Tuesday, September 20, 2011

เรื่องย่ กลรักลวงใจ ตอน 9 ละครช่อง3





เรื่่องย่อละคร กลรักลวงใจ
ละคร กลรักลวงใจ ตอน1 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน2 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน3 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน4 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน5 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน6 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน7 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน8 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน9 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน10 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน711ช่อง3



ตอนที่ 9

แม้ใจจะบอบช้ำสักแค่ไหน แต่พอเช้าวันใหม่บัวก็ตื่นมาทำอาหารให้รัญเช่นทุกวัน รัญเองก็ทำตัวปกติลงมานัวเนียจะหอมแก้มบัว
“อย่าค่ะ บัวเหม็นเหงื่อ” บัวถอยหนี ส่อแสดงถึงความไม่ปกติ พอรัญชวนมานั่งกินด้วยกัน เธอก็ปฏิเสธอีก “พี่รัญทานเถอะค่ะ บัวยังไม่หิว บัวจะไปซักผ้า”
“เดี๋ยวบัว...บัวมีอะไรรึเปล่า”

“ไม่มีค่ะ”

“งั้นเที่ยงออกไปกินข้าวกันนะ”

“โทร.มาอีกทีแล้วกันนะคะ บัวไม่แน่ใจว่าจะว่างรึเปล่า ขอตัวก่อนนะคะ บัวจะไปเอาผ้าขึ้น”

รัญมองตามบัวไปอย่างรู้สึกผิดและอึดอัดใจ ส่วนบัวก็หนักใจเต็มประดา ไปยืนบ่นอยู่หน้าเครื่องซักผ้า

“เป็นเพราะเราคนเดียว บอกก็ไม่ได้ ไม่บอกก็ไม่ได้ เราไม่น่าสร้างเรื่องผูกมัดตัวเองเลย โอ๊ย ทำไงดีเนี่ย”

“บ่นอะไรอยู่” เสียงรัญดังขึ้นจนบัวสะดุ้งโหยง

“เปล่าค่ะ”

“บัวโกรธพี่เรื่องที่เราคุยเมื่อคืนใช่มั้ย”

“ไม่ค่ะ บัวไม่ได้โกรธ”

“พี่อยากให้บัวเข้าใจความรู้สึกของพี่ ที่พี่ไม่สามารถแต่งกับบัวได้ก็เพราะ...”

“บัวเข้าใจค่ะ พี่รัญไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ไปทำงานเถอะค่ะ เดี๋ยวจะสาย” บัวตัดบทแล้วเมินหน้าไปอีกทาง รัญได้แต่ถอนใจหันเดินออก บัวค่อยๆหันกลับมามองตามเขาอย่างกลัดกลุ้ม ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี

แทนที่จะออกไปทำงานเลย รัญกลับมานั่งจิบกาแฟหน้าเครียด รินลดาลงมาเจอ ถามพี่ชายว่ายังไม่ไปทำงานอีกหรือ พอรัญพยักหน้าแทนคำตอบ รินลดานึกแปลกใจขยับมาสังเกตสีหน้าพี่ชายใกล้ๆ

“มีอะไรรึเปล่า หรือว่าทะเลาะกับบัวระวง”

“เปล่า” ตอบแล้วเขาลุกหนีน้องสาวทันที

รินลดายังแคลงใจ เดินเข้าไปหาบัวที่กำลังปั่นผ้า ถามเธอว่ามีเรื่องอะไรขัดใจกับพี่รัญ ครั้นบัวบอกว่าไม่มี รินลดาก็ยังจับผิดอีกว่า

“แต่ฉันว่ามีนะ เพราะพี่รัญดูนิ่งๆอึ้งๆ ส่วนเธอก็ดูมึนๆ ต้องทะเลาะกันแน่ๆใช่มั้ย”

“ฉันคงไม่จำเป็นต้องบอกคุณ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน” บัวผละหนีไปอีกคน รินลดาเหล่มองอย่างรู้ทัน

“ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ ทะเลาะกันชัวร์”

ooooooo

ออกจากบ้านไปแล้ว รัญยังไม่เข้าสถานทูต นัดเพชรออกมาเจอกันที่ร้านกาแฟ บอกเขาว่าตนมีเรื่องกลุ้มใจ กำลังสับสนเรื่องบัวระวง เพชรจึงย้อนถามเพื่อนว่า

“สับสนยังไงวะ”

“ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี”

“อย่าบอกนะว่าแกชอบเธอขึ้นมาจริงๆ”

“ใช่ ฉันคิดว่าฉันรักเธอ”

“หา! จริงหรือ นี่แกรักยัยบัวจริงหรือ...ไชโย ในที่สุดยัยบัวก็สมหวัง” เพชรลืมตัวดีใจออกนอกหน้าจนรัญแปลกใจ

“ทำไมแกต้องดีใจกับบัวด้วย”

“เปล่า ฉันเพียงแต่เดาว่าแกต้องรักน้องบัวเขา ถ้างั้นแกก็ขอเขาแต่งงานเลย”

“ไม่ได้หรอก แกก็รู้ว่าเธอมีอาชีพอะไร”

“แต่แกบอกว่าเธอเพิ่งรับงานแกเป็นครั้งแรกไม่ใช่หรือ”

“ฉันไม่รู้ว่าจะเชื่อเธอได้รึเปล่า เธออาจจะเคยขายบริการกับคนอื่นมาแล้วก็ได้”

“เฮ้ย ไอ้รัญ ยัยบัวมันไม่ได้มั่วอย่างงั้นนะโว้ย”

“แกรู้ได้ไง หรือว่าแกรู้จักเธอมาก่อน”

“เอ่อ...ไม่ใช่ ฉันหมายถึงว่าดูจากท่าทางเธอแล้ว เธอไม่น่าเป็นคนโกหก แล้วเธอก็ไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงหากิน แกว่ามั้ย”

“ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงหากิน เธอจะมาหาฉันที่นี่ได้ยังไง แล้วแกเองก็เคยบอกว่าเธอเป็นคนไม่ดีไม่ใช่หรือ”

“ตอนนั้นฉันสับสนน่ะ...แต่ฉันว่าน้องบัวเขารักแกมากนะ แกจะหาผู้หญิงที่รักและเทิดทูนบูชาแกขนาดนี้ไม่ได้แล้วนะ ฉันว่าแกลืมอดีตของเธอไปเถอะ”

“มันก็ถูกของแก”

“หมายความว่าแกตัดสินใจเลือกน้องบัวแล้วใช่มั้ย”

“ฉันก็อยากจะเลือกนะ แต่มันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ถ้าใครเกิดรู้ว่าเธอมีประวัติความเป็นมายังไง อนาคตหน้าที่การงานของฉันต้องจบลงเลยนะ”

“แต่ฉันว่าแก...”

“ขอบใจแกนะที่ให้คำแนะนำ ฉันไปทำงานล่ะ” รัญตัดบทจนเพชรพูดไม่ออก ได้แต่บ่นอย่างหงุดหงิดตามหลังรัญที่เดินออกไปแล้ว

“ไอ้บ้าเอ๊ย  หรือเราควรจะบอกความจริงไอ้รัญ” ว่าแล้วเพชรลุกพรวดวิ่งตามรัญไป “นี่ไอ้รัญ แกฟังฉันให้ดีนะ ฉันจะบอกความจริงแก แกอย่าตกใจ บัวน่ะเขาไม่ได้เป็นผู้หญิงหากินหรอกเขาเป็นลูกสาวเศรษฐี เรียนจบปริญญาโทจากอังกฤษ แล้วที่สำคัญเธอเป็น...”

“น้องสาวแก”

“ถูกต้อง แกพอใจรึยัง  คราวนี้แกก็แต่งงานกับยัยบัวได้แล้ว”

รัญพยักหน้าดึงเพชรเข้ามากอด “ขอบใจแกมากเพื่อน ฉันซึ้งใจแกจริงๆ แต่ฉันต้องไปทำงานก่อนนะ”

“เฮ้ย เดี๋ยวไอ้รัญ”

“ขอบใจที่แกช่วยเชียร์และให้กำลังใจฉัน”

“นี่แกไม่เชื่อฉันเหรอ ไอ้บัวมันเป็นน้องสาวฉัน ฉันพูดจริงๆนะ”

“ไอ้บ้า ถ้าบัวเป็นน้องสาวแก คนอย่างแกจะยอมให้น้องมานอนกับฉันงั้นหรือ”

เพชรอึ้ง อึกๆอักๆพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

“พอได้แล้วไอ้เพชร หยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้ว ฉันต้องไป ทำงาน”

ที่สุดเพชรก็ได้แต่มองตามรัญตาละห้อย ละเหี่ยใจ ในเวลาต่อมาเพชรนัดบัวมาพบที่โรงแรมโดยการ์ตูนก็อยู่ด้วย เพชรเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ก่อนตัดสินใจจะเอาพาสปอร์ตของตนกับบัวไปให้รัญดู แต่การ์ตูนท้วงขึ้นมาว่า

“ถ้าพี่รัญเกิดเชื่อขึ้นมาจริงๆ แต่เขารับไม่ได้ล่ะ”

“รับไม่ได้เรื่องอะไร”

“อ้าว ก็รับไม่ได้ที่ถูกพี่กับไอ้บัวตุ๋นซะจนเปื่อยไง ตูนว่าเขาต้องไม่ให้อภัยพี่กับไอ้บัวแน่”

“แต่ฉันไม่เกี่ยวนะโว้ย ไอ้บัวต่างหากที่ให้ฉันโกหกมัน”

“นั่นล่ะ เขาถือว่าสมรู้ร่วมคิด”

“งั้นแกจะให้ทำไง ถ้าไม่บอกความจริง ไอ้รัญก็ไม่มีวันยอมแต่งงานกับไอ้บัวเด็ดขาด เพราะมันคิดว่าไอ้บัวเป็นผู้หญิงหากิน”

“ตูนก็ไม่รู้ ยังคิดไม่ออก”

“แต่ฉันคิดออกแล้ว” บัวเอ่ยขึ้นมา เพชรกับการ์ตูนหันขวับ รอฟังอย่างจดจ่อ “ฉันต้องทำให้เขายอมรับในตัวฉันให้ได้”

“ยอมรับยังไง” การ์ตูนซัก

“ก็ถ้าเขาจะรักฉัน เขาก็ต้องรักที่ตัวฉันและหัวใจฉัน ไม่ใช่รักเพราะฉันคือรวินวรกานต์ลูกสาวเศรษฐี”

“ฉันว่าแกน้ำเน่าไปรึเปล่า ที่จะพิสูจน์รักแท้” เพชรติง

“แต่ตูนเห็นด้วยกับไอ้บัวนะ ถ้าเขาจะรักก็ต้องรักที่ตัวไอ้บัว ไม่ใช่รักเพราะไอ้บัวเป็นลูกคนมีเงิน”

“เอา...ตามใจเรื่องของแก ฉันไม่อยากยุ่งด้วยแล้วปวดหัว” เพชรเดินหนี บัวหันมาที่เพื่อนรัก ถามว่าตนคิดถูกแล้วใช่ไหม?

“ถูกสิ แกจะได้รู้ว่าเขารักที่เรือนร่างของแกหรือที่หัวใจของแก”

“แต่ฉันเชื่อว่าเขาต้องรักที่หัวใจฉัน” บัวกล่าวอย่างมั่นใจ

ไม่นานนัก เมื่อรัญโทร.เข้ามาที่โทรศัพท์มือถือ บัวไม่รับสาย รัญจึงแน่ใจว่าบัวโกรธเขา ฝ่ายการ์ตูนพอรู้จากบัวว่ารัญโทร.มา ก็ต่อว่าบัวทำไมไม่รับสาย เผื่อเขาโทร.มาง้อ

“ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะพิสูจน์ความรักที่พี่รัญมีต่อฉัน”

“หมายความว่านี่เป็นแบบทดสอบงั้นหรือ”

“ถูกต้อง นี่เป็นแบบทดสอบที่หนึ่ง”

“แล้วแบบทดสอบที่สองล่ะ แกจะทำอะไรเขา”

“ไม่บอก แต่รับรองว่าเข้มข้นแน่ๆ”

เสียงโทรศัพท์มือถือการ์ตูนดังแทรกขึ้นมา ฉัตรชัยนั่นเอง เขาโทร.มาชวนการ์ตูนทานอาหาร เธอรับปากและนัดแนะสถานที่กันอย่างรวดเร็วแล้ววางสาย ทำเอาบัวสงสัยทำไมง่ายดายนัก ครั้นบัวซักถามการ์ตูนก็ว่าเป็นภารกิจเพื่อบัว

“นี่แกชอบกับเขาหรือ” บัวหยั่งเชิง

“บ้า ที่ฉันทำเนี่ยก็เพื่อแกนะ หรือแกอยากให้เขามาตามแกอีก ฉันบอกเขาก็ได้นะ”

“ไม่ต้อง ขอบใจแกมาก”

การ์ตูนปั้นยิ้มกลับออกไป บัวเหมือนคาใจ บ่นพึมพำกับตัวเอง

“ไอ้ตูนนี่ยังไง ปากบอกไม่ชอบแต่ไม่เห็นอิดออดเลย”

ooooooo

ที่บ้านรัญ  อ้อมแต่งตัวสวยลงมาจากข้างบน

รินลดานั่งอ่านหนังสือชำเลืองมองก่อนตั้งคำถามว่าพี่อ้อมจะไปไหน  อ้อมบอกว่าตนนัดกับเพชรไว้  รินลดาท่าทีตกใจผุดลุกขึ้นทันที

“พี่อ้อม น้องว่าพี่อ้อมต้องระวังคุณเพชรไว้หน่อยนะ”

“ทำไม เขามีอะไร”

“น้องว่าเขาเป็นเสือผู้หญิง แล้วไม่รักใครจริงหรอก พี่อ้อมควรจะเอาเวลามาสนใจพี่รัญมากกว่า”

“ก็พี่เธอไม่สนใจฉันนี่”

“แต่ตอนนี้เป็นโอกาสของพี่อีกครั้งนะ เพราะตอนนี้พี่รัญกับบัวระวงทะเลาะกัน”

“ทะเลาะอะไร พี่เห็นนัวเนียกันทั้งวัน”

“แต่เมื่อเช้าน้องเห็นเขามึนตึงกัน แล้วน้องก็คิดว่าพี่อ้อมควรจะไปกินข้าวกับพี่รัญเพื่อปลอบใจ”

“พี่ไปไม่ได้หรอก เพราะพี่นัดกับคุณเพชรเขาแล้ว”

“ก็ยกเลิกเขาไปสิ บอกเขาว่าพี่มีธุระสำคัญ”

“พี่บอกตามตรงนะ ตอนนี้พี่สนใจคุณเพชรมากกว่าพี่ชายเธอ เธอเห็นชุดนี้มั้ย เขาซื้อให้พี่ รองเท้าเขาก็ซื้อให้ แล้วก็แหวนวงนี้ด้วย แถมพาไปกินอาหารร้านแพงๆ ผิดกับพี่เธอไม่เคยซื้ออะไรให้พี่เลยนอกจากไอติม”

“แต่คุณเพชรเขาไม่ชอบพี่อ้อมจริงหรอก เขาแค่หว่านเงินเพื่อต้องการตัวพี่อ้อม”

“พี่รู้ แล้วพี่ก็เต็มใจที่จะมอบกายให้เขา” อ้อมเชิดหน้าจะผละไป แต่ต้องชะงักเมื่อรินลดาเอ่ยปากขอไปด้วย “นี่ ฉันขอวันนึงได้มั้ยที่ไม่มีเธอ เธอตามติดฉันทุกวันยังกะฉันเป็นแม่”

พูดขาดคำ เพชรโผล่เข้ามาพอดี อ้อมรีบบอกเขาว่าเธอพร้อมแล้ว เพชรเหมือนไม่ได้สนใจฟัง หันมาชวนรินลดาไปด้วยกัน

“วันนี้ยัยรินเขาไม่ไปค่ะ” อ้อมพูดโพล่ง


“ทำไมครับ หรือว่ากลัวผมจะหัวใจวาย ไม่ต้องกลัวครับ วันนี้ผมเตรียมยามาเต็มขวดเลย”
รินลดาอึกอัก อ้อมฉวยโอกาสตอบเสียเองว่ารินลดาไม่ค่อยสบาย ครั้นเพชรจะอาสาพาไปหาหมอ อ้อมก็ด่วนสรุปอีกว่า
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เขาทานยาแล้ว ไปเถอะค่ะคุณเพชร วันนี้จะได้อยู่กันสองต่อสอง”
อ้อมดึงเพชรออกไป พลางหันมาถลึงตาใส่รินลดาไม่ให้ตาม รินลดากลุ้มแสนกลุ้มกลัวอ้อมกับเพชรจะชอบกัน แล้วตนต้องโดนแม่เล่นงานแน่ๆ
ฝ่ายเพชรซึ่งรักและเป็นห่วงรินลดา แม้จะออกมากับอ้อมแล้วเขาก็ยังไม่คลายกังวล ถามอ้อมว่ารินลดาไม่สบายเป็นอะไร
“ก็ปวดหัวปวดท้องตามประสาน่ะค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก คุณเพชรอย่าไปวอรี่เลยค่ะ อ้อมหิวจังเลยค่ะ วันนี้คุณเพชรจะพาอ้อมไปเลี้ยงอะไรคะ”
“แล้วคุณอ้อมอยากทานอะไรครับ”
“อ้อมอยากทานสเต็กเนื้อชิ้นใหญ่ๆ แล้วก็ไวน์ดีๆซักขวด”
“งั้นร้านนู้นดีมั้ยครับ”
“ดีค่ะ” อ้อมยิ้มแย้มควงแขนเพชรลิ่วไป
ooooooo
ขณะที่รินลดากำลังเซ็งและท้อแท้ รมณีย์ผู้เป็นแม่ก็โทร.มาถามความคืบหน้าเรื่องรัญกับอ้อมอีก คราวนี้รินลดาจึงบอกกับแม่ตรงๆว่าเราคงหมดหวังแล้ว
“อะไรนะ แกพูดใหม่ซิ” รมณีย์เสียงดังเกือบตวาด
“ตอนนี้พี่อ้อมเขาไปชอบพี่เพชรเพื่อนพี่รัญแล้วค่ะ”
“ไม่ได้นะยัยริน แกต้องจัดการเอานายเพชรออกไปจากยัยอ้อม”
“แต่แม่คะ พี่อ้อมเขาไม่ได้ชอบพี่รัญ แล้วพี่รัญก็ไม่ได้ชอบพี่อ้อมนะคะ”
“เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับแก แกมีหน้าที่ทำยังไงให้พี่แกได้กับยัยอ้อม เข้าใจรึเปล่า”
“แต่หนูอยากให้แม่มาจัดการเองนะคะ ลำพังหนูคนเดียวทำไม่ไหวแล้ว”
“ถ้าฉันไปได้ ฉันไปแล้วไม่ต้องพึ่งแกหรอก”
“แต่แม่คะ”
“ถ้าเรื่องแค่นี้แกทำไม่ได้ แกก็กลับบ้านซะ” รมณีย์ปิดโทรศัพท์อย่างโมโห ฝ่ายลูกสาวยิ่งเซ็งจัด บอกตัวเองว่า สงสัยเราคงต้องกลับบ้านจริงๆ
ด้านเพชรกับอ้อมที่ร้านอาหารหรู อ้อมกำลังเปิดเมนูเลือกอาหาร เพชรเหลือบมองเธอเหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่ แล้วไม่ทันที่อ้อมจะสั่งอาหาร เพชรก็เอ่ยขึ้นว่า
“คุณอ้อมอยากทานอะไรสั่งเลยนะครับ เดี๋ยวผมมา”
“คุณเพชรจะไปไหนหรือคะ”
“เผอิญผมลืมโทรศัพท์ไว้ที่โรงแรมครับ”
“ใช้ของอ้อมก่อนได้นะคะ”
“ไม่ได้ครับ วันนี้ทางบริษัทจะติดต่อมา”
“งั้นอ้อมไปทานที่โรงแรมคุณเพชรก็ได้ค่ะ”
“ที่โรงแรมไม่อร่อยหรอกครับ คุณอ้อมทานที่นี่ดีกว่า ผมนั่งแท็กซี่ไปเดี๋ยวเดียวก็กลับ”
“อย่านานนะคะ”
“รับรองครับ” เพชรโปรยยิ้มก่อนลุกออกไป
ความจริงเพชรไม่ได้กลับไปโรงแรมอย่างที่บอกกับอ้อม เขาย้อนกลับไปหารินลดาที่บ้านรัญ เป็นเวลาที่รินลดากำลังฮึดสู้จะตามไปเป็นก้างขวางคออ้อมกับเพชร
“เอาวะ เราต้องทำให้ได้ เราจะต้องเรียนให้จบ”
พูดขาดคำ รินลดาหน้าเหวอไม่คาดคิดว่าเพชรจะโผล่เข้ามา เพชรแสดงความห่วงใยถามไถ่อาการป่วยของเธอ ทั้งยังกุลีกุจออาสาจะพาไปหาหมอ แต่รินลดาบอกว่าตนหายดีแล้ว วานเขาช่วยพาตนไปหาพี่อ้อมหน่อย
เมื่อออกจากบ้านมาด้วยกัน เพชรซึ่งมีแผนบางอย่างในใจก็ทำเป็นเปรยๆว่า ถ้าคุณจะไปทานข้าวกับคุณอ้อม ป่านนี้เธอคงทานเสร็จแล้ว
“ฉันไม่ได้อยากทานข้าว ฉันแค่มีธุระจะคุยกับเขา นี่ฉันถามอะไรหน่อยได้มั้ย”
“อะไรครับ”
“คุณชอบพี่อ้อมจริงหรือ”
“นี่คุณดูผมไม่ออกหรือว่าผมชอบใคร”
“ฉันไม่เคยดูคุณ”
“ผมไม่ได้ชอบคุณอ้อม”
“ไม่ชอบแล้วซื้อของให้เขา มารับเขาไปเที่ยวทุกวันทำไม อย่าบอกนะว่าไม่มีอะไรแอบแฝง ฉันไม่เชื่อ”
“ผมบอกความจริงคุณก็ได้ แต่คุณต้องสัญญานะว่าถ้าผมบอกไปคุณจะไม่โกรธผม”
“ฉันจะไปโกรธทำไม มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”
“เกี่ยวสิ ที่ผมมาใกล้ชิดคุณอ้อมเพราะผมอยากอยู่ใกล้คุณ”
หญิงสาวอึ้ง หลบตาทำอะไรไม่ถูก “ฉันว่าคุณเลิกพูดเล่นเถอะ”
“ผมไม่ได้พูดเล่นนะ ผมพูดจริงๆ ผม...”
“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันไม่อยากรู้”
“แต่ผมอยากบอก”
“ฉันไม่อยากฟัง แล้วเมื่อไหร่จะถึงร้าน”
“นี่ไง ถึงแล้ว”
เพชรชี้ร้านอาหารที่อยู่ตรงหน้า รินลดามองค้อนเขาก่อนเดินเข้าไป แล้วพบว่าในร้านไม่มีแม้แต่เงาของอ้อม เพชรยืนยันว่าเมื่อกี้เธอนั่งโต๊ะนี้ สงสัยจะเข้าห้องน้ำ บอกให้รินลดานั่งลงก่อน ตนหิวจะแย่แล้ว
ขณะเดียวกันนั้น อ้อมกำลังกระสับกระส่ายรอเพชรอยู่อีกร้านหนึ่ง เธอกินอาหารไปหลายอย่าง เกรงว่าเงินที่มีจะไม่พอจ่าย ครั้นลองโทร.เข้ามือถือเขาแต่เครื่องก็ปิดเสียอีก
ในร้านที่เพชรอยู่กับรินลดา เพชรไม่ได้สั่งอาหารมากิน แต่นั่งจ้องหน้ารินลดาจนเธอรู้สึกประหม่า ทำทีมองซ้ายมองขวาหาอ้อม พอหันกลับมาปรากฏว่าเพชรก็ยังจ้องเธออยู่
“เป็นอะไรเนี่ยมาจ้องหน้าฉันอยู่ได้”
“ที่ผมจ้องคุณเพราะผมมีความในใจจะบอกคุณ”
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น ทำไมพี่อ้อมไม่ออกมาซะที”
“คุณอ้อมไม่ได้อยู่ร้านนี้หรอกครับ”
“อ้าว แล้วทำไมคุณบอกว่าที่นี่”
“ผมแค่อยากอยู่กับคุณตามลำพัง”
“คุณนี่มันกะล่อนจริงๆ” รินลดาลุกพรวดจะไป เพชรคว้ามือเธอไว้ “ปล่อยมือฉันนะ”
“ไม่ คุณต้องฟังสิ่งที่ผมจะบอกคุณก่อน”
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น”
“แต่คุณต้องฟัง เพราะถ้าผมไม่ได้บอกคุณ ผมต้องอกแตกตาย”
“เอ้า อยากบอกอะไรก็พูดมา” เธอจำใจนั่งลงอย่างเดิม
“ผมอยากจะบอกให้คุณรู้ว่าผมรักคุณ ผมไม่ได้พูดเล่นนะ ผมรักคุณจริงๆ และถ้าคุณไม่รังเกียจผม เราก็จะเริ่มต้นเป็นแฟนกันตั้งแต่วินาทีนี้เลย”
ถูกเขาจู่โจมเข้าแบบนี้ รินลดาถึงกับนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูก
“ว่าไงครับ ตกลงเราเป็นแฟนกันนะครับ”
“นี่คุณเพชร ฉันไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่คุณเคยผ่านมาหรอกนะ อย่ามาทำปากเปราะกับฉัน” พูดจบเธอลุกเดินออกจากร้าน พร้อมๆกับเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น
อ้อมโทร.มาบ่นไม่รู้เพชรหายไปไหน ตอนนี้ตนกำลังแย่ต้องจ่ายค่าอาหารแพงมาก รินลดาจึงรีบบอกเพชรให้กลับไปหาพี่อ้อมด่วน เธอไม่มีเงินจ่ายค่าอาหาร แต่เพชรต่อรองว่ารินลดาต้องตอบรับตนเป็นแฟนก่อน ไม่งั้นตนไม่ไปไหนทั้งนั้น รินลดาไม่มีทางเลือก จำต้องตกปากรับคำในที่สุด
ooooooo
ตกเย็นรัญกลับถึงบ้านพร้อมดอกไม้ที่ตั้งใจจะเอามาง้อบัว เขาเดินเข้ามาในครัวกอดด้านหลังเธอซึ่งกำลังทำต้มยำกลิ่นหอมกรุ่น
“บัว...พี่ซื้อดอกไม้มาให้ สวยมั้ย”
“สวยค่ะ พี่รัญเอาวางไว้ที่โต๊ะเลย” บัวบอกเหมือนไม่สนใจ รัญชะงัก เอาดอกไม้ไปวางบนโต๊ะ
“เมื่อกลางวันพี่โทร.หาบัวจะชวนไปทานข้าว
“ขอโทษทีค่ะ บัวไม่ได้เอาโทรศัพท์ออกไป” บัวพูดอย่างเย็นชา รัญพยายามง้อเดินเข้ามากอดอีก แต่เธอเบี่ยงตัว “อย่าค่ะ บัวตัวเหม็นกับข้าว”
บัวแกะมือเขาออก เดินเลี่ยงไปหยิบจานอาหาร แล้วเดินกลับมายกหม้อต้มยำผ่านรัญไปที่โต๊ะ ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน
“งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะ บัวช่วยถูหลังให้พี่หน่อยได้มั้ย”
“บัวยังทำกับข้าวไม่เสร็จเลยค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ” บัวหันไปทำอาหาร รัญจ๋อยสนิทหันเดินขึ้นห้องไป
แต่เดี๋ยวเดียวเขาก็ตะโกนเรียกบัวให้ช่วยหยิบผ้าเช็ดตัว บัวจึงต้องขึ้นมา เธอเอาผ้าเช็ดตัวเข้าไปวางที่อ่างล้างหน้าแล้วจะกลับออกไป
“เดี๋ยวสิบัว ส่งผ้าให้พี่หน่อย”
บัวเหลือบมองลังเล แต่แล้วก็หยิบผ้าเดินเข้ามาส่งให้ รัญเอื้อมมือมารับพร้อมกับดึงบัวเข้าไปโดยเร็ว
“อุ๊ย พี่รัญ บัวเปียกหมดแล้ว”
“ก็เมื่อกี้บอกว่าตัวเหม็นไง อาบน้ำซะเลยนะ มา...พี่สระผมให้”
“ไม่ต้องค่ะ ปล่อยบัวเถอะ เดี๋ยวบัวอาบเอง” บัวผละจะเดินออก
“เดี๋ยวบัว พี่รู้ว่าบัวโกรธพี่”
“บัวไม่ได้โกรธค่ะ”
“อย่าโกหก วันนี้ทั้งวันบัวพยายามหลบเลี่ยงไม่ยอมคุยกับพี่ พี่บอกแล้วไงว่าพี่ไม่สามารถอยู่กับบัวได้”
“พี่รัญบอกบัวหลายครั้งแล้วค่ะ แล้วบัวก็เข้าใจแล้ว”
“ถ้าเข้าใจทำไมถึงทำเย็นชากับพี่”
“พี่รัญอยากให้บัวยิ้มทั้งๆที่หัวใจร้องไห้งั้นหรือคะ พี่รัญอย่าลืมนะคะถึงบัวจะมีอาชีพแบบนี้ แต่บัวก็มีหัวใจ มีความรู้สึกเหมือนผู้หญิงคนอื่น” รัญอึ้ง จนมุมไม่มีคำตอบ “เอาล่ะค่ะ บัวขอตัวลงไปดูอาหารก่อนนะคะ”
บัวกลับออกไปและแอบหวังว่าเขาจะคิดได้...ครั้นถึงเวลาอาหาร รัญกินไม่ลงเอาแต่เขี่ยข้าวในจาน และเหลือบมองบัวบ่อยครั้ง แต่เธอก็ก้มหน้าก้มตากินเหมือนไม่สนใจ ที่สุดรัญก็รวบช้อนพร้อมๆกับถอนหายใจ
“อาหารไม่อร่อยหรือคะ”
“อร่อย เพียงแต่วันนี้พี่ไม่ค่อยหิว พี่ขอตัวขึ้นห้องนอนก่อนนะ”
บัวมองตามรัญที่เดินคอตกออกไป พลางบอกกับตัวเอง “เราต้องทำให้เขายอมรับเราให้ได้”
ถึงเวลาเข้านอน ต่างคนต่างนอนหันหลังให้กันบนเตียง รัญคิดหนักลังเล อยากจะบอกความรู้สึกในใจ แต่สุดท้ายก็ตัดใจไม่พูด บัวรู้สึกน้อยใจและเสียใจอย่างบอกไม่ถูก นอนไม่หลับแทบทั้งคืน
ooooooo
เช้าขึ้นรัญลงมาเห็นบัวพร้อมกระเป๋าเดินทาง เขาถามเธอว่าจะไปไหน ก็ได้คำตอบสุดเจ็บปวดว่า
“บัวคิดว่าบัวไม่ควรจะอยู่ที่นี่แล้ว”
“หมายความว่าบัวจะกลับเมืองไทย”
“ค่ะ”
“แล้วถ้าพี่จะขอร้องให้บัวอยู่ต่อล่ะ”
“อย่าเลยค่ะ ถึงบัวอยู่ต่อมันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะถึงยังไงวันนึงพี่รัญก็ต้องแต่งงานกับคนอื่นแล้วบัวก็ต้องไปอยู่ดี บัวขอไปตั้งแต่วันนี้ดีกว่า”
บัวคว้ากระเป๋าก้าวเดินอย่างลุ้นๆ หวังว่าเขาจะเรียก แต่เปล่าเลย เขาเอาแต่นิ่งเงียบจนเธอเป็นฝ่ายหันกลับมา
“ขอบคุณนะคะสำหรับสิ่งดีๆ ที่พี่รัญมีให้บัว” บัวหอมแก้มเขาแล้วหันหลังเดินออก
“นี่บัวจะไปจริงๆหรือ”
บัวแอบยิ้มดีใจ แต่ทำขรึมหันมาหาเขา “ถ้าพี่รัญบอกว่ารักและจะแต่งงานกับบัว บัวก็จะอยู่กับพี่รัญไปตลอดชีวิตค่ะ ว่าไงล่ะคะพี่รัญ พูดออกมาสิคะ แค่
พี่รัญบอกว่ารักบัว เราก็จะแต่งงานกัน”
“พี่อยากจะทำอย่างงั้นนะบัว แต่พี่ทำไม่ได้จริงๆ”
บัวอึ้งอย่างคนหัวใจสลาย รัญเองก็เจ็บ จับมือเธอขึ้นมาอย่างทะนุถนอม
“พี่ขอโทษนะ ที่พี่ไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้”
“พี่รัญไม่ได้รักบัวจริงๆ” บัวน้ำตาไหลเอ่อด้วยความผิดหวังและเสียใจ “บัวไม่น่ารักพี่รัญเลย”
พูดแค่นั้นบัวก็เดินลิ่วออกไปทั้งน้ำตานองหน้า รัญเสียใจเช่นกัน ห้ามใจตัวเองไม่ให้ตามเธอไป พูดลับหลังเธอว่า
“พี่อยากจะบอกให้รู้นะว่าพี่รักบัว แต่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้จริงๆ”
บัวพาความเจ็บช้ำไปพบพี่ชายกับเพื่อนรักที่โรงแรม ทั้งคู่ตกใจกันใหญ่พากันซักถามว่าเกิดอะไรขึ้น หรือว่าเลิกกับรัญแล้ว
“ในที่สุดฉันก็รู้ความจริงว่าพี่รัญเขาไม่ได้รักฉัน” บัวเสียงสั่นเครือ
“เขาบอกแกอย่างงั้นหรือ” การ์ตูนซัก
“ใช่...ในเมื่อเขาไม่ได้รักฉันจริงๆ มันก็เปล่าประโยชน์ที่ฉันจะตื๊อเขา”
“ไม่ได้นะ พี่ไม่ยอมให้มันได้แกฟรีๆ พี่จะไปพูดกับมันให้รู้เรื่อง มันต้องรับผิดชอบแก”
“ถึงเขาจะรับผิดชอบ แต่ถ้าเขาไม่รักบัว บัวก็คงไม่มีความสุขหรอก”
“แต่ถ้ามันรู้ความจริงว่าแกเป็นใคร พี่เชื่อว่ามันต้องรักแก”
“หมายความว่าเขาจะรักบัวก็เพราะบัวเป็นน้องสาวพี่ เป็นลูกสาวเศรษฐีงั้นหรือ ถ้าเป็นอย่างนั้นบัวก็คงไม่รักเขา”
“เฮ้ย นี่แกต้องการอะไรแน่วะไอ้บัว ตอนแรกก็อยากให้ผู้ชายเขารัก แต่ตอนนี้กลับบอกไม่เอาแล้ว”
“ฉันถามแกหน่อยไอ้ตูน ถ้าแกแต่งงานกับผู้ชายคนนึงแล้วแกมารู้ว่าเขาแต่งกับแกเพราะแกมีเงินแกจะรู้สึกยังไง”
“แต่ไอ้รัญมันไม่รู้นี่ว่าแกเป็นใคร”
“พอเถอะพี่เพชร พี่เคยบอกแม่ไม่ใช่หรือว่าถ้ามีหมอนวดมารักพี่จริง แล้วพี่ก็รักเขา พี่ก็จะแต่งงานกับเขา พี่ไม่แคร์ว่าเขาจะมีอดีตเป็นยังไง”
“แต่มันไม่เหมือนกัน”
“เหมือนสิพี่เพชร คนเราทุกคนมีค่าความเป็นคนเท่ากัน ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นลูกสาวเศรษฐีหรือผู้หญิงหากิน ถ้าพี่รัญจะรักบัวเพราะบัวมีเงิน บัวก็คงไม่ต้องการ”
“นี่มันคิดอะไรของมันวะ ฉันไม่เข้าใจ”
“นั่นน่ะสิ ตูนก็ไม่เข้าใจ”
เพชรกับการ์ตูนได้แต่บ่นกันไปมา พลางมองตามบัวที่เดินเลี่ยงไปทั้งน้ำตา
ฝ่ายรัญก็เศร้าเสียใจ เขาไปทำงานอย่างไม่มีสมาธิ ท่าทีซึมเศร้าจนเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งสังเกตด้วยความแปลกใจ
ooooooo

รินลดายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างรัญกับบัว เธอแต่งตัวลงมาในครัวไม่เห็นมีอาหาร ได้แต่บ่นงึมงำว่าทำไมวันนี้บัวไม่ทำกับข้าว

เมื่อไม่มีอาหารจึงรินนมมาดื่มหนึ่งแก้ว ระหว่างนี้เองเพชรโผล่เข้ามาพร้อมแซนด์วิชกับน้ำผลไม้ เขาตั้งใจซื้อมากินกับเธอสองคน เสร็จแล้วจะชวนเธอไปเดินเล่นในเมืองประสาคนที่ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว แต่ไม่ทันทั้งคู่จะได้กิน อ้อมลงมาจากข้างบน แล้วคว้าเอาแซนด์วิชของรินลดาไปกัดกินหน้าตาเฉย

รินลดาเซ็งเป็ด หันไปหยิบกระเป๋าและบอกให้อ้อมปิดบ้านด้วย เพชรถามเธอทันทีว่าจะรีบไปไหน เธอบอกไปหาแฟน อ้อมได้ยินก็หูผึ่งตาพอง ซักรินลดาว่ามีแฟนแล้วหรือ เขาเป็นใคร

“มีแล้วค่ะ แต่ไม่บอก ปล่อยให้พี่อ้อมงง ไปล่ะค่ะ”

อ้อมมองตามอย่างไม่เชื่อ “หน้าตาอย่างนี้ใครจะชอบว่ามั้ยคะคุณเพชร” เพชรสะอึก ฝืนยิ้มบางๆ “ทานแซนด์วิชด้วยกันค่ะ”

“เชิญคุณอ้อมเลยครับ”

“คุณเพชรรอเดี๋ยวนะคะ อ้อมขึ้นไปอาบน้ำก่อนดีกว่า”

“ครับ เชิญตามสบาย” เพชรมองตามอ้อม พลางคิดในใจว่าในเมื่อบัวเลิกกับรัญแล้ว ตนก็ไม่มีความจำเป็นต้องประกบอ้อม จึงตะโกนไล่หลังเธอว่า “คุณอ้อมครับ ผมมีธุระด่วนครับ ขอตัวก่อน”

“อะไรนะคะ เดี๋ยวค่ะ”

“ไม่ทันแล้วครับ ผมต้องไปแล้ว”

เพชรวิ่งฉิวออกไป อ้อมรีบร้อนลงมาแต่ไม่ทัน ยืนบ่นหน้ายุ่งว่าไปกันหมด ทิ้งเราไว้คนเดียว เพชรตามไปทันรินลดาที่ริมถนน แต่เธอทำเมินไม่สน บอกว่ากำลังจะรีบไปหาแฟน

“ก็แฟนคุณอยู่ตรงนี้จะไปหาทำไม”

“คุณอย่ามั่ว พูดเองเออเอง”

“แต่เมื่อวานคุณยอมรับเป็นแฟนผมแล้วนะ”

“นั่นมันเมื่อวาน”

“เดี๋ยวสิครับ” เขาดึงเธอมาประชิดตัว “ผมจะไม่ปล่อยคุณ จนกว่าคุณจะบอกว่ารักผม”

“แล้วถ้าฉันบอกว่าไม่รักล่ะ”

“ผมก็จะจูบคุณจนกว่าคุณจะบอกรัก”

“งั้นฉันจะบอกคุณว่าฉันไม่รักคุณ” พูดขาดคำ เขาตั้งท่าจะจูบ เธอตกใจร้องลั่น “ว้าย...อย่า ฉันพูดเล่น”

“ถ้างั้นคุณก็รักผมใช่มั้ย”

“นี่ ฉันกับคุณเพิ่งรู้จักกัน แล้วฉันเองก็รู้จักคุณในมุมที่ไม่ดีซะด้วย แล้วอยู่ๆจะให้บอกว่ารักคุณ คงไม่ได้”

“คุณริน ผมสัญญานะว่าผมจะเปลี่ยนตัวเองใหม่ ผมจะเลิกเที่ยวผู้หญิง เลิกสำมะเลเทเมา จะทำตัวเป็นเด็กดีของคุณ”

“เอาไว้ให้คุณเป็นเด็กดีก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

“ถ้าพูดแบบนี้ก็แสดงว่าเรามีสิทธิ์น่ะสิ” เพชรบอกกับตัวเองอย่างมีความหวัง

ooooooo

ตอนบ่ายมีประชุม รัญมัวแต่ใจลอยครุ่นคิดเรื่องบัวจนเพื่อนร่วมงานและท่านทูตพากันแปลกใจ แถมพอออกจากห้องประชุมกลับเข้าห้องทำงานส่วนตัว รัญยังตาฝาดเห็นป้าไหมที่เอากาแฟเข้ามาให้เป็นบัวไปอีก

เวลาเดียวกันนั้น บัวก็ยังเศร้าไม่คลาย เธอลงจากห้องพักการ์ตูนตั้งใจจะมาซื้อน้ำกินแต่ดันเจอฉัตรชัยเข้าอย่างจัง ตอนแรกบัวทำท่าจะหลบหน้า แต่พอฉัตรชัยบอกว่าการ์ตูนเล่าเรื่องของเธอให้เขาฟังแล้ว และเขาอยากคุยกับเธอ บัวจึงเดินตามเขาเข้าไปนั่งคุยกันในร้านกาแฟ

“ฉันต้องขอโทษคุณด้วยที่ทำให้คุณเสียหาย”

“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ มันเป็นความผิดของพ่อแม่พวกเรามากกว่า ที่พยายามจัดการให้เราสองคนแต่งงานกัน”

“ฉันดีใจจริงๆที่คุณเข้าใจ”

“เรื่องความรักมันอยู่ที่คนสองคน ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกครับ”

“ขอบคุณนะคะ”

“ผมดีใจด้วยนะครับเรื่องคุณกับคุณรัญ ผมว่าเขาเหมาะสมกับคุณมากกว่าผม”

“แต่ตอนนี้ฉันกับเขาเลิกกันแล้วค่ะ”

“อะไรนะครับ เลิกแล้วงั้นหรือ”

บัวพยักหน้าเศร้าๆแทนคำตอบ ฉัตรชัยไม่รู้จะปลอบยังไง ได้แต่แสดงความเสียใจก่อนถามเธอว่าจะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่

“คิดว่าอาทิตย์หน้าค่ะ”

“ดีเลยครับ ผมว่าจะกลับอาทิตย์หน้าเหมือนกัน กลับพร้อมกันมั้ยครับ”

“ก็ได้ค่ะ”

ฉัตรชัยอาสาจองตั๋วให้ แล้วใกล้ๆวันเดินทางจะโทร.บอกอีกที บัวขอบคุณและชวนเขากินข้าวด้วยกันเย็นนี้ ฉัตรชัยตกลง นัดเจอกันอีกทีตอนหนึ่งทุ่ม

แยกจากฉัตรชัยกลับเข้าโรงแรม บัวถูกการ์ตูนซักว่าไปไหนมา ไหนว่าจะลงไปซื้อน้ำทำไมหายไปนานนัก

“เผอิญฉันเจอคุณฉัตรชัยเลยนั่งคุยกับเขา”

“นั่งคุยเหรอ”

“ใช่ จะว่าไปถ้าฉันไม่ได้คุยกับเขาวันนี้ฉันก็คงไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้ชายนิสัยดีคนนึง”

การ์ตูนฟังแล้วชะงัก เลียบๆเคียงๆถามว่าเขาดียังไง?

“เขาก็ดูเฟรนด์ลี่ เปิดเผย ไม่มีฟอร์ม”

“แล้วไง”

“แล้วไงหมายความว่าไง”

“ก็...หมายความว่าแกจะกลับไปคืนดีกับเขางั้นหรือ”

“ก็ไม่แน่ ที่จริงถ้าตอนแรกฉันแต่งงานไปกับเขาซะ ก็คงไม่ต้องมีเรื่องวุ่นๆแบบนี้ แต่ใครจะไปรู้ กลับไปฉันอาจจะแต่งงานกับเขาก็ได้ แกว่ามั้ย”

การ์ตูนใจหายวาบ แต่ฝืนยิ้มบอกเพื่อนว่า “แล้วแต่แก”

“เย็นนี้ฉันนัดกินข้าวเย็นกับเขา แกไปด้วยกันนะ ไปหลายๆคนจะได้มีเรื่องคุยสนุกดี”

“เอ่อ...ฉันไม่ไป ปวดหัวน่ะ ขอนอนก่อนนะ” พูดเสร็จ ก็ล้มตัวลงนอนหันหลังให้ บัวค่อนข้างงง  เดินมาแตะเนื้อตัวเพื่อน

“ตัวก็ไม่ร้อนนะแก”

“ปวดไมเกรนน่ะ ขอฉันหลับหน่อย”

การ์ตูนหลับตาซ่อนพิรุธ บัวรู้สึกแปลกๆแต่ก็ไม่เซ้าซี้อีก พอบัวเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ การ์ตูนลืมตาโพลงคิดหนัก สักครู่ฉัตรชัยโทร.มาชวนเธอกินข้าว การ์ตูนปฏิเสธทันทีว่าไม่ว่าง มีธุระส่วนตัว

“งั้นพรุ่งนี้ก็ได้”
“พรุ่งนี้ก็ไม่ว่าง เอาเป็นว่าช่วงนี้ฉันไม่ว่างนะ ไม่ต้องโทร.หาฉัน” เธอตัดบทและตัดสายรวดเร็วจนฉัตรชัยงุนงงตามไม่ทัน

ครั้นบัวกลับออกมาจากห้องน้ำถามการ์ตูนว่าใครโทร.มา เธอก็โกหกว่าฝ่ายการเงินที่บริษัทโทร.มาถาม เรื่องบัญชีนิดหน่อย บัวสังเกตเวลาพูดเพื่อนไม่ค่อยจะยอมสบตา

“แกเป็นอะไรรึเปล่า ฉันว่าแกดูแปลกๆ”

“แปลกอะไร ฉันก็เหมือนเดิม แกใช้ห้องน้ำเสร็จแล้วใช่มั้ย” การ์ตูนลุกหนีเข้าห้องน้ำ เน้นย้ำกับตัวเองหน้าเศร้าสลด “ไม่...เราต้องไม่รู้สึกอะไรกับเขา เราต้องลืมเขา...เราต้องลืมเขา”

ooooooo

No comments:

Post a Comment