Tuesday, September 20, 2011

เรื่องย่ กลรักลวงใจ ตอน10 ละครช่อง3





เรื่่องย่อละคร กลรักลวงใจ
ละคร กลรักลวงใจ ตอน1 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน2 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน3 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน4 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน5 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน6 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน7 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน8 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน9 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน10 ช่อง3
ละคร กลรักลวงใจ ตอน711ช่อง3

ตอนที่ 10

เลิกงานเย็นนั้นรัญเดินผ่านร้านดอกไม้ที่บัวเคยซื้อให้เขาในช่วงแรกๆที่เจอกัน ทำให้อดคิดถึงเธอขึ้นมาอีกไม่ได้ รัญเดินเหงาหงอยไปตามทาง คิดถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ได้ใกล้ชิดบัว ซึ่งเขายอมรับว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขเหลือเกิน...

ข้างฝ่ายเพชรที่กำลังตกหลุมรักรินลดาเข้าเต็มเปา เขาเกาะติดเธอแจ ขนาดเธอไปเรียนเขาก็ยังอุตส่าห์ไปนั่งรอ นานเข้าก็เผลอหลับ จนกระทั่งเธอเรียนเสร็จกลับออกมาเจอ เลยใจอ่อนยอมไปเดินเล่นกับเขาในเมือง

รัญกลับถึงบ้านเจออ้อมกำลังบ่นเรื่องอาหารการกิน หาว่าบัวระวงไม่ทำกับข้าว แต่พอรู้จากรัญว่าบัวไปจากที่นี่แล้ว อ้อมถึงกับหูผึ่งตาพอง

“หมายความว่าเขาจะกลับไม่กลับมาที่นี่แล้วหรือคะ”

“ใช่ ผมซื้ออาหารมา ทานด้วยกันสิ”

“ขอบคุณค่ะ งั้นอ้อมช่วย”

ขณะช่วยรัญแกะอาหารใส่จาน อ้อมเลียบเคียงถามเพื่อให้แน่ใจว่าเขาเลิกกับบัวระวงจริงหรือ แล้วทำไมถึงเลิกกัน ซึ่งรัญตอบสั้นๆว่า เราไปด้วยกันไม่ได้

“ถ้างั้นอ้อมว่าเราออกไปหาอะไรทานข้างนอกกันดีมั้ยคะ ทานในบ้านพี่รัญจะเบื่อเปล่าๆ”

“อย่าเลย ผมซื้ออาหารมาแล้ว”

“เก็บไว้ทานพรุ่งนี้ก็ได้นี่คะ ไปค่ะ”

“แต่ผมว่า...”

“เชื่ออ้อมเถอะค่ะ ถ้าอยู่บ้านพี่รัญก็จะซึมเศร้าเปล่าๆ ออกไปดูแสงสีข้างนอกดีกว่าค่ะ โลกนี้ยังสดใสอยู่นะคะพี่รัญ”

“ก็ดีเหมือนกัน”

“งั้นพี่รัญรออ้อมเดี๋ยวนะคะ ขออ้อมเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อย” อ้อมยิ้มระรื่นวิ่งขึ้นไปข้างบน

เมื่อถึงร้านอาหาร อ้อมพยายามทำคะแนนชวนรัญพูดคุยไม่หยุด โดยเน้นหนักเรื่องที่เธออยากจะเรียนทำอาหารยุโรปเผื่อเอาไว้วันหนึ่งแต่งงานจะได้ทำให้แฟนกิน...พูดแล้วก็ทำเอียงอาย ถามเขาว่า

“พี่รัญคิดว่าอย่างอ้อมจะมีแฟนกับเขาไหมคะ”

“มีสิ ทำไมถึงพูดอย่างงั้น”

“บางทีอ้อมก็คิดว่าอ้อมเกิดมาอาภัพผู้ชาย รักใครชอบใครก็ไม่สมหวัง” เธอแอบตัดพ้อเขา

“คงไม่ใช่อย่างงั้นหรอก เพราะคุณอ้อมเองก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย อาจจะยังไม่เจอคนที่ถูกใจมากกว่า”

“แล้วทำไมพี่รัญถึงไม่ชอบอ้อม บอกอ้อมตรงๆนะคะ อ้อมจะได้รู้ตัวเอง”

“เอ่อ...ไม่ใช่ว่าพี่ไม่ชอบนะ เพียงแต่พี่มีแฟนอยู่แล้ว”

“แต่ตอนนี้พี่รัญไม่มีใครแล้วนี่คะ”

อ้อมจับมือเขา โปรยยิ้มสื่อความในใจ รัญมองหน้าเธอแล้วชะงักเหลือบเห็นบัวเดินเข้ามากับฉัตรชัย อ้อมแปลกใจหันมองแล้วครางชื่อบัวระวงออกมา

ฉัตรชัยเดินมาหยุดทักทายรัญกับอ้อมโดยที่บัวยืนอยู่ข้างๆเขา อ้อมมองเหยียดบัวก่อนเบนสายตามาที่ฉัตรชัย

“ไม่ยักรู้ว่าคุณฉัตรชัยรู้จักบัวระวงด้วย”

“ไม่เห็นน่าแปลกใจเลยค่ะ” บัวพูดเสียงเรียบ

“แหม...บัวระวง เธอนี่ไวจริงๆนะ เลิกกับพี่รัญเมื่อเช้า ตกค่ำก็ควงหนุ่มมากินข้าวแล้ว”

“ช่วยไม่ได้ค่ะ ฉันไม่มีพันธะกับใคร ฉะนั้นจะไปไหนกับใครก็ได้ ขอตัวก่อนนะคะคุณอ้อม”

“แล้วเจอกันครับคุณรัญ” ฉัตรชัยเดินตามบัวออกไปนั่งโต๊ะไม่ไกลกันนักกับรัญ สองฝ่ายจึงมองเห็นกันตลอด เห็นบัวยิ้มแย้มกับฉัตรชัย รัญก็ยิ่งเศร้า

“อย่าไปเสียใจเลยค่ะ ในที่สุดเขาก็เปิดเผยตัวตนให้พี่รัญเห็นแล้ว”

“พี่ว่าเรากลับดีกว่า”

“ไม่ได้นะคะพี่รัญ ถ้าพี่รัญลุกออกจากตรงนี้ไป บัวระวงจะคิดว่าพี่รัญยังแคร์เขาอยู่ อ้อมว่าพี่รัญนั่งทานต่อไปเถอะค่ะ อย่าไปสนใจเขาเลย”

“ถูกของคุณ”

ฝ่ายบัวพอเห็นอ้อมเอาใจตักอาหารให้รัญ ก็หน้าสลดแอบเจ็บปวดใจ ฉัตรชัยมองออกถามอย่างเห็นใจว่า

“ถ้าคุณไม่สบายใจ เราไปกินร้านอื่นมั้ย”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่มีอะไร”

“ผมดูสายตาคุณรัญ ผมว่าเขายังแคร์คุณอยู่นะครับ”

“คงไม่มากหรอกค่ะ เพราะถ้าเขาแคร์ เขาคงไม่ควงผู้หญิงอื่นมากินข้าวหรอก ฉันว่าเราสั่งอาหารดีกว่าค่ะ”

บัวเปิดเมนูแต่ยังแอบเหลือบมองรัญ พอเห็นรัญมองมาเธอก็แกล้งชวนฉัตรชัยคุยหัวเราะเพื่อเป็นการประชด รัญไม่พอใจอย่างแรง

ครู่ต่อมา บัวไปเข้าห้องน้ำ ตอนกลับออกมาไม่คิดว่าจะเจอรัญ ต่างคนต่างชะงักมองจ้องกันนิ่ง ก่อนที่รัญจะเป็นฝ่ายทักเธอ

“ผมนึกว่าคุณกลับเมืองไทยไปแล้วซะอีก”

“ตอนแรกก็คิดอย่างงั้นแหละค่ะ เผอิญเจอคุณฉัตรชัยเขาชวนอยู่เที่ยวต่อ ก็เลยอยู่เที่ยวกับเขา”

“เขาคงจ่ายคุณเยอะสิ คุณถึงยอมอยู่ด้วย”

“ตอนแรกเขาก็ถามเหมือนกัน แต่บัวบอกเขาว่าถ้าบัวพอใจก็ไม่ต้องจ่าย” บัวขยับจะไป รัญคว้ามือ

“เดี๋ยวบัว ผมไม่อยากให้คุณทำแบบนี้เพื่อประชดผมนะ”

“คุณคิดว่าบัวผิดหวังจากคุณก็เลยประชดชีวิตงั้นหรือ เสียใจด้วยนะคะ บัวไม่ทำอย่างงั้นแน่ ปล่อยมือบัวเถอะค่ะ”

รัญจำต้องปล่อยเธอไป แล้วกำมือทุบกำแพงด้วยความเจ็บใจระคนหึงหวง

ooooooo

หลังจากพากันเดินเที่ยวเล่นจนเมื่อย เพชรก็ตามมาส่งรินลดาที่บ้าน และตั้งใจอยู่เป็นเพื่อนเธอก่อนเพราะที่บ้านยังไม่มีใครกลับมาเลย

เห็นรินลดาคว้าหนังสือเรียนมาเปิด เพชรมองเธออย่างชื่นชม

“คุณนี่ท่าทางจะชอบเรียนหนังสือนะ ผิดกับคุณอ้อมดูสนใจแต่เรื่องแต่งตัวกับช็อปปิ้ง”

“แต่คุณก็ชอบเขานี่”

“ใครบอก ที่ผมทำเพราะจำเป็น”

“จำเป็นอะไร ทำยังกะมีใครบังคับให้คุณชอบเขา”

“เปล่าหรอก ผมจะบอกว่าจริงๆแล้วผมชอบคุณต่างหาก”

“คุณบอกฉันหลายครั้งแล้ว”

“ก็ผมอยากให้คุณเชื่อใจผม”

“ก็ได้ งั้นคุณต้องสัญญาก่อนว่าคุณจะเลิกยุ่งไม่ไปไหนกับพี่อ้อม”

“รับรอง จากนี้ไปคุณจะไม่เห็นผมเดินเฉียดเข้าไปใกล้คุณอ้อมอีกเลย”

“ดีมาก”

“ให้ผมหอมทีได้มั้ย” เพชรทำกรุ้มกริ่มใส่ แต่สาวเจ้าปฏิเสธเสียงแข็ง จังหวะนี้เองอ้อมกับรัญกลับมาพอดี รัญมองเพื่อนรักอย่างระแวงระวังกลัวเขาจะมาเกาะแกะน้องของตน

“ไอ้เพชร แกมาทำอะไรกับน้องฉัน”

“เปล่า ฉันเพิ่งมาก่อนหน้าแกแค่ห้านาที พอดีเห็นน้องรินอยู่คนเดียวก็เลยอยู่เป็นเพื่อน”

“นี่พี่รัญกับพี่อ้อมไปด้วยกันหรือคะ” รินลดาท่าทีดีใจ

“ใช่จ้ะ พี่กับพี่รัญเพิ่งไปดินเนอร์มา”

“อ้าว แล้วบัวระวงล่ะ”

“เธอยังไม่รู้หรือ เขาเลิกกับพี่รัญแล้ว”

“จริงหรือคะพี่รัญ”

รัญตอบรับสั้นๆ แล้วหันมาชวนเพชรออกไปคุยกันข้างนอก พอสองหนุ่มลับกายไปแล้ว อ้อมก็บอกเล่าใส่ไคล้บัวให้รินลดาฟังว่า

“พี่ไปเจอยัยบัวระวงควงมากับผู้ชาย นังนี่มันสำส่อนจริงๆ เลิกกับพี่ชายเธอปั๊บก็ควงผู้ชายอื่นมากินข้าวทันที”

“แล้วพี่รัญว่าไงคะ”

“จะว่าไง น้ำตาซึมน่ะสิ พี่เลยต้องคอยปลอบใจ”

“งั้นก็เป็นโอกาสดีของพี่แล้วสิ”

“ใช่ คืนนี้เธอนอนคนเดียวนะ พี่จะไปนอนกับพี่รัญ” ว่าแล้วอ้อมก็เดินยิ้มหวานขึ้นไปข้างบน ส่วนรินลดาก็ยิ้มหน้าบานด้วยความดีใจ

“ในที่สุดทุกอย่างก็ลงตัว เราจะได้เรียนหนังสือที่นี่อย่างถาวร...ไชโย”

ด้านสองหนุ่มที่ถนนหน้าบ้าน รัญไม่ทันจะพูดอะไร เพชรก็เป็นฝ่ายถามขึ้นก่อนว่า แน่ใจแล้วหรือที่เลิกกับบัว

“ที่จริงฉันก็เสียดายนะ ฉันไม่ได้อยากเลิกกับเธอหรอก”

“ไม่อยากเลิกแล้วทำไมปล่อยให้เธอไป”

“เธอต้องการให้ฉันแต่งงานด้วย แต่แกก็รู้มันเป็นไปไม่ได้”

“แต่ถ้าแกรักบัวจริง แกก็อย่าไปถือเรื่องที่เธอเป็นใคร มีอาชีพอะไร แกเองก็บอกว่าเธอเป็นคนดี อยู่กับเธอแล้วมีความสุขไม่ใช่หรือ ฉันว่าผู้ชายเราไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้นะ”

“ใช่ ฉันไม่เถียงแกหรอก ถ้าฉันไม่ได้ทำงานในตำแหน่งนี้ ป่านนี้ฉันแต่งงานกับเธอไปแล้ว”

“งั้นฉันว่าเอาอย่างนี้ แกลาออกจากงานซะ หรือไม่ก็ขอย้ายแผนก ไม่ต้องเป็นแล้วทูตเทิด”

“แต่แกก็รู้ว่าอาชีพนี้คือความฝันของฉัน แล้วอีกไม่ช้าความฝันของฉันก็กำลังจะเป็นจริง”

เพชรมองรัญอย่างเห็นใจ “ถ้าอย่างงั้นแกก็ต้องถามหัวใจตัวเองแล้วล่ะว่าอะไรสำคัญสำหรับแกมากกว่ากัน”

“ทำไมเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นกับฉัน ทำไมฉันไม่เจอบัวระวงในคราบที่เป็นผู้หญิงธรรมดาคนนึง”

“ก็ฉันบอกแกแล้วไงว่ายัยบัวมัน...” เพชรชะงัก นึกถึงคำพูดน้องสาวที่ว่า ถ้าพี่รัญจะรักบัวเพราะบัวมีเงิน บัวก็คงไม่ต้องการ

“ทำไมแกเงียบไปวะ” รัญแปลกใจ

“ไม่มีอะไร แต่ฉันอยากให้แกคิดให้ดีถามใจตัวเองว่าแกรักบัวเพราะอะไร ฉันไปล่ะ” เพชรตบไหล่รัญแล้วผละไป ทิ้งรัญยืนหน้าเครียดคิดไม่ตก...
ขณะเดียวกัน บัวนอนเหม่ออยู่บนเตียงในห้องพัก การ์ตูนออกจากห้องน้ำมาเห็น เกิดอยากรู้ความเป็นไปของบัวกับฉัตรชัยที่ไปกินข้าวกัน จึงเลียบๆเคียงๆถามซอกแซกจนบัวรู้สึกทะแม่ง
“แกเป็นอะไรวะ ซักฉันเรื่องนายฉัตรชัยอยู่เรื่อย หรือว่าแกชอบเขา”
“เปล่า...เปล่านะ ฉันก็แค่อยากให้แกมองคนอื่นดูบ้าง จะได้ไม่เสียใจอยู่กับเรื่องพี่รัญ”
บัวถอนใจเมื่อนึกถึงรัญ ทันใดเพชรเคาะประตูเปิดแง้มเข้ามาบอกบัวว่า
“เมื่อกี้พี่คุยกับรัญ พี่ว่าแกคงต้องกลับบ้านจริงๆแล้วล่ะ”
บัวน้ำตาซึมฉับพลัน ขณะที่การ์ตูนยังซักเพชรอีกว่า
“เขาไม่เลือกที่จะรักไอ้บัวจริงๆหรือ”
“ใช่...ลืมไอ้รัญมันซะเถอะบัว คิดซะว่าแกไม่ใช่เนื้อคู่มัน” เพชรทิ้งท้ายแล้วกลับออกไปด้วยความสงสารเห็นใจน้อง...บัวน้ำตาไหลพราก คร่ำครวญน่าเวทนา
“ฉันไม่น่ามาที่นี่เลยตูน...ฉันไม่น่ามาที่นี่เลย ฉันเพียงแต่คิดว่าเขาจะรักฉันได้...ไม่น่าเลย...ไม่น่ามาเลย...ฉันไม่น่ารักเขาเลย”
บัวผิดหวังร้าวรานใจ สะอึกสะอื้นโผเข้ากอดการ์ตูนแน่น...
ooooooo
คืนนั้น รินลดารีบสื่อสารส่งข่าวดีไปยังแม่ที่เมืองไทย ย้ำหนักแน่นว่าบัวระวงเลิกกับพี่รัญแล้วพันเปอร์เซ็นต์ เก็บเสื้อผ้าไปหมดเกลี้ยง
“แม่ค่อยโล่งอกหน่อย แล้วหนูอ้อมล่ะ”
“หนูอยู่นี่ค่ะ คุณหญิงแม่” อ้อมแทรกเข้ามาแทนรินลดา
“คอนเกทจูเลชั่นนะจ๊ะ”
“อย่าเพิ่งเลยค่ะคุณหญิงแม่ ไม่รู้ว่าพี่รัญจะเปลี่ยนใจรึเปล่า”
“ก็อยู่ที่หนูแหละจ้ะ หนูต้องใช้เสน่ห์ทุกอย่างมัดพี่รัญไม่ให้เปลี่ยนใจ”
“ทุกอย่างเลยหรือคะคุณหญิงแม่”
“ถึงตอนนี้หนูอ้อมมีดีอะไรก็งัดออกมาใช้ให้หมด”
“ก็ได้ค่ะ งั้นหนูไปเตรียมตัวก่อนนะคะ” อ้อมส่งต่อให้รินลดาแล้วดี๊ด๊าออกไป
“นี่ยัยรินแกเองก็ต้องคอยประกบยัยอ้อม อย่าให้ไปกับตาเพชรอีกรู้รึเปล่า”
รินลดารับคำแล้วร้องเรียกแม่ไว้ทันก่อนท่านจะตัดสัญญาณ
“เดี๋ยวค่ะแม่ แม่ส่งเงินให้หนูหน่อยสิคะ เงินหนูหมดแล้ว”
“แกก็ขอพี่แกใช้ไปก่อน แม่ยุ่งๆอยู่”
“แต่หนูขอไปเยอะแล้วนะคะ”
“เออ เงินตารัญก็เหมือนเงินแม่ แค่นี้นะ” รมณีย์ตัดสัญญาณฉับหายวับไป ลูกสาวถึงกับถอนใจอย่างสุดเซ็ง
อ้อมฉีดน้ำหอมทั้งตัวก่อนเข้ามาเตรียมน้ำอุ่นให้รัญอาบ แถมยังเตรียมชุดนอนไว้ให้ด้วย รัญเข้ามาเจอก็ชะงัก บอกให้อ้อมไปนอนเถอะ เดี๋ยวตนจัดการทุกอย่างเอง
“อ้อมยังไม่ง่วงค่ะ มีเรื่องอยากคุยกับพี่รัญตั้งเยอะพี่รัญไปอาบน้ำเถอะค่ะ เดี๋ยวอ้อมจะอ่านหนังสือรอ”
“ไว้พรุ่งนี้ไม่ดีกว่าหรือ นี่มันดึกแล้วนะ”
“พี่รัญรังเกียจไม่อยากคุยกับอ้อมหรือคะ”
“พี่ไม่ได้รังเกียจหรอกนะ เพียงแต่...”
“ถ้าไม่รังเกียจ ก็ให้อ้อมทำหน้าที่แทนบัวระวงสิคะ”
“แต่พี่ว่ามันจะไม่ดีนะ”
“ไม่ดียังไงคะ อ้อมก็เป็นผู้หญิงเหมือนบัวระวงนะ หรือว่าบัวระวงมีอะไรดีกว่าอ้อมคะ” อ้อมไม่พูดเปล่า เธอถอดเสื้อคลุมชุดนอนออกจากตัว รัญตกใจหันหลังให้ทันที
“พี่ว่าอ้อมอย่าทำอย่างนี้เลย”
อ้อมฟังซะที่ไหน เดินเข้ามากอดออดอ้อนเขา “อ้อมรักพี่รัญนะคะ อ้อมอาจจะมาทีหลังบัวระวง แต่อ้อมก็รักพี่รัญไม่น้อยไปกว่าผู้หญิงคนนั้น...นะคะ ให้โอกาสอ้อมได้พิสูจน์ตัวเอง”
อ้อมเชิญชวนและจู่โจมกอดจูบรัญไปบนเตียง รัญเหมือนจะเคลิ้มกับสัมผัสนั้น แต่ครู่เดียวเขาก็ชะงักแล้วผละออก
“มีอะไรหรือคะ”
“พี่ขอโทษ ขอเวลาให้พี่ซักนิด ให้เรารู้จักกันมากกว่านี้ พี่อยากให้เราเริ่มต้นกันที่ความรักมากกว่าเรื่องนี้”
อ้อมลังเลเล็กน้อยก่อนรับคำอย่างจำใจ “ก็ได้ค่ะ ฝันดีนะคะ” แล้วคว้าเสื้อคลุมมาสวมเดินออกไป รัญทิ้งตัวลงนอน พึมพำหน้าเคร่ง “ทำไมเราถึงไม่รู้สึกกับเธอเหมือนบัวระวง”
ooooooo
เช้าวันรุ่งขึ้น บัวกับการ์ตูนออกจากห้องพักในโรงแรมมาดื่มกาแฟ การ์ตูนสังเกตสีหน้าบัวเศร้าหมองไม่แจ่มใสก็พยายามหาเรื่องคุยเพื่อผ่อนคลาย แต่บางคำพูดกลับทำให้บัวยิ่งเศร้าหนักขึ้นไปอีก
“ฉันว่าก่อนกลับเมืองไทย เราไปช็อปปิ้งกันมั้ย ซื้อให้กระจุยเลยให้สมกับที่เราผิดหวัง...เอ่อ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้เจตนาจะพูดสะกิดใจแก”
“ฉันคงต้องใช้เวลาซักพักกว่าจะลืมพี่รัญได้”
“ถ้ามีคนใหม่เข้ามาเมื่อไหร่ แกก็ลืมคนเก่าได้เอง” พูดไม่ทันขาดคำ ฉัตรชัยเดินเข้ามาสวัสดีสองสาวแล้วลงนั่งร่วมโต๊ะ เขายิ้มให้การ์ตูน แต่สาวเจ้ากลับทำเมินเฉยซะงั้น
“ไปไหนมาแต่เช้าคะ” บัวเอ่ย
“ตั้งใจมาชวนคุณบัวกับคุณตูนไปช็อปปิ้งน่ะครับ”
“ดีเลยค่ะ ตูนเพิ่งชวนบัวอยู่เมื่อกี้”
“งั้นทานเสร็จก็ไปเลยนะครับ”
“ฉันขอตัวแล้วกัน” การ์ตูนพูดพรวด พอบัวถามว่าทำไมล่ะ เธอก็อ้างว่า “ลืมไปว่าฉันต้องไปซื้อของฝากเด็กที่ออฟฟิศกับพี่เพชร”
“ไปซื้อแอร์พอร์ตก็ทัน ไปช็อปปิ้งก่อนเถอะ”
“นั่นสิครับ หรือไม่พรุ่งนี้เช้าเราค่อยไปซื้อก็ได้”
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณไปกับบัวเถอะ ฉันขอตัวก่อนนะ ต้องไปปลุกพี่เพชรก่อน”
การ์ตูนลุกออกไป บัวมองตามอย่างงงๆ บ่นกับฉัตรชัยว่าวันสองวันมานี้ตูนเป็นอะไรก็ไม่รู้ ดูแปลกๆ ฉัตรชัยไม่พูดอะไรแต่ก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน ส่วนการ์ตูนที่เดินลับไป เธอยังไม่ได้กลับเข้าโรงแรมแต่ซุ่มแอบมองมายังบัวกับฉัตรชัยหน้าละห้อย
“จะว่าไปเขาก็สมกับไอ้บัวมากกว่าเรา” การ์ตูนพูดพึมพำเหมือนจะถอดใจ...
เวลาเดียวกันนั้นที่บ้านรัญ อ้อมพยายามเอาใจรัญสุดๆ ด้วยการตื่นแต่เช้ามาเตรียมอาหาร
“พี่รัญคะ นั่งเลยค่ะ...นี่ค่ะ กาแฟกับขนมปัง”
“ช่วยปิ้งให้พี่ด้วยได้มั้ย”
“อุ๊ย อ้อมลืมไปซะสนิทว่าพี่รัญทานขนมปังปิ้งเกรียมๆ รอซักครู่นะคะ แล้วพี่รัญทานแยมอะไรนะคะ”
“แอปปริคอท”
“อ้อ ใช่ค่ะ แล้วไข่ดาวสุกหรือไม่สุกคะ”
“ไม่เป็นไร พี่ทำเองดีกว่า”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ให้อ้อมดูแลพี่รัญเถอะนะคะ ใหม่ๆก็อาจจะขลุกขลักบ้างนะคะ”
อ้อมหันไปตั้งกระทะจะทอดไข่ รัญยกกาแฟดื่มแล้วชะงัก เพราะรสชาติจืดสนิท แต่เขาไม่พูดอะไร ปั้นยิ้มให้เมื่อเธอหันมามอง จากนั้นเขาหยิบหนังสือพิมพ์อ่าน ไม่ทันไรได้ยินเสียงอ้อมวี้ดว้ายตกใจ
“มีอะไร” รัญร้องถาม
“อ้อมทำไข่ตกพื้นน่ะค่ะ แตกเละไปหมดเลย ไม้ถูบ้านอยู่ไหนคะ”
“อยู่ในตู้หลังบ้าน” รัญส่ายหน้าเอือมๆ
อ้อมวิ่งออกไปหลังบ้าน รัญได้กลิ่นเหม็นไหม้โชยมา ลุกไปดูปรากฏว่าเป็นขนมปังไหม้ดำปี๋ อ้อมวิ่งกลับเข้ามาพร้อมไม้ถูพื้น ร้องลั่นด้วยความตกใจ
“ว้าย ขนมปังไหม้หรือคะ เดี๋ยวอ้อมปิ้งให้ใหม่ค่ะ”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่รีบไป พี่มีประชุมแต่เช้า”
“แต่อ้อมทำแป๊บเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ พี่รัญรอเดี๋ยวเถอะค่ะ”
“ไม่เป็นไร พี่ไปกินข้างนอกดีกว่า”
รัญเดินออก เป็นจังหวะที่รินลดาเดินลงมาจากชั้นบน “นี่กลิ่นอะไรไหม้เนี่ย”
“ขนมปัง...นี่เธอมาก็ดีแล้ว ช่วยพี่ล้างครัวหน่อยเถอะ ไข่แตกเละไปหมดแล้ว”
“สงสัยจะไม่ได้หรอกค่ะ รินนัดกับอาจารย์ไว้ตอนเช้า ขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยว...ยัยริน”
“ไม่ได้จริงๆค่ะ พี่อ้อมหัดทำไปก่อนนะคะ” รินลดาชิิ่งหนีอย่างรวดเร็ว อ้อมเลยได้แต่ยืนเกาหัวแกรกๆ บ่นอุบด้วยความขี้เกียจ...
ออกจากบ้านเดินผ่านร้านอาหารเห็นพี่ชายนั่งกินอยู่ข้างใน รินลดาจึงแวะเข้าไปหา
“อ้าวพี่รัญ ทำไมเช้านี้มาทานข้างนอกล่ะคะ อ๋อ พี่อ้อมทำขนมปังไหม้ใช่มั้ย”
“อืม แล้วรินกินอะไรรึยัง ถ้ายังไม่กินมากินด้วยกันสิ”
รินลดาลงนั่งสั่งอาหาร เสร็จแล้วหันกลับมาคุยกับพี่ชาย
“จะว่าไปพี่อ้อมเนี่ยทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง สู้บัวระวงไม่ได้เลยนะคะ แล้วทำไมพี่รัญถึงเลิกกับเขาล่ะคะ รินนึกว่าพี่รัญรักเขาซะอีก นี่ถ้าไม่ติดว่าแม่อยากให้พี่รัญแต่งกับพี่อ้อมล่ะก็ รินก็ชักจะชอบยัยบัวระวงเหมือนกันนะ”
“จริงหรือ”
“จริงสิคะ เขาดูเป็นแม่บ้านแม่เรือน ดูแลเอาใจใส่พี่รัญ เลิกกันแบบนี้เขาไม่เสียใจแย่หรือ”
“เขาคงไม่เสียใจหรอก”
“ทำไมคะ รินว่าท่าทางเขารักพี่รัญมากนะ รินเคยไปซื้อของกับเขา  เขาจำได้หมดว่าพี่รัญชอบอะไรไม่ชอบอะไร แถมจำได้ด้วยว่ารินชอบกินช็อกโกแลต ผิดกับพี่อ้อมจำได้แต่เรื่องตัวเอง”
“พูดไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะถึงยังไงเขาก็คงไม่กลับมาหาพี่...เอ้านี่ตังค์ รินจ่ายนะ พี่ไปก่อนล่ะ”
รินลดามองตามพี่ชาย คาดหวังกับตัวเองว่า พี่อ้อมจะรักษาแผลใจให้พี่รัญได้
ooooooo
ด้านบัวกับฉัตรชัยที่ตกลงไปช็อปปิ้งกัน ฉัตรชัยเพิ่งนึกได้ว่าว่าตนมีธุระที่สถานทูต ท่านทูตจะฝากของให้พ่อ จึงบอกบัวให้เดินเล่นรอก่อนสักครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยกลับมาเจอกัน
“ไปด้วยกันก็ได้ค่ะ คุณจะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา”
“แต่คุณอาจจะต้องเจอคุณรัญนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ บัวกับเขาไม่มีอะไรกันแล้ว”
“งั้นก็ไปครับ”
เมื่อเข้ามาในสถานทูตเจอภาดา บัวยกมือไหว้ภาดาก่อนบอกฉัตรชัยว่าเธอขอรออยู่ตรงนี้ ฉัตรชัยจึงเดินตามภาดาไปพบท่านทูตที่ห้อง
“สวัสดีครับคุณอา”
“หวัดดีฉัตรชัย นี่ฝากไปให้พ่อเราด้วย”
“ขอบคุณครับ”
“แล้วเป็นไง เจอเจ้าสาวที่หนีมารึยัง”
“เจอแล้วครับ”
“แล้วปรับความเข้าใจกันรึยัง”
“ได้คุยกันแล้วครับ ผมคงไม่แต่งกับเธอแล้ว”
“อ้าว ทำไมล่ะ ไหนตอนแรกที่มาบอกว่าต้องตามหาตัวให้เจอให้ได้”
“พอดีผมเจอคนที่ผมชอบจริงๆแล้วครับ”
“อะไรกัน มาไม่กี่วันเจอแฟนใหม่แล้วหรือ เรานี่มันเจ้าชู้จริงๆ”
“ไม่ได้เจ้าชู้หรอกครับ ก่อนหน้านี้ผมแค่อยากตามใจพ่อแม่”
“เอา...ยังไงอาก็ดีใจด้วย”
“ขอบคุณครับ”
ที่ห้องรับแขก บัวนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ฆ่าเวลา ป้าไหมเอาน้ำเข้ามาเสิร์ฟและซักถามเพราะนึกว่าบัวมารอพบรัญ แต่บัวบอกมาธุระ แล้วตัดบทอย่างไม่ค่อยพอใจนักกับอาการซักไซ้ไล่เลียงของป้าไหม
เมื่อป้าไหมกลับออกไปแล้ว รัญโผล่เข้ามาอีกทาง เห็นบัวก็แอบดีใจนึกว่าเธอมาหา แต่พอเอ่ยปากถามเธอกลับบอกว่าเปล่า ทั้งยังทำท่าทีหมางเมินใส่
“แล้วคุณมาสถานทูตทำไม”
บัวไม่ทันจะตอบ...ฉัตรชัยเดินออกมากับท่านทูต ฉัตรชัยเข้ามาทักรัญและแสดงความยินดีล่วงหน้าที่ปลายปีนี้เขาจะได้ขึ้นเป็นท่านทูตคนใหม่ จากนั้นฉัตรชัยก็แนะนำบัวต่อท่านทูต โดยบอกว่าเธอเป็นเพื่อนของตน
“มาเรียนหรือว่ามาเที่ยวครับ” ท่านทูตถามบัว
“มาทำงานค่ะ”
“ทำเกี่ยวกับอะไรครับ”
“ขายบริการน่ะค่ะ” บัวตอบเรียบๆ แต่มันจี๊ดใจรัญอย่างที่สุด
“เป็นพวกเซลส์หรือ” ท่านทูตซัก
“ก็ทำนองนั้นแหละค่ะ”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ พอดีผมกับคุณบัวจะไปช็อปปิ้งกันน่ะครับ”
“งั้นเชิญตามสบาย อ้อ เย็นนี้ว่างมั้ย มากินข้าวกับอาสิ”
“พรุ่งนี้ได้ไหมครับ วันนี้ผมมีนัดกับคุณบัวแล้ว”
“ว่าจะไปทานอาหารที่ร้านบนเขากันน่ะค่ะ เห็นเขาว่าบรรยากาศมันโรแมนติกมาก” บัวจงใจขยายเพื่อประชดรัญ
ได้ผล! รัญหน้าเครียดขึ้นทันที มองตามบัวควงแขนฉัตรชัยออกไปด้วยความหึงหวง...ท่านทูตไม่รู้อะไรหันมาพูดกับรัญว่า
“แฟนฉัตรชัยเขาน่ารักดีนะ คุณเองก็อย่าช้านะ”
รัญยืนอึ้งเหมือนถูกชกเข้าแสกหน้า แถมป้าไหมกับภาดายังเข้ามาซักไซ้ตอกย้ำให้เครียดยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากท่านทูตผละไปแล้ว
“นี่น้องรัญ ทำไมน้องบัวถึงได้ไปกับคุณฉัตรชัย”
“นั่นน่ะสิคะ เลิกกันแล้วหรือคะ ป้านึกแล้วว่าต้องไปด้วยกันไม่รอด”
“แล้วทำไมอยู่ๆถึงเลิกกัน เสียดายนะน้องบัวออกจะน่ารัก”
“ขอตัวนะครับ พอดีผมมีธุระ” รัญตัดบทเดินหนีไป... ป้าไหมไม่เชื่อ บอกภาดาว่าสงสัยจะตามไปดูแฟนเก่าเสียมากกว่า
ooooooo
จริงดังคำป้าไหม รัญแอบตามบัวกับฉัตรชัยที่ไปเดินซื้อของและแวะถ่ายรูปกันตามสถานที่สวยงามต่างๆ ยิ่งเห็นรัญก็ยิ่งเศร้าหมอง บอกตัวเองว่า
“นี่เราเป็นอะไร เรามาตามดูเขาทำไม เธออยากจะทำอะไรมันก็เป็นสิทธิ์ของเธอ”
รัญตัดใจหันเดินไปอีกทาง แต่เดินมาสองก้าวก็ชะงักหันกลับไปมองทั้งคู่อีก เห็นพวกเขายิ้มหัวเราะกันก็ยิ่งเจ็บ...
ด้านคู่รักคู่ใหม่อย่างเพชรกับรินลดา พวกเขากำลังมีความสุข เดินจูงมือกันเที่ยวเล่น รินลดาเริ่มไว้วางใจเขามากขึ้น แต่พอเขาจะให้บอกรัก เธอกลับขัดเขินไม่กล้าพูด
“คุณยังไม่เคยบอกรักผมเลยนะ บอกรักผมหน่อยสิ”
“ก็บอกแล้วไงว่าต้องดูความประพฤติคุณก่อน”
“นี่ผมก็ประพฤติดีมาตลอด ทำตามที่คุณสอนคุณสั่งแล้วนะ บอกรักผมซักนิด ผมจะได้ตายตาหลับ”
“คุณนี่เว่อร์จริงๆ”
“ไม่ได้เว่อร์นะ พูดจริงๆ บอกหน่อย บอกแค่ว่ารักผมก็พอแล้ว”
รินลดาเอียงอาย กระซิบเบาๆ “ฉันรักคุณ” แต่เพชรบอกไม่ได้ยิน ขอดังอีกหน่อย สาวเจ้าก็เลยตะโกนใส่หูซะเขาสะดุ้งโหยง
ooooooo
มืดแล้ว รัญกลับบ้านอย่างหงอยเหงา มองไปที่โต๊ะอาหารตาฝาดเห็นบัวกำลังจุดเทียน ทั้งๆที่เป็นอ้อมต่างหาก อ้อมอยู่ในชุดเซ็กซี่ เธอตั้งใจสร้างบรรยากาศโรแมนติกทานข้าวใต้แสงเทียนกับเขาสองต่อสอง
“เชิญค่ะพี่รัญ” อ้อมเดินมาจูงมือรัญ “วันนี้อ้อมทำอาหารให้พี่รัญค่ะ”
“นี่คุณอ้อมทำเองหมดเลยหรือครับ”
“อ้อมทำแค่สลัดผักน่ะค่ะ ส่วนอาหารอื่นอ้อมซื้อสำเร็จรูปมา กลัวว่าทำแล้วจะไม่ถูกปากพี่รัญ พี่รัญทานเลยนะคะ อ้อมจะอุ่นให้จะได้ร้อนๆ”
อ้อมจัดการทุกอย่างอย่างรวดเร็ว แล้วตักอาหารป้อนให้รัญชิม ถามว่าอร่อยไหม แต่รัญนิ่งเงียบ มัวแต่หวนคิดถึงบัวที่เคยทำแบบนี้ให้กับตน
“พี่รัญคะ พี่รัญ”
รัญสะดุ้งเล็กน้อย “อะไรนะครับ”
“นี่พี่รัญไม่ได้ฟังที่อ้อมพูดเลยหรือคะ พี่รัญกำลังคิดถึงใครอยู่หรือคะ”
“เปล่า พี่กำลังคิดเรื่องงานน่ะ”
“ไม่ได้คิดถึงบัวระวงนะคะ”
“พี่จะไปคิดถึงเขาเรื่องอะไร”
“อ้อมดีใจจังเลยที่พี่รัญลืมเขาได้ซะที” อ้อมลุกมากอด มองสบตาและทำท่าจะจูบ แต่เขาขยับตัวเบี่ยงออก เสหยิบเครื่องดื่มมาจิบ ทำให้อ้อมเก้อไป แต่เธอก็ยังไม่ละความพยายาม เปิดเพลงชวนเขาเต้นรำ
“ไม่ดีกว่า พี่ขอตัวนะ พี่มีงานค้างอยู่”
“เต้นรำแค่เพลงเดียว ไม่เสียเวลามากหรอกค่ะ”
“ขอเป็นวันหลังแล้วกันนะ”
“ก็ได้ค่ะ ไปค่ะ เดี๋ยวอ้อมช่วยถูหลังให้”
“ไม่ต้องหรอก อ้อมทานต่อเถอะ”
“งั้นเดี๋ยวอ้อมเก็บของแล้วอ้อมชงกาแฟขึ้นไปให้นะคะ”
รัญรับคำเบาๆก่อนผละไป ทิ้งอ้อมยืนหงุดหงิดงุ่นง่านไม่ได้ดังใจ “ทำไมซึมเซื่องอย่างนี้ อุตส่าห์ทำโรแมนติกแล้วนะ”
รัญเข้ามาในห้องนอน มองไปรอบๆอย่างคิดถึงบัว เขาต้องพยายามอย่างมากที่จะไล่ความรู้สึกเหล่านี้ทิ้งไป เพราะความจริงเขารักบัวมาก เพียงแต่ยังไม่เคยบอกกับเธอตรงๆก็เท่านั้น
ส่วนอ้อมที่ชั้นล่าง เธอกำลังหนักใจกับถ้วยจานบนโต๊ะมากมายที่จะต้องเก็บล้าง รินลดาเพิ่งกลับมา ทักทายอ้อมเสียงแจ๋ว ท่าทีตื่นเต้น
“หวัดดีค่ะพี่อ้อม นี่จุดเทียนกินข้าวกับพี่รัญหรือคะ”
อ้อมกำลังเซ็ง ตอบรับสั้นๆ รินลดาเหลียวซ้ายแลขวาหาพี่ชาย
“แล้วพี่รัญล่ะ”
“ขึ้นไปข้างบนแล้ว”
“แล้วทำไมพี่อ้อมไม่ตามขึ้นไปล่ะ”
“กำลังจะไปเดี๋ยวนี้ เธอมาก็ดีแล้ว เก็บจานล้างให้พี่ด้วยนะ” อ้อมฉวยโอกาสชิ่งไปพร้อมแก้วกาแฟ รินลดาหน้าบูดบึ้ง บ่นอุบ
“อะไรวะ เราไม่น่ารีบกลับเข้ามาเลย รู้อย่างนี้อยู่ทานไอติมกับคุณเพชรซะก็ดี”
อ้อมขึ้นมาเคาะประตูห้องเรียกรัญ พอรัญเปิดออกมารับกาแฟ อ้อมทำท่าจะเข้าข้างในแต่รัญชิงดักคอเสียก่อนว่า
“พี่มีงานสำคัญ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน พี่ขอตัวนะ” รัญปิดประตูแล้วกดล็อกทันที
“พี่รัญนะพี่รัญ อ้อมชักจะหมดความอดทนแล้วนะ” อ้อมโกรธฟึดฟัด เดินปึงปังกลับไป
ooooooo
ที่เมืองไทย นิภาพรรณบ่นกับมงคลเรื่องที่เพชรหายต๋อมไปอีกคน ทั้งที่บอกว่าจะไปตามบัวกลับบ้าน งานการทางนี้ก็กำลังยุ่ง
บ่นไม่ทันขาดคำ เพชรโทร.เข้ามาที่มือถือแม่ บอกว่าอีกสองวันตนจะกลับเมืองไทยพร้อมบัว พ่อกับแม่ดีใจกันใหญ่ พอวางสายจากลูกชายก็เรียกสาวใช้มาโทร.สั่งโต๊ะจีนกินฉลองกันล่วงหน้า...
ฝ่ายเพชร วางสายจากแม่แล้วก็หันมาถามบัวที่นั่งหน้าเศร้าๆอยู่กับการ์ตูน
“แน่ใจนะว่าจะกลับบ้าน ฉันบอกแม่กับพ่อไปแล้วนะ”
“จริงสิ บัวจะอยู่ทำไม”
“ไม่ใช่ไอ้รัญมันมาง้อแล้วใจอ่อนอยู่ต่อล่ะ”
“เขาไม่มาง้อหรอก ถ้าง้อเขาก็มานานแล้ว”
“อ๋อ นี่ก็รอให้เขามาง้ออยู่เหมือนกันหรือ”
“เปล่า”
“แกนี่ปากแข็ง ฉันรู้น่าว่าแกยังมีใจให้เขาอยู่” การ์ตูนจ้องบัวอย่างรู้ทัน
เสียงออดหน้าห้องดัง เพชรแปลกใจว่าใครมา พอการ์ตูนเดินไปเปิดประตูก็เห็นฉัตรชัยยืนอยู่พร้อมดอกไม้ในมือ
“หวัดดีครับ”
“ฉันบอกแล้วไง ฉันไม่ว่าง”
“เอ่อ...ผมมาหาคุณบัว”
การ์ตูนชะงักหน้าแตก “แล้วก็ไม่บอก เชิญ” พูดเสร็จก็สะบัดหน้าพรืด ฉัตรชัยเข้ามาทักทายเพชร เพชรทักตอบก่อนจะขอตัวเพราะเขากำลังจะออกไปข้างนอกพอดี
บัวซึ่งนัดกับฉัตรชัยไว้บอกให้เขารอเดี๋ยว เธอขอเวลาสักครู่ ครั้นบัวเดินหายเข้าไปข้างใน ฉัตรชัยก็รีบเบนเข็มมาหาการ์ตูนที่ยืนทำหน้าปั้นปึ่งอยู่ ยื่นดอกไม้ให้เธอ
“ผมเห็นมันสวยดีก็เลยซื้อมาฝากคุณ”
“เอามาฝากฉันหรือฝากบัวกันแน่”
“ฝากคุณจริงๆ เมื่อกี้ผมจะให้คุณหน้าประตูแล้ว พอดีคุณเดินหนีมาก่อน”
“ใครจะไปรู้ เห็นคุณบอกมาหาบัว ก็นึกว่าซื้อมาฝากบัว”
“ฝากคุณครับ แล้วหวังว่าวันนี้คุณจะไปด้วยกันนะ”
“ฉันจะไปทำไม ไม่อยากเป็นส่วนเกิน”
“ส่วนเกินอะไรกัน เพื่อนกันทั้งนั้น ไปนะครับ นี่เราจะกลับแล้วนะ จะได้เดินเที่ยวถ่ายรูปด้วยกันหน่อย”
“แต่ฉัน...”
“อย่าทำเป็นเล่นตัวหน่อยเลย” บัวส่งเสียงมาก่อนตัว “วันนี้ร้านเขาเซลส์วันสุดท้ายนะ มัวอิดออดไม่ได้ของอย่ามาบ่นนะ”
“ไปก็ได้” การ์ตูนออกเดิน บัวมองตามหมั่นไส้ หันมาบอกฉัตรชัยว่า “ท่ามากไปอย่างงั้นแหละค่ะ”
ช่วงเวลาที่ออกไปช็อปปิ้งและถ่ายรูปกัน บัวมองออกว่าฉัตรชัยรู้สึกยังไงกับการ์ตูน และเธอก็ดีใจถ้าเพื่อนรักจะคบกับผู้ชายดีๆสักคน แต่เมื่อนึกถึงเรื่องของตัวเอง บัวก็อดเศร้าจนน้ำตาซึมออกมาไม่ได้ การ์ตูนหันมาเห็นตกใจถามบัวว่าร้องไห้ทำไม บัวจึงโกหกว่าฝุ่นเข้าตา
เดินเล่นถ่ายรูปกันพอสมควรแล้ว ทั้งสามจะไปช็อปปิ้งกันต่อ พวกเขาเดินผ่านร้านกาแฟโดยไม่เห็นรัญนั่งอยู่ในนั้น แต่รัญเห็นพวกเขานานแล้ว และรู้สึกหึงหวงบัวเป็นอย่างมาก แอบเดินตามไปห่างๆ พอเห็นบัวเลือกหมวกใส่ให้ฉัตรชัย รัญเจ็บจี๊ดอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่อยากเชื่อเลยว่า เธอจะเป็นผู้หญิงแบบนี้ ตอนอยู่กับเราก็บอกว่ารักเรา”
รัญจ้องเขม็ง รอจังหวะจะเข้าไปหาบัว แต่ก็ยังไม่มีโอกาสสักที จนกระทั่งการ์ตูนแยกตัวไปลองเสื้ออีกร้าน ส่วนฉัตรชัยที่อยู่ร้านเดียวกับบัวแต่แยกไปดูของคนละด้าน รัญจึงฉวยโอกาสนี้เข้ามาประชิดบัวที่กำลังเพลินกับการเลือกเสื้อผ้า
“ทำไมตอนอยู่กับผมไม่เห็นบอกว่าอยากได้ของพวกนี้เลย ผมจะได้ซื้อให้”
บัวมองหน้ารัญอย่างรู้สึกโกรธที่เขาดูถูก แต่พยายามควบคุมอารมณ์ ตอบกลับจนรัญสะอึกอึ้ง
“เผอิญตอนที่ฉันอยู่กับคุณ ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองขายบริการอยู่”
“เดี๋ยวบัว...ถึงเราจะเลิกกันแล้ว แต่ผมก็ไม่อยากให้คุณต้องทำแบบนี้นะ”
“ทำแบบนี้หมายความว่าไงคะ”
“ก็...ที่คุณมากับคุณฉัตรชัย”
“เสียใจด้วยนะคะ คุณฉัตรชัยเขาไม่ได้ซื้อบริการฉัน เขาคบกับฉันด้วยใจ”
“ไม่จริงหรอก ไม่มีผู้ชายคนไหนคบกับผู้หญิงสวยๆอย่างคุณด้วยใจหรอก เขาหวังในตัวคุณมากกว่า”
“อ้อ คุณจะบอกว่าเขาเหมือนคุณงั้นหรือคะ ที่สนใจในตัวฉันก็แค่เรื่องบนเตียง”
“ไม่ใช่นะบัว”
“เอาล่ะค่ะ ฉันว่าเราอย่าพูดเรื่องเก่าเลย เพราะตอนนี้เราเองก็ไม่มีอะไรกันแล้ว”
“แต่ผมเป็นห่วงคุณนะ”
“คุณจะมาเป็นห่วงฉันเรื่องอะไร ในเมื่อเรื่องของเรามันจบลงแล้ว และฉันก็รู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่”
เธอเดินออกจากร้าน รัญก้าวตามมาเรียกอีก “เดี๋ยวสิบัว คุณต้องฟังผมก่อนนะ”
“คุณมาตามตื๊อฉันเรื่องอะไร”
“ผมขอร้อง ผมอยากให้คุณเลิกทำอาชีพนี้ ผมจะฝากงานให้คุณทำกับเพชร”
“ขอบคุณในความหวังดี แต่ฉันไม่ต้องการอะไรจากคุณทั้งนั้น” บัวจะผละไป แต่รัญไม่ยอม คว้าแขนเธอไว้แน่น “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”
“มีอะไรกันหรือครับ” ฉัตรชัยเดินตามมา
“คุณรัญค่ะ เขาพยายามตามตื๊อฉันเรื่องอะไรก็ไม่รู้”
“ผมแค่อยากจะคุยส่วนตัวกับคุณ”
“แต่ฉันไม่อยากคุยกับคุณ ไปเถอะค่ะคุณฉัตรชัย” บัวพยายามสะบัดแขนออกจากรัญ แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะรัญยังยื้อยุดไม่เลิก ฉัตรชัยเห็นดังนั้นก็พยายามไกล่เกลี่ย แต่กลายเป็นว่ารัญยิ่งโมโหตะคอกใส่ฉัตรชัยว่า
“ไม่เกี่ยวกับคุณ”
“แต่ตอนนี้คุณบัวอารมณ์ไม่ดีนะครับ เชื่อผมเถอะ ไว้คุยวันหลัง”
“ไม่...ผมต้องคุยวันนี้ แล้วผมจะบอกให้คุณรู้ว่าเลิกยุ่งกับบัวได้แล้ว”
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาห้าม” บัวสวนทันควัน
“มีสิ ก็คุณเป็นเมียผมไง เราต้องไปคุยกันให้รู้เรื่อง” รัญกระชากแขนบัว แต่เธอยังดิ้นรนขัดขืน ฉัตรชัยเห็นท่าไม่ดีจะเข้าช่วยบัว กลับโดนรัญชกหน้าจนเซไป
บัวกรีดร้องตกใจ เข้าไปดูฉัตรชัย พลางหันมาต่อว่ารัญ “นี่คุณทำอะไรลงไปเนี่ย”
“ผมจะสั่งสอนให้เขารู้ว่าอย่ายุ่งกับเมียชาวบ้าน”
“ใครเป็นเมียคุณ”
“ก็คุณไง”
“ฉันว่าคุณพูดไม่รู้เรื่องแล้ว” บัวสะบัดหน้ากลับไปดูแลฉัตรชัย รัญหึงจนหน้ามืดจะเข้าไปชกฉัตรชัยอีก
“อย่าครับอย่า ผมไม่เกี่ยว เชิญคุณสองคนคุยกันเลยครับ” ฉัตรชัยลนลานถอยหนี
บัวเองก็ทำท่าจะไปเช่นกัน แต่รัญยื้อยุดไม่ยอม ขอร้องเธอฟังเขาก่อน
“ไม่ ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น”
“ผมจะบอกว่าผมรักคุณนะ ผมรักคุณจริงๆ แล้วผมก็เพิ่งรู้ว่าผมขาดคุณไม่ได้”
“มันจะมีประโยชน์อะไร คุณรักฉันแต่คุณไม่กล้าเปิดเผย แล้วฉันก็ไม่มีวันยอมเป็นเมียเก็บของคุณหรอก”
“งั้นคุณก็แต่งงานกับผมสิ”
บัวตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“ว่าไง คุณจะยอมแต่งงานกับผมมั้ย”
“คุณพูดจริงหรือ”
“จริงสิ แต่งงานกับผมนะบัวระวง”
บัวน้ำตารื้นตื้นตัน ปล่อยให้รัญดึงตัวเข้ามากอด... ฉัตรชัยแอบมองจากมุมหนึ่งด้วยความงุนงง
“มันยังไงกันเนี่ย ต่อยเราแล้วไปกอดกัน”
การ์ตูนเดินมาเห็นภาพนั้นอีกคน งงเป็นไก่ตาแตก “นั่นเขาดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เมื่อห้านาทีนี้เอง”
“แล้วคุณล่ะ ตาไปโดนอะไรมาเหมือนโดนต่อย”
ฉัตรชัยยิ้มแหยๆ โกหกว่าเดินชนเสา แล้วทั้งคู่ก็หันกลับไปมองรัญกับบัวที่กอดจูบกันดูดดื่มโดยไม่แคร์สายตาผู้คนที่ผ่านไปมา
ooooooo

No comments:

Post a Comment