Saturday, September 10, 2011

เรื่องย่อ กลรักลวงใจ ตอน4 ละครช่อง3


ตอนที่ 4

ขึ้นมาคุยกันบนห้อง รัญเชื่อที่บัวเล่า และก็เข้าใจด้วยว่าบัวโกรธ แต่อ้อมเป็นแขกจะให้ตนไปว่าเธอได้ยังไง ส่วนรินลดาเดี๋ยวตนจะหาเวลาคุยด้วย

“ผมขอนะ อย่ามีเรื่องกับเขาอีก”

“แต่ถ้าเขาหาเรื่องบัวอีกล่ะคะ”

“คุณก็อดทนซักนิดแล้วกัน พยายามอยู่ห่างๆเขาไว้” บัวนิ่งไม่ตอบ รัญขยับเข้ามาจับมือเธอ “ผมขอโทษแทนเขาสองคนด้วย คิดซะว่าเห็นแก่ผมนะ”

“ก็ได้ค่ะ” บัวตอบรับอย่างจนใจ และไม่ยอมลงไปกินข้าวพร้อมเขา

ฝ่ายสองสาวเห็นรัญกลับลงมาแล้วไม่ดุไม่ว่าอะไรพวกตน ก็คิดว่าบัวคงโดนเอ็ดไปแล้ว อ้อมฉวยทำคะแนนต่อด้วยการเอาเสื้อที่ซื้อเมื่อกลางวันมาให้รัญ

“ขอบคุณครับ แต่ทีหลังไม่ต้องหรอกนะ พี่เองก็มีเสื้อเยอะแยะ”

“เล็กน้อยค่ะ อ้อมอยากซื้อให้พี่รัญ” อ้อมยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ รัญฝืนยิ้มตอบ

“พี่รัญ น้องว่าพี่รัญต้องจ้างแม่บ้านซักคนแล้วนะ” รินลดาเกริ่นขึ้นมา อ้อมได้ทีฟ้องเรื่องบัวไม่ยอมซักเสื้อให้ รัญฟังแล้วอึดอัดลำบากใจ แต่ก็รับปากจะลองคุยกับบัวให้

เมื่อรัญกลับขึ้นมาคุยกับบัว บัวตกลงจะทำอาหารเผื่อสองคนนั้นด้วย แต่เรื่องซักผ้าเธอไม่ยอม

“ผมไม่ได้ให้คุณทำเฉยๆนะ ผมจะจ่ายเงินเพิ่มให้”

“บัวไม่รับค่ะ แล้วบัวก็คิดว่าพี่รัญควรจะให้พวกเขาหัดทำกันเอง กะอีแค่ซักผ้ามันไม่ใช่เรื่องยาก บัวยังทำได้เลย”

“มันไม่เหมือนกันนะบัว คุณเคยทำงานบ้าน เคยดูแลตัวเองมาก่อน แต่สองคนนั่นเขามาจากครอบครัวที่มีคนรับใช้คอยทำให้”

“แต่บัวไม่ใช่คนรับใช้เขานะคะ”

“ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น  เพียงแต่สองคนนั่นเขา...”

“ทำไมหรือคะ สองคนนั่นแตกต่างจากบัวตรงไหน มีมือ มีหู มีตา ไม่เหมือนบัวหรือคะ หรือแค่เขามีเงินมากกว่าบัว หรือพี่รัญเห็นว่าบัวต่ำกว่าสองคนนั่น บัวเลยต้องทำได้ทุกอย่าง”

บัวน้ำตาคลอด้วยความน้อยใจและแค้นใจ หันหนีไปที่หน้าต่าง รัญตามมาขอโทษ ครั้นเห็นเธอร้องไห้ก็ตกใจ ถามว่าร้องทำไม หรือว่าโกรธตน...บัวเอาแต่สะอื้นไม่ตอบ

“ผมขอโทษ ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้คุณโกรธ ถ้าคุณไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ”

“ค่ะ บัวไม่ทำ”

“ก็แค่นั้นแหละ ไม่เห็นต้องร้องไห้เลย คุณเนี่ยขี้แยเป็นเด็กๆไปได้” เขาดึงเธอมากอดปลอบ บัวเผลอปล่อยความรู้สึกกอดตอบเขา รัญเองก็เคลิ้มกับกลิ่นกายหอมๆของบัว ที่สุดเขาก็หักห้ามใจไม่ไหวกอดจูบและเกือบจะเลยเถิดถ้าบัวไม่ตะปบมือเขาไว้ หลังจากนึกถึงคำพูดของการ์ตูนที่เตือนไม่ให้มีอะไรกับรัญ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นบัวจะเป็นฝ่ายเสียชื่อเสียง

“ไหนพี่รัญบอกว่าจะไม่แตะต้องตัวบัวไงคะ”

“ผมขอถอนคำพูด” รัญเคลื่อนหน้าเข้ามาจะจูบอีก บัวแตะปากรัญไว้ ทำท่าเหมือนชำนาญในอาชีพ

“แต่ถ้าพี่รัญจะทำอะไรมากกว่านี้ บัวต้องขอเงินเพิ่มนะคะ...ว่าไงคะ”

รัญชะงักแล้วผละออกอย่างไม่พอใจ “สำหรับคุณ ทุกอย่างเป็นเงินไปหมดเลยนะ”

“ก็ใช่สิคะ  มันเป็นอาชีพของบัวนี่คะ”

“อ้อ จริงสิ ผมลืมไปว่าอยู่กับใคร มิน่า พอเสนอให้ซักผ้าทำเป็นเสียใจร้องไห้ แต่เรื่องอย่างว่ากลับรีบทวงถามค่าจ้างพิเศษ คุณไม่ต้องห่วงหรอก คนอย่างผมไม่เคยจ่ายเงินเพื่อให้ผู้หญิงมานอนด้วย ผมสัญญา ผมจะไม่แตะต้องตัวคุณอีก”

รัญออกจากห้องไปอย่างหัวเสีย โกรธตัวเองที่ไม่น่าเผลอใจไปกับผู้หญิงขายบริการ ขณะที่บัวน้ำตาเอ่ออยู่ในห้อง เสียใจที่ต้องพูดและทำอย่างนั้นลงไป

กระทั่งเช้าวันใหม่ซึ่งเป็นวันหยุด รัญก็ยังมีท่าทีมึนตึงกับบัวอย่างเห็นได้ชัดจนอ้อมกับรินลดาแอบซุบซิบกันว่าสองคนนี้แปลกไป สงสัยรัญคงเริ่มเบื่อบัวแล้ว ดังนั้นรินลดาจึงเห็นควรว่าอ้อมต้องเร่งทำคะแนนโดยเริ่มตั้งแต่วันนี้เลย
สองสาวให้รัญพาเที่ยวรอบเมือง รัญตกลงทันทีโดยไม่ชวนบัวสักคำ อ้างว่าบัวเคยไปบ่อยแล้ว นั่นยิ่งทำให้สองสาวแน่ใจว่าระหว่างรัญกับบัวต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเป็นแน่

เมื่อได้ออกไปเที่ยวโดยปราศจากบัว รินลดาเปิดโอกาสให้อ้อมได้อยู่ตามลำพังกับรัญ อ้อมหว่านเสน่ห์ออดอ้อนออเซาะรัญเต็มที่ ถ่ายรูปกันอย่างแนบชิด บางครั้งเธอก็แสร้งถึงเนื้อถึงตัวเพื่อให้ชายหนุ่มหวั่นไหว ซึ่งช็อตนี้เองรินลดาได้แอบบันทึกภาพไว้แล้วรีบส่งไปให้แม่ทางเมืองไทยดูทันที

ขณะนั้นรมณีย์อยู่กับเพียงเพ็ญพอดี รมณีย์จึงเอาภาพนี้อวดเพียงเพ็ญ แล้วสองคุณแม่ก็ดี๊ด๊าหน้าบานไปด้วยกัน วาดหวังว่ารัญกับอ้อมต้องได้ลงเอยกันแน่ แต่เมื่อนึกถึงผู้หญิงที่ชื่อบัวระวง  เพียงเพ็ญก็ยังไม่วางใจร้อยเปอร์เซ็นต์ กลัวหล่อนจะออดอ้อนขอเป็นเมียเก็บ ซึ่งตนรับไม่ได้จริงๆ

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันมั่นใจว่าตารัญไม่มีทางเก็บแม่บัวระวงไว้เป็นเมียน้อยหรอก เพราะครอบครัวเราไม่นิยมเรื่องแบบนี้”

“ถ้าเป็นอย่างที่คุณหญิงว่าเราจะได้มาวางแผนเรื่องงานแต่งงานกันต่อ”

เสียงโทรศัพท์มือถือรมณีย์ดังขัดจังหวะ พอเจ้าตัวกดรับต้องตกใจเพราะเป็นนักเลงบ่อนพนันโทร.มาทวงหนี้พร้อมคำข่มขู่จะตัดนิ้วทิ้งถ้าพรุ่งนี้ไม่จ่ายหนี้ตามกำหนด รมณีย์กลัวทั้งเจ้าหนี้และกลัวเพียงเพ็ญที่นั่งอยู่ตรงหน้าจะรู้จึงรีบพูดแล้ววางสายด้วยสีหน้าท่าทีแปลกๆ ทำให้เพียงเพ็ญสงสัยถามว่าใครโทร.มา

“พวกมูลนิธิน่ะโทร.มาขอให้บริจาคเงิน เมื่อวานพี่ก็เพิ่งบริจาคไปห้าแสน เออ พูดถึงเงินแล้วนึกขึ้นมาได้ พี่อยากจะยืมเงินสดคุณเพ็ญซักสองล้านได้มั้ย”

“สองล้านหรือคะ คุณหญิงจะเอาไปทำอะไรคะ”

“พอดีเงินสดของพี่มันฝากฟิกซ์ในแบงก์ จะครบดอกเบี้ยอีกสามเดือนข้างหน้า”

“คุณหญิงมีที่ดินตั้งเยอะไม่ใช่หรือคะ ไม่เอาไปโอดี แบงก์ก่อน”

“ขี้เกียจไปน่ะ มันเรื่องยุ่ง แล้วอีกอย่างพี่เพิ่งขายที่ดินที่บางพลีไปสามไร่ สิ้นเดือนนี้คนซื้อมันจะเอาเงินมาให้สี่สิบล้าน”

“ถ้าอย่างงั้นไม่มีปัญหาหรอกค่ะ เดี๋ยวน้องเขียนเช็คให้”

“ขอบใจน้องเพ็ญมากจ้ะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ เราคนกันเอง” เพียงเพ็ญกุลีกุจอลุกออกไป รมณีย์ถึงกับผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก หายใจคล่องขึ้นหน่อย

ooooooo

ทางด้านรัญกับอ้อมที่ปราก อ้อมยังอ้อนให้รัญพาเที่ยวรอบๆเมือง โดยไม่รู้ว่าบัวแอบตามสังเกตการณ์ อยู่ห่างๆด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ยิ่งเห็นเขาทั้งคู่ใกล้ชิดโอบซบกันท่ามกลางอากาศหนาวเย็น บัวเจ็บปวดแทบน้ำตาซึม กลัวจะเสียรัญให้อ้อมไปจริงๆ

รินลดาที่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้นเดินมาเจอบัวโดยบังเอิญ บัวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนตอบคำถามของเธอว่า ตนว่างๆก็เลยออกมาเดินเล่น

“แล้วนี่ทำอะไร ดูลับๆล่อๆเหมือนแอบดูอะไร”

“เปล่าค่ะ พอดีเห็นพี่รัญอยู่ด้านนู้นกับคุณอ้อม ก็เลยไม่อยากขัดจังหวะ”

รินลดามองตามสายตาบัวไปเห็นอ้อมนั่งซบรัญ “หวังว่าเธอคงไม่หึงนะที่พี่อ้อมเขาสโลว์ซบกับพี่รัญ”

“อ๋อ ไม่ค่ะ ถ้าพี่รัญชอบคุณอ้อม บัวจะไปห้ามอะไรได้” ตอบแล้วบัวขยับจะไป

“แล้วนี่จะไปไหน”

“ก็กลับบ้านสิคะ”

“ไม่กลับด้วยกันหรือ”

“ไม่ดีกว่าค่ะ บัวไม่อยากให้พี่รัญกับคุณอ้อมอึดอัด”

“ดีแล้ว ฉันจะได้ไม่ต้องบอกพี่รัญว่าเจอเธอ”

รินลดาหันกลับไปมองอ้อมกับรัญ เห็นอ้อมมองจ้องหน้าสบตารัญเหมือนจะจูบ จึงเชียร์ให้อ้อมจูบเลย แต่แล้วอ้อมก็พลาดเป้าเพราะรัญลุกขึ้นเสียก่อน เป็นเหตุให้ศีรษะอ้อมโขกเก้าอี้อย่างจัง

ตกเย็นกลับมาถึงหน้าบ้าน อ้อมยังอ้อนให้รัญพาไปเที่ยวอีกในอาทิตย์หน้า และรินลดาก็เน้นด้วยว่าขอไปแบบนี้แค่สามคน อ้อมทำเป็นเกรงใจท้วงรินลดาว่าบัวจะยอมเหรอ อยู่ๆเราจะควงแฟนเขาไปเที่ยวแล้วไม่ให้เขาไป

“บัวเขาไม่คิดอย่างงั้นหรอกครับ” รัญออกตัว

“ความจริงพี่รัญน่ะเหมาะกับพี่อ้อมมากกว่ายัยบัวระวงหลงทางนั่นตั้งเยอะ”

“น้องรินอย่าพูดอย่างงั้นสิจ๊ะ พี่เขินนะ” อ้อมทำทีบิดตัวจนขาพลิกร้องโอ๊ยเพื่อเรียกร้องความสนใจจากรัญ อีกทั้งอยากเยาะบัวที่อยู่ในบ้าน

แล้วอ้อมก็ทำสำเร็จ รัญต้องประคองเธอเข้าบ้านแล้วใช้ให้บัวไปเอาเจลกับยามาให้ เขาจะปฐมพยาบาลอ้อมที่ขาแพลง บัวสะกดใจอย่างยิ่งทำตามที่รัญสั่ง พอเห็นอ้อมมารยาว่าเจ็บมากจนเดินไม่ไหวแล้วรินลดาก็จะให้รัญอุ้มไปส่งที่ห้อง บัวแทบทนไม่ไหวมองตามทั้งคู่ไปด้วยความเจ็บใจ แต่รินลดาสะใจมาก หันมาเย้ยบัวว่า

“ฉันว่าเธอเตรียมเก็บข้าวของย้ายออกจากที่นี่ได้แล้วนะบัวระวง”

บัวจี๊ดใจแต่ไม่พูดอะไรสักคำนอกจากหันหลังเดินกลับไปในครัว ส่วนรัญที่อุ้มอ้อมขึ้นไปวางบนเตียง พอเขาจะผละออกมา อ้อมก็จู่โจมหอมแก้มเขาอย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยอุ้มอ้อมขึ้นมา”

ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัว ยิ้มเก้อๆ บอกไม่เป็นไร อ้อมยิ้มกริ่มได้ใจ กล่าวกู๊ดไนต์พร้อมส่งสายตาหวานฉ่ำ  ก่อนรัญจะหันกลับออกไป แล้วอ้อมก็บอกกับตัวเองอย่างหมายมาดว่าเธอจะดีดบัวระวงให้กระเด็นออกจากบ้านนี้ให้จงได้...

ถึงเวลาเข้านอน รัญทำเหมือนบัวไม่มีตัวตนในห้อง เขาเดินผ่านเธอไปหยุดยืนที่หน้ากระจกอย่างไม่สนใจ แล้วบัวก็ทำลายด้วยความเงียบ โพล่งขึ้นมาด้วยความน้อยใจ

“ฉันว่าความจริงไม่เห็นคุณต้องอุ้มเธอขึ้นมาเลย กะอีแค่ขาแพลงหน่อยเดียว”

“คุณหึงเหรอ” เขาถามโดยไม่หันมามอง

“เปล่า ฉันจะไปหึงคุณเรื่องอะไร เพราะฉันไม่ได้เป็นแฟนคุณจริงๆ”

“ดีแล้วที่คุณรู้ตัว” รัญพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วขึ้นเตียงดึงผ้าห่มคลุมตัวก่อนหันมาบอก “ผมว่าบางทีคุณอาจจะได้กลับบ้านเร็วกว่ากำหนดนะ”

บัวรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว ลงนอนน้ำตาไหลริน...

ooooooo

เช้าขึ้นบัวตื่นมาทำอาหารตามปกติ ขณะที่รัญก็ยังวางท่ามึนตึงหมางเมิน ไม่ออกความเห็นเมื่อเธอถามเขาว่าอยากทานอะไร...รัญออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งแล้วโทร.หาเพชรที่เมืองไทย บอกให้เพื่อนรู้ว่าตนอาจจะส่งบัวระวงกลับบ้านก่อนกำหนด

“หมายความว่าแกชอบน้องอ้อมแล้วหรือ”

“ก็...ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เพราะเท่าที่ดูเขาก็น่ารัก หน้าตาก็สวย มีการศึกษา แถมมาจากครอบครัวดี ฉันคิดว่าฉันคงรักเขาได้ไม่ยาก”

“เออ ฉันดีใจกับแกด้วย ว่าแต่ว่าแกจะไม่แตะน้องบัวระวงก่อนส่งกลับจริงหรือ”

“ไม่ ฉันไม่นอนกับผู้หญิงที่เห็นแก่เงิน”

“ทำไมน้ำเสียงแกดูซีเรียสจังวะ หรือว่าน้องบัวระวงเรียกค่าบริการเพิ่ม”

“เปล่า  ฉันแค่โทร.มาบอกให้แกรู้ว่าฉันอาจจะส่งบัวระวง กลับก่อนสิ้นเดือน”

“ก็แล้วแต่แก ฉันไม่มีปัญหาอะไร”

รัญกดปิดโทรศัพท์เดินหน้าเครียดไปตามทางในสวนสาธารณะอย่างหงอยๆ ส่วนในบ้านของรัญ เวลานี้กำลังจะเกิดศึกระหว่างบัวกับอ้อม ต้นเหตุมาจากอ้อมที่หมั่นไส้บัวที่เก่งกาจทำอาหารฝรั่งได้ ก็เลยจงใจพูดจาเสียดสีดูถูก ทำให้บัวเหลืออดไล่ให้ไปเห่าหอนไกลๆ

“นี่แกว่าฉันเป็นหมางั้นหรือ”

“ฉันไม่ได้พูด แค่เปรียบเปรย”

อ้อมโกรธจัดจะเข้าไปตบ แต่บัวยกตะหลิวร้อนๆขึ้นท้าให้เข้ามาเลย ถ้าไม่กลัวเสียโฉม อ้อมจึงกล้าๆกลัวๆ จังหวะนี้เองรินลดาลงมาเห็นพอดี

“มันจะมากไปแล้วนะบัวระวง พี่อ้อมเป็นแขกของพี่รัญนะ เธอไม่มีสิทธิ์มาทำกิริยาไร้มารยาทแบบนี้”

“น้องรินมาก็ดีแล้ว เป็นพยานให้พี่นะว่ามันจะเอาตะหลิวตบหน้าพี่”

“ค่ะ เดี๋ยวพี่รัญมาน้องจะบอกให้พี่รัญจัดการ”

พูดขาดคำ รัญโผล่เข้ามาพอดี รินลดาจึงฟ้องพี่ชาย ว่าบัวระวงจะเอาตะหลิวตบหน้าพี่อ้อม แถมยังว่าพี่อ้อม
เป็นหมาด้วย

“ทำไมทำอย่างนี้ล่ะ บัวระวง”

บัวไม่ทันจะอธิบาย ถูกอ้อมชิงตัดหน้าแต่งเรื่องเสียก่อน

“เป็นความผิดของอ้อมเองค่ะพี่รัญ อ้อมเห็นว่าบัวเขาทำอาหารให้พวกเรากินทุกวันก็เลยอยากจะเข้ามาช่วย แต่เขากลับด่าอ้อมว่าไม่ต้องมายุ่ง บอกว่าอย่างอ้อมน่ะทำไปพี่รัญก็ไม่กิน อ้อมก็เลยบอกว่าทำไมถึงพูดอย่างนี้กับอ้อม”

“คุณอ้อมมีเจตนาดี ทำไมคุณถึงพูดจาหยาบคายกับเขา”

“นี่คุณเชื่อเรื่องที่เขาพูดงั้นหรือ”  บัวมองรัญอย่างตัดพ้อ

“แล้วฉันจะโกหกทำไม” อ้อมสวนทันควัน

“ใช่...รินเป็นพยานได้ค่ะพี่รัญว่าบัวระวงด่าพี่อ้อมจริงๆ พี่รัญต้องจัดการนะคะ ขืนปล่อยให้ทำอย่างนี้ ต่อไปเขาก็จะด่ารินอีกคนนึง”

“ขอโทษคุณอ้อมซะบัวระวง”

บัวไม่พอใจโยนตะหลิวลงกระทะแล้วเดินออกไปทันที

“เห็นรึยังคะพี่รัญ ว่าเขาไร้มารยาทแค่ไหน”

“เอาล่ะ พี่ขอโทษแทนบัวด้วย เดี๋ยวพี่จะจัดการเรื่องนี้เอง”

“พี่ต้องจัดการให้ถึงที่สุดนะคะ”

รัญเดินหน้าเครียดออกไป สองสาวแสบหันมายิ้มให้กันอย่างสะใจ...รัญตามบัวออกไปนอกบ้าน ย้ำเตือนเรื่องที่เคยขอร้องว่าอย่ามีเรื่องทะเลาะกับสองคนนั้น

“ฉันไม่ได้หาเรื่องนะ แต่น้องสาวคุณกับคุณอ้อมหาเรื่องฉันก่อน”

“แล้วทำไมคุณต้องไปด่าเขาด้วย”

“แล้วทำไมคุณไม่ถามว่าเขาด่าฉันว่ายังไงบ้าง”

“แต่ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร คุณก็ควรจะอดทน คุณลืมไปแล้วหรือคุณกำลังรับจ้างผมทำงานอยู่นะ ผมบอกให้คุณอดทน อย่าทะเลาะกับเขา คุณก็ต้องทำตาม และผมก็หวังว่าจากนี้ไป คุณจะให้เกียรติคุณอ้อมมากกว่านี้ แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ คุณก็กลับไป”

รัญพูดรวดเดียวจบแล้วเดินจากมาทันที ทิ้งให้บัวนั่งน้ำตาอาบแก้มด้วยความน้อยใจ...เสียใจ


ooooooo
นอนคิดตัดสินใจมาเกือบทั้งคืน พอเช้าขึ้นยังมาเห็นภาพบาดตาระหว่างอ้อมกับรัญเข้าอีก บัวจึงหิ้วกระเป๋า ออกจากบ้านหลังจากรัญออกไปทำงานแล้ว ยังความยินดีปรีดาให้แก่อ้อมกับรินลดาแทบจะกระโดดโลดเต้น
“ในที่สุดเราก็กำจัดนังบัวระวงออกไปจากชีวิตพี่รัญได้แล้ว”
“ขอบใจมากจ้ะน้องริน” อ้อมหอมแก้มรินลดาซ้ายขวา
“คราวนี้ก็เป็นโอกาสของพี่อ้อมแล้วที่จะได้อยู่กับพี่รัญ หวังว่าพี่คงไม่ทำให้น้องผิดหวังนะคะ”
“พี่เคยบอกแล้วไง เรื่องจับผู้ชาย พี่ไม่เคยเป็นรองใคร”
“งั้นเดี๋ยวน้องต้องรีบโทร.รายงานคุณแม่ก่อน”
“จ้ะ พี่ก็ต้องบอกคุณแม่พี่เหมือนกัน”
ทั้งสองแยกกันไปคนละทางด้วยท่าทีกระดี๊กระด๊าสุดๆ พอรมณีย์แม่ของรินลดาทราบเรื่องนี้ก็หน้าบานไปอีกคน
“จริงเหรอ...อืม ดีมาก แล้วพี่ชายแกว่าไง”
“พี่รัญยังไม่รู้เรื่องค่ะ แต่ถึงรู้หนูก็ว่าเขาไม่ไปตามหรอก เพราะระยะหลังเนี่ยดูพี่รัญไม่ค่อยปลื้มยัยบัวระวงนี่เท่าไหร่”
“แล้วกับหนูอ้อมล่ะ”
“ท่าทางจะมีใจอยู่ค่ะ”
“จริงหรือลูก ตารัญชอบหนูอ้อมแล้วหรือ”
“ค่ะ แต่แม่ต้องไม่ลืมสัญญานะคะว่าจะให้หนูเรียนต่อ เพราะหนูก็ช่วยพี่อ้อมเต็มที่แล้ว”
“เอาเถอะน่า ขอให้พี่ชายแกได้กับยัยอ้อมก่อนเถอะ ต่อให้แกจะเรียนถึงปริญญาเอก แม่ก็ส่งแกได้ ว่าแต่แกเถอะพยายามเปิดโอกาสให้เขาอยู่กันตามลำพังนะอย่าไปเป็นก้างขวางคอเขาล่ะ”
“ค่ะ แม่ไม่ต้องห่วง แค่นี้ก่อนนะคะ หนูได้ยินเสียงเหมือนพี่รัญมา”
รินลดาวางสายด้วยรอยยิ้ม ส่วนรมณีย์ยิ้มกว้างกว่า คาดหวังว่าถ้าเป็นจริงอย่างที่ลูกสาวว่า ตนก็จะได้กลับมามีเงินอีกครั้ง...
รัญกลับจากทำงานเดินเข้ามาในครัว แปลกใจที่ไม่มีอาหารเหมือนทุกวัน เขาหันมาถามน้องสาวที่เดินนำหน้าอ้อมเข้ามาว่า บัวระวงไปไหน วันนี้เขาไม่ทำกับข้าวหรือ
“เขาไปแล้วค่ะ”
“ไปไหน”
“น้องก็ไม่รู้ เมื่อตอนบ่ายเขามาเก็บเสื้อผ้าไป สงสัยจะกลับเมืองไทย เพราะเห็นบอกว่าจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก”
“อ้อมก็พยายามรั้งเขาไว้แล้วนะคะ บอกเขาแล้วว่าอย่าเพิ่งไปเลยให้รอพี่รัญก่อน แต่เขาบอกว่าเขาไม่รอเขาหมดรักพี่รัญแล้ว” อ้อมโกหกไฟแลบ รัญเหลือบมองหน้าอ้อมแต่ไม่พูดอะไร
“แล้วพี่รัญจะไปตามหาเขาไหมคะ” รินลดาถามลองใจ
“ไม่ ในเมื่อเขาอยากไปก็ต้องปล่อยเขา เอาล่ะ เธอสองคนอยู่นี่นะ พี่จะไปซื้อพิซซ่ามาให้”
พอรัญเดินพ้นไป สองสาวก็ตีมือกันอย่างเริงร่า...ขณะเดียวกันนั้นเอง บัวไปถึงสนามบินแล้ว เธอบอกตัวเองทั้งน้ำตาคลอๆว่า ถ้าเราอยู่ต่อก็คงหน้าด้านเกินไปแล้ว แต่พอได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็นึกดีใจว่ารัญคงโทร.ตาม แต่เปล่าเลย การ์ตูนต่างหากที่โทร.มาถามความคืบหน้าเรื่องความรักของบัว
“แกโทร.มาก็ดีแล้ว ฉันจะบอกว่าพรุ่งนี้ไปรับฉันที่แอร์พอร์ตด้วย”
“เฮ้ย...บัว ทำไมแกถอดใจง่ายๆแบบนี้ หรือพี่รัญเขาบอกว่าเขาชอบยัยอ้อม”
“ใช่ เขาชอบยัยอ้อม”
“เป็นไปได้ยังไง ฉันไม่อยากเชื่อเลย เขาบอกแกหรือ”
“เปล่า ฉันดูจากการกระทำของเขา ฉันว่าเขาคงไม่ชอบฉันหรอก”
“ไม่เอาน่า แกอย่าเอาอารมณ์ของแกมาตัดสินสิ เมื่อไหร่ที่เขายังไม่ออกปากบอกให้แกกลับ นั่นก็หมายความว่าเขายังไม่ได้เลือกยัยอ้อม”
“แต่ฉันไม่อยากทนต่อไปแล้ว แกไม่รู้หรอกว่าฉันต้องเจออะไรกดดันบ้าง”
“บัว...ความรักมันไม่ได้มาง่ายๆนะ แกลืมไปแล้วหรือว่าแกปลอมตัวบินไปหาเขาเพื่ออะไร ถ้าแกกลับ ก็หมายความเรื่องของแกกับพี่รัญต้องจบกันเลยนะ”
“ฉันรู้” บัวปิดโทรศัพท์หน้าเศร้า ข้างฝ่ายการ์ตูนสีหน้ายังงงไม่หาย ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนอย่างบัวจะยอมแพ้ง่ายๆ
ooooooo
ใช่ว่ารัญจะไม่แคร์บัวเอาเสียเลย เขาดูเหม่อๆ ซึมๆจนอ้อมกับรินลดาสังเกตได้ พิซซ่าที่ซื้อมาก็กินไม่กี่คำก่อนจะขอตัวขึ้นข้างบนไปอาบน้ำ อ้อมได้โอกาสตามขึ้นไปยั่วยวน รินลดาเลยต้องเก็บล้างถ้วยจานไปคนเดียว
อ้อมเข้ามาเป็นจังหวะที่รัญออกจากห้องน้ำพอดี เธอยั่วยวนแนบชิดจนเขาเคลิ้มไปเหมือนกัน แต่จู่ๆรัญก็ได้สติถอยห่างจากอ้อมแล้วเดินออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้อ้อมยืนฮึดฮัดขัดใจ แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้
รัญหนีอ้อมลงมาชงกาแฟกินข้างล่าง ไม่นึกว่าจะเจอบัวอยู่ในครัว เขาซ่อนความดีใจ ถามเธอว่าไปไหนมา
“อ๋อ บัวเอาเสื้อผ้าไปซัก พอดีเครื่องที่บ้านมันเสีย”
“เห็นรินกับคุณอ้อมบอกว่าคุณกลับเมืองไทย”
“บัวไม่ได้บอกว่าบัวจะกลับเมืองไทย แต่ถ้าพี่รัญอยากให้บัวกลับก็บอกมา แค่พี่รัญพูดคำเดียวบัวก็จะไปเดี๋ยวนี้เลย”
รัญนิ่งเงียบจนบัวใจเสีย พูดเสียงแผ่ว
“แสดงว่าพี่รัญอยากให้บัวไปจริงๆ”
“บัวระวง...ในสัญญาผมจ้างคุณสามเดือนไม่ใช่หรือ”
“ค่ะ”
“ถ้าอย่างงั้นคุณก็อยู่ให้ครบตามสัญญาแล้วกัน” รัญบอกเสียงเรียบขรึมแล้วหันหลังให้ พอบัวหิ้วกระเป๋าขึ้นข้างบน เขาก็หันกลับมามองตามเธอไปด้วยรอยยิ้มบางๆ
เสียงลูกบิดประตูห้องดังทำให้อ้อมที่ยังอยู่ข้างในรีบปิดไฟแล้วลงนอนหันหลังบนเตียง บัวเปิดประตูแง้มเข้ามาไม่ทันจะเปิดไฟก็ได้ยินเสียงหวานๆของอ้อมดังขึ้น
“พี่รัญคะ ให้อ้อมนอนด้วยคนนะคะ ไม่รู้เป็นอะไรวันนี้อ้อมกลัวผีจังเลย”
พอบัวเดินไปนั่งข้างเตียง อ้อมพลิกตัวหันกลับมารวบเอวกอดไว้ทันที
“มาสิคะพี่รัญ นอนเถอะค่ะ อากาศหน๊าวหนาว ให้อ้อมกอดหน่อยนะคะ...แหม พี่รัญเนี่ยกล้ามใหญ่จังเลย”
“ขอโทษค่ะ ไม่ใช่กล้ามค่ะ นั่นหน้าอกฉัน”
อ้อมสะดุ้งดีดตัวลุกขึ้นเปิดไฟหัวเตียงอย่างเร็ว “หา...
บัวระวง!”
“ใช่ ฉันเอง”
“นี่แกกลับมาทำไม ไหนแกบอกว่าแกจะกลับเมืองไทยไง”
“ใครบอกคุณ ฉันยังไม่ได้พูดอะไรซักคำ คุณพูดอยู่คนเดียว”
“แกมาทำอะไรที่นี่”
“ฉันต่างหากที่ต้องถามว่าคุณมาทำอะไรในห้องนอนฉันกับพี่รัญ เชิญคุณออกไปได้แล้ว”
“แกนี่มันร้ายจริงๆ” อ้อมก้าวลงจากเตียงอย่างเจ็บใจ
“เดี๋ยวค่ะ เอาชุดชั้นในของคุณไปด้วย”
บัวโยนชุดชั้นในลอยหวือ อ้อมคว้าไว้ด้วยความโกรธ แล้วเดินปึงปังออกไป
“ฉันจะไม่ยอมให้เธอแย่งพี่รัญไปง่ายๆหรอก” บัวพึมพำบอกตัวเอง
เมื่อรัญกลับขึ้นมานอน บัวก็นอนในที่ของตน ต่างคนต่างเงียบแต่ยังลืมตาโพลงเหมือนอยากจะพูดอะไรกัน ที่สุดรัญก็ทำลายความเงียบขึ้นว่า
“บัวระวง...ผมอยากขอโทษที่ผมพูดไม่ดีกับคุณ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ บัวเป็นลูกจ้างก็ต้องอดทน”
“นี่คุณพูดประชดผมเหรอ”
“เปล่าค่ะ บัวพูดจริงๆ ต่อไปนี้ไม่ว่าพี่รัญจะว่ายังไง บัวก็จะไม่โกรธพี่รัญ บัวจะอดทนเพื่อพี่รัญ”
บัวบอกความในใจจนรัญอึ้งเงียบไป สายตาจับจ้องมองมาที่บัวด้วยความหวั่นไหว
ooooooo
ที่เมืองไทย ลูกน้องของฉัตรชัยได้ข้อมูลแน่ชัดแล้วว่าบัวไม่ได้ไปอเมริกา แต่ก็ยังไม่ทราบว่าบัวไปประเทศไหน ฉัตรชัยจึงให้สืบต่อไป โดยให้เงินค่าจ้างไปอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนตัวเองก็จะไปเค้นเอากับการ์ตูนอีกครั้ง
ตอนเช้า การ์ตูนยังไม่ทันจะออกไปทำงาน บัวโทร.มาพูดคุยเรื่องที่ตนเปลี่ยนใจไม่กลับเมืองไทย ซึ่งพอตนย้อนกลับไปที่บ้าน รัญก็ไม่ได้ว่าอะไรสักคำ แถมยังบอกให้ตนอยู่ ให้ครบตามสัญญาด้วย
“แสดงความว่าเขาต้องเสียดายแกอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าเขาไม่ชอบแกจริง เขาก็ต้องส่งแกกลับแล้ว”
“แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทนแรงเสียดสีได้นานแค่ไหน เพราะน้องสาวเขากับยัยอ้อมคงไม่หยุดเล่นงานฉันแค่นี้แน่”
“แกอย่าไปสนใจพวกมัน สิ่งที่แกต้องทำก็คือพยายามมัดใจพี่รัญให้ได้ แกเคยเห็นตัวอิจฉาในหนังในละครมั้ย”
“เคย...ทำไม”
“นั่นแหละ แกก็เลียนแบบตัวอิจฉา ทำออเซาะออดอ้อนเอามารยาหญิงที่มีทั้งหมดออกมาใช้”
“แกหมายความว่าจะให้ฉันเอาตัวเข้าแลกหรือ”
“ไม่ต้องถึงขนาดนั้น แค่หว่านเสน่ห์ใส่เขาเยอะๆ ให้เขาหลงแก”
“ฉันจะพยายามทำให้ได้”
“ไม่ใช่แค่พยายาม แต่แกต้องทำให้ได้”
“เออ ฉันรู้ นี่ตูน ฉันอยากให้แกมาหาฉันที่นี่ได้มั้ย อย่างน้อยฉันจะได้มีเพื่อนคู่คิด”
“ฉันจะไปได้ยังไง ขืนไปฉันก็โดนพ่อแกไล่ออกจากงานสิ และที่สำคัญพี่เพชรต้องไม่ยอมให้ไปแน่”
“ก็อย่าให้พี่เพชรรู้สิ นะตูน ฉันรู้ว่าแกต้องมีวิธีที่จะหนีมาหาฉันได้”
“ฉันยังไม่รับปากหรอกนะ ต้องคิดแผนก่อน”
“ไม่รู้ล่ะ ฉันรอแกนะ”
“แกนี่มันจริงๆเลยนะ แค่นี้ก่อนนะ ไม่รู้ใครมา”
“เดี๋ยวนี้นัดผู้ชายมาที่ห้องเลยหรือ”
“ไอ้บ้า คนส่งผ้าซักรีดน่ะสิ”

เสียงออดดังซ้ำ การ์ตูนจึงตัดสายเพื่อนรักแล้วรีบร้อนไปเปิดประตูห้อง ปรากฏว่าคนที่มาคือนายฉัตรชัยไม่ใช่คน
ซักรีดอย่างที่เธอเข้าใจไปเอง

หัวเด็ดตีนขาดเธอไม่ยอมให้เขาเข้ามาในห้องแน่ แต่ฉัตรชัยก็ไม่ยอมให้หญิงสาวปิดประตู สองคนยื้อยุดกันอยู่ไปมา

“ปล่อยนะ ไม่งั้นฉันร้องจริงๆด้วย”

“ผมมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับคุณ”

“แต่ฉันไม่อยากคุยกับคุณ”

“แต่คุณต้องคุย” เขาออกแรงผลักประตูกว้างแล้วเดินเข้ามาก่อนหันไปปิดดังปัง การ์ตูนใจคอไม่ดี สั่งให้เขาออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นตนจะโทร.เรียกยามแจ้งว่าเขาบุกรุก

“ก็ลองสิ ถ้าคุณโทร. ผมจะขืนใจคุณ”

“หา...นี่คุณพูดจริงหรือพูดเล่น”

“คุณก็ลองโทร.ดูสิ”

“ก็ได้  ฉันก็อยากรู้ว่าคุณจะกล้าจริงรึเปล่า” การ์ตูนหันไปกดโทรศัพท์ ฉัตรชัยถลาเข้ากอดเธอทันที...เท่านั้นเองสาวเจ้าก็ร้องลั่นห้องแทบแตก “ว้าย อย่า...อย่าทำอะไรฉัน ฉันเชื่อแล้ว”

“เอาล่ะ ผมว่าเรามาคุยกันดีๆดีกว่า”

“คุยอะไรอีก”

“เรื่องคุณบัว”

“ก็บอกแล้วไงว่าเขาอยู่อเมริกา”

“โกหก ผมสืบมาแล้ว คุณบัวไม่ได้ไปอเมริกา เขาไปไหนบอกมาซะดีๆ”

การ์ตูนไม่ยอมบอกความจริงเอาแต่ยืนยันว่าไม่รู้ ทำให้ฉัตรชัยโมโหทำท่าจะจูบเธอ จังหวะนี้เองเพชรก้าวเข้ามาเห็นเต็มๆ เขาร้องเฮ้ยพร้อมกับพุ่งไปกระชากฉัตรชัยออกมาชกเต็มหมัด ฉัตรชัยเซถลาล้มลงแล้วเกือบจะถูกเพชรอัดซ้ำถ้าการ์ตูนไม่วิ่งมาขวางเสียก่อน

เพชรไม่เข้าใจว่าการ์ตูนห้ามทำไม ก็เห็นอยู่ว่าเธอกำลังจะโดนเขาปล้ำ ฉัตรชัยรีบปฏิเสธว่าไม่ได้มาปล้ำ ตนแค่มาถามหาบัว เพชรจึงย้อนว่าถามอะไร ทำไมปากต้องจ่อติดกันขนาดนั้น

“พี่เพชรพูดอะไรน่าเกลียด” การ์ตูนท้วงด้วยท่าทีอายๆ

“ก็ฉันเห็นเขาจูบแกอยู่ ว่าไงคุณฉัตรชัย ทำไมต้องจูบน้องสาวผม”

“ก็น้องสาวคุณไม่ยอมบอกนี่ว่าคุณบัวอยู่ที่ไหน ผมเลยต้องใช้วิธีนี้ หรือคุณอยากให้ผมใช้หมัดชกหน้าน้องสาวคุณ
นี่ผมเห็นว่าเป็นผู้หญิงนะ ผมถึงใช้ปากจูบ ว่าไงคุณการ์ตูน คุณบัวอยู่ไหน”

“บัวอยู่อเมริกา” เพชรตอบทันที

“คุณก็ถูกหลอกเหมือนผม ผมไปสืบมาแล้วน้องบัวไม่ได้อยู่อเมริกา”

“จริงหรือตูน” เพชรหันมาจ้องเขม็ง

“ตูนจะไปรู้ได้ไง”

“คุณรู้ แต่คุณไม่ยอมบอกพวกเรา”

“เอ๊ะ คุณนี่ยังไง ฉันบอกไม่รู้ๆ คุณจะมาคาดคั้นฉันทำไม แล้วก็ไม่ต้องมาถามฉันอีกนะ ถ้าคุณมาอีกฉันจะเรียกตำรวจจับคุณ เชิญออกไปได้แล้ว” การ์ตูนตัดบทเปิดประตูให้เขา

“ผมจะต้องรู้ให้ได้” ฉัตรชัยคำรามก่อนผลุนผลันออกไป... การ์ตูนหันมาเห็นเพชรยังจ้องตนอยู่ก็รู้สึกร้อนๆหนาวๆ

“พี่เพชรจ้องตูนทำไม”

“แกไม่ได้โกหกฉันนะ”

“สาบานได้ ก็เห็นจดหมายกันอยู่แล้วว่ามันส่งมาจากอเมริกา นายฉัตรชัยนี่มันบ้า ตูนว่ามันคลั่งไอ้บัวมากกว่า” การ์ตูนทำปากแข็ง แต่แอบหลบสายตาเพชรอย่างกลัวๆ

ooooooo

No comments:

Post a Comment