เรื่่องย่อละคร กลรักลวงใจ
ละคร กลรักลวงใจ ตอน1 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน2 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน3 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน4 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน5 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน6 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน7 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน8 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน9 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน10 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน11ช่อง3
ตอนที่ 3
ถึงเวลาไปรอรับรินลดากับอ้อมที่สนามบิน รัญมีท่าทีกระสับกระส่ายอย่างเห็นได้ชัดจนบัวอดทักไม่ได้ว่า
“ดูท่าทางพี่รัญตื่นเต้นนะคะ”
“จริงหรือ”
“แต่เป็นใครก็คงต้องตื่นเต้นล่ะค่ะ จะได้เจอว่าที่เจ้าสาวในอนาคต”
“ยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แค่แม่ผมอยากให้ผมได้ทำความรู้จักกับเธอเท่านั้น ผมจะชอบหรือไม่ชอบเธอ ก็ยังไม่รู้”
“แล้วถ้าพี่รัญชอบเธอล่ะคะ จะแต่งงานกับเธอเลยรึเปล่า”
“ถ้าผมชอบผมก็แต่ง”
“แล้วพี่รัญไม่คิดว่าจะได้เจอคนที่ถูกใจกว่าหรือคะ”
“อย่างคุณน่ะหรือ”
บัวหน้าเจื่อน ปฏิเสธว่าตนไม่ได้หมายถึงตัวเอง สักหน่อย
“ผมรู้ ผมแค่แซวคุณเล่น จริงๆแล้วคนอย่างผมถ้ารักใครก็รักเลย ไม่คิดจะเผื่อใจให้ใครหรอก”
บัวนิ่งไปด้วยความหวั่นไหวกับคำพูดของรัญกลัวว่าเขาจะชอบอ้อมขึ้นมาจริงๆ ครั้นได้พบเจออ้อมกับรินลดา บัวยอมรับว่าอ้อมเป็นคนสวย ผิวพรรณรูปร่างก็ดี แต่นิสัยใจคอจะเป็นยังไงคงต้องดูกันต่อไป ฝ่ายอ้อมพอเห็นรัญรูปหล่อก็ปิ๊งเขาทันที แต่แล้วทั้งอ้อมและรินลดาก็มีอันยิ้มค้าง ชะงักกึก เมื่อรัญแนะนำบัวระวงในฐานะแฟนของตน
ทันทีที่ถึงบ้านรัญ อ้อมถามแกมตำหนิรินลดาไหนว่ารัญไม่มีแฟน แล้วบัวระวงเป็นใครมาจากไหน
“รินขอโทษค่ะ รินเองก็เพิ่งทราบเดี๋ยวนี้ พี่อ้อมใจเย็นก่อนนะคะ”
“เธอจะให้พี่ใจเย็นทนดูเขาเริงรักกันงั้นหรือ พี่กลับกรุงเทพฯดีกว่า”
“อย่าเพิ่งโมโหสิคะพี่อ้อม รินว่ามันต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆ”
“เข้าใจผิดรึ พี่ว่าเธอกับแม่เธอต่างหากที่เข้าใจผิด คิดว่าพี่ชายแสนดีไม่มีใคร”
“เอาอย่างนี้นะคะพี่อ้อม พี่อ้อมรออยู่นี่ก่อน ให้รินไปคุยกับพี่รัญว่าความจริงเป็นยังไง”
รินลดากระตือรือร้นออกจากห้องไป อ้อมฮึดฮัด ไม่สบอารมณ์ บ่นอุบ “อะไรของมันวะ”
เมื่อลงมาเจอรัญกับบัวใกล้ชิดสนิทสนมช่วยกันจัดโต๊ะอาหาร รินลดายิ่งหน้าบึ้งตึง บอกพี่ชายว่าขอคุยเป็นการส่วนตัวนอกบ้าน ว่าแล้วเธอก็เดินนำลิ่วออกไปเลย
“คุณตั้งโต๊ะได้เลยนะ เดี๋ยวผมมา” รัญบอกบัวก่อนเดินตามน้องสาวไป โดยมีสายตาของบัวมองตามด้วยความสนใจใคร่รู้...
พอโดนน้องสาวซักไซ้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร รัญก็พูดเหมือนเดิมว่าบัวระวงเป็นแฟน รินลดาหน้างอไม่พอใจสวนว่า “แล้วทำไมน้องกับแม่ไม่รู้”
“ก็แล้วทำไมพี่ต้องรายงานเธอกับแม่ด้วย นี่มันเรื่องส่วนตัวของพี่นะ”
“แต่แม่ต้องการให้พี่แต่งงานกับพี่อ้อมนะ”
“แต่พี่บอกแม่ไปแล้วนี่ ถ้าพี่ชอบพี่ก็จะแต่ง”
“แต่พี่รัญมีผู้หญิงอื่นแบบนี้พี่อ้อมเขาจะชอบพี่รัญได้ยังไง”
“ก็แล้วจะให้พี่ทำยังไง พี่มีแฟนก่อนที่พี่จะเจอคุณอ้อม”
“แต่น้องว่าพี่ควรจะเลิกกับแม่บัวระวงให้เร็วที่สุด ก่อนที่พี่อ้อมจะไปจากพี่”
“พี่ทำอย่างงั้นไม่ได้หรอก และถ้าคุณอ้อมเขาอยากจะกลับ พี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้”
“ถ้าอย่างงั้นน้องจะบอกแม่”
“ดี...แม่จะได้เลิกจับคู่ให้พี่ซะที” รัญหันเดินเข้าบ้านอย่างไม่สนใจ
รินลดากลุ้มใจโอยโอดว่าตนจะทำยังไงดี แม่ต้องด่าแน่ๆ ครั้นรินลดาโทร.ไปบอกเล่าให้แม่ฟัง แม่โมโหโกรธาถามสวนมาเสียงแหลมปรี๊ดว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?
“หนูก็ไม่ทราบค่ะ”
“แล้วหน้าตาเป็นยังไง กับยัยอ้อมใครสวยกว่ากัน”
“สูสีค่ะแม่ สวยคนละแบบ”
“สูสีเลยหรือ”
“ใช่ค่ะ แล้วจะทำยังไงดีคะแม่ พี่อ้อมเขาโวยวายด่าหนูใหญ่เลย แถมยังบอกว่าจะกลับกรุงเทพฯด้วย”
“ไม่ได้นะยัยริน แกจะให้หนูอ้อมกลับไม่ได้นะ”
“แล้วจะให้หนูทำยังไงล่ะแม่”
“แกบอกเขาว่าไม่ต้องห่วง เรื่องแฟนตารัญแม่จะเป็นคนจัดการเอง แล้วแกก็ลองสืบดูซิว่านังบัวระวงเนี่ย มันเป็นลูกเต้าเหล่าใคร มีศักดิ์สกุล มีทรัพย์สินเงินทองมากมายมั้ย”
“แม่หมายความว่าไงคะ”
“ถ้ามันรวยเท่าๆกับยัยอ้อม มีชาติตระกูลเหนือกว่า แกก็ให้ยัยอ้อมกลับได้เลย แต่ถ้ามันเป็นเด็กใจแตกมาเกาะพี่ชายแก แกก็เตรียมหาทางไล่มันไปให้เร็วที่สุด”
“แต่แม่คะ...”
“ไม่มีแต่ ทำตามที่แม่บอก” รมณีย์ตัดสายฉับ เคืองลูกชายที่มีผู้หญิงซ่อนอยู่แล้วไม่ยอมบอก...
ฝ่ายรินลดารีบไปปลอบและให้กำลังใจอ้อมว่าตนคุยกับแม่แล้ว แม่บอกว่าพี่อ้อมไม่ต้องตกใจ ถึงยังไงพี่รัญก็ต้องแต่งงานกับพี่อ้อมพันเปอร์เซ็นต์
“แต่ถ้าพี่รัญเขาไม่ยอมล่ะ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่รัญกลัวแม่ ถ้าแม่พูดคำไหนเขาต้องทำตามค่ะ”
ฟังแล้วอ้อมค่อยมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง ยอมลงไปร่วมโต๊ะอาหารกับรัญและบัว แต่พอเห็นบัวตักอาหารเอาใจรัญ ทั้งอ้อมและรินลดาต่างก็มองอย่างหมั่นไส้บัว
“คุณบัวระวงมาเรียนหนังสือหรือมาทำงานที่นี่คะ” รินลดาเริ่มซักประวัติบัว แต่รัญชิงตอบเสียเองว่าบัวจะมาเรียนภาษาเหมือนรินกับคุณอ้อม “งั้นก็ต้องอยู่ที่นี่อีกนานสิคะ”
“ก็คงนานล่ะค่ะ อยู่ที่ว่าพี่รัญจะหมดรักบัวเมื่อไหร่” บัวแซวพร้อมสบตารัญหวานเยิ้ม อ้อมยิ่งหมั่นไส้บัวเป็นทวีคูณ ส่วนรินลดาก็ยังตั้งหน้าตั้งตาซักบัวอย่างเอาเป็นเอาตาย หมายจะให้บัวอึดอัดจนทนไม่ได้แล้วไปจากพี่ชายของตนโดยเร็วที่สุด
“แล้วมาอยู่กับพี่รัญนานๆอย่างนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่ว่าหรือคะ”
“บัวไม่มีพ่อแม่ค่ะ”
“ไม่มีพ่อแม่ แล้วเอาตังค์ที่ไหนมาเรียนหนังสือเมืองนอก”
บัวตอบตามที่เตี๊ยมไว้กับรัญว่าตนได้เงินจากพี่ชายซึ่งเป็นเพื่อนกับรัญ แต่พี่ชายก็ไม่ได้ร่ำรวย ทำงานบริษัทมีเงินเก็บบ้างเล็กน้อย
รัญพอใจกับคำตอบของบัวแต่ก็กลัวจะมีหลุดมีพิรุธ จึงเปลี่ยนเรื่องคุยชวนสองสาวออกไปเดินเล่นหลังอาหาร แต่ทั้งคู่ปฏิเสธเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกตนเพลียๆ ขอนอนพักดีกว่า พอสองสาวลับกายหายขึ้นไปบนห้องแล้ว บัวก็ถามรัญทันทีว่า การแสดงของตนเป็นยังไงบ้าง รัญบอกใช้ได้ ดูท่าทางสองคนนั้นเชื่อสนิท
อ้อมนั้นเชื่อแน่ ถึงขนาดบอกรินลดาว่าพรุ่งนี้พี่คงต้องกลับเมืองไทยจริงๆ
“อ้าว ทำไมอีกล่ะคะพี่อ้อม”
“ก็เธอไม่เห็นหรือว่าพี่ชายของเธอเขาสวีทกับแม่บัวระวงเหลือเกิน...พี่รัญหมดรักเมื่อไหร่ถึงจะไป...เชอะ ถ้าเกิดไม่หมดรักฉันก็รอจนเหงือกแห้งน่ะสิ”
“แต่รินว่าไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวพอแม่โทร.มาทุกอย่างก็จบ”
“เธอไม่ต้องมาเหนี่ยวรั้งฉันหรอก ฉันจะบอกให้เธอรู้นะว่าคนอย่างฉันเนี่ยมีแต่ผู้ชายรุมล้อม แค่ฉันกระดิกนิ้วเรียกหน่อยเดียวผู้ชายก็วิ่งตามเป็นพรวนแล้ว” อ้อมพูดอย่างอารมณ์เสีย เดินเข้าห้องน้ำปิดประตูปังใหญ่จนรินลดาสะดุ้ง บ่นกระปอดกระแปดว่าทำไมต้องเป็นเราด้วย โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง...
ครู่ต่อมาเมื่ออ้อมโทร.ไปรายงานแม่ที่เมืองไทย แม่ไม่ยอมให้ลูกสาวกลับ ไม่ต้องสนใจเรื่องแฟนของรัญ เพราะเมื่อสักครู่คุณหญิงรมณีย์เพิ่งโทร.มายืนยันกับแม่ว่าเขาจะจัดการไล่นังบัวระวงออกไป
“แต่เขารักกันนะแม่”
“แกก็ต้องแย่งมาให้ได้ ไม่ว่าวิธีไหน แกไม่อยากเป็นคุณหญิงหรือไง นึกถึงทรัพย์สมบัติของเขาไว้ ถ้าแกแต่งงานกับเขาสมบัติทุกชิ้นของเขาก็จะเป็นของแก แกจะสบายไปทั้งชาติ พ่อกับแม่ก็จะได้สบายไปด้วย เข้าใจรึเปล่า”
“ก็ได้ค่ะ”
“ดีมาก” เพียงเพ็ญวางสายด้วยรอยยิ้ม แต่แล้วต้องหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อหันมาเห็นสามียืนมองอยู่ข้างหลัง
“ไหนคุณบอกว่าส่งลูกไปเรียนต่อไง ทำไมถึงมีเรื่องแย่งผู้ชายอะไรกัน”
“ไม่ได้แย่งอะไรหรอกค่ะ คุณหญิงรมณีย์เขาอยากให้ลูกชายแต่งงานกับยัยอ้อม แต่บังเอิญลูกชายดันมีผู้หญิงมาเกาะ ฉันก็เลยบอกยัยอ้อมว่าไม่ต้องสนใจ”
“แต่เท่าที่ผมได้ยินคุณบอกลูก ผมไม่ชอบวิธีการที่คุณสอนลูกนะ”
“นี่คุณสิงห์ ฉันเป็นแม่นะคะ ฉันก็มีวิธีการอบรมลูกในแบบของฉัน คุณอยู่เฉยๆเถอะ เรื่องลูกฉันจัดการเอง” เพียงเพ็ญสะบัดหน้าเดินหนี สิงห์ได้แต่ถอนใจอย่างระอาในพฤติกรรมภรรยา
ooooooo
คืนแรกที่ต้องนอนร่วมห้องกัน บัวกับรัญต่างรู้สึกอึดอัดกระอักกระอ่วนไม่น้อย บัวระวังตัวแจไม่ยอมนอนเตียงเดียวกับเขา ขอปูผ้านอนบนพื้นข้างเตียง และไม่ให้เขาปิดไฟนอนด้วย รัญซึ่งนอนพื้นแล้วมักจะปวดหลังจึงนอนบนเตียงคนเดียว
“ดูท่าทางพี่รัญตื่นเต้นนะคะ”
“จริงหรือ”
“แต่เป็นใครก็คงต้องตื่นเต้นล่ะค่ะ จะได้เจอว่าที่เจ้าสาวในอนาคต”
“ยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แค่แม่ผมอยากให้ผมได้ทำความรู้จักกับเธอเท่านั้น ผมจะชอบหรือไม่ชอบเธอ ก็ยังไม่รู้”
“แล้วถ้าพี่รัญชอบเธอล่ะคะ จะแต่งงานกับเธอเลยรึเปล่า”
“ถ้าผมชอบผมก็แต่ง”
“แล้วพี่รัญไม่คิดว่าจะได้เจอคนที่ถูกใจกว่าหรือคะ”
“อย่างคุณน่ะหรือ”
บัวหน้าเจื่อน ปฏิเสธว่าตนไม่ได้หมายถึงตัวเอง สักหน่อย
“ผมรู้ ผมแค่แซวคุณเล่น จริงๆแล้วคนอย่างผมถ้ารักใครก็รักเลย ไม่คิดจะเผื่อใจให้ใครหรอก”
บัวนิ่งไปด้วยความหวั่นไหวกับคำพูดของรัญกลัวว่าเขาจะชอบอ้อมขึ้นมาจริงๆ ครั้นได้พบเจออ้อมกับรินลดา บัวยอมรับว่าอ้อมเป็นคนสวย ผิวพรรณรูปร่างก็ดี แต่นิสัยใจคอจะเป็นยังไงคงต้องดูกันต่อไป ฝ่ายอ้อมพอเห็นรัญรูปหล่อก็ปิ๊งเขาทันที แต่แล้วทั้งอ้อมและรินลดาก็มีอันยิ้มค้าง ชะงักกึก เมื่อรัญแนะนำบัวระวงในฐานะแฟนของตน
ทันทีที่ถึงบ้านรัญ อ้อมถามแกมตำหนิรินลดาไหนว่ารัญไม่มีแฟน แล้วบัวระวงเป็นใครมาจากไหน
“รินขอโทษค่ะ รินเองก็เพิ่งทราบเดี๋ยวนี้ พี่อ้อมใจเย็นก่อนนะคะ”
“เธอจะให้พี่ใจเย็นทนดูเขาเริงรักกันงั้นหรือ พี่กลับกรุงเทพฯดีกว่า”
“อย่าเพิ่งโมโหสิคะพี่อ้อม รินว่ามันต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆ”
“เข้าใจผิดรึ พี่ว่าเธอกับแม่เธอต่างหากที่เข้าใจผิด คิดว่าพี่ชายแสนดีไม่มีใคร”
“เอาอย่างนี้นะคะพี่อ้อม พี่อ้อมรออยู่นี่ก่อน ให้รินไปคุยกับพี่รัญว่าความจริงเป็นยังไง”
รินลดากระตือรือร้นออกจากห้องไป อ้อมฮึดฮัด ไม่สบอารมณ์ บ่นอุบ “อะไรของมันวะ”
เมื่อลงมาเจอรัญกับบัวใกล้ชิดสนิทสนมช่วยกันจัดโต๊ะอาหาร รินลดายิ่งหน้าบึ้งตึง บอกพี่ชายว่าขอคุยเป็นการส่วนตัวนอกบ้าน ว่าแล้วเธอก็เดินนำลิ่วออกไปเลย
“คุณตั้งโต๊ะได้เลยนะ เดี๋ยวผมมา” รัญบอกบัวก่อนเดินตามน้องสาวไป โดยมีสายตาของบัวมองตามด้วยความสนใจใคร่รู้...
พอโดนน้องสาวซักไซ้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร รัญก็พูดเหมือนเดิมว่าบัวระวงเป็นแฟน รินลดาหน้างอไม่พอใจสวนว่า “แล้วทำไมน้องกับแม่ไม่รู้”
“ก็แล้วทำไมพี่ต้องรายงานเธอกับแม่ด้วย นี่มันเรื่องส่วนตัวของพี่นะ”
“แต่แม่ต้องการให้พี่แต่งงานกับพี่อ้อมนะ”
“แต่พี่บอกแม่ไปแล้วนี่ ถ้าพี่ชอบพี่ก็จะแต่ง”
“แต่พี่รัญมีผู้หญิงอื่นแบบนี้พี่อ้อมเขาจะชอบพี่รัญได้ยังไง”
“ก็แล้วจะให้พี่ทำยังไง พี่มีแฟนก่อนที่พี่จะเจอคุณอ้อม”
“แต่น้องว่าพี่ควรจะเลิกกับแม่บัวระวงให้เร็วที่สุด ก่อนที่พี่อ้อมจะไปจากพี่”
“พี่ทำอย่างงั้นไม่ได้หรอก และถ้าคุณอ้อมเขาอยากจะกลับ พี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้”
“ถ้าอย่างงั้นน้องจะบอกแม่”
“ดี...แม่จะได้เลิกจับคู่ให้พี่ซะที” รัญหันเดินเข้าบ้านอย่างไม่สนใจ
รินลดากลุ้มใจโอยโอดว่าตนจะทำยังไงดี แม่ต้องด่าแน่ๆ ครั้นรินลดาโทร.ไปบอกเล่าให้แม่ฟัง แม่โมโหโกรธาถามสวนมาเสียงแหลมปรี๊ดว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?
“หนูก็ไม่ทราบค่ะ”
“แล้วหน้าตาเป็นยังไง กับยัยอ้อมใครสวยกว่ากัน”
“สูสีค่ะแม่ สวยคนละแบบ”
“สูสีเลยหรือ”
“ใช่ค่ะ แล้วจะทำยังไงดีคะแม่ พี่อ้อมเขาโวยวายด่าหนูใหญ่เลย แถมยังบอกว่าจะกลับกรุงเทพฯด้วย”
“ไม่ได้นะยัยริน แกจะให้หนูอ้อมกลับไม่ได้นะ”
“แล้วจะให้หนูทำยังไงล่ะแม่”
“แกบอกเขาว่าไม่ต้องห่วง เรื่องแฟนตารัญแม่จะเป็นคนจัดการเอง แล้วแกก็ลองสืบดูซิว่านังบัวระวงเนี่ย มันเป็นลูกเต้าเหล่าใคร มีศักดิ์สกุล มีทรัพย์สินเงินทองมากมายมั้ย”
“แม่หมายความว่าไงคะ”
“ถ้ามันรวยเท่าๆกับยัยอ้อม มีชาติตระกูลเหนือกว่า แกก็ให้ยัยอ้อมกลับได้เลย แต่ถ้ามันเป็นเด็กใจแตกมาเกาะพี่ชายแก แกก็เตรียมหาทางไล่มันไปให้เร็วที่สุด”
“แต่แม่คะ...”
“ไม่มีแต่ ทำตามที่แม่บอก” รมณีย์ตัดสายฉับ เคืองลูกชายที่มีผู้หญิงซ่อนอยู่แล้วไม่ยอมบอก...
ฝ่ายรินลดารีบไปปลอบและให้กำลังใจอ้อมว่าตนคุยกับแม่แล้ว แม่บอกว่าพี่อ้อมไม่ต้องตกใจ ถึงยังไงพี่รัญก็ต้องแต่งงานกับพี่อ้อมพันเปอร์เซ็นต์
“แต่ถ้าพี่รัญเขาไม่ยอมล่ะ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่รัญกลัวแม่ ถ้าแม่พูดคำไหนเขาต้องทำตามค่ะ”
ฟังแล้วอ้อมค่อยมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง ยอมลงไปร่วมโต๊ะอาหารกับรัญและบัว แต่พอเห็นบัวตักอาหารเอาใจรัญ ทั้งอ้อมและรินลดาต่างก็มองอย่างหมั่นไส้บัว
“คุณบัวระวงมาเรียนหนังสือหรือมาทำงานที่นี่คะ” รินลดาเริ่มซักประวัติบัว แต่รัญชิงตอบเสียเองว่าบัวจะมาเรียนภาษาเหมือนรินกับคุณอ้อม “งั้นก็ต้องอยู่ที่นี่อีกนานสิคะ”
“ก็คงนานล่ะค่ะ อยู่ที่ว่าพี่รัญจะหมดรักบัวเมื่อไหร่” บัวแซวพร้อมสบตารัญหวานเยิ้ม อ้อมยิ่งหมั่นไส้บัวเป็นทวีคูณ ส่วนรินลดาก็ยังตั้งหน้าตั้งตาซักบัวอย่างเอาเป็นเอาตาย หมายจะให้บัวอึดอัดจนทนไม่ได้แล้วไปจากพี่ชายของตนโดยเร็วที่สุด
“แล้วมาอยู่กับพี่รัญนานๆอย่างนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่ว่าหรือคะ”
“บัวไม่มีพ่อแม่ค่ะ”
“ไม่มีพ่อแม่ แล้วเอาตังค์ที่ไหนมาเรียนหนังสือเมืองนอก”
บัวตอบตามที่เตี๊ยมไว้กับรัญว่าตนได้เงินจากพี่ชายซึ่งเป็นเพื่อนกับรัญ แต่พี่ชายก็ไม่ได้ร่ำรวย ทำงานบริษัทมีเงินเก็บบ้างเล็กน้อย
รัญพอใจกับคำตอบของบัวแต่ก็กลัวจะมีหลุดมีพิรุธ จึงเปลี่ยนเรื่องคุยชวนสองสาวออกไปเดินเล่นหลังอาหาร แต่ทั้งคู่ปฏิเสธเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกตนเพลียๆ ขอนอนพักดีกว่า พอสองสาวลับกายหายขึ้นไปบนห้องแล้ว บัวก็ถามรัญทันทีว่า การแสดงของตนเป็นยังไงบ้าง รัญบอกใช้ได้ ดูท่าทางสองคนนั้นเชื่อสนิท
อ้อมนั้นเชื่อแน่ ถึงขนาดบอกรินลดาว่าพรุ่งนี้พี่คงต้องกลับเมืองไทยจริงๆ
“อ้าว ทำไมอีกล่ะคะพี่อ้อม”
“ก็เธอไม่เห็นหรือว่าพี่ชายของเธอเขาสวีทกับแม่บัวระวงเหลือเกิน...พี่รัญหมดรักเมื่อไหร่ถึงจะไป...เชอะ ถ้าเกิดไม่หมดรักฉันก็รอจนเหงือกแห้งน่ะสิ”
“แต่รินว่าไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวพอแม่โทร.มาทุกอย่างก็จบ”
“เธอไม่ต้องมาเหนี่ยวรั้งฉันหรอก ฉันจะบอกให้เธอรู้นะว่าคนอย่างฉันเนี่ยมีแต่ผู้ชายรุมล้อม แค่ฉันกระดิกนิ้วเรียกหน่อยเดียวผู้ชายก็วิ่งตามเป็นพรวนแล้ว” อ้อมพูดอย่างอารมณ์เสีย เดินเข้าห้องน้ำปิดประตูปังใหญ่จนรินลดาสะดุ้ง บ่นกระปอดกระแปดว่าทำไมต้องเป็นเราด้วย โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง...
ครู่ต่อมาเมื่ออ้อมโทร.ไปรายงานแม่ที่เมืองไทย แม่ไม่ยอมให้ลูกสาวกลับ ไม่ต้องสนใจเรื่องแฟนของรัญ เพราะเมื่อสักครู่คุณหญิงรมณีย์เพิ่งโทร.มายืนยันกับแม่ว่าเขาจะจัดการไล่นังบัวระวงออกไป
“แต่เขารักกันนะแม่”
“แกก็ต้องแย่งมาให้ได้ ไม่ว่าวิธีไหน แกไม่อยากเป็นคุณหญิงหรือไง นึกถึงทรัพย์สมบัติของเขาไว้ ถ้าแกแต่งงานกับเขาสมบัติทุกชิ้นของเขาก็จะเป็นของแก แกจะสบายไปทั้งชาติ พ่อกับแม่ก็จะได้สบายไปด้วย เข้าใจรึเปล่า”
“ก็ได้ค่ะ”
“ดีมาก” เพียงเพ็ญวางสายด้วยรอยยิ้ม แต่แล้วต้องหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อหันมาเห็นสามียืนมองอยู่ข้างหลัง
“ไหนคุณบอกว่าส่งลูกไปเรียนต่อไง ทำไมถึงมีเรื่องแย่งผู้ชายอะไรกัน”
“ไม่ได้แย่งอะไรหรอกค่ะ คุณหญิงรมณีย์เขาอยากให้ลูกชายแต่งงานกับยัยอ้อม แต่บังเอิญลูกชายดันมีผู้หญิงมาเกาะ ฉันก็เลยบอกยัยอ้อมว่าไม่ต้องสนใจ”
“แต่เท่าที่ผมได้ยินคุณบอกลูก ผมไม่ชอบวิธีการที่คุณสอนลูกนะ”
“นี่คุณสิงห์ ฉันเป็นแม่นะคะ ฉันก็มีวิธีการอบรมลูกในแบบของฉัน คุณอยู่เฉยๆเถอะ เรื่องลูกฉันจัดการเอง” เพียงเพ็ญสะบัดหน้าเดินหนี สิงห์ได้แต่ถอนใจอย่างระอาในพฤติกรรมภรรยา
ooooooo
คืนแรกที่ต้องนอนร่วมห้องกัน บัวกับรัญต่างรู้สึกอึดอัดกระอักกระอ่วนไม่น้อย บัวระวังตัวแจไม่ยอมนอนเตียงเดียวกับเขา ขอปูผ้านอนบนพื้นข้างเตียง และไม่ให้เขาปิดไฟนอนด้วย รัญซึ่งนอนพื้นแล้วมักจะปวดหลังจึงนอนบนเตียงคนเดียว
“ผมนอนไม่หลับ”
“แต่พี่รัญบอกว่าจะไม่ทำอะไรบัวไงคะ พี่รัญไม่ชอบผู้หญิงขายบริการ ลืมไปแล้วหรือคะ พี่รัญไม่ชอบผู้หญิงขายตัวนะคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ แล้วคุณคิดว่าผมจะทำอะไรคุณ”
“บัวจะไปรู้เหรอ อยู่ๆพี่รัญก็มายืนจ้องบัว”
“ผมจะเอาผ้าห่มให้คุณ เพราะคุณนอนครางทั้งคืน ผมนอนไม่หลับ...เอ้า”
บัวยิ้มแหยๆ รับผ้าห่มมาจากมือเขาพร้อมขอบคุณเสียงอ่อย
“ถ้าคุณทนหนาวไม่ไหว ขึ้นมานอนบนเตียงเถอะ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก”
“บัวไม่หนาวแล้วค่ะ ได้ผ้าห่มอีกผืน รับรองไม่ครางให้พี่รัญได้ยินแล้ว” บัวลงนอนรีบดึงผ้าห่มคลุมโปง ส่วนรัญกลับขึ้นเตียงพร้อมรอยยิ้มบางๆ
ooooooo
เพียงวันรุ่งขึ้น รัญก็ได้รับการติดต่อจากแม่ว่าให้เขาตัดขาดจากบัวระวงโดยเร็วที่สุด
“คงไม่ได้หรอกครับแม่ อยู่ๆจะให้ผมเลิกกับบัวระวง โดยไม่มีเหตุผล ผมทำไม่ได้ครับ”
“ลูกต้องทำได้ เพราะแม่ไปพูดบรรยายสรรพคุณลูก แล้วก็ทาบทามหนูอ้อมกับพ่อแม่เขาไว้ให้ลูกแล้ว ลูกทำแบบนี้ แม่เสียผู้ใหญ่รู้มั้ย”
“ก็ผมบอกแม่แล้วไงครับว่าผมขอศึกษาดูนิสัยใจคอเธอก่อน ถ้าเธอถูกใจผม ผมก็จะเลิกกับบัวระวง”
“แต่การที่ลูกเอาผู้หญิงอื่นมาอยู่ด้วยแบบนี้ หนูอ้อมเขารับไม่ได้นะ”
“ถ้าอย่างงั้นก็ช่วยไม่ได้ครับ เพราะผมเจอบัวระวงก่อนเขา”
“นี่รัญ ฟังแม่ให้ดีนะ ครอบครัวหนูอ้อมเนี่ยเขามีทั้งเงินและชาติตระกูล ถ้าลูกได้แต่งงานกับเขาลูกก็จะสบายไปทั้งชาตินะ”
รัญอึ้งไปนิดอย่างผิดหวังกับความคิดของแม่ “ที่แม่ต้องการให้ผมแต่งงานกับเขาก็เพราะต้องการทรัพย์สินเงินทองของเขาเท่านั้นเองหรือครับ”
“ไม่ใช่...แม่ไม่ได้คิดถึงขนาดนั้นหรอก เพียงแต่แม่อยากให้ลูกได้แต่งงานกับคนดีๆเพื่ออนาคตของลูกเอง”
“เอาล่ะครับแม่ ถ้าคุณอ้อมดีจริงอย่างที่แม่บอก ผมก็จะแต่งกับเขา แต่ผมจะเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวผมเอง”
“แต่ถึงยังไงแม่ก็ต้องการให้ลูกไล่ผู้หญิงชื่อบัวระวงออกไป”
“ผมบอกแล้วไงครับว่าผมทำไม่ได้ แค่นี้นะครับแม่” รัญตัดสายแล้วเดินขึ้นตึกสถานทูตเข้าทำงาน ในขณะที่คนเป็นแม่ทางเมืองไทยร้อนใจเป็นอย่างมาก บอกกับตัวเองว่าไม่ได้การแล้ว ต้องสืบโดยเร็วว่าบัวระวงเป็นใครมาจากไหน
ooooooo
วันเดียวกันนี้ ครอบครัวบัวซึ่งประกอบไปด้วยพ่อแม่และพี่ชาย รวมทั้งการ์ตูนที่เป็นทั้งญาติและเพื่อนสนิทของบัว ต่างมารวมตัวกันในห้องประชุมบริษัทหลังจากมงคลได้รับจดหมายของลูกสาวที่หนีหายไปเกือบเดือน
บัวเขียนมาบอกพ่อกับแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงเธอ เธอสบายดี ขออยู่เที่ยวที่อเมริกาสักพัก ถ้าสบายใจเมื่อไหร่แล้วเธอจะกลับมา...
นิภาพรรณสงสัยว่าบัวไปอยู่กับใครที่อเมริกา ถามการ์ตูนก็ได้คำตอบว่าไม่ทราบ ส่วนเพชรก็ว่าตนมีเพื่อนอยู่อเมริกาแต่บัวจะไปอยู่กับเขาได้ยังไงเพราะเขาเป็นผู้ชาย
“แต่เราก็เบาใจได้แล้วนะคะ เพราะตอนนี้เรารู้แล้วว่าบัวอยู่ที่ไหน แล้วก็ปลอดภัยดี” การ์ตูนทำเนียนตีหน้าแสนซื่อ
มงคลยังหนักใจว่าจะยกเลิกการแต่งงานของบัวกับฉัตรชัยยังไงดี เพชรว่าไม่ยาก แค่บอกทางโน้นว่าบัวท้องกับฝรั่งที่เมืองนอก ก็เลยโดนแม่ตวาดแว้ดเข้าให้ว่า
“แกก็พูดจาน่าเกลียด น้องเป็นผู้หญิงนะพูดเรื่องท้องเรื่องไส้ได้ยังไง”
“ถ้าอย่างงั้นก็ต้องเปลี่ยนเจ้าสาว”
มงคลถามเพชรว่าเปลี่ยนยังไง เพชรให้ส่งการ์ตูนไปแทน การ์ตูนถึงกับร้องลั่นปฏิเสธพัลวันว่าตนก็ไม่ชอบฉัตรชัยเหมือนกัน
ก่อนที่ใครจะว่ากระไรอีก เลขาฯเคาะประตูก่อนเปิดเข้ามาบอกเพชรว่ามีแขกมาขอพบชื่อคุณหญิงรมณีย์
“ให้เขารอในห้องนะ เดี๋ยวผมออกไป”
เลขาฯรับคำสั่งแล้วกลับออกไป การ์ตูนสีหน้าสงสัยใคร่รู้ว่าคุณหญิงแม่ของรัญมาด้วยเรื่องอะไร ส่วนนิภาพรรณ แม่ของเพชรก็ค่อนข้างระแวงระวังเรื่องเงินทองเพราะรู้ไส้รู้พุง ฐานะการเงินของครอบครัวนี้ดี
“คุณหญิงเขามาทำไม ถ้าเอาบ้านมาจำนองบอกว่า
ไม่เอาแล้วนะ ตอนนี้เราจะเปิดโรงงานใหม่ต้องใช้เงินอีกเยอะ”
ไม่เอาแล้วนะ ตอนนี้เราจะเปิดโรงงานใหม่ต้องใช้เงินอีกเยอะ”
“รู้แล้วน่า แม่ก็ทำเป็นงกไปได้” เพชรเดินหน้ายุ่งออกไป โดยมีการ์ตูนตามหลังมาห่างๆ
นิภาพรรณยังข้องใจไม่หาย บ่นให้สามีฟังว่ารมณีย์ถังแตก ของเก่ายังไม่มาไถ่ กลัวจะมาเอาของใหม่อีก
“คนเขากำลังลำบาก ช่วยได้ก็ช่วยน่า รัญกับเพชรก็เป็นเพื่อนกัน”
ฟังสามีแล้วไม่ค่อยชอบใจนัก นิภาพรรณค้อนปะหลับ ปะเหลือกก่อนลุกออกจากห้องไปอีกคน
รมณีย์มาด้วยธุระเรื่องรัญซุกแฟนไว้ที่บ้าน จึงมาถามเพชรที่เป็นเพื่อนรักกับรัญว่าพอจะรู้เรื่องนี้บ้างไหม เพชรซึ่งเป็นคนจัดหาผู้หญิงคนนี้ไปให้รัญยอมรับว่าทราบนิดหน่อย รัญเคยโทร.มาคุยบ้าง
“เห็นเขาว่าเป็นน้องสาวของเพื่อนตารัญสมัยเรียนอยู่เชียงใหม่ เพชรรู้มั้ยว่าเพื่อนคนไหน”
“รู้สึกว่าจะเป็นน้องสาวสรศักดิ์น่ะครับ” เพชรตอบอย่างที่เตี๊ยมกับรัญไว้ และไม่ว่ารมณีย์จะซักอะไรยังไงต่อ เพชรก็เนียนมาก ตอบโดยไม่ติดไม่ขัดให้เป็นพิรุธ
“แม่ไม่อยากให้ตารัญไปคบผู้หญิงสะเปะสะปะ เกิดไปได้คนไม่ดีเข้ามันจะมีผลกับหน้าที่การงานของเขา”
“ถ้างั้นเดี๋ยวผมจะลองถามเพื่อนๆดูว่าน้องของสรศักดิ์เป็นยังไงบ้าง”
“ขอบใจจ้ะ เออ ที่สำคัญแม่อยากรู้ว่าครอบครัวเขา ร่ำรวยมีเงินมีฐานะบ้างมั้ย”
“ได้ครับ ผมจะซักถามให้ละเอียดเลยครับ”
“ขอบใจมากนะเพชร อ้อ แล้วไอ้เรื่องที่ดินที่แม่จำนองไว้แม่ขอผัดไปอีกซักสามเดือนนะ ตอนนี้แม่ช็อตนิดหน่อย”
“ไม่เป็นไรครับคุณแม่ เรื่องนั้นไม่มีปัญหา”
รมณีย์ยิ้มออก ส่วนการ์ตูนที่แนบหูแอบฟังอยู่ด้านนอกมีอันต้องสะดุ้งเมื่อนิภาพรรณเดินมาทักถามว่าทำอะไร มาแอบฟังเขาคุยกันหรือ การ์ตูนอึกๆอักๆเอาตัวรอดด้วยการโกหกว่าตนจะมาแอบฟังว่าเขามายืมเงินพี่เพชรหรือเปล่า นิภาพรรณตาพองทันทีชมการ์ตูนทำดีมากแล้วผลเป็นยังไงเขาขอยืมรึเปล่า
การ์ตูนบอกเปล่า แต่เห็นว่าอีกสองสามวันจะเอาเงินมาใช้หนี้ นิภาพรรณเลยโล่งอก ผละไปอย่างสบายใจ ด้านคุณหญิงรมณีย์พอเสร็จธุระกับเพชรก็ขอตัวกลับ เดินออกมาเจอการ์ตูนยกมือไหว้สวัสดี แทนที่จะรับไหว้สักนิด เธอกลับทำเชิดเดินผ่านไปเฉยเลย การ์ตูนมองตามพลางก็นึกสยองแทนบัวที่ท่าทางจะเจอศึกหนักเข้าให้แล้ว
ooooooo
เช้าวันนี้บัวตื่นมาทำอาหารตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คืออ้อมพยายามแย่งงานบัวทำทุกอย่าง แต่เอาเข้าจริงก็ไม่เอาไหน ปิ้งขนมปังก็ไหม้ แถมชงกาแฟ ก็ต้องคอยถามสูตรจากบัวที่รู้ใจรัญเป็นอย่างดี รัญจึงบอกให้บัวทำอย่างเคยดีกว่า อ้อมไม่พอใจบัว แกล้งใช้ให้รินกาแฟให้ตนด้วย รัญมองออกว่าบัวไม่พอใจจึงอาสารินให้อ้อมเอง
“แล้วนี่รินยังไม่ตื่นหรือครับ” รัญเปลี่ยนเรื่องคุย
“น้องรินอาบน้ำอยู่ค่ะ แล้วกลางวันนี้พี่รัญอยากทานอะไรคะ”
“ผมว่าไปทานข้างนอกดีกว่า เพราะบ่ายพวกคุณต้องไปสอบวัดระดับการใช้ภาษา”
“งั้นดีเลยค่ะ อ้อมชอบอาหารอิตาเลี่ยน”
บัวมองอ้อมอย่างหมั่นไส้ แล้วหันไปหยิบจัดของในครัว พร้อมกับเงี่ยหูฟังอ้อมชวนรัญคุย
“พี่รัญมาอยู่ที่นี่กี่ปีแล้วคะ”
“สามปีกว่าแล้วครับ ก่อนหน้านี้ผมอยู่อังกฤษแล้วก็ย้ายตามท่านทูตมาที่นี่”
“อิจฉาพี่รัญจังเลยนะคะ ได้ไปเที่ยวรอบโลกเลย เอ๊ะ อย่างนี้ถ้าพี่รัญแต่งงานมีครอบครัว ลูกกับภรรยาก็ต้องย้ายตามไปทุกที่ใช่ไหมคะ”
“ครับ”
“ดีจังเลยค่ะ อ้อมชอบการเดินทาง”
บัวชะงักเหลือบมองทั้งคู่ พอดีรัญมองเลยไปเห็น บัวจึงฝืนยิ้มก่อนเดินออกไปเงียบๆ โดยที่อ้อมยังส่งเสียงเจื้อยแจ้วทำหน้าแอ๊บแบ๊วใส่รัญ
“แล้วอย่างแอฟริกาต้องไปไหมคะ”
“ก็ต้องไปครับถ้ามีคำสั่ง”
“แต่อ้อมไม่ไปนะคะพี่รัญ อ้อมไม่ชอบแอฟริกา อ้อมว่ามันดูน่ากลัว...อุ๊ย ขอโทษค่ะ อ้อมลืมตัวไปคิดว่าเป็นแฟนพี่รัญ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ไม่ชอบแอฟริกา”
“จริงหรือคะ ไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่รัญกับอ้อมจะใจตรงกัน”
บัวแอบฟังอยู่นอกห้อง ร้อนใจที่อ้อมจู่โจมรัญเหลือเกิน แล้วบัวต้องสะดุ้งตกใจกับเสียงรินลดาที่ถามบัวว่ามายืนทำอะไรตรงนี้ แต่พอชะโงกมองเข้าไปในห้องเห็นรัญกับอ้อมคุยกันอยู่ ก็เข้าใจทันทีว่าบัวมาแอบฟัง แต่บัวบอกเปล่า ตนแค่ยืนรอว่ารัญทานเสร็จหรือยังจะได้เก็บโต๊ะ
รินลดาไม่เชื่อ มองตามบัวด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะหันกลับมาที่อ้อมและรัญแล้วพูดกับตัวเองเบาๆอย่างพอใจ
“ดีพี่อ้อม พยายามทำคะแนนเข้าไว้ เราจะได้อยู่ที่นี่นานๆ”
ooooooo
ถึงเวลาสามสาวไปสอบวัดระดับการใช้ภาษาซึ่งมีผู้เข้าสอบทั้งชาวเอเชียและฝรั่ง บัวอ่านข้อสอบปราดเดียวก็ยิ้มย่อง เพราะสำหรับเธอมันง่ายมาก เช่นเดียวกับรินลดาที่หวานหมู แต่สำหรับอ้อมที่ไม่เคยใส่ใจการเรียนมาแต่ไหนแต่ไรถึงกับนั่งหน้าเครียด กาแล้วลบ ลบแล้วกาใหม่จนกระดาษเปรอะไปหมด
ฝ่ายบัวพอทำเสร็จเกิดนึกได้ว่า ถ้าตัวเองทำถูกทุกข้อมีหวังรัญต้องสงสัยแน่ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงขายบริการ บัวจึงขีดคำตอบเดิมทิ้งแล้วกาใหม่
หลังจากสอบเสร็จได้ไม่นาน อาจารย์ก็ประกาศผลให้รู้เลย ปรากฏว่ารินลดาได้ระดับ 7 บัวระดับ 4 และอ้อมระดับ 1 นั่นหมายถึงว่าอ้อมได้คะแนนต่ำสุดต้องเริ่มเรียนตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน ตอนแรกอ้อมก็โทษโรงเรียน จะขอเปลี่ยนที่ใหม่ แต่พอรัญจะไปคุยกับอาจารย์ ขอให้เธอสอบอีกครั้ง อ้อมซึ่งรู้ตัวดีว่าทำไม่ได้ก็รีบตัดบทว่า
“ไม่ต้องหรอกค่ะ หนึ่งก็หนึ่ง เริ่มเรียนตั้งแต่ขั้นพื้นฐานเลยจะได้แน่น”
บัวแอบยิ้มขำอย่างรู้ทัน อ้อมหันมาเห็นเลยเป็นเรื่อง หาว่าบัวยิ้มเยาะตน
“เปล่าค่ะ บัวเพียงแต่ขำตัวเองที่กามั่วไปหมดยังได้เรียนระดับ 4 ฟลุกจริงๆ”
“แต่รินว่าพี่รัญต้องเลี้ยงให้น้องนะ น้องได้ตั้งระดับ 7”
“ได้เลย เดี๋ยวพี่จะพาไป”
รินลดาคล้องแขนพี่ชายออกเดิน บัวก้าวตาม แต่ไม่วายเหลือบมองอ้อมที่ยืนหน้าตูมตึง แอบด่าข้อสอบบ้าอะไร ทำไมมันยากนักวะ...
เรื่องเรียนอ้อมไม่ถนัด แต่เรื่องยั่วยวนหว่านเสน่ห์อ้อมเชี่ยวชาญนัก คืนนี้เธอตีสนิทรัญด้วยการทำตัวเป็นแม่หมอดูดวงให้เขา บัวมีหรือจะยอมปล่อยผ่าน เธอแกล้งเข้ามาเตือนรัญว่าพรุ่งนี้เขาต้องไปรับท่านทูตแต่เช้า ควรจะนอนเร็วหน่อย
รัญเห็นดีด้วย บอกอ้อมว่าเอาไว้วันหลังค่อยดูต่อ แต่อ้อมไม่ยอมออดอ้อนขออีกแค่สิบนาที
“ไม่ได้หรอกค่ะ นี่จะสี่ทุ่มแล้วนะคะพี่รัญ”
“เอาไว้วันหลังดีกว่าครับ ผมต้องนอนแล้ว” รัญลุกเดินออกไป บัวรอจนรัญลับกายแล้วค่อยพูดภาษาอิตาเลียนกับอ้อม อ้อมระแวงนึกว่าบัวด่าตน แต่บัวบอกเปล่า ก็แค่บอกราตรีสวัสดิ์ ขอให้นอนหลับฝันดี ว่าแล้วบัวก็เดินจากไป ทิ้งอ้อมยืนฮึดฮัดขัดใจ คิดว่านังบัวระวงคนนี้ท่าทางจะร้ายไม่น้อยไปกว่าตน
เข้ามาในห้องรัญ บัวนอนที่พื้นเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือจิตใจที่หวั่นหวาดไม่แน่ใจว่ารัญคิดยังไงกับอ้อมบ้าง จึงลองเลียบเคียงหยั่งความรู้สึกเขาดูว่า
“คุณอ้อมเป็นยังไงบ้างคะ พี่รัญสนใจเธอบ้างไหม”
“เธอก็ดีนะ”
“ดีหรือคะ”
“อืม...ก็น่ารักดี แต่คงต้องดูกันไปอีกซักระยะนึง คนเราเจอกันวันสองวันยังบอกอะไรไม่ได้หรอก เหมือนอย่างบัว เราเจอกันใหม่ๆก็ต้องใช้เวลาปรับตัวเข้าหากัน”
“หมายความว่าตอนนี้พี่รัญก็ยังไม่ได้ชอบอะไรเขาใช่ไหมคะ”
“เจอปุ๊บจะให้ชอบปั๊บเลยหรือ ทำไม อยากกลับบ้านแล้วหรือไง”
“เปล่าค่ะ ก็แค่ถามเล่นๆ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าผมชอบคุณอ้อม ผมไม่หักเงินคุณหรอก ผมนอนก่อนนะ” พูดจบรัญล้มตัวลงนอนบนเตียง บัวเองก็นอนในที่ของตน แต่เธอลืมตาโพลงอย่างคิดหนัก
ooooooo
หลังจากเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับกระสับกระส่าย รุ่งขึ้นบัวจึงโทร.บอกเล่าเรื่องราวที่ตนกำลังเผชิญกับอ้อมที่ร้ายกาจไม่เบาให้การ์ตูนฟัง การ์ตูนเห็นใจบัว แต่ขอให้อดทน อย่าเพิ่งท้อเสียก่อน เพราะอ้อมเพิ่งเป็นแค่ด่านแรก
“แกหมายความว่าไงด่านแรก” บัวซักอย่างไม่เข้าใจ
“ก็เมื่อวานแม่พี่รัญมาหาพี่เพชร ฉันเพิ่งเห็นหน้าเขาครั้งแรก คนอะไรหน้าแข็งชะมัด ท่าทางไว้ตัวน่าดู”
“ก็เขาเป็นคุณหญิงนะแก เขาก็ต้องมีมาดหน่อยสิ”
“ฉันล่ะกลัวแทนแกจริงๆ วันนึงถ้าแกได้เป็นสะใภ้เขาล่ะก็ แกต้องตัวลีบหัวหดแน่ไอ้บัว”
“เรื่องนั้นฉันไม่กลัว ขอแค่พี่รัญรักฉัน ฉันทนได้ทุกอย่าง”
“มิน่าเขาถึงว่าความรักทำให้คนตาบอด”
“เอาล่ะ แค่นี้ก่อนนะ ได้พูดระบายให้แกฟังค่อยสบายใจขึ้นหน่อย”
“เออ สู้ๆนะเพื่อน มีอะไรก็โทร.มา”
การ์ตูนวางสายแล้วเดินไปกดลิฟต์เพื่อขึ้นห้องพักในอพาร์ตเมนต์ แต่พอเธอก้าวเข้าลิฟต์ จู่ๆฉัตรชัยที่สะกดรอยตามมาตลอดก็พุ่งพรวดเข้ามาด้วย การ์ตูนตกใจมากพยายามจะเลี่ยงหนีแต่ก็ยาก เพราะอยู่ในลิฟต์ที่คับแคบ
ฉัตรชัยคาดคั้นข่มขู่ต้องการคำตอบเรื่องบัว การ์ตูนไม่ได้กลัวแต่รำคาญมากกว่าก็เลยหยิบซองจดหมายของบัวส่งให้เขาดูเอาเอง ฉัตรเห็นหน้าซองส่งมาจากอเมริกา แปลกใจว่าบัวไปอยู่กับใคร
“ก็แฟนเขาน่ะสิ นี่คุณฉัตรชัยฉันว่าคุณตัดใจเถอะ ป่านนี้บัวต้องมีอะไรกับแฟนแล้ว”
“อย่าพูดอย่างงั้นนะ”
“ฉันพูดเรื่องจริง”
“แต่มันเจ็บปวด ผมรักบัว คุณได้ยินมั้ย”
การ์ตูนไม่ฟัง เดินออกจากลิฟต์ตรงไปยังห้องพักตัวเอง แต่ฉัตรชัยก็ยังก้าวตามมาอีก
“นี่คุณ ฉันขอแนะนำให้คุณลืมบัวซะ แล้วก็หาผู้หญิงคนใหม่ที่เขาโสด ซิง โลนลี่”
“คุณหมายถึงคุณใช่มั้ย”
“ก็คล้ายๆ เพราะฉันโสดซิงแต่ไม่โลนลี่”
“ฝันไปเถอะ ผมยอมตายซะดีกว่า” พูดจบเขาหันกลับทันที การ์ตูนไม่พอใจกระชากแขนถามเขาว่ากล้าดียังไงถึงพูดอย่างนี้กับตน ตนกับบัวมีอะไรที่ไม่เหมือนกัน
“ก็ความแจ๋ไง”
ขาดคำ...ฝ่ามือการ์ตูนฟาดหน้าเขาเต็มแรง เขาโกรธเงื้อมือเหมือนจะต่อย แต่แล้วเปลี่ยนเป็นรั้งเธอมาจูบปาก การ์ตูนฉุนกึกผลักเขาพร้อมกับด่าไอ้บ้าแล้ววิ่งหนีเข้าห้องไปเลย
ooooooo
เพชรโทร.หารัญที่ปราก แต่ขณะนั้นรัญกำลังอาบน้ำจึงร้องบอกบัวช่วยรับแทน ให้บอกว่าเดี๋ยวตนโทร.กลับ พอบัวพูดฮัลโหล เพชรชะงักคุ้นเสียงนี้มาก บัวเองพอได้ยินเสียงพี่ชายก็จำได้ทันที จึงบีบเสียงพูดตามที่รัญบอกก่อนตัดสายอย่างรวดเร็ว
เพชรไม่ติดใจเพราะเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงไซด์ไลน์ที่ชื่อบัวระวง เมื่อรัญโทร.กลับมาเพชรจึงบอกเล่าว่าแม่ของเขามาถามเรื่องบัวระวง และตนก็ตอบไปตามที่เตี๊ยมกันไว้
เพชรไม่ติดใจเพราะเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงไซด์ไลน์ที่ชื่อบัวระวง เมื่อรัญโทร.กลับมาเพชรจึงบอกเล่าว่าแม่ของเขามาถามเรื่องบัวระวง และตนก็ตอบไปตามที่เตี๊ยมกันไว้
“ดีแล้วที่แกพูดไปอย่างงั้น”
“ว่าแต่แกเถอะ เจอน้องอ้อมแล้วเป็นไง”
“ก็สวยน่ารักดี”
“เฮ้ย...อย่างนี้ต้องคิดหนักหน่อยนะโว้ย ได้ฟัดทั้งเด็กออฟ ได้ขยี้ว่าที่คู่หมั้น”
“แกนี่มันพูดจาลามกจริงๆ ฉันไม่ได้เหมือนแกนะโว้ย ลูบไม่เจอหางก็รวบหมด”
“อ้าว ในโลกนี้ผู้หญิงมีไว้คู่กับผู้ชายนะโว้ย ฉันจะสอนแกนะไอ้รัญ โอกาสดีๆไม่มีบ่อย จัดการทั้งสองคนเลย”
“คงไม่ล่ะ แค่นี้นะ” รัญวางสาย บัวที่แอบฟังรีบหันหน้ากลับ แสร้งถามว่าเพื่อนพี่รัญหรือ รัญบอกใช่ ชื่อเพชร เขาใช้บริการเจ๊อ้อบ่อยๆ เธอไม่รู้จักเหรอ
“บัวบอกแล้วไงว่าบัวเพิ่งรับงานพี่รัญเป็นคนแรก แต่กลับไปไม่แน่ อาจจะเจอเขาก็ได้”
รัญมองบัวอย่างไม่สบอารมณ์กับคำตอบ แล้วถามบัวว่าคิดยังไงถึงมาทำงานแบบนี้ บัวตอบทันทีว่าอยากได้เงิน รัญจึงว่ามีวิธีอื่นเยอะแยะไม่เห็นต้องมาขายตัว บัวยิ้มกริ่มขยับลุกจากที่นอนตัวเองมายืนเท้าแขนที่ขอบเตียงมองรัญตาฉ่ำแกล้งอำ
“ถ้าไม่ขายตัวบัวก็ไม่ได้เจอพี่รัญน่ะสิ”
“คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง”
“แหม หน้าตาหล่ออย่างพี่รัญ มีการศึกษา ฐานะดี มีผู้หญิงที่ไหนไม่อยากนอนด้วย”
รัญอึ้งกับคำตอบ บัวแกล้งยิ้มยั่ว ทันใดเสียงเคาะประตูดังขึ้น ตามด้วยเสียงรินลดาเรียกพี่รัญ สองคนในห้องมองกันเลิ่กลั่กตกใจ
รินลดาเปิดประตูที่ไม่ได้ล็อกเข้ามาเห็นบัวกับรัญนอนกอดกันบนเตียงก็ชักสีหน้าไม่พอใจ แต่เอ่ยปากขอโทษ ไม่คิดว่ากำลังจู๋จี๋กัน บัวปฏิเสธว่าไม่ได้จู๋จี๋ เราแค่คุยกัน รินลดาไม่อยากต่อความยาว บอกพี่ชายว่าพรุ่งนี้พี่อ้อมชวนตนไปช็อปปิ้ง ตนก็เลยจะขอเงินพี่สักสองยูโร
“ได้...เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะเอาให้”
“ขอบคุณค่ะ” รินลดาจะหันกลับแต่ยังเหลือบมองบัวอย่างไม่ชอบใจ บัวเลยแกล้งกู๊ดไนต์เสียงหวาน เท่านั้นเอง รินลดาก็สะบัดหน้าพรืดออกไปทันที บัวแอบสะใจ แล้วบอก รัญที่ยังกอดเธออยู่ให้ปล่อยได้แล้ว
“เมื่อกี้คุณยังพูดไม่จบ คุณบอกว่าอยากนอนกับผมไม่ใช่หรือ”
“เอ่อ...บัว...บัวไม่ได้หมายถึงตัวเองค่ะ บัวหมายถึงผู้หญิงทั่วๆไป”
“แสดงว่าผมไม่ใช่ผู้ชายในสเปกคุณ”
“ก็...นิดๆค่ะ ที่จริงบัวชอบคนผิวคล้ำๆมากกว่า” บัวเอาตัวรอด แต่รัญรู้สึกว่าตัวเองเสียหน้าจึงพูดกลบเกลื่อน
“แต่ถึงคุณอยากจะนอนกับผม ผมก็ไม่นอนกับคุณอยู่ดี เชิญคุณข้างล่าง”
บัวมองค้อน ลากผ้าห่มลงไปนอนกับพื้น รัญยกแขนตัวเองขึ้นมองอย่างหงุดหงิด พูดงึมงำว่าที่จริงเราก็ไม่ได้ขาวมากมายอะไร บัวได้ยินอดยิ้มขำไม่ได้แต่กลัวเขาจะเห็นก็เลยดึงผ้าห่มปิดหน้าตัวเองไว้
ฝ่ายรินลดาพอกลับออกมาก็ถูกอ้อมซักว่าสองคนนั้นทำอะไรอยู่ เล่นจ้ำจี้กันใช่ไหม รินลดาไม่แน่ใจตอบแบ่งรับแบ่งสู้ อ้อมหงุดหงิดเลยด่าเข้าให้
“เธออย่าทำเป็นโง่หน่อยเลย ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ในห้องด้วยกันเขาก็ต้องทำกิจกรรมบนเตียงกันทั้งนั้นแหละ โอ๊ย ฉันทนอยู่ที่นี่ทำไมเนี่ย”
“ใจเย็นค่ะพี่อ้อม มันก็แค่กิจกรรมชั่วคราวเท่านั้น รินว่าเราไปวางแผนเล่นงานนังบัวระวงกันดีกว่า” รินลดาประจบคว้าแขนอ้อมกลับไปห้องนอน
ooooooo
เช้าขึ้นบัวออกจากบ้านพร้อมรัญเพื่อไปซื้อของ ส่วนรัญจะไปทำงาน บัวมีความสุขมากที่ได้ใกล้ชิดเขา พอเขาถามว่าชอบที่นี่ไหม บัวตอบโดยไม่ต้องคิดว่าชอบมาก
“ถ้าชอบก็อยู่นานๆสิ”
“แล้วพี่รัญมีเงินจ้างบัวหรือคะ ค่าตัวบัวเดือนละแสนนะคะ”
“ถ้าคุณอยากอยู่ต่อ คุณต่างหากที่ต้องจ่ายเงินผม เพราะผมไม่ได้ทำอะไรคุณ เท่ากับว่าคุณมาอยู่บ้านผมฟรีๆ”
“ไม่ยักรู้ว่าพี่รัญก็เขี้ยวเหมือนกันนะคะ”
“แล้วทีคุณล่ะ คุณยังคิดเงินผมทุกบาททุกสตางค์”
“เอาล่ะค่ะ บัวจะลดราคาให้บ้างก็ได้...ว่าแต่เย็นนี้พี่รัญอยากทานอะไรคะ บัวจะได้ทำให้”
“อะไรก็ได้”
บัวภูมิใจนำเสนอไข่พะโล้ รัญบอกดีเหมือนกัน ไม่ได้กินนานแล้ว นอกจากนี้บัวยังเสริมทัพด้วยต้มยำกุ้งกับผัดผัก รัญพยักหน้ารับ และไม่ลืมฝากเงินไว้ให้รินลดาด้วย
รัญถึงสถานทูตได้ครู่เดียวก็ต้องพบกับความอึดอัดลำบากใจ ป้าไหมเอาเรื่องบัวระวงมาพูดให้ท่านทูตกับภาดาได้ยิน วิจารณ์การแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดของเธอจนท่านทูตรู้สึกเป็นห่วงรัญ เตือนว่า
“ถ้าจะเลือกผู้หญิงมาเป็นภรรยา ก็ดูให้เหมาะสมกับเรา ทั้งการศึกษา ฐานะทางสังคม ถ้ามีคุณสมบัติเป็นกุลสตรีด้วยก็จะดี อย่าให้มีอะไรด่างพร้อย เพราะภรรยาก็คือหน้าตาของเรา เราก็คือหน้าตาของประเทศ”
รัญรับคำสีหน้าไม่สู้ดี ภาดายังบอกให้รัญพามารู้จักพวกเราบ้าง รัญจำต้องรับปากทั้งๆที่ลำบากใจเหลือเกิน
ส่วนที่บ้านรัญ บัดนี้แผนการกลั่นแกล้งเริ่มขึ้นแล้ว อ้อมกับรินลดาขนเสื้อผ้าที่ใส่แล้วมาให้บัวซัก อ้างว่าไม่เคยทำงานแบบนี้ แต่บัวปฏิเสธและเน้นย้ำว่าตนซักให้แค่รัญคนเดียว แล้วที่ว่าไม่เคยทำ ถ้าคิดจะมาเรียนเมืองนอกก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง เพราะที่นี่ไม่มีคนรับใช้เหมือนอยู่บ้าน
พูดเสร็จบัวผละหนีอย่างไม่แยแส สองคนโกรธมาก หาว่าบัวปากดี ถือดีมาสั่งสอน เย็นนี้พี่รัญกลับมาจะฟ้องให้จัดการ แต่ตอนนี้อ้อมบอกว่าน้องรินต้องซักผ้าให้พี่ก่อน เพราะพี่ทำไม่เป็น เกิดมาไม่เคยซัก เดี๋ยวพี่ให้ค่าจ้างยี่สิบยูโร
รินลดาจำใจจำยอม เสร็จแล้วสองคนพากันออกไปช็อปปิ้ง แต่เดินอยู่พักใหญ่อ้อมสังเกตรินลดาไม่ซื้ออะไรสักอย่าง พอเธอถาม รินลดาก็บอกว่าตนต้องอยู่ที่นี่อีกนาน ต้องเก็บเงินไว้เรียนหนังสือ
“อะไรกัน คุณแม่น้องรินมีเงินตั้งเยอะแยะ พี่ชายก็รวย จะมาขี้เหนียวอยู่ทำไม”
“ไม่ได้หรอกค่ะ พี่รัญไม่ชอบให้ใช้เงินฟุ่มเฟือย”
“ถ้ามีเงินแล้วไม่ใช้จะมีไว้ทำไม นี่ถ้าพี่มีเงินมากเหมือนเธอ พี่จะช็อปให้มากกว่านี้อีก”
“พี่อ้อมพูดเหมือนไม่มีเงิน”
อ้อมสะดุ้ง รีบอ้าง “มันก็มีล่ะ แต่คุณพ่อพี่ก็เหมือนพี่รัญ ขี้เหนียว ไม่ยอมให้ใช้เงิน”
“เราทานกาแฟเสร็จแล้วจะไปไหนต่อคะพี่อ้อม”
“ก็เดินเล่นต่อแถวนี้ พี่ว่ามันชิลๆดี พอเย็นหน่อยพี่จะเลี้ยงข้าวเธอตอบแทนที่เธอซักผ้าให้พี่”
“แต่รินว่าเรากลับไปทานข้าวที่บ้านดีกว่านะคะ แล้วเงินที่พี่อ้อมจะเลี้ยงข้าวเอามาให้รินเถอะค่ะ รินจะเก็บไว้เรียนหนังสือ”
“น้องรินนี่ยังไง ทำไมทำตัวเหมือนลูกขอทานจังเลย”
“ก็บอกแล้วไงคะว่าจะเก็บเงินไว้เรียนหนังสือ เศรษฐกิจยิ่งไม่ดีอยู่ด้วย จ่ายมาค่ะ ยี่สิบยูโร”
อ้อมมองค้อนก่อนควักเงินให้...แล้วตกเย็นตั้งใจกลับมากินข้าวที่บ้าน ปะเหมาะพอดีบัวทำอาหารเสร็จ แต่บัวไม่ยอมให้ทั้งคู่กินก่อน บอกให้รอกินพร้อมรัญ เพราะอาหารพวกนี้ตนตั้งใจทำให้เขากิน สองสาวไม่พอใจอย่างแรง ต่อปากต่อคำกับบัวใหญ่โต เพราะบัวก็ไม่ยอมลงให้เหมือนกัน
สุดท้ายเหตุการณ์บานปลายถึงขนาดอ้อมกับบัวยื้อยุดแย่งหม้อไข่พะโล้กันจนหม้อหล่นโครมหกหมด อ้อมโทษบัวแล้วคว้าไข่ที่พื้นขว้างปาบัวอย่างเจ็บใจ แต่รินลดาเสียดายเข้าห้ามอ้อมเพื่อจะเอาไข่ไปล้างน้ำ
“ปล่อยพี่นะ เธอยังจะเห็นแก่กินอีกหรือ” อ้อมสะบัดมือปาไข่ออกไป รัญเดินเข้ามาพอดี ไข่เกือบโดนหน้าถ้ารับไม่ทัน...
สองสาวเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยรุมใส่ร้ายบัวให้รัญฟังต่างๆนานา พอบัวพูดเรื่องจริงโต้แย้ง เรื่องก็ยืดยาวไม่จบ แถมรินลดายังยุให้พี่ชายไล่บัวไปจากที่นี่
“พอได้แล้วริน เดี๋ยวพี่จะคุยกับบัวเอง เธอกับคุณอ้อมกินข้าวก่อนเลย...บัว ไปคุยกันที่ห้อง”
รัญเดินนำออกไป บัวเชิดหน้าใส่อ้อมก่อนก้าวตาม อ้อมโกรธแทบกรี๊ด ยกเท้าจะกระทืบพื้น แต่ต้องชะงักกึกกับเสียงแหลมๆของรินลดา
“พี่อ้อมอย่าเหยียบค่ะ นั่นไข่ใบสุดท้ายค่ะ” ว่าแล้วสาวรินก็คว้าขึ้นมา “เดี๋ยวรินเอาไปล้างก่อน เสียดาย ยังกินได้”
อ้อมทั้งอึ้งทั้งเหวอ มองตามรินลดาที่รีบร้อนออกไป ชักสงสัยตงิดๆว่า มันเป็นลูกเศรษฐีจริงหรือเปล่า?
ooooooo
รินลดาเปิดประตูที่ไม่ได้ล็อกเข้ามาเห็นบัวกับรัญนอนกอดกันบนเตียงก็ชักสีหน้าไม่พอใจ แต่เอ่ยปากขอโทษ ไม่คิดว่ากำลังจู๋จี๋กัน บัวปฏิเสธว่าไม่ได้จู๋จี๋ เราแค่คุยกัน รินลดาไม่อยากต่อความยาว บอกพี่ชายว่าพรุ่งนี้พี่อ้อมชวนตนไปช็อปปิ้ง ตนก็เลยจะขอเงินพี่สักสองยูโร
“ได้...เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะเอาให้”
“ขอบคุณค่ะ” รินลดาจะหันกลับแต่ยังเหลือบมองบัวอย่างไม่ชอบใจ บัวเลยแกล้งกู๊ดไนต์เสียงหวาน เท่านั้นเอง รินลดาก็สะบัดหน้าพรืดออกไปทันที บัวแอบสะใจ แล้วบอก รัญที่ยังกอดเธออยู่ให้ปล่อยได้แล้ว
“เมื่อกี้คุณยังพูดไม่จบ คุณบอกว่าอยากนอนกับผมไม่ใช่หรือ”
“เอ่อ...บัว...บัวไม่ได้หมายถึงตัวเองค่ะ บัวหมายถึงผู้หญิงทั่วๆไป”
“แสดงว่าผมไม่ใช่ผู้ชายในสเปกคุณ”
“ก็...นิดๆค่ะ ที่จริงบัวชอบคนผิวคล้ำๆมากกว่า” บัวเอาตัวรอด แต่รัญรู้สึกว่าตัวเองเสียหน้าจึงพูดกลบเกลื่อน
“แต่ถึงคุณอยากจะนอนกับผม ผมก็ไม่นอนกับคุณอยู่ดี เชิญคุณข้างล่าง”
บัวมองค้อน ลากผ้าห่มลงไปนอนกับพื้น รัญยกแขนตัวเองขึ้นมองอย่างหงุดหงิด พูดงึมงำว่าที่จริงเราก็ไม่ได้ขาวมากมายอะไร บัวได้ยินอดยิ้มขำไม่ได้แต่กลัวเขาจะเห็นก็เลยดึงผ้าห่มปิดหน้าตัวเองไว้
ฝ่ายรินลดาพอกลับออกมาก็ถูกอ้อมซักว่าสองคนนั้นทำอะไรอยู่ เล่นจ้ำจี้กันใช่ไหม รินลดาไม่แน่ใจตอบแบ่งรับแบ่งสู้ อ้อมหงุดหงิดเลยด่าเข้าให้
“เธออย่าทำเป็นโง่หน่อยเลย ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ในห้องด้วยกันเขาก็ต้องทำกิจกรรมบนเตียงกันทั้งนั้นแหละ โอ๊ย ฉันทนอยู่ที่นี่ทำไมเนี่ย”
“ใจเย็นค่ะพี่อ้อม มันก็แค่กิจกรรมชั่วคราวเท่านั้น รินว่าเราไปวางแผนเล่นงานนังบัวระวงกันดีกว่า” รินลดาประจบคว้าแขนอ้อมกลับไปห้องนอน
ooooooo
เช้าขึ้นบัวออกจากบ้านพร้อมรัญเพื่อไปซื้อของ ส่วนรัญจะไปทำงาน บัวมีความสุขมากที่ได้ใกล้ชิดเขา พอเขาถามว่าชอบที่นี่ไหม บัวตอบโดยไม่ต้องคิดว่าชอบมาก
“ถ้าชอบก็อยู่นานๆสิ”
“แล้วพี่รัญมีเงินจ้างบัวหรือคะ ค่าตัวบัวเดือนละแสนนะคะ”
“ถ้าคุณอยากอยู่ต่อ คุณต่างหากที่ต้องจ่ายเงินผม เพราะผมไม่ได้ทำอะไรคุณ เท่ากับว่าคุณมาอยู่บ้านผมฟรีๆ”
“ไม่ยักรู้ว่าพี่รัญก็เขี้ยวเหมือนกันนะคะ”
“แล้วทีคุณล่ะ คุณยังคิดเงินผมทุกบาททุกสตางค์”
“เอาล่ะค่ะ บัวจะลดราคาให้บ้างก็ได้...ว่าแต่เย็นนี้พี่รัญอยากทานอะไรคะ บัวจะได้ทำให้”
“อะไรก็ได้”
บัวภูมิใจนำเสนอไข่พะโล้ รัญบอกดีเหมือนกัน ไม่ได้กินนานแล้ว นอกจากนี้บัวยังเสริมทัพด้วยต้มยำกุ้งกับผัดผัก รัญพยักหน้ารับ และไม่ลืมฝากเงินไว้ให้รินลดาด้วย
รัญถึงสถานทูตได้ครู่เดียวก็ต้องพบกับความอึดอัดลำบากใจ ป้าไหมเอาเรื่องบัวระวงมาพูดให้ท่านทูตกับภาดาได้ยิน วิจารณ์การแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดของเธอจนท่านทูตรู้สึกเป็นห่วงรัญ เตือนว่า
“ถ้าจะเลือกผู้หญิงมาเป็นภรรยา ก็ดูให้เหมาะสมกับเรา ทั้งการศึกษา ฐานะทางสังคม ถ้ามีคุณสมบัติเป็นกุลสตรีด้วยก็จะดี อย่าให้มีอะไรด่างพร้อย เพราะภรรยาก็คือหน้าตาของเรา เราก็คือหน้าตาของประเทศ”
รัญรับคำสีหน้าไม่สู้ดี ภาดายังบอกให้รัญพามารู้จักพวกเราบ้าง รัญจำต้องรับปากทั้งๆที่ลำบากใจเหลือเกิน
ส่วนที่บ้านรัญ บัดนี้แผนการกลั่นแกล้งเริ่มขึ้นแล้ว อ้อมกับรินลดาขนเสื้อผ้าที่ใส่แล้วมาให้บัวซัก อ้างว่าไม่เคยทำงานแบบนี้ แต่บัวปฏิเสธและเน้นย้ำว่าตนซักให้แค่รัญคนเดียว แล้วที่ว่าไม่เคยทำ ถ้าคิดจะมาเรียนเมืองนอกก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง เพราะที่นี่ไม่มีคนรับใช้เหมือนอยู่บ้าน
พูดเสร็จบัวผละหนีอย่างไม่แยแส สองคนโกรธมาก หาว่าบัวปากดี ถือดีมาสั่งสอน เย็นนี้พี่รัญกลับมาจะฟ้องให้จัดการ แต่ตอนนี้อ้อมบอกว่าน้องรินต้องซักผ้าให้พี่ก่อน เพราะพี่ทำไม่เป็น เกิดมาไม่เคยซัก เดี๋ยวพี่ให้ค่าจ้างยี่สิบยูโร
รินลดาจำใจจำยอม เสร็จแล้วสองคนพากันออกไปช็อปปิ้ง แต่เดินอยู่พักใหญ่อ้อมสังเกตรินลดาไม่ซื้ออะไรสักอย่าง พอเธอถาม รินลดาก็บอกว่าตนต้องอยู่ที่นี่อีกนาน ต้องเก็บเงินไว้เรียนหนังสือ
“อะไรกัน คุณแม่น้องรินมีเงินตั้งเยอะแยะ พี่ชายก็รวย จะมาขี้เหนียวอยู่ทำไม”
“ไม่ได้หรอกค่ะ พี่รัญไม่ชอบให้ใช้เงินฟุ่มเฟือย”
“ถ้ามีเงินแล้วไม่ใช้จะมีไว้ทำไม นี่ถ้าพี่มีเงินมากเหมือนเธอ พี่จะช็อปให้มากกว่านี้อีก”
“พี่อ้อมพูดเหมือนไม่มีเงิน”
อ้อมสะดุ้ง รีบอ้าง “มันก็มีล่ะ แต่คุณพ่อพี่ก็เหมือนพี่รัญ ขี้เหนียว ไม่ยอมให้ใช้เงิน”
“เราทานกาแฟเสร็จแล้วจะไปไหนต่อคะพี่อ้อม”
“ก็เดินเล่นต่อแถวนี้ พี่ว่ามันชิลๆดี พอเย็นหน่อยพี่จะเลี้ยงข้าวเธอตอบแทนที่เธอซักผ้าให้พี่”
“แต่รินว่าเรากลับไปทานข้าวที่บ้านดีกว่านะคะ แล้วเงินที่พี่อ้อมจะเลี้ยงข้าวเอามาให้รินเถอะค่ะ รินจะเก็บไว้เรียนหนังสือ”
“น้องรินนี่ยังไง ทำไมทำตัวเหมือนลูกขอทานจังเลย”
“ก็บอกแล้วไงคะว่าจะเก็บเงินไว้เรียนหนังสือ เศรษฐกิจยิ่งไม่ดีอยู่ด้วย จ่ายมาค่ะ ยี่สิบยูโร”
อ้อมมองค้อนก่อนควักเงินให้...แล้วตกเย็นตั้งใจกลับมากินข้าวที่บ้าน ปะเหมาะพอดีบัวทำอาหารเสร็จ แต่บัวไม่ยอมให้ทั้งคู่กินก่อน บอกให้รอกินพร้อมรัญ เพราะอาหารพวกนี้ตนตั้งใจทำให้เขากิน สองสาวไม่พอใจอย่างแรง ต่อปากต่อคำกับบัวใหญ่โต เพราะบัวก็ไม่ยอมลงให้เหมือนกัน
สุดท้ายเหตุการณ์บานปลายถึงขนาดอ้อมกับบัวยื้อยุดแย่งหม้อไข่พะโล้กันจนหม้อหล่นโครมหกหมด อ้อมโทษบัวแล้วคว้าไข่ที่พื้นขว้างปาบัวอย่างเจ็บใจ แต่รินลดาเสียดายเข้าห้ามอ้อมเพื่อจะเอาไข่ไปล้างน้ำ
“ปล่อยพี่นะ เธอยังจะเห็นแก่กินอีกหรือ” อ้อมสะบัดมือปาไข่ออกไป รัญเดินเข้ามาพอดี ไข่เกือบโดนหน้าถ้ารับไม่ทัน...
สองสาวเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยรุมใส่ร้ายบัวให้รัญฟังต่างๆนานา พอบัวพูดเรื่องจริงโต้แย้ง เรื่องก็ยืดยาวไม่จบ แถมรินลดายังยุให้พี่ชายไล่บัวไปจากที่นี่
“พอได้แล้วริน เดี๋ยวพี่จะคุยกับบัวเอง เธอกับคุณอ้อมกินข้าวก่อนเลย...บัว ไปคุยกันที่ห้อง”
รัญเดินนำออกไป บัวเชิดหน้าใส่อ้อมก่อนก้าวตาม อ้อมโกรธแทบกรี๊ด ยกเท้าจะกระทืบพื้น แต่ต้องชะงักกึกกับเสียงแหลมๆของรินลดา
“พี่อ้อมอย่าเหยียบค่ะ นั่นไข่ใบสุดท้ายค่ะ” ว่าแล้วสาวรินก็คว้าขึ้นมา “เดี๋ยวรินเอาไปล้างก่อน เสียดาย ยังกินได้”
อ้อมทั้งอึ้งทั้งเหวอ มองตามรินลดาที่รีบร้อนออกไป ชักสงสัยตงิดๆว่า มันเป็นลูกเศรษฐีจริงหรือเปล่า?
ooooooo
No comments:
Post a Comment