องได้ข่าวมันแน่

คืนนี้ ที่กบดานของสาโรจน์ เฮียเส็ง รานี และสาโรจน์นั่งปรึกษากันอยู่ เฮียเส็งบอกว่า ตอนนี้เขาลือกันว่าจรัญตายไปแล้ว ณรงค์ก็เลยเชิญพ่อของเขามาที่ภูพระกาฬ เห็นว่ามาธุระเรื่องหมั้นเพชรรุ้ง

“พวกมันคงคิดจะรวบหัวรวบหางเพชรรุ้งเพื่อยึดไร่ฟ้ารุ่ง” รานีฟันธง สาโรจน์บอกว่าตนไม่มีวันยอมเด็ดขาด

ระหว่างนั้น ภูตะวันเดินเข้ามาเขาชะงักหยุดฟัง การสนทนากำลังตึงเครียด เพราะเฮียเส็งเตือนสติสาโรจน์ว่าเขาคนเดียวจะไปสู้กับณรงค์ที่มีทหารคุ้มกันเป็นกองทัพได้ยังไง

“หรือว่าต้องฆ่าเพชรรุ้งอีกคน” สาโรจน์พึมพำ เลยถูกทั้งรานีและเฮียเส็งห้ามเสียงหลงว่าจะฆ่าเด็กกับผู้หญิงได้ยังไง ตนไม่เอาด้วยเด็ดขาด

ขณะนั้นเอง สาโรจน์เหลือบเห็นภูตะวัน เฮียเส็งมองตามถึงกับตกใจบอกสาโรจน์ให้หนีเร็วๆ รานีพูดอย่างใจเย็นว่าไม่ต้องกลัวเพราะนายเสือเป็นพวกเดียวกับเรา

“เขาคือภูตะวันลูกชายของภูผา” สาโรจน์บอก เฮียเส็ง มองภูตะวันตะลึง ชายหนุ่มยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ในขณะที่ เฮียเส็งยังมองตาค้าง พูดไม่ออก

ooooooo

ณรงค์ยังใช้เครื่องเพชรที่เดชามอบให้แลกกับการปรนเปรอของบุหลัน แต่วันนี้ถูกยศเดินผ่านมาจับได้ ยศแค้นแทนเดชาที่ถูกสวมเขา ดังนั้น เมื่อไปเจอเดชาที่ห้องรับแขกเรือนเล็กไร่ฟ้ารุ่ง เห็นเดชากำลังดูแผนที่ค้นคว้าสายแร่พลอยอยู่ ยศเตือนสติว่า

“ถ้าสายแร่พลอยนั่นมีจริง มันก็ควรเป็นสมบัติของไร่ฟ้ารุ่ง ไม่ใช่ของแก” ทำให้เดชามองขวับถามว่าพ่อรู้ใช่ไหมว่าพลอยนั่นอยู่ที่ไหน ยศบอกว่าไม่รู้ เดชาหาว่าพ่อรู้แต่ไม่ยอมบอกตน ลุกขึ้นมาคุกคามว่าพ่อเข้าข้างศักดาทั้งที่มันทำให้แม่ต้องตาย ยศสุดทน เลยเตือนสติว่า

“แกเป็นบ้าอะไรของแกเดชา นี่พ่อนะ แทนที่แกจะระแวงพ่อ แกหัดไปดูเมียแกบ้างเถอะ มันกำลังสวมเขาให้แก”

คืนนี้ เดชาคอยจนบุหลันกลับมา เขาถามว่า ไปไหนมา บุหลันปดว่าไปเดินเล่นมา แม้เดชาจะรู้จากการบอกเล่าของยศ แต่เขาก็ไม่อาจตัดใจจากบุหลันได้ ส่วนบุหลันแม้จะรู้ว่าตนเลวและเดชาก็ร้าย แต่ต่างก็ผูกพันและอาลัยกันอยู่

ooooooo

หลังจากปรึกษาวางแผนกันแล้ว เฮียเส็งเดินทางกลับ พอเฮียเส็งไปภูตะวันก็เข้ามาบอกสาโรจน์ว่า ได้ยินที่สาโรจน์พูดกับเฮียเส็งเรื่องจะฆ่าเพชรรุ้ง ย้ำถามว่า “อาคงไม่ทำแบบนั้นใช่ไหม”

สาโรจน์ย้อนถามว่าถ้าใช่ล่ะ ภูตะวันแย้งว่าเพชรรุ้งไม่ใช่คนผิด

“แต่ถ้าเพชรรุ้งตายไปสักคน ไร่ฟ้ารุ่งก็จะตกเป็นของพลอยขวัญน้องสาวของแก นั่นก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่หรือ หรือว่าแกมีวิธีอื่นที่จะทวงไร่ฟ้ารุ่งกลับคืนมา”

“แต่ผมมาที่นี่ก็เพื่อความถูกต้อง เพื่อจัดการกับคนที่ทำลายครอบครัวผมไม่ใช่เพื่อฆ่าคนบริสุทธิ์”

สาโรจน์ยอมอ่อนข้อบอกว่า เรื่องนี้ไว้ว่ากันทีหลังแต่เป้าหมายตอนนี้คือฆ่าศักดาเห็นด้วยไหม ภูตะวันขอจัดการเอง สาโรจน์ยืนยันว่างานนี้ตนต้องจัดการเอง เพราะภูตะวันทำอะไรศักดาไม่ได้หรอก

รานีตกใจเพราะไม่อยากให้สาโรจน์ไปเสี่ยง แต่สาโรจน์มั่นใจชี้แจงว่าพรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงต้อนรับนายพลเรืองฤทธิ์ตนจะฉวยโอกาสลงมือ ส่วนรายละเอียดตนกับเฮียเส็งวางแผนกันไว้แล้ว

คืนเดียวกันนี้ ถาวรที่ถูกยิงบาดเจ็บจนต้องใช้ไม้ค้ำยันช่วยเดิน แอบไปขุดสมบัติที่ฝังไว้เตรียมหนีไปจากภูพระกาฬ บังเอิญเจอนักร่อนพลอยขี้เมาสามคนเห็นถาวรจำได้ว่าเป็นผู้ช่วยนายอำเภอที่ชอบรีดไถพวกตน จึงเข้าไปรุมถามว่าหอบอะไรมาขอดูหน่อย

ถาวรที่ขุดเงินใส่กระเป๋าแล้วไม่ยอมให้ดู สุดท้ายเลยถูกพวกนักร่อนพลอยขี้เมารุมกันล่อเสียหมอบกระแตแล้วเอาเงินไป ท่ามกลางเสียงร้องอย่างเจ็บปวดและเสียดายของถาวรที่โลภเสียจนไม่เหลืออะไรเลยนอกจากแผลและความพิการ

ooooooo

ยศเป็นผู้รับผิดชอบดูแลการจัดงานต้อนรับนายพลเรืองฤทธิ์ เขาเรียกพวกการ์ดมาฟังแผนการว่านอกจากต้อนรับนายพลแล้วยังฉลองชัยชนะที่โค่นจรัญได้ด้วย งานนี้เลยจะให้ทหารพักผ่อนกันเต็มที่ ให้พวกการ์ดทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยแทน

เพื่อไม่ให้พลาด ภูตะวันเข้าไปในครัวลากพรออกมาบอกว่า คืนนี้สาโรจน์จะมาที่นี่ พรตกใจถามว่าศักดาจะถูกฆ่าคืนนี้หรือ ภูตะวันรีบจุ๊ปากให้เงียบ แล้วชี้แจงแผนการกับพรว่า

“ฉันจะคอยดูแลความเรียบร้อยในงาน ส่วนนายคอยเฝ้าอยู่ที่ปากทาง ถ้าเห็นรถขนเสบียงของเถ้าแก่เส็งมาถึงเมื่อไหร่ ก็ปล่อยให้ผ่านไปได้เลยไม่ต้องตรวจค้น”

“เถ้าแก่เส็งก็มีเอี่ยวด้วยเหรอครับ” พรยิ่งแปลกใจ

ทั้งสองคุยกันโดยไม่รู้ว่าสาลี่แอบได้ยิน สาลี่ตกใจมากรีบไปหาเพชรรุ้ง เล่าอย่างตระหนกว่าตนได้ยินนายเสือกับพรคุยกันเกี่ยวกับพ่อเธอ แล้วเล่ารายละเอียดที่ได้ยินมาให้เพชรรุ้งฟัง

ooooooo

สาโรจน์เตรียมตัวออกเดินทางแล้ว รานีถามด้วยความเป็นห่วงว่านอกจากศักดาแล้วจะฆ่าคนอื่นด้วยหรือเปล่า สาโรจน์บอกว่า ถ้าจำเป็น เพราะตนทำเพื่อภูตะวันเพื่อภูผาเพื่อนรักที่ตายไป ตนแค่อยากทวงความ ชอบธรรมให้พวกเขาเท่านั้น

รานีติงว่าเพชรรุ้งเป็นคนดีและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เตือนว่าเขาไม่เคยทำร้ายผู้หญิง เขาลืมไปแล้วหรือ ทำให้สาโรจน์ลังเลใจ แต่พอดีมีเสียงแตรรถดังขึ้นเป็นรถขนเสบียงที่เฮียเส็งนั่งมาด้วย

เฮียเส็งถามสาโรจน์ว่าพร้อมหรือยัง สาโรจน์พยักหน้าหันบอกรานีว่า

“ถ้าพรุ่งนี้ฉันไม่กลับมา เธอต้องรีบหนีไปจากที่นี่ทันที เข้าใจนะ”

“ฉันจะรอ คุณจะต้องกลับมา” รานีพูดอย่างนั้น ทั้งที่ใจไม่ดี มองจนสาโรจน์ขึ้นไปซ่อนตัวบนรถขนเสบียงและรถเคลื่อนออกไปด้วยความเป็นห่วง

ooooooo

นายพลเรืองฤทธิ์มาถึงไร่ฟ้ารุ่งแล้ว ศักดาต้อนรับอย่างนอบน้อม ยินดี เรืองฤทธิ์ทักทั้งศักดาและยศ ครู่หนึ่งเรืองฤทธิ์หันมอง เพชรรุ้งกับพลอยขวัญที่เดินเข้ามา ศักดาจึงแนะนำลูกสาวทั้งสอง นายพลชมว่าว่าที่เจ้าสาวของณรงค์สวยขนาดนี้นี่เอง ลูกชายตนถึงได้เร่งให้จัดงานแต่งงาน

เวลาเดียวกันนั้น ที่ปากทางเข้าไร่ฟ้ารุ่ง รถขนเสบียงมาถึงแล้ว คนงานจะตรวจ ครกบอกว่าคนกันเองแท้ๆจำเถ้าแก่เส็งไม่ได้หรือ คนงานก็ยังยืนกรานจะตรวจให้ได้เพราะเจ้านายสั่งไว้

พรอยู่แถวนั้นจึงแก้สถานการณ์ด้วยการเข้าไปตรวจเองเปิดๆดูแล้วบอกว่าไม่มีอะไรผ่านได้ แต่พอรถแล่นเข้าไป พรก็อดมองตามด้วยความกังวลใจไม่ได้

เมื่อสาโรจน์เข้าไปที่โรงครัว เจอภูตะวัน ถามว่าทางสะดวกหรือเปล่า

“ศักดากับท่านนายพลกำลังดื่มน้ำชาอยู่ที่หน้าเรือนใหญ่ เราจะเข้าไปทางด้านหลัง” ภูตะวันบอกศักดาพยักหน้า ภูตะวันจึงคอยดูต้นทางให้สาโรจน์แฝงตัวไปยังเรือนใหญ่

ooooooo

ที่มุมรับรองหน้าเรือนใหญ่ไร่ฟ้ารุ่ง นายพลเรือง-ฤทธิ์พูดเกริ่นแล้วเอ่ยปากทาบทามสู่ขอเพชรรุ้งให้ลูกชาย พูดกับศักดาแล้วหันไปถามเพชรรุ้งว่าจะว่ายังไง

“ด้วยความยินดีค่ะท่านนายพล รุ้งจะแต่งงานกับคุณณรงค์” เพชรรุ้งตอบทั้งที่ใจร้อนรุ่ม

เรืองฤทธิ์ดีใจที่ลูกชายจะได้มีครอบครัวเสียที ณรงค์เร่งว่าต้องแต่งให้เร็วที่สุด ถูกพลอยขวัญพูดแทรกขึ้นหน้าตาเฉยว่า คงต้องใช้เวลาเตรียมนานมากโดยเฉพาะเรื่องทำใจ คงต้องอีกนานกว่าจะพร้อม

ศักดาปรามพลอยขวัญ เธอเลยทำหน้าเซ็งๆ ณรงค์ยิ้มเยาะที่พลอยขวัญถูกปราม ส่วนเพชรรุ้งใจไม่สงบที่อีกไม่นานต้องแต่งงานกับณรงค์แล้ว

เวลาเดียวกันนั้น ภูตะวันพาสาโรจน์ลอบเข้าไปในห้องทำงานของศักดา สาโรจน์บอกว่าตนจะหลบอยู่ในนี้คอยจัดการศักดาตามแผน ส่วนหลังจากนั้นจะหนีอย่างไรนั้น สาโรจน์ยิ้มขื่นๆบอกภูตะวันว่า

“ฉันมีวิธี แกทำตามที่สั่งก็แล้วกัน”

“ผมไม่อยากให้ลุงฆ่าคนอื่นนอกจากศักดา ลุงรับปากผมได้ไหม” ภูตะวันขอ เมื่อสาโรจน์พยักหน้าเขาจึงเดินออกไปด้วยความโล่งใจไปขั้นหนึ่งว่า เพชรรุ้งจะปลอดภัย

แต่พอเดินออกมาก็เจอเพชรรุ้งเข้า เธอถามว่าขึ้นมาทำอะไรในนี้ ภูตะวันบอกว่าแค่มาตรวจตามหน้าที่เท่านั้น

เพชรรุ้งรู้แผนการของภูตะวันจากสาลี่แล้ว เธอพูดประชดว่าพ่อโชคดีที่มีเขาคอยดูแลความปลอดภัย และตอนนี้ตนก็รู้แล้วว่าเขามาอยู่ที่นี่เพื่ออะไร ภูตะวันเอะใจถามว่าใครบอกหรือ เธอตัดบทว่าตนรู้ก็แล้วกัน

พอดีสาลี่ถือถาดเครื่องดื่มขึ้นมาเห็นทั้งสองคุยกันอยู่ สาลี่รีบก้มหน้าไม่กล้าสบตาภูตะวัน เมื่อภูตะวันเดินออกจากเรือนใหญ่แล้ว ก็หันมองไปอีกครั้งด้วยความกังวลว่าเดี๋ยวจะเกิดอะไรขึ้น

ฝ่ายสาโรจน์ซุ่มอยู่ในห้องทำงานของศักดา เขาเอาปืนออกมาตรวจความพร้อม พึมพำ

“ศักดา...คืนนี้ฉันต้องฆ่าแกให้ได้!”
ooooooo
ความสับสนและความขัดแย้งเขม็งเกลียวขึ้นทุกที เมื่อสาลี่แอบได้ยินแผนการของภูตะวันกับสาโรจน์แล้วไปบอกเพชรรุ้ง เพชรรุ้งรับปากกับสาลี่ว่าจะไม่เอาผิดกับพรแต่ตอนนี้ตนต้องพึ่งคนคนหนึ่ง
คนคนนั้นคือเดชานั่นเอง เพชรรุ้งไปบอกเดชาถึงแผนการ ที่สาลี่ได้ยิน และที่สำคัญคือนายพรเรียกนายเสือว่าคุณตะวันทำให้เดชานึกได้ว่านายเสือคือลูกชายของภูผานั่นเอง เพชรรุ้งกำชับว่า
“ถ้าพวกทหารรู้เรื่องนี้ รับรองว่านายเสือต้องถูกประหารแน่ ดังนั้น ฉันถึงได้อยากจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง” เดชาถามว่าเขาจะฆ่าพ่อเธอแล้วเธอยังจะปกป้องเขาอีกหรือ “จะดีจะร้าย พ่อของภูตะวันก็เป็นเจ้าของไร่ฟ้ารุ่งแห่งนี้ เขาไม่สมควรถูกฆ่าตายที่นี่”
“ก็ได้ ผมจะช่วยคุณหนูเอง แต่มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง...คุณหนูต้องทำตามวิธีของผม” เดชาย้ำ
สาลี่เป็นห่วงพร แอบไปหาเขาที่ละแวกเรือนพักคนงาน บอกว่าให้รีบหนีไปเสียเพราะตนบอกแผนจะฆ่าศักดาของเขากับภูตะวันแก่เพชรรุ้งหมดแล้ว แต่เพชรรุ้งรับปากว่าจะไม่เอาผิดเขา
ขณะสาลี่กำลังเร่งพรให้รีบหนีนั่นเอง เดชาก็ถีบประตูเข้ามาบอกพรว่ามีเรื่องจะถามเกี่ยวกับภูตะวัน แล้วลากพรไปที่โรงนาไร่ฟ้ารุ่ง เค้นว่าสาโรจน์ซ่อนตัวอยู่ไหนให้บอกมา พรบอกว่าตนไม่รู้
เมื่อข่มขู่อย่างไรพรก็ไม่ยอมบอก เดชาจึงหันไปเอามีดจี้ที่หน้าสาลี่บอกว่าถ้าพรไม่พูดหน้าของสาลี่เหวอะแน่
ขณะกำลังตึงเครียดนั่นเอง เพชรรุ้งก็พรวดเข้ามาตวาดเดชาว่าใครสั่งให้ทำแบบนี้ เดชาโต้ว่าเราตกลงกันแล้วว่าตนจะทำตามวิธีของตน
เพชรรุ้งบอกว่านี่มันเกินไปแล้ว แต่เดชาไม่สนใจหันไปตะคอกพรว่าใครอยู่เบื้องหลัง ใครบ้างที่สมคบกันและแผนนี้ยังมีอะไรอีก
พรมองไปที่สาลี่ที่กลัวจนร้องไห้ออกมา ตัดสินใจบอกว่า “ก็ได้ กูบอกแล้ว กูยอมแล้ว...”
ขณะเดชากับเพชรรุ้งออกจากโรงนานั่นเอง เจอเรียวกับธนาตามมาพอดี ธนาบอกว่าพวกตนรู้เรื่องแผนสังหารศักดาแล้วเลยอยากทราบรายละเอียด
“นี่เป็นเรื่องภายในของไร่ฟ้ารุ่ง พวกคุณไม่เกี่ยว” เพชรรุ้งขัดขึ้น
“เดี๋ยว แต่พวกเขาช่วยเราได้ ตอนนี้เราต้องแข่งกับเวลา” เดชาตัดบท ทำให้เพชรรุ้งใจไม่ดี
ooooooo
ขณะที่เรียวกำลังพักผ่อนอยู่กับทหารที่แคมป์ไร่ฟ้ารุ่งนั้น ธนาได้เอาดาบเล่มหนึ่งมาให้บอกว่าท่านนายพลมอบให้ในฐานะที่เขาดูแลลูกชายท่านเป็นอย่างดี เรียวรับดาบคาตานะในห่อผ้าแล้วชักออกมาดูเนื้อดาบ
“ฝากเรียนท่านนายพลว่า ดาบเล่มนี้จะมีไว้เพื่อปกป้องตระกูลวงศ์เสมาจนสุดความสามารถ”
ระหว่างนั้นเอง บุหลันเดินมาด้อมๆมองๆ ธนาถามว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เรียวเดินไปถามบุหลันว่าต้องการอะไร
“ฉันมีข่าวสำคัญจะมาบอกคุณณรงค์ ตอนนี้มือปืนที่ชื่อสาโรจน์ซ่อนตัวอยู่ในไร่ฟ้ารุ่ง” บุหลันบอก
“สาโรจน์” ธนาทวนชื่อแล้วบอกเรียว “สั่งทหารให้หยุดฉลองเถอะ เราต้องรีบควานหาตัวมัน”
แต่เรียวไม่เห็นด้วย เพราะขืนทำอย่างนั้นฝ่ายโน้นต้องไหวตัวแน่ บอกให้ทหารฉลองกันต่อไป แต่ให้สั่งพลแม่นปืนให้เตรียมพร้อมเอาไว้ ธนาเห็นด้วย ขอบใจบุหลันแล้วรับปากว่าจะรายงานความดีความชอบของเธอให้ท่านนายพลได้รับรู้ บุหลันยิ้มอย่างพอใจก่อนกลับไป
ooooooo
จัดอาหารในงานเลี้ยงให้เรียบร้อยแล้ว เฮียเส็งเตรียมกลับ คนงานถามว่าไม่ทักทายกับศักดาหน่อยหรือ เฮียบอกว่าเป็นงานฉลองกันในครอบครัว ตนกลับดีกว่า
เมื่อเฮียเส็งกับครกขึ้นรถ ภูตะวันโผล่มาบอกว่า เมื่อกี้ตนเจอเพชรรุ้ง แต่เธอพูดแปลกๆเหมือนกับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ครกถามอย่างไม่สบายใจว่า “หรือว่า แผนแตก”
“เฮ้ย...จะเป็นไปได้ยังไงวะ พวกเราก็ไม่มีใครปากโป้งนี่หว่า” เฮียเส็งติง  แล้วบอกภูตะวันว่าอย่าคิดมาก มาถึงขั้นนี้แล้ว ยังไงก็ต้องลงมือ ภูตะวันพยักหน้าแต่ในใจนั้นสังหรณ์บางอย่าง
แล้วภูตะวันก็ได้รับข่าวจากสิงห์ว่า สมใจมาบอกว่าพรกับสาลี่หายไปทั้งสองคน ภูตะวันชะงักอึ้ง
ส่วนที่กบดานของสาโรจน์ หลงมาหารานีพร้อมของบางอย่างในกระเป๋า หลงถามว่าเฮียเส็งยังไม่กลับมาหรือ รานีบอกว่าไม่ต้องรอแล้ว พวกเรารีบลงมือกันเลยดีกว่า
ไม่นาน รานีกับหลงก็มาถึงบริเวณแคมป์ทหาร ทั้งสองจัดแจงจุดระเบิดที่เอาใส่กระเป๋ามา พอรานีพยักหน้า หลงก็ปาระเบิดเข้าไป เสียงระเบิดกัมปนาท พวกทหารพากันกระเด็นกระดอนเซไปคนละทิศละทาง
เสียงระเบิดดังไปถึงมุมรับรองที่หน้าเรือนใหญ่ เรืองฤทธิ์สั่งให้ทหารรีบไปดูเร็วๆ ณรงค์มองหาพวกยามด่าว่าหายหัวไปไหนหมด
ภูตะวัน สิงห์ และสมใจเพิ่งมาถึง ภูตะวันบอกศักดาว่าตรงนี้อันตรายให้หลบไปในบ้านก่อนดีกว่า ศักดามองภูตะวันอย่างระแวงแต่ก็หันไปเชิญนายพลเข้าบ้านไปก่อน
“แกเหรอที่เป็นหัวหน้ายาม รักษาความปลอดภัยได้แย่มาก” เรืองฤทธิ์ด่าภูตะวันขณะเดินผ่าน
ภูตะวันยืนนิ่งเฉยอยู่ตรงนั้น...
ooooooo
บริเวณแคมป์ทหารในไร่ฟ้ารุ่ง หลงปาระเบิดใส่ทหารอย่างสนุกมือ เรียวออกมากวาดตามองหาที่มาของระเบิด พอจับทิศทางได้มันวิ่งชูดาบเข้าไป
หลงยังไม่รู้ตัวร้องบอกรานีให้หนีไปก่อน ถูกเรียวสะบัดดาบตัดสายชนวนระเบิด พอมันตวัดอีกทีก็ตัดแขนหลงขาดเลือดพุ่งกระฉูด หลงร้องบอกให้รานีหนีไป ส่วนตัวเองคว้าระเบิดลูกสุดท้ายจุดชนวนวิ่งเข้าหาเรียวกับพวกทหาร เรียวหลบไปได้หวุดหวิดแต่หลงกับพวกทหารถูกระเบิด แหลกกระจุย
ส่วนที่เรือนใหญ่ เรืองฤทธิ์กับศักดากำลังเข้าไปในบ้าน เพชรรุ้งเหลือบเห็นสาโรจน์ถือปืนจ้องอยู่เธอร้องบอกพ่ออย่า เข้าไป ธนาก็ตะโกนบอกเรืองฤทธิ์ว่าสาโรจน์อยู่ในบ้าน
เมื่อเผชิญหน้ากันเช่นนี้ เรืองฤทธิ์สั่งทหารให้ล้อมบ้านนี้ไว้ลากตัวมือปืนออกมาให้ได้ สั่งจับตาย
เหตุการณ์ที่พลิกผันทำให้ภูตะวันรู้ว่าแผนการของพวกตนรั่วไหลแล้ว เขาเลื่อนมือมาจับปืนที่เอว ยิ่งเมื่อเรืองฤทธิ์สั่งให้เอาทหารมารวมตัวกันที่นี่เป็นตายอย่างไรก็ต้องฆ่าสาโรจน์ให้ได้ ภูตะวันก็ตัดสินใจที่จะปิดฉากทุกอย่างในวันนี้ด้วยมือของตัวเอง
ภูตะวันชักปืนเล็งใส่ศักดา ถูกเพชรรุ้งชักปืนยิงถูกที่ท้องสองนัดซ้อนจนภูตะวันทรุดลงปืนหลุดจากมือ ทั้งสองสบตากันอย่างปวดร้าว พลอยขวัญอุทาน “นายเสือ” เพชรรุ้งบอกน้องว่าเขาไม่ใช่นายเสือแต่คือภูตะวันลูกชายของภูผา
ทั้งศักดาและยศต่างมองภูตะวันตะลึงอึ้ง ภูตะวันมองเพชรรุ้งอย่างเจ็บปวดไม่วางตาจนหมดสติล้มคว่ำไป
สาโรจน์ฉวยโอกาสนั้นปีนหน้าต่างออกไปผิวปากเรียกเจ้าสายฟ้าม้าคู่ใจมาแล้วกระโดดขี่หลังควบหนีไป ณรงค์เห็นตะโกนบอกเดชาว่า
“ถ้าฆ่ามันได้ ฉันจะตั้งแกเป็นนายอำเภอแทนฉัน”
เดชายิ้มเหี้ยมแล้วกระโดดควบม้าตามสาโรจน์ไป ระหว่างสาโรจน์ถูกเดชาควบม้าไล่ตามมานั้น ข้างหน้าเขาก็ถูกเรียวกระโดดออกมาขวาง เรียวใช้ดาบเล่มนั้นสะบัดเชือดม้าจนเลือดทะลัก ตวัดอีกทีก็ฟันขาปลอมของสาโรจน์จนขาด ทั้งม้าและสาโรจน์นอนหมดสภาพอยู่กับพื้น
เดชาตามมาระดมยิง เรียวก็เงื้อดาบจะฟัน สาโรจน์พลิกตัวกลิ้งหลบเข้าไปในไร่ข้าวโพด
เรียวบอกเดชาว่าไม่ต้องยุ่งตนจะฆ่าสาโรจน์ด้วยมือของตัวเอง ส่วนเดชาก็อ้างว่าณรงค์มอบหมายให้ตนรับผิดชอบงานนี้ เรียวต่างหากที่ไม่ต้องมายุ่ง เรียวไม่ยอมใช้ด้ามดาบหวดต้นคอเดชาจนสลบคาที่
ooooooo
เฮียเส็ง ครก และรานี คอยสาโรจน์อยู่ที่จุดนัดพบ จู่ๆนกเหยี่ยวของสาโรจน์ก็มาบินส่งเสียงทั้งที่เป็นเวลากลางคืน ทั้งสามสังหรณ์ใจว่าอาจมีเหตุร้ายกับสาโรจน์ รานีทนไม่ได้ควบม้าออกไปทันที
เป็นเวลาที่สาโรจน์ต้องใช้ปืนช่วยค้ำยันพาตัวเองหนีไปในไร่ข้าวโพด โดยมีเรียวใช้ดาบฟันข้าวโพดราบเป็นทางไล่ตามไปจนเจอ มันย่องมาข้างหลังใช้ดาบฟันสาโรจน์ แต่สาโรจน์พลิกตัวหลบแล้วยิงใส่ทันที
เรียวใช้ดาบรับกระสุนปืนผ่ากระสุนออกเป็นสองซีกแล้วหลบไปบังหลังต้นไม้ ซัดดาวกระจายใส่ ถูกสาโรจน์ยิงใส่ดาวกระจายจนกระจุย แต่เมื่อสาโรจน์จะยิงอีกครั้งก็ถูกดาบของเรียวฟันปืนขาดสองท่อนกระสุนที่คาลำกล้องอยู่ระเบิดจนสาโรจน์เสียหลักล้มลง แต่ก็ยังชักปืนพกยิงต่อสู้
เรียวใช้ดาบปัดกระสุนกระเด็นแต่พอฟาดไปอีกทีก็ถูกข้อมือสาโรจน์ขาดกระเด็น เรียวพุ่งเข้าไปใช้ดาบปักใส่ท้องตรึงสาโรจน์ไว้กับพื้น มันหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ชาติเสืออย่างสาโรจน์มีหรือจะยอมจำนน เขาใช้มีดพกต่อสู้ตวัดเฉือนมือเรียวแล้วกรีดหน้าไปถึงลูกตา เรียวแผดเสียงร้องกุมเบ้าตาตัวเองอย่างเจ็บปวด  สาโรจน์กระชากดาบของเรียวที่ปักตรึงเขาอยู่ปาทิ้ง
“สาโรจน์” รานีมาถึงพอดี เธอช่วยดึงเขาขึ้นม้าควบหนีไปทันที
เดชาที่ถูกเรียวฟาดจนสลบฟื้นขึ้นมาเห็นรานีขี่ม้าพาสาโรจน์ผ่านไปพอดี มันชักปืนยิงใส่ไม่นับ สาโรจน์ถูกยิงเข้ากลางหลังจนผงะตาค้าง แต่เขาไม่ปริปากให้รานีรู้ ปล่อยให้รานีควบม้าพาหนีจนลับตา
เรียวยังกุมเบ้าตาแผดเสียงร้องอย่างเจ็บปวด เดชาเหลือบมองอย่างสมเพช นึกสมน้ำหน้าที่ไม่ยอมให้ตนช่วย
ooooooo
สิงห์กับสมใจถูกจับตัวไปขังไว้ในห้อง เจอพรกับสาลี่กอดคอกันร้องไห้อยู่ก่อนแล้ว สิงห์ถามว่าทำไมสองคนถึงเป็นแบบนี้ สมใจเองก็ถามพรว่าทำไมจู่ๆนายเสือถึงจะฆ่าศักดา
“นายภูผาที่คุณศักดาเอ่ยถึงนี่ ใช่เจ้าของไร่ฟ้ารุ่งคนก่อนรึเปล่า” สิงห์ถาม พรก็เอาแต่ร้องไห้ จนสิงห์ขอให้พูดอะไรเสียบ้าง พรจึงพูดไปร้องไห้ไปว่า
“กูทรยศคุณตะวัน กูทรยศคุณศักดา กูมันเลว กูมันเลวเอง” พูดแล้วร้องไห้จนพูดไม่ออกอีก
ส่วนภูตะวันถูกเอาตัวไปแขวนไว้กับขื่อในโรงนา เลือดจากบาดแผลหยดลงพื้นนองไปหมด เรืองฤทธิ์ ณรงค์ กับธนาเดินเข้ามาดู เรืองฤทธิ์พูดอย่างสะใจว่า ในที่สุดลูกชายภูผาก็ต้องตายเหมือนพ่อมัน แล้วสั่ง “ธนา ฆ่ามันซะ!”
ธนาชักปืนจะยิง ถูกณรงค์ห้ามไว้บอกเรืองฤทธิ์ว่าเราควรปล่อยไว้ก่อน ตราบใดที่ภูตะวันยังไม่ตายพรรคพวกของเขาก็ต้องมาช่วยแน่ ถึงตอนนั้นเมื่อไรเราจะได้ถอนรากถอนโคนพร้อมๆกัน
เรืองฤทธิ์พอใจมากชมลูกชายว่ารอบคอบ แต่ไม่ทันไรทหารก็เข้ามารายงานณรงค์ว่า เพชรรุ้งมารออยู่ข้างนอก
เพชรรุ้งมาขอเยี่ยมนายเสือ ณรงค์บอกว่าไม่ใช่ตอนนี้จนกว่าจะสอบสวนได้ว่ามีใครอีกที่สมรู้ร่วมคิดกับเขา พูดเย้ยว่า คนที่เป็นฆาตกรพยายามฆ่าพ่อตัวเองเธอควรเลิกอาลัยอาวรณ์ได้แล้ว ทำให้เพชรรุ้งรู้สึกละอายใจขึ้นมา
กลับมาที่ห้องนอนแล้ว เพชรรุ้งเอากังหันลมทำจากใบข้าวโพดที่ภูตะวันทำให้ตั้งแต่สมัยเด็กขึ้นมาดู เธอต้องต่อสู้อย่างเจ็บปวดระหว่างความหลังฝังใจกับความจริงในปัจจุบัน
ฝ่ายพลอยขวัญก็เข้าไปถามศักดาว่า นายเสือหรือภูตะวันเป็นพี่ชายแท้ๆของตนใช่ไหม ศักดาจำต้องพยักหน้า เธอบอกว่า
“เขาเป็นคนดี ที่ผ่านมาเขาปกป้องคนอื่น ปกป้องไร่ฟ้ารุ่ง แล้วทำไมเขาถึงอยากฆ่าพ่อขนาดนี้ พ่อบอกขวัญหน่อยได้ไหม”
“เขาจะปลอดภัย พ่อจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายพี่ชายของลูกเด็ดขาด” ศักดาตัดใจ พลอยขวัญเดินเข้ามาถามว่าเขาหรือพ่อกันแน่ที่เป็นฆาตกรแล้วเดินไปทำให้ศักดาตกใจเรียกให้เธอฟังตนอธิบายก่อน พลอยขวัญหันมาตอบอย่างเย็นชาว่า “ไม่ใช่ตอนนี้ ไม่ใช่เวลานี้คุณศักดา”
พลอยขวัญตัดบทอย่างไม่พร้อมที่จะรับรู้ความจริง เธอหันเดินออกไป ปล่อยให้ศักดาจมอยู่กับความมืดในห้องอย่างเดียวดาย
ooooooo
รานีขี่ม้าพาสาโรจน์บ่ายหน้าสู่ที่กบดานของเขา หวังว่าเฮียเส็งกับครกที่อยู่ที่นั่นจะช่วยได้ แต่ระหว่างทางอาการของสาโรจน์ทรุดลงมาก อ่อนเพลียจนหมดแรงปล่อยมือร่วงจากหลังม้า รานีกระโดดลงไปประคอง อ้อนวอน ขอร้อง ให้เขาอย่าเป็นอะไร
สาโรจน์บอกรานีว่าเธอไม่ต้องหวัง ไม่ต้องรอตนอีกแล้ว เพราะ “ฉัน...กำลังจะตาย”
รานีคร่ำครวญว่าถ้าไม่มีเขาแล้วตนจะอยู่ได้อย่างไร จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร
“ปล่อยให้มันเป็นไปเถอะรานี ตอนนี้ฉันไม่ต้องจับอาวุธแล้ว สิ่งเดียวที่ฉันต้องการในวินาทีสุดท้าย สิ่งเดียวที่ฉันคว้าไว้ในวินาทีสุดท้าย...ก็คือเธอ...รานี” พูดขาดคำสาโรจน์ก็แน่นิ่งไป
รานีกอดร่างสาโรจน์ร้องไห้คร่ำครวญ ในที่สุดเธอตัดสินใจเอาปืนพกอีกกระบอกหนึ่งของสาโรจน์จ่อที่หัวใจตัวเอง เพื่อเธอจะได้อยู่เคียงข้างเขาตลอดไป...
ขณะที่รานีกำลังจะเหนี่ยวไกนั่นเอง เฮียเส็งกับครกเข้ามาแย่งปืน แต่รานีก็เสียใจจนหมดสติ
รุ่งขึ้น ที่โรงแรมสันติภาพมีข่าวลือกันว่าเฮียเส็งเกี่ยวข้องกับพวกที่บุกฆ่าศักดาเมื่อคืนนี้ จึงมีทั้งทหารและเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจยึดทรัพย์สินของโรงแรมจนแทบไม่เหลืออะไร เฮียโชติจากร้านขายปืนปรารภว่า ถ้าแบบนี้วิไลบาร์ก็ต้องโดนหางเลขด้วย
ขณะที่กำลังชุลมุนกันอยู่นั้น ถาวรในสภาพทรุดโทรมจนดูไม่ได้ก็แอบมาขโมยขนมปัง ถูกทหารที่มาค้นโรงแรมจับตัวไว้ ถาวรอ้างว่าตนเป็นผู้ช่วยนายอำเภอ ผบ.หมวดเข้ามาดูอย่างไม่เชื่อ ถาวรท้าให้ถามชาวบ้านดูก็ได้ แต่พอ ชาวบ้านมาเห็นถาวรเท่านั้นก็พากันตะโกนด่า สาปแช่งกระทั่งตะโกนให้ฆ่าเสียเพราะถาวรเป็นลูกน้องของจรัญ
ในที่สุดถาวรก็ได้ลุงฝิ่นขี้เมากับพวกคนจรที่มาร่อนแร่พาไปอย่างทุลักทุเล เฮียโชติตามไปเอายารักษาแผลให้ถาวรที่หลังร้านของตน
ooooooo
ที่เต็นท์กองบัญชาการทหารในไร่ฟ้ารุ่ง ณรงค์ถามเดชาที่เข้ามารายงานว่าเจอตัวสาโรจน์แล้วหรือยัง เดชาคุยโวว่าตนพบศพถูกฝังอยู่ที่ชายป่า ณรงค์ชมว่าทำดีมากตนจะตบรางวัลให้ตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อเดชาถามถึงเรียว ณรงค์บอกว่า
“เขาเสียตาไปข้างหนึ่ง นี่ถ้าไอ้สาโรจน์ยังไม่ตาย ฉันต้องแก้แค้นให้เขาแน่”
“ไม่มีปัญหานี่ครับ ถึงสาโรจน์จะตาย แต่คนของมันยังอยู่” เดชายุ ณรงค์ชะงักยิ้มเหี้ยมเมื่อรู้ว่าเดชาหมายถึงใคร
ไม่นาน ณรงค์ก็ไปที่โรงนาไร่ฟ้ารุ่งที่ภูตะวันถูกแขวนกับขื่ออยู่ ร่างภูตะวันหล่นลงมากองเมื่อถูกปลดเชือก ทั้งณรงค์และเดชาพากันเข้าไปพูดเยาะเย้ยภูตะวันเมื่อรู้ว่าเขาเป็นใคร ภูตะวันถามอย่างไม่ยอมก้มหัวให้ว่า “พวกแกต้องการอะไร”
ณรงค์บอกว่าตอนนี้สาโรจน์ตายแล้ว ไม่เชื่อก็ถามเดชาดู เดชายืดอกอวดว่าตนเป็นคนยิงสาโรจน์เอง พูดเยาะเย้ยว่าน่าสมเพชสาโรจน์ผู้ยิ่งใหญ่แต่ต้องมาตายข้างถนน
ภูตะวันช็อกกับข่าวนี้ เขายิ่งแค้นจะลุกขึ้นเล่นงานเดชาทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บสาหัส  เลยถูกเดชาเล่นงานเสียสะบักสะบอม ดีที่แก้วมาแอบเห็น วิ่งแจ้นไปบอกเพชรรุ้งกับพลอยขวัญ
สองพี่น้องไปห้ามเดชา ขณะมันใช้พลั่วกระหน่ำทั้งตัว และหน้าของภูตะวันไม่ยั้ง เดชาเถียงว่าตนกำลังสอบสวนผู้ต้องหา เพชรรุ้งโต้ว่าทำเกินไป ส่วนพลอยขวัญขู่ว่าตนจะฟ้องพ่อ
“เชิญตามสบายคุณพลอยขวัญ เดี๋ยวก็รู้ว่าพ่อคุณกับพ่อผมใครจะกลัวใครกันแน่” ณรงค์หัวเราะเยาะ
“ที่นี่คือไร่ฟ้ารุ่ง” เสียงศักดาขัดขึ้นแล้วเดินนำยศเข้ามา “ซึ่งฉันเป็นเจ้าของ และไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น”
เดชาถามศักดาว่าปกป้องคนร้ายทำไม ยศสวนไปทันทีว่าภูตะวันไม่ใช่คนร้าย ทุกอย่างเกิดจากการเข้าใจผิด เดชาทำท่าจะเถียง ถูกยศถลึงตาใส่มันเลยสะบัดหน้าไปอย่างหงุดหงิด ส่วนศักดาหันไปพูดกับณรงค์ว่า ตนขอสอบสวนผู้ต้องหาเอง ถ้าเขาไม่รังเกียจ
เมื่อณรงค์กับเดชา เดินออกไปอย่างไม่พอใจแล้ว พลอยขวัญ เพชรรุ้ง ก็เข้าไปประคองภูตะวันที่นอนหมดสติอยู่ขึ้นมา เพชรรุ้งบอกยศให้คนรีบไปตามหมอ
ครู่หนึ่งภูตะวันเริ่มรู้สึกตัว เขาลืมตามองศักดาที่ยืนดูอยู่อย่างเวทนา
เมื่อแก้วไปเล่าให้สิงห์ สมใจ และสาลี่ฟัง สิงห์แค้นใจแต่สภาพเวลานี้บาดเจ็บจนทำอะไรไม่ได้จึงคิดจะหนีไป
จากที่นี่ สาลี่ไม่ไปด้วย สิงห์พูดอย่างแค้นใจว่า
“สาลี่ พี่รักแกนะ แต่พี่เป็นลูกผู้ชาย พี่ทิ้งคุณภูตะวันไม่ได้” หันไปถามสมใจว่าคิดอย่างไร
“ผมพร้อมอยู่แล้วครับ ว่าแต่เราจะหนีไปจากที่นี่ได้ยังไง”
สิงห์กวาดตาแล้วไปหยุดมองช่องที่แก้วโผล่หน้ามาบอกข่าวเมื่อครู่นี้
ooooooo
ในที่สุด ศักดาก็ยอมเล่าเรื่องในอดีตระหว่างเขากับภูผาให้ภูตะวัน เพชรรุ้ง และพลอยขวัญฟังว่า หลังจากภูผาพบสายแร่พลอยในถ้ำแล้วก็คิดจะฮุบเสียคนเดียว สั่งให้ถ้ำนั้นเป็นเขตหวงห้ามแต่ตัวเองไปขุดพลอยทุกวัน ใครที่ล่วงรู้หรือไปพบภูผาก็จะฆ่าทั้งหมด รวมทั้งตัวศักดาเองก็ถูกระแวงด้วย ทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตไม่ปลอดภัยแล้ว
อยู่มาวันหนึ่ง ภูผาจัดงานเลี้ยงและยกอาหารมาให้ตนและแม่ของเพชรรุ้งด้วยตัวเอง ไม่นานแม่ของเพชรรุ้งก็ตายเพราะถูกวางยาพิษ ส่วนตัวเขาหมอช่วยไว้ทัน เขาจึงต้องจ้างจรัญกับพี่ชายให้ปล้นไร่ฟ้ารุ่ง เพื่อกำจัดภูผาและยึดอำนาจในไร่กลับมาเป็นของตน แต่ไม่เคยคิดเลยว่าภูตะวัน กับแม่ของเขาจะโดนไปด้วย
ศักดาสรุปในตอนท้ายว่า ตนจะชดใช้เรื่องนี้ด้วยการขอให้เรืองฤทธิ์ปล่อยภูตะวันกับพวกไปเสีย ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
จากนั้นศักดาไปขอให้เรืองฤทธิ์ปล่อยตัวภูตะวันกับพวกให้เป็นอิสระ เพราะเรื่องทั้งหมดเกิดจากความเข้าใจผิดกัน ที่สำคัญเป็นเรื่องระหว่างตนกับภูตะวันเท่านั้น เรืองฤทธิ์ยินยอม แต่ต้องขอสอบสวนภูตะวันกับเพื่อนสนิทก่อน ส่วนพวกของภูตะวันให้ปล่อยไปก่อนบางส่วน
ณรงค์ทักท้วง ไม่เห็นด้วย ต่อมาเรืองฤทธิ์จึงบอกลูกชายว่า ให้ปล่อยไปก่อนแล้วค่อยตามไปเก็บระหว่างทาง ณรงค์เสนอให้เดชารับงานนี้ไปทำ เรืองฤทธิ์เห็นด้วย
ระหว่างที่เรืองฤทธิ์คุยกับณรงค์นั้น เขาถามถึงบุหลันว่าเป็นอย่างไร มีอะไรกันหรือเปล่า ณรงค์เสียงอ่อยๆว่า “พ่อรู้” เรืองฤทธิ์ย้อนถามว่าทำไมจะไม่รู้ว่านิสัยลูกตัวเองเป็นอย่างไร เตือนว่า ระวังอย่าให้เสียงานใหญ่ก็แล้วกัน
ooooooo
แม้เพชรรุ้งจะต้องอยู่คนละฝ่ายกับภูตะวัน แต่ความผูกพัน ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกันในวัยเด็กทำให้เธอเป็นห่วงเขา วันนี้จึงไปทำแผลให้ บอกว่าคืนนี้เดชาจะพาเขาไปขังที่อำเภอเพราะนายพลเชื่อว่าที่นั่นปลอดภัย
แต่ภูตะวันเชื่อว่าออกจากที่นี่ตนต้องตายแน่ เพชรรุ้ง เองก็นึกหวั่น ต่างมองตาอย่างรู้ใจกัน ภูตะวันรำพึงอย่างผิดหวังว่าตนไม่น่ากลับมาเลย เพชรรุ้งมองเขาหน้าเศร้า ระบายความรู้สึกว่า
“ฉันคิดถึงพี่ พี่ภูตะวัน แต่ฉันไม่นึกว่าพี่จะกลับมาในสภาพนี้ พี่กลายเป็นคนร้ายไปได้ยังไง ฉันรอให้พี่กลับมาปกป้องฉัน ไม่ใช่ทำลายฉันแบบนี้ ตอนที่ฉันยิงพี่ พี่ไม่รู้หรอกว่าฉันเจ็บปวดแค่ไหน”
“พี่รู้...ใจเพชรรุ้งเป็นยังไงทำไมภูตะวันจะไม่รู้...”
ทั้งสองมองกันอย่างผูกพัน เพชรรุ้งกอดภูตะวันร้องไห้อย่างอัดอั้น ภูตะวันเองก็ปวดร้าวกับชะตากรรมของตัวเองไม่น้อยกว่ากัน
สิงห์กับสมใจถูกขังอยู่ด้วยกัน ทั้งคู่คิดหาทางหนีไปจากที่นี่ เชื่อว่าแก้วคงทำงานสำเร็จ
แก้วแอบไปบอกพลอยขวัญว่า สิงห์ฝากความมาบอกว่าพวกทหารไม่ยอมปล่อยภูตะวันแน่เราต้องรีบลงมือก่อนมัน เพชรรุ้งเห็นแก้วคุยกับพลอยขวัญ เอะใจว่าจะทำอะไรกัน
เมื่อพรได้รับการปล่อยตัว เขารีบไปบอกเฮียเส็ง ครกและรานียังที่กบดานของสาโรจน์ว่า คืนนี้สิงห์จะพาภูตะวันหนีจากที่คุมขัง ให้เถ้าแก่เส็งช่วยไปรับหน่อย เฮียเส็งไม่ทันตอบ ครกก็ทำหน้าสยองว่าตนไม่เอาด้วยเพราะแค่นี้ก็ไม่มีที่ซุกหัวนอนแล้ว
“ฉันจะไปเอง” รานีพูดอย่างเด็ดเดี่ยว “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ภูตะวันจะต้องไม่ตาย”
หลังจากนั้น ทั้งสามไปขอปืนกับกระสุนจากเฮียโชติ ถาวรอยู่หลังร้านได้ยินเข้าก็เดินกะเผลกเข้ามาขอไปด้วยเพราะตอนนี้ถือว่าเรามีศัตรูตัวเดียวกันแล้ว
ooooooo
คืนนี้ ยศเห็นเดชาออกจากเรือนพักเดินดุ่มๆ ไปที่ค่ายทหาร ถามว่าจะไปไหนก็ไม่ตอบ
ที่เต็นท์กองบัญชาการทหารนั่นเอง บุหลันกำลังอยู่กับณรงค์ ขณะระทวยอยู่ในอารมณ์หื่นของณรงค์นั้น จู่ๆเธอก็บอกว่า เดชาเริ่มระแคะระคายเรื่องของเราแล้ว ณรงค์บอกว่าไม่ต้องห่วงเดชาไม่กล้าทำอะไรใครซึ่งหน้าอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นตนมันก็คงทำได้แค่มองตาปริบๆ
หารู้ไม่ว่า เดชามาแอบดูอยู่ในความมืดเห็นเงาทั้งสองกอดจูบกันอย่างดูดดื่มก็ได้แต่พึมพำด้วยความแค้น “นังแพศยา...” มองอย่างอาฆาตมาดร้าย
ยศสงสัยตามมาดู พอเห็นเงาในห้องและสภาพเดชาก็นึกใจหายว่าไม่นานต้องเกิดหายนะแน่ๆ
ด้วยความรักที่มีต่อภูตะวันที่เป็นหัวหน้าการ์ดไร่ฟ้ารุ่งและเป็นคนดี ทำให้ทุกคนมุ่งมั่นที่จะช่วยเขาให้พ้นจากเงื้อมมือพวกณรงค์
ในคืนที่จะย้ายภูตะวันไปขังยังที่ว่าการอำเภอเพื่อเก็บเสียกลางทางนั้น สิงห์กับสมใจที่ได้ปืนที่พลอยขวัญแอบเอามาให้ พวกเฮียเส็งกับครก และรานีก็ขับรถเข้ามาหมายชิงตัวภูตะวัน ในที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จ ระหว่างที่สิงห์กับสมใจยิงพวกเดชากับณรงค์นั้น รถของเฮียเส็งก็ขับตะลุยเข้ามา เฮียเส็งโผล่หน้ามาตะโกน
“ขึ้นรถ!!”
พรกับถาวรรีบเปิดคอกกั้นท้ายรถ รานีลงจากรถวิ่งไปพยุงภูตะวันขึ้นรถ จังหวะนั้นเองสิงห์ก็พรวดเข้าไปจับณรงค์ไว้เป็นตัวประกัน ประกาศว่าจะปล่อยตัวมาตอนเช้าแต่ถ้าใครตาม ณรงค์เป็นศพแน่
เพชรรุ้งที่ซ่อนตัวอยู่ในรถที่จะพาภูตะวันไปที่ว่าการอำเภอก็โผล่มาช่วยยิงต้านพวกเดชา จากนั้นรีบขึ้นรถไปกับภูตะวัน พลอยขวัญกับแก้วเพิ่งวิ่งมาถึง ได้ทันเห็นเพชรรุ้งอยู่บนรถกับภูตะวัน พลอยขวัญโล่งใจที่พี่ชายปลอดภัย แต่ก็เสียดายที่ไม่ได้ตามขบวนไปด้วย
ooooooo
นายพลเรืองฤทธิ์หัวเสียมาก ถามศักดาเมื่อกลับมาถึงเรือนใหญ่ว่าตกลงทั้งลูกน้องเขาและลูกสาวเขาเป็นพวกไหนกันแน่ ศักดาแสดงความรับผิดชอบแทนเพชรรุ้ง และถ้าจะยกเลิกงานแต่งงานตนก็เห็นด้วย
“เรื่องนั้นผมยกเลิกแน่คุณศักดา แต่เรื่องสายแร่พลอยที่เราคุยกันไว้ ผมไม่มีวันลืมเด็ดขาด”
ขณะนั้นเอง เดชาก็เข้ามาเสนอตัวว่าตนรู้จักเส้นทางลัดไปสู่ภูพระกาฬ อยากช่วยท่านตามล่าภูตะวัน ยศตกใจเรียกปราม เดชาโพล่งไปว่าตอนนี้ตนเป็นนายอำเภอและภูตะวันคือผู้ร้าย
“เหมือนที่ณรงค์พูดไว้ไม่มีผิด แกเป็นคนฉลาดเดชา แถมยังรู้ด้วยว่าจะใช้มันได้เมื่อไหร่” เรืองฤทธิ์ยิ้มเหี้ยม มองหน้าเดชานิ่ง
คืนนี้เองเดชาก็เตรียมตัวออกเดินทาง บุหลันถามว่าจะไปไหน เขาบอกว่าท่านนายพลให้ตามไปช่วยณรงค์ เมื่อเดชาไปถึงแคมป์ทหาร เรืองฤทธิ์ถามว่าพร้อมแล้วใช่ไหม
“ครับท่าน” เดชาตอบรับแล้วหันไปบอก ผบ.หมวด “คุณทหาร ผมอยากให้คุณพากำลังไปแค่ครึ่งเดียวเพราะเราต้องใช้ม้าเป็นพาหนะ”
พลอยขวัญกับแก้ว และสาลี่มาดูการเคลื่อนไหว พลอยขวัญคำรามอย่างแค้นใจว่า
“ไอ้เดชา ไอ้หนอนบ่อนไส้ นึกแล้วเชียวว่ามันต้องทำแบบนี้!”

เดชาไม่เพียงแต่รู้เส้นทางลับ หากยังอ่านใจฝ่ายตรงข้ามออกด้วย เมื่อเฮียเส็งพาพวกออกสู่เส้นทางที่จะไปยัง
ภูพยัคฆ์แล้ว สั่งให้หยุดรถและจัดวางกำลังกันใหม่ เพราะเชื่อว่าพวกทหารต้องใช้ม้ามาทางลัดมันต้องมาดักเราทันแน่ จึงให้แยกย้ายกันแจ้งแก่ทุกคนว่า

“นายสิงห์ นายพร กับคุณเพชรรุ้ง พาคุณตะวันเดินลัดป่าไปทางใต้ พอพ้นไปก็จะเจอหมู่บ้าน ส่วนพวกที่เหลือขับรถล่อพวกมันไปจนสุดทาง ถ้าหนีไปได้เมื่อไหร่ ค่อยไปเจอกันที่เมืองภูพยัคฆ์”

ส่วนณรงค์ เฮียเส็งให้สมใจเอาไปด้วยเผื่อฉุกเฉินจะได้ใช้เป็นตัวประกัน ณรงค์โวยวายว่าไหนบอกว่าจะปล่อยพรุ่งนี้เช้า สิงห์สวนไปหน้าตาเฉยว่า

“ก็นี่ยังไม่เช้านี่คุณ แล้วที่สำคัญไม่ได้บอกโว้ยว่าเช้าวันไหน”

ณรงค์โวยวายแต่ไม่มีใครสนใจ รานีหันไปบอกเพชรรุ้งว่าฝากภูตะวันด้วย แล้วแยกกันไป

ooooooo

เดชานำกำลังไล่ตามมาพบร่องรอยของพวกเฮียเส็งมันบอกว่า พวกนั้นเพิ่งแยกย้ายกันหนี มันจัดกำลังเป็นสองส่วนแล้วแยกกันตามล่า

รานีนั่งเหม่อด้วยความเป็นห่วงภูตะวัน สมใจปลอบว่าไม่ต้องห่วงภูตะวันต้องปลอดภัยแน่ รานีซึ้งใจที่สมใจช่วยพวกตนแล้วยังปลอบใจอีก บอกว่าไปถึงภูพยัคฆ์เราก็ต้องแยกกันแล้ว เพราะสมใจไม่ควรมาเสี่ยงตายเพื่อคนอื่นแบบนี้

สมใจพูดเขินๆ ว่าสำหรับเธอ...แล้วพูดไม่ออก ลุกเดินไปนั่งข้างถาวรแก้เกี้ยว ถาวรถามว่าชอบรานีหรือ เห็นสมใจเขิน ถาวรเลยให้แหวนซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายให้สมใจเก็บไว้ บอกว่าเผื่อเอาไว้หมั้นสาว สมใจรับแหวนไปด้วยความซาบซึ้งใจ

ทันใดนั้นเอง รานีร้องบอกทุกคนว่าพวกมันมาแล้ว เฮียเส็งสั่งครกที่ขับรถอยู่ว่าให้เหยียบมิดเลย ทหารระดมยิงมา สมใจดึงตัวรานีให้หมอบลงพลางถาวรก็ยิงตอบโต้อย่างดุเดือด

เพชรรุ้งกับภูตะวันไปอีกทางหนึ่งโดยเธอคุมณรงค์ส่วนสิงห์กับพรประคองภูตะวัน ระหว่างทางณรงค์ฉวยโอกาสหนีเข้าป่าอ้อยข้างๆ พรวิ่งตามไป แต่ถูกณรงค์เอาก้อนหินทุบหัวเลือดสาดแล้วแย่งปืนไปจะยิงซํ้า

สิงห์เห็นพรหายไปนานจึงออกตามอีกคน เจอณรงค์กำลังยกก้อนหินจะทุบหัวซํ้า ณรงค์เห็นสิงห์ จึงยิงปืนใส่แล้ววิ่งหนี สิงห์ไล่ยิงจนกระสุนหมด ณรงค์จึงดักยิงถูกแขนสิงห์ แต่สิงห์ก็ปามีดปักไหล่ณรงค์อย่างจังจนปืนหลุดมือ สิงห์ไล่ตามณรงค์ไปหมายเด็ดหัว แต่ณรงค์ก็หนีไปได้ทั้งที่มีดของสิงห์ยังปักคาไหล่อยู่

เพชรรุ้งประคองภูตะวันตามมาเจอพรในสภาพย่ำแย่ แต่ก็ยังพยายามบอกภูตะวันว่า

“ลืมเรื่องแก้แค้น แล้วไปจากภูพระกาฬเสีย เมืองนี้มันต้องคำสาป คำสาปของความโลภ ความแค้นจากขุมพลอยนั่น มันทำให้ทุกคนต้องตายกันหมด” แล้วบอกเพชรรุ้ง “คุณหนู ผมฝากนังสาลี่ด้วยนะครับ อย่าบอกมันว่าผมตายในสภาพนี้ ให้บอกมันว่าผมไปดี”

พรจากไปแล้ว เพชรรุ้งร้องไห้โผเข้ากอดภูตะวัน สิงห์กลับมาเห็นสภาพของพรก็ถึงกับเข่าอ่อน

ooooooo

No comments:

Post a Comment