Saturday, September 10, 2011

เรื่องย่อ ตะวันเดือด ตอน อวสาน ละครช่อง3


ตอนที่ 15

บนเส้นทางที่มุ่งไปสู่ภูพยัคฆ์ กำลังมีการไล่ล่ากันอย่างบ้าดีเดือด บนรถบรรทุกของเฮียเส็งที่มีทั้งรานี ถาวร สมใจ และครกอยู่บนรถ ทุกคนช่วยกันยิงต้านรถจี๊ปของทางการที่ตามไปอย่างกระชั้นชิด

เมื่อทำอย่างไรก็หยุดรถของเฮียเส็งไม่ได้ ผบ.หมวดสั่งทหารให้เตรียมปืนกลแล้วยิงถล่ม รานีถูกยิงที่บ่าจนล้มลง กระสุนทะลุไปถูกครกเข้าอีกคน ถาวรเห็นเพื่อนบาดเจ็บ ลุกขึ้นประกาศให้ทุกคนหมอบแล้วตัวเองก็ยิงใส่รถทหาร ถูกพลขับตายพร้อม ผบ.หมู่ ตัวถาวรเองก็ถูกกระสุนไปหลายนัด

ถาวรแสดงความเสียสละ บอกให้สมใจกับรานีรีบหนีไป ส่วนเฮียเส็งก็ประคองครกขึ้นมาปลอบใจว่า ไม่เป็นไร อย่างมากก็กอดคอกันตายเท่านั้น

ไม่เพียงแต่รถจี๊ปทหารที่ไล่ตามมาเท่านั้น ยังมีทหารม้าอีกจำนวนหนึ่งควบม้ามาดักอีกทางด้วย เฮียเส็งบอกว่าสงสัยเราหนีไม่พ้นแน่ รานีพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่าอย่างมากพวกเราก็สู้ตาย

“ไม่...อย่าทำแบบนั้น ทุกคนหนีไปก่อนทางนี้ฉันจัดการเอง” ถาวรเด็ดเดี่ยวมาก สมใจจะอยู่ร่วมสู้ด้วย ถาวรไม่ยอมไล่ให้รีบหนีไปกับรานี ยังมีแก่ใจบอกสมใจว่า “แล้วอย่าลืมเรื่องแหวนของข้านะสมใจ เอ็งเป็นคนดี เอ็งต้องมีความสุข สมใจ...สักวัน...”

ถาวรยืนหยัดต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยว เมื่อรานีมองบาดแผลฉกรรจ์ของถาวรแล้วเดาได้ว่าเขาคิดอย่างไร จึงตัดสินใจลากสมใจหลบไป

ในที่สุด ถาวรก็ยิงต่อสู้กับพวกทหารปกป้องเพื่อนพ้องจนตัวตาย เฮียเส็งพูดอย่างสะเทือนใจว่า

“ลื้อไปดีเถอะวะไอ้ถาวร บุญคุณของลื้อ ชาตินี้อั๊วจะไม่ลืมเด็ดขาด”

ooooooo

เดชานำทหารถือปืนลุยเข้าไปในป่าอ้อย เห็นรอยใหม่ๆ สั่งทหารให้ค้นดูให้ทั่ว ส่วนตัวมันเองก็ถือปืนค้นไปจนเจอณรงค์ที่นอนบาดเจ็บอยู่ มีดของสิงห์ที่ปามาปักไหล่ยังคาอยู่

“ไอ้ตะวันกับนังเพชรรุ้ง มันกำลังหนีไปเมืองภูพยัคฆ์ แกรีบให้คนตามไปเร็วเข้า” ณรงค์สั่ง

เดชาเห็นมีดของสิงห์ยังปักคาอยู่ที่ไหล่ณรงค์ มันกระชากมีดออกมา ณรงค์ร้องอ๊าก ถามว่าจะทำอะไร เดชาจับณรงค์อุดปากเอามีดจ่อถาม

“แล้วมึงคิดว่ากูจะทำอะไร กับคนที่เป็นชู้กับเมียกู”

สิ้นเสียง เดชาจ้วงแทงณรงค์ไม่ยั้ง จนครั้งสุดท้ายมันปล่อยมีดคาไว้ ณรงค์ที่ยังไม่ตายสนิท เห็นเดชาลุกขึ้นจัดเสื้อผ้า ก่อนจะตะโกนอย่างสะใจ

“ทางนี้! ฉันเจอศพคุณณรงค์แล้ว คุณณรงค์ถูกไอ้สิงห์ฆ่าตาย!!”

ณรงค์ได้รับรู้ถึงความโฉดชั่วของเดชาก่อนที่จะสิ้นใจ...

เมื่อนำศพของณรงค์กลับไปที่เต็นท์กองบัญชาการทหาร เรืองฤทธิ์มองศพลูกชายด้วยแววตาที่เจ็บแค้น ถามทหารที่เอาศพณรงค์มาส่งว่า แน่ใจหรือเปล่าว่าเป็นฝีมือของสิงห์

“คุณเดชายืนยันว่ามีดที่พบบนศพเป็นของมันครับ” ทหารรายงาน ธนาถามว่าแล้วตอนนี้เดชาอยู่ไหน “กำลังตามคนร้ายอยู่ครับ สงสัยว่าจะหนีไปภูพยัคฆ์”

“ภูพยัคฆ์มีทหารฝ่ายตรงข้ามกับเรายึดครองอยู่ ถ้าพวกมันข้ามเขตไปได้เราคงเจอปัญหาใหญ่” ธนาเอ่ย  เรืองฤทธิ์นิ่งไปอึดใจ ก่อนสั่งการว่า

“เรื่องนั้นคงต้องฝากความหวังไว้ที่เดชา ส่วนทางนี้เราเองก็มีเรื่องต้องสะสางเหมือนกัน พวกไร่ฟ้ารุ่งจะต้องรับผิดชอบต่อการตายของณรงค์!” เรืองฤทธิ์ประกาศกร้าว

หลังจากนั้น ธนาก็ไปบอกศักดากับยศให้ไปพบนายพลเรืองฤทธิ์ ทั้งสองมองหน้ากันอย่างตกใจ ส่วนพวกคนงานไร่ฟ้ารุ่งก็ถูกกวาดต้อนกันโกลาหลใครที่ขัดขืนก็ถูกทหารยิงทิ้งอย่างเหี้ยมโหด

พลอยขวัญมาเจอสั่งให้หยุดเดี๋ยวนี้ ทหารที่มากวาดต้อนโต้ว่าท่านนายพลมีคำสั่งให้กักตัวชาวไร่ฟ้ารุ่งทุกคน ใครขัดขืนให้ฆ่าได้ทันที พลอยขวัญแค้นจนพูดไม่ออก

แก้วอยู่กับสาลี่ ทั้งสองวิ่งหนี ถูกทหารตามเจอ สาลี่บอกให้แก้วรีบหนีไป ตนทิ้งศักดากับพลอยขวัญไปไม่ได้ สั่งแก้วว่าถ้าเจอพรให้บอกด้วยว่าอย่ากลับมาที่นี่อีก แล้วไล่แก้วให้รีบหนีไป

ทหารมาถึงสั่งให้ยืนขึ้น สาลี่รีบยืนแสดงตัว ทหารเห็นแก้ววิ่งอยู่ไวๆ ยกปืนจะยิง สาลี่คว้าปืนไว้ขอร้องให้ปล่อยแก้วไปเถอะ เลยถูกทหารสะบัดปืนตบสาลี่จนล้มลง ปล่อยให้แก้วหนีไปเพราะเสียดายกระสุน

ส่วนบุหลันก็ถูกต้อนเช่นกัน ธนาสั่งบุหลันห้ามออกไปไหนเด็ดขาด บอกว่าตอนนี้ณรงค์ก็ตายแล้วเพราะถูกสิงห์ฆ่า ทำให้บุหลันนึกถึงคืนที่เห็นเดชาเดินออกจากบ้านพักไป พูดเป็นนัยว่าจะไปจัดการกับคนที่เป็นชู้กับเมียตน คิดแล้วบุหลันก็รู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างขึ้นมา

ooooooo

สิงห์ประคองภูตะวันที่บาดเจ็บหนักหนีไปท่ามกลางแสงแดดที่แผดกล้าขึ้นทุกที เขาบอกภูตะวันว่าพ้นป่าแล้วเราพักแถวนี้ก่อนดีกว่า ฝากเพชรรุ้งให้ดูแลภูตะวันส่วนตัวเขาจะไปหาน้ำมาให้กินกัน

ไม่มีใครรู้ว่าป่าละแวกนั้นเป็นที่ที่จรัญซ่อนตัวอยู่ สิงห์ไปพบร่องรอยพึมพำอย่างสงสัยว่าป่าแถวนี้มีคนพักแรมด้วยหรือ ลองตะโกนถามก็ไม่มีเสียงตอบ แต่ข้างหลังสิงห์นั้น จรัญจ้องอยู่อย่างหมายมาด เมื่อได้จังหวะก็เหวี่ยงด้ามปืนพกใส่หัวสุดแรง!

เดชาตามมาทันเพชรรุ้งกับภูตะวัน ทั้งสองพากันหนีอย่างยากลำบาก เดชาสั่งสมุนให้ตามไปจับตัวมาให้ได้ ภูตะวัน ฮึดสู้ถูกเดชาเตะตกเหว แล้วจับเพชรรุ้งมัดเอาตัวไป

โชคดีที่สมใจ รานี เฮียเส็ง และครกหนีไปถึงเมืองภูพยัคฆ์ได้สำเร็จ แม้ตัวเองจะปลอดภัยแล้วแต่รานีก็เป็นห่วงพวกภูตะวัน เธอชะเง้อมองจนสมใจอาสาจะย้อนกลับไปตามพวกเขา

“คุณจะต้องปลอดภัย รีบกลับมาเร็วๆด้วยล่ะ” รานีจับมือส่งอย่างให้กำลังใจ

“ครับ ผมสัญญาผมจะรีบกลับมาครับ” ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างมั่นใจกันและกัน

ฝ่ายเดชาตามหาภูตะวันไม่เจอมองไปก้นเหวก็เงียบกริบ จึงสั่งทหารพวกนั้นให้กลับเพราะใกล้ค่ำแล้ว
ภูตะวันนอนหมดสติอยู่ก้นเหว ไม่นานนักจรัญก็มาเอาตัวไป ภูตะวันฟื้นขึ้นมาก็เห็นสิงห์ในสภาพถูกมัดมือมัดปากอยู่โคนต้นไม้
ทีแรกภูตะวันก็ยังไม่รู้ว่าชายที่นั่งหันหลังจิบกาแฟคุมตนและสิงห์อยู่นั้นเป็นใคร พอถามว่าเป็นใคร ฝ่ายนั้นตอบโดยไม่หันมองว่า
“ศัตรูของศัตรู...ก็คือมิตรแท้”
ภูตะวันจำได้ทันทีว่ามันคือจรัญ ถามว่าต้องการอะไรแน่ จรัญบอกว่าตอนนี้ไร่ฟ้ารุ่งถูกพวกทหารยึดไปแล้ว ถ้าตนฆ่าเขาก็เท่ากับว่าช่วยพวกนั้น ภูตะวันตอบอย่างแค้นใจว่า ถึงไม่ฆ่าตนก็ไม่มีทางญาติดีด้วย
“งั้นเหรอ แล้วแกคิดว่าระหว่างฆ่าฉันกับช่วยคุณหนูเพชรรุ้งอย่างไหนสำคัญกว่ากัน สาโรจน์เองก็เป็นมือสังหารรับจ้าง ถามหน่อยเถอะมันดีกว่าฉันตรงไหน แกเทิดทูนมันเป็นวีรบุรุษ แล้วฉันล่ะ ตอนนั้นฉันก็รับจ้างไอ้ศักดามาเหมือนกัน แกมีสิทธิ์อะไรมาเกลียดฉัน ฟังให้ดีนะไอ้หนู ฉันไม่ได้ขอร้องให้แกอภัยฉัน แต่สิ่งที่ฉันขอคือ ฉันอยากให้เราร่วมมือกันเพื่อกำจัดศัตรูในภูพระกาฬ”
“แล้วฉันจะเชื่อใจแกได้ยังไง”
“เลือกเอาเลยไอ้หนู ดวลกันตอนนี้แล้วทิ้งศพไว้ให้พวกศัตรูมันขำเล่น หรือฆ่าศัตรูแล้วค่อยมาดวลกัน คนอย่างไอ้จรัญยังไงก็ได้อยู่แล้ว”
ความจริงจังของจรัญทำให้ภูตะวันลังเล หันมองสิงห์เชิงปรึกษา สิงห์ยักไหล่เบาๆ เป็นอันรู้กัน
ooooooo
ศักดากับยศไปพบเรืองฤทธิ์ ทั้งสองถูกจับมัดไปรวมไว้กับพลอยขวัญที่โรงนาในไร่ ศักดาอ้อนวอนเรืองฤทธิ์ว่าตนยอมทำตามข้อเรียกร้อง
ทุกอย่าง ขออย่างเดียวให้เขาออกไปจากไร่ฟ้ารุ่งเสีย
“เสียใจด้วยคุณศักดา ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้ ตอนนี้ไร่ฟ้ารุ่งเป็นของผมแล้ว สายแร่พลอยที่อยู่ในไร่ก็เช่นกัน ทั้งหมดคือสิ่งที่คุณต้องจ่ายเพื่อแลกกับชีวิตของณรงค์!”
พลอยขวัญต่อรองว่าอย่างน้อยก็น่าจะปล่อยพวกตนให้เป็นอิสระ เรืองฤทธิ์ยืนกรานว่าต้องให้ตนรู้ที่ซ่อนของสายแร่พลอยก่อน
“อย่าบอกนะครับคุณศักดา ขืนบอกเมื่อไหร่มันฆ่าเราทิ้งแน่” ยศร้องบอก เรืองฤทธิ์ดีดนิ้วเปาะ ทหารที่อยู่ข้างนอกลากตัวคนงานเข้ามาแล้วยิงหัวต่อหน้าศักดา ยศ และพลอยขวัญ ก่อนออกไปมันบอกว่า
“อีกสามชั่วโมงผมจะส่งคนมาถามเรื่องขุมพลอยจากคุณอีกครั้ง”
ศักดาอึ้งกับพฤติกรรมโหดของเรืองฤทธิ์ที่เอาชีวิตคนงานมาบีบตน
เพชรรุ้งถูกนำตัวมาที่ไร่ฟ้ารุ่ง สวนกับสาลี่ จึงรู้ว่าพ่อกับน้องสาวปลอดภัย พวกเขาอยู่ที่โรงนา ส่วนสาลี่พอรู้ว่าพรตายแล้วก็ร้องไห้แทบจะขาดใจ เพชรรุ้งจะเข้าไปปลอบถูกเดชากระชากตัวไว้ เธอบอกเดชาให้รีบพาตนไปหานายพลเรืองฤทธิ์เดี๋ยวนี้
เมื่อพบนายพลเรืองฤทธิ์ เพชรรุ้งชี้แจงว่า การตายของณรงค์ไม่เกี่ยวกับพวกตน เพราะณรงค์ได้รับบาดเจ็บจากการดวลกับสิงห์ แต่เขาก็หนีไปได้ สิงห์บอกว่ามีดไม่ได้ปักถูกที่สำคัญ
นายพลไม่เชื่อเพราะศพของณรงค์ถูกแทงยับไปทั้งตัว เพชรรุ้งเชื่อว่าสิงห์ไม่มีวันทำแบบนั้น ถามว่าตกลงใครเป็นคนพบศพณรงค์
“ผมเอง” เดชารับ “ผมยืนยันได้ว่ามีดที่ปักอยู่บนศพเป็นมีดของนายสิงห์ มันคงแค้นใจมากที่คุณณรงค์ฆ่านายพรญาติของมัน”
เพชรรุ้งมองเดชาอย่างจับผิด เรียวเองก็มองอย่างสงสัย เรืองฤทธิ์ตัดบทว่าเพชรรุ้งอย่าเฉไฉอีกเลยให้ไปกล่อมพ่อของเธอให้บอกที่ซ่อนของสายแร่พลอยก่อนที่จะมีคนตายมากไปกว่านี้
ooooooo
แล้วการเดินทางของจรัญ  สิงห์ และภูตะวันก็เริ่มขึ้น  ทั้งสองมุ่งมั่นที่จะต้องไปช่วยพลอยขวัญกับเพชรรุ้งให้ได้
ฝ่ายสมใจเมื่อกลับมาที่ภูพระกาฬแล้วก็มุ่งหน้าไปที่ร้านขายปืนของเฮียโชติ ถามสภาพในภูพระกาฬ เฮียโชติเล่าว่า เขาลือกันว่าเพชรรุ้งถูกจับได้ แต่สิงห์กับภูตะวันหายตัวไป ส่วนทางไร่ฟ้ารุ่ง พวกทหารยึดไร่ไปแล้วตอนนี้คนงานที่ไม่โดนฆ่าก็ถูกจับเป็นเชลยทั้งหมด
สมใจตกใจ เฮียโชติเลยบุ้ยใบ้ให้ถามแก้วดู แก้วยืนน้ำตาคลออยู่กับลุงฝิ่นโผเข้ากอดสมใจ เล่าว่า
“มีคนตายเยอะแยะเลยอาสมใจ คนงานที่ขัดขืนหรือว่าวิ่งหนีโดนพวกทหารฆ่าตายหมดเลยครับ”
“มันไม่ใช่ทหารหรอกแก้ว ทหารที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองมันก็เป็นได้แค่โจร” ลุงฝิ่นพูดอย่างแค้นใจ
เวลาเดียวกัน ที่รกร้างในภูพยัคฆ์ รานี เฮียเส็ง และครกพักกันอยู่ที่นั่น ครกเห็นมีคนสามคนเดินเข้ามาจึงร้องบอกเฮียเส็งว่ามีคนมาหา เฮียเส็งมองไป อุทานอย่างคาดไม่ถึง
“เฮ้ย...คุณภูตะวันกับไอ้สิงห์มาแล้ว”
ครกดีใจ รานีหันมองเห็นภูตะวัน แต่พอวิ่งไปหาเธอก็ชะงักเมื่อเห็นว่าคนที่เดินตามภูตะวันมาคือจรัญ!
ทั้งรานี เฮียเส็ง และครกต่างยังแค้นจรัญไม่หายคิดจะกำจัด แต่สิงห์บอกว่าจรัญเป็นคนช่วยตนกับภูตะวันไว้ และเมื่อภูตะวันชี้แจงกับรานีว่าตนไม่ได้ยกโทษให้จรัญแต่ตอนนี้เรื่องสำคัญที่สุดคือการกอบกู้ไร่ฟ้ารุ่งและช่วยพลอยขวัญ รานีดักคอว่าหรือไม่ก็เพื่อเพชรรุ้ง ภูตะวันไม่ตอบแต่หลบตาอย่างยอมรับ
“มีคนมากมายต้องตายเพราะความแค้นของเธอนะตะวัน เธอไม่รู้สึกผิดบ้างเหรอที่มาลังเลแบบนี้ อย่าลืมสิ แม้แต่สาโรจน์ก็ยอมตายเพื่อช่วยเธอแก้แค้น”
รานีถามว่าต่อจากนี้อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเขาขับไล่ทหารไปจากภูพระกาฬได้ เขาจะทำอย่างไรกับศักดาและความรักของเขากับเพชรรุ้งจะลงเอยอย่างไร ดักคอว่า
“อย่าบอกนะว่าเธอจะแต่งงานกับลูกสาวของศัตรู”
“ผมจะทิ้งทุกอย่างไว้ที่ภูพระกาฬ ผมจะไปจากที่นี่”
“เธอหยุดความแค้นของเธอไม่ได้หรอกภูตะวัน ต่อให้เธอปฏิเสธมันได้แต่เธอก็ไม่มีทางลืมมัน” พูดแล้วเห็นภูตะวันนิ่งคิด รานีย้ำ “คิดให้ดีนะตะวัน ก่อนที่จะเอาชนะ เธอต้องเห็นเป้าหมายเสียก่อนว่าจะสู้เพื่ออะไร เพื่อความรักหรือว่าเพื่อความแค้น”
ooooooo
หลังจากครุ่นคิดอย่างหนัก ศักดาขอพบเรืองฤทธิ์เสนอว่า
“ผมจะให้สิ่งที่ท่านต้องการถ้าท่านรับปากว่าครอบครัวของผม และคนงานในไร่ฟ้ารุ่งทุกคนจะได้รับอิสรภาพ”
ศักดาเสนอให้เรืองฤทธิ์พิสูจน์ความจริงใจด้วยการปล่อยตัวเพชรรุ้งกับคนงานทั้งหมดโดยเขาเองจะยอมเป็นตัวประกันอยู่ที่นี่ เรืองฤทธิ์หัวเราะอย่างเย้ยหยันถามว่า คนที่ไม่กลัวตายอย่างเขาชีวิตจะมีค่าอะไร แล้วเสนอเป็นคำขาดว่า “ผมให้คุณเลือกระหว่างลูกสาวของคุณ กับคนงานในไร่ คุณจะเลือกใคร”
ในที่สุด  ศักดาเลือกให้ปล่อยคนงานในไร่ทั้งหมด เพชรรุ้งชมว่าพ่อทำถูกแล้ว อย่างน้อยๆพวกคนงานก็ไม่ต้องมาเดือดร้อนเพราะเรา ส่วนยศไม่ยอมไป ยืนยันจะอยู่ที่นี่ด้วยเหตุผลว่า
“ผมต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของไอ้เดชา”
ฝ่ายเดชาเมื่อกลับไปที่เรือนเล็กเห็นบุหลันนั่งกินอาหารอยู่เพียงลำพัง เขาบ่นว่าเหนื่อยไม่ได้นอนมาหลายคืนมีอะไรค่อยว่ากันทีหลัง แล้วเดินผ่านไป แต่บุหลันไม่ยอมตามไปด่าทอต่อว่าที่ขังตนไว้หลายวันโดยไม่มาดูดำดูดีเลย เดชาตวาดว่าก็เพราะเธอเป็นเมีย ตนจะทำอย่างไรก็ได้
“ฉันแค่นอนกับแกแต่ไม่ใช่เมียของแก และตอนนี้ฉันจะไปจากที่นี่ ฉันไม่ทนต่อไปอีกแล้ว”
เดชาหันมาคว้าแขนไว้ ถูกบุหลันทั้งตบทั้งถีบ เดชาดึงไว้สุดแรงก่อนตะปบคอหอยผลักไปชิดผนัง
“ฟังฉันให้ดีนะบุหลัน เธอต้องเคารพฉันให้มากกว่านี้ เคารพมากกว่าไอ้จรัญ เพราะอีกไม่นานเมืองภูพระกาฬจะตกเป็นของฉัน นั่นคือสิ่งที่เราเคยฝันไม่ใช่เหรอ”
“แต่ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว นอกจากไปให้พ้นจากความชั่วของแก”
“ก็เอาสิ ถ้าเธออยากตายเหมือนไอ้ณรงค์” บุหลันฟังแล้วอึ้ง เดชาถามว่า “อยากรู้ไหมว่า ชู้รักของเธอตายยังไง ฉันนี่แหละที่เป็นคนเชือดมันก่อนจะโยนความผิดให้ไอ้สิงห์ ขนาดมันฉันยังฆ่าได้ แล้วผู้หญิงอย่างเธอฉันจะแคร์ทำไม”
บุหลันด่าเดชาว่าบ้าไปแล้ว แต่พอเดชายิ้มเหี้ยมเข้าใส่ เธอก็กลัวจนต้องหยุดโวยวาย
ooooooo
ภูตะวันฝันเห็นเพชรรุ้งถูกยิงเข้ากลางหลังขณะวิ่งหนี  ตื่นขึ้นมาเขาไปฝึกซ้อมยิงปืนใช้กระสุนไปหลายชุดแต่ก็พลาดเป้าเสียเกือบหมด เมื่อเขาขอกระสุนอีก จรัญติงว่าพอได้แล้วกระสุนมีไว้ฆ่าศัตรูไม่ใช่ยิงเล่น เพราะมือขวาของเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว
เฮียโชติตัดสินใจปิดร้านปืน ยกทั้งปืนและเครื่องกระสุนทั้งหมดให้สมใจเอาไปสู้กับพวกที่มายึดภูพระกาฬ เพราะถึงเปิดร้านก็ถูกพวกนั้นมาปล้นไปหมด
ลุงฝิ่นแอบเติมน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ของสิงห์เพื่อให้สมใจขับหนี แต่สมใจไม่ทันไปก็ได้ยินเสียงระเบิดกัมปนาทขึ้น ลุงฝิ่นบอกเฮียโชติว่าต้องเป็นฝีมือพวกทหารแน่ๆ สมใจสงสัยว่าพวกทหารจุดระเบิดทำไม
ที่แท้เรืองฤทธิ์สั่งทหารไประเบิดปากถ้ำภูอุษา จากนั้นให้ทหารขุดพลอย เมื่อได้พลอยมาจำนวนหนึ่งก็ยิ่งโลภสั่งระดมขุดเป็นการใหญ่
ที่ข้างนอก พวกทหารต้อนคนงานในไร่ฟ้ารุ่งออกไป แต่แล้วจู่ๆก็ถูกต้อนกลับมาเพราะเดชาเสนอว่าจะใช้ทหารขุดพลอยให้เหนื่อยทำไม ให้เอาคนงานที่ปล่อยไปกลับมาขุดดีกว่า เพราะชำนาญกว่าทหาร

เรืองฤทธิ์เห็นด้วย แต่ธนาท้วงติงว่าถ้าทำแบบนั้นจะผิดคำพูดกับศักดา เรืองฤทธิ์ยกมือห้ามทันที

“เดชาพูดถูกแล้ว ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องแคร์อะไรทั้งนั้น แม้แต่คำสัญญา”

เมื่อศักดาเห็นทหารต้อนคนงานกลับมาก็แค้นใจที่ถูกหลอก ผลุนผลันผลักประตูจะออกไปต่อว่าเรืองฤทธิ์ ไปถึงโรงอาหารที่ต้อนพวกคนงานกลับมากักไว้ เห็นเรืองฤทธิ์กำลังประกาศแก่พวกคนงานว่า

“ทุกคนฟังให้ดี ฉันนายพลเรืองฤทธิ์ขอให้สัญญาว่า คนงานของไร่ฟ้ารุ่งทุกคนจะปลอดภัย ได้รับอาหารและที่พักถ้ายอมทำงานในเหมืองพลอยให้ฉัน แต่ถ้าใครปฏิเสธ มันต้องตายสถานเดียว”

สาลี่ลุกขึ้นด่าเรืองฤทธิ์ว่ามีสิทธิ์อะไรมาบังคับพวกตน พวกตนเป็นพลเรือนไม่ใช่ทหาร ได้รับเสียงสนับสนุนจากพวกคนงานเซ็งแซ่ แต่สาลี่ก็ถูกธนาปราดเข้าฟาดหลังมือใส่จนหงายหลัง จากนั้นเรืองฤทธิ์ถาม

“ใครมีคำถามอีกไหม”

“ท่านนายพล” ศักดาตะโกนขึ้น ทหารเห็นศักดาก็เข้าไปควบคุมรั้งแขนเอาไว้แต่ศักดาก็ยังตะโกน “ท่านทำผิดสัญญา ไหนท่านบอกว่าจะปล่อยคนของผมเป็นอิสระ”

เรืองฤทธิ์เถียงว่าก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น เพราะบังเอิญตนต้องใช้แรงงานพวกนี้ ถูกศักดาด่าว่าเขาเอาศักดิ์ศรีของนักรบไปทิ้งที่ไหน โกหกอย่างไร้ยางอาย เรืองฤทธิ์ตวาดอย่างเกรี้ยวกราดว่า

“อย่ากำเริบให้มากนักคุณศักดา ตราบใดที่ชีวิตของคุณกับลูกสาวยังอยู่ในกำมือผม!”

ศักดาแค้นจัดตะโกน “ไอ้แก่ชาติชั่ว กูจะฆ่ามึง” ถูกทหารเข้าคุมตัวแต่ศักดาแย่งปืนทหารเล็งใส่เรืองฤทธิ์ ทันใดนั้นเดชาก็เอาพานท้ายปืนฟาดใส่ศักดาอย่างจัง คนงานจะส่งเสียงเชียร์ศักดาเซ็งแซ่ก็ถูกเดชายิงปืนขึ้นฟ้าขู่ว่า “ใครเสนอหน้าออกมา กูยิงไม่เลือก”

มีคนงานรายหนึ่งคว้าก้อนหินปรี่เข้าใส่เดชาแบบยอมตาย ถูกเดชายิงแสกหน้าล้มทั้งยืน คนงานพากันเงียบกริบ มีแต่สาลี่ที่คำรามออกมาทั้งน้ำตา

“ไอ้เดชา ไอ้หมาขี้เรื้อน”

เดชาหันปืนใส่สาลี่อีกคน ดีที่คนงานพากันลากสาลี่หลบไปเสียก่อน ศักดามองเดชาอย่างไม่เชื่อสายตากับความบ้าระห่ำของเขา

ooooooo

ภูตะวันทำใจไม่ได้กับการสูญเสียสมรรถภาพในการยิงของตัวเอง นั่งซึมเศร้าอย่างหมดอาลัยตายอยาก คิดถึงในวัยเด็กที่สาโรจน์สอนทุกอย่างให้ตน นึกถึงคำสอนที่สาโรจน์ย้ำแล้วย้ำอีกว่า

“จำไว้ภูตะวัน สิ่งที่ฉันสอนแก ไม่ใช่การฆ่าแต่มันคือการปกป้องตัวเอง เมื่อไม่มีฉันแกจะต้องยืนหยัดต่อไป และไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ทำให้แกฝันร้ายได้อีก”

ภูตะวันฮึดขึ้นมา ลุกขึ้นยืนหยัดอีกครั้ง ปลุกใจตัวเองเมื่อนึกถึงพลอยขวัญกับเพชรรุ้งว่า

“ไม่ใช่เพื่อฆ่า แต่เพื่อปกป้อง”

แล้วทุกคนก็อัศจรรย์ใจ เมื่อภูตะวันกลับมายิงปืนได้อย่างแม่นยำอีกครั้งด้วยมือซ้ายที่ไม่ถนัด ครกมองทึ่ง เฮียเส็ง บอกว่าของแบบนี้มันฝึกกันได้ สิงห์ถามว่าแค่ชั่วโมงเดียวนี่หรือ เป็นไปได้ยังไง

“ขอแค่เชื่อมั่น ก็ย่อมมีหวัง...สาโรจน์เคยบอกกับฉันแบบนั้น” รานีพูดแทรกขึ้นด้วยรอยยิ้มภูมิใจ

จรัญส่งปืนยาวให้บอกภูตะวัน ลองใช้มือขวายิงดู ภูตะวันรับไปควงเลื่อนกระสุนใส่ลำเพลิงก่อนยิงออกไป กระสุนแบบลูกปรายกระจายพุ่งทำลายเป้าหมายเบื้องหน้าทันที เฮียเส็งชมเปาะอย่างพอใจว่า

“ไม่เลว ถ้าใช้กระสุนแบบลูกปรายมือขวาก็หวังผลได้เหมือนกัน”

ขณะทุกคนกำลังชื่นชมยินดีกับภูตะวันนั่นเอง สมใจก็ขี่มอเตอร์ไซค์ของสิงห์มาถึง ทุกคนกรูกันออกไปรับถามถึงข่าวคราวที่ภูพระกาฬ ถามถึงพวกเราทางโน้นว่าเป็นอย่างไรบ้าง

“คุณณรงค์เสียแล้วครับ มีคนใส่ร้ายว่าคุณสิงห์กับพวกเราเป็นฆาตกร ตอนนี้นายพลเรืองฤทธิ์ก็เลยยึดไร่ฟ้ารุ่งแล้วก็จับครอบครัวคุณศักดาเอาไว้ ส่วนพวกคนงานก็ถูกบังคับให้ทำงานในเหมืองพลอย”

จรัญตาลุกวาวถามว่าพวกมันเจอสายแร่พลอยแล้วหรือ มันอยู่ไหน ภูตะวันขัดขึ้นทันทีว่าอยู่ที่ถ้ำภูอุษาแต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เราต้องสนใจตอนนี้ ภารกิจแรกของเราก็คือ ช่วยคนออกมาให้ได้

“แล้วจะช่วยใครก่อน ครอบครัวคุณศักดาหรือว่าพวกคนงาน” สิงห์ถาม

เป็นคำถามที่ทำให้ภูตะวันเงียบไปอย่างใช้ความคิด

ooooooo

ที่โรงนาไร่ฟ้ารุ่ง ศักดาถูกประคองกลับมาในภาพบอบช้ำจากน้ำมือของพวกทหาร ยศแค้นเดชาที่ทำร้ายคนงานฮึดฮัดจะไปฆ่า เพชรรุ้งเตือนสติว่าถึงฆ่าเดชาตายพวกทหารก็ยังอยู่ ศักดาจึงเสนอให้หาทางหนีเพราะขืนอยู่ต่อไปพวกมันต้องฆ่าเราแน่

พลอยขวัญถามว่าจะหนีไปไหน มีที่ไหนที่พวกเรืองฤทธิ์จะตามเราไปไม่ได้ เพชรรุ้งจึงเสนอ

“ภูพยัคฆ์ พวกของพี่ตะวันก็หนีไปทางนั้น”

“ทหารที่ปกครองภูพยัคฆ์ เป็นศัตรูกับนายพลเรืองฤทธิ์” ยศบอก ศักดานิ่งอย่างคิดตาม

ที่เส้นทางมุ่งไปสู่ภูพยัคฆ์ รถของเฮียเส็งที่ถูกยิงยางแตกยังทิ้งอยู่กลางทาง เฮียเส็งกับครกมาดูรถเพื่อซ่อมแซมหมายเอากลับไปพาคนงานที่ไร่ฟ้ารุ่งหนี อย่างน้อยขนคนเจ็บได้ก็ยังดี

เฮียเส็งถามครกว่าไปไหวไหมเพราะยังบาดเจ็บอยู่ ครกตอบอย่างเข้มแข็งว่า

“ไหวสิเถ้าแก่ เถ้าแก่ลุยไหนไอ้ครกลุยตามอยู่แล้ว”

“เอ็งไม่ได้เป็นแค่ลูกน้องข้าไอ้ครก แต่เอ็งเป็นเพื่อนแท้” เฮียเส็งพูดอย่างซึ้งใจ

คืนนี้เอง ทุกคนที่ซ่อนตัวในที่รกร้างในภูพยัคฆ์ก็เตรียมพร้อม ทุกคนมีอาวุธครบมือตามถนัดและเป็นอาวุธประจำตัว ทั้งยังได้จากที่สมใจขนมาจากเฮียโชติอีก ทุกคนฮึกเหิมที่จะไปช่วยพรรคพวกที่ไร่ฟ้ารุ่งกันเต็มที่

รานีอยากไปด้วย แต่ภูตะวันไม่ให้ไปบอกว่าสมใจขอร้องไว้ไม่อยากให้เธอต้องไปเสี่ยง รานีมองสมใจที่กำลังจัดอานม้าอยู่ สมใจหลบหน้าพูดเขินๆ แก้เกี้ยวว่า อยู่ทางนี้จะได้มีคนคอยประสานงาน

รานีอวยพรให้ทุกคนโชคดีปลอดภัยกลับมา

เมื่อจรัญบอกว่าได้ฤกษ์เดินทางแล้ว สิงห์สตาร์ต มอเตอร์ไซค์ที่มีจรัญสั่งข้างๆ ส่วนสมใจกับภูตะวันขี่ม้าไปด้วยกัน ทั้งหมดออกเดินทางโดยมีรานียืนส่งอยู่อย่างเอาใจช่วย

ooooooo

จรัญกับสิงห์เข้าไปล่อพวกทหารให้ตามล่าพวกตน เพื่อให้ภูตะวันกับสมใจดักโจมตี ทำให้พวกทหารล้มตายเป็นใบไม้ร่วง

ส่วนเฮียเส็งกับครก ก็บุกเข้าไปในถ้ำภูอุษาพาคนเจ็บป่วยขึ้นรถกลับไปที่ภูพยัคฆ์ สาลี่พาชายชราที่เจ็บป่วยหนักคนหนึ่งไปด้วย แต่ที่แท้มันคือเรียวปลอมตัวมา เมื่อไปถึงภูพยัคฆ์มันเผยโฉมหน้าและฆ่าคนงานที่ขนมาตายเป็นเบือ

ขณะนั้นเอง มีเสียงโครมครามอยู่ในบ้านภูตะวัน สิงห์ จรัญและสมใจที่เพิ่งกลับมาถึงจึงถือปืนเข้าไปดู เจอรานีในสภาพถูกเรียวฟันและกรีดหน้าจนตาบอดทั้งสองข้างกำลังคลานออกมาชนของล้มตึงตัง

รานีบอกทุกคนว่า “มันจะใช้ความแค้นเป็นเหยื่อล่อพวกเธอ อย่าหลงกลมันนะ รีบหนีไปเสีย เธอสู้มันไม่ได้หรอกตะวัน มันวางแผนที่จะฆ่าพวกเราทุกคน”

สมใจแค้นจนน้ำตาไหลผลุนผลันออกไปข้างนอกประกาศจะฆ่าเรียวให้ได้

ส่วนที่โรงนา พวกศักดาวางแผนทำเป็นป่วยให้ทหารมาพาไปหาหมอ พอทหารเปิดประตูเข้ามาก็ถูกยศที่ซ่อนตัวอยู่โผล่มาเล่นงาน ศักดาบอกให้พลอยขวัญรีบไปช่วยเพชรรุ้งที่กำลังแย่งปืนกับทหารอยู่ ทหารแย่งปืนได้มันยิงใส่พลอยขวัญ ศักดากระโจนเข้าเอาตัวบังไว้เลยถูกยิงเข้าที่หัวไหล่

ยศรีบมาดูศักดา แต่ศักดาบอกว่าไม่ต้องห่วงตนให้รีบหนีไปเร็วๆ

เดชาอยู่ที่เรือนเล็กได้ยินเสียงปืนจึงผลุนผลันออกไป บุหลันได้โอกาสเก็บเครื่องเพชรที่ไถ่คืนจากณรงค์ใส่ถุงเตรียมหนี ค้นเจอปืนกระบอกเล็กของตัวเองในลิ้นชักจึงหยิบไปด้วย

ยศประคองศักดาจะพาหนีออกไป แต่เขาถูกทหารยิงจนเลือดโกรกจากกระหม่อม ยศถูกทหารที่เขายิงบาดเจ็บโงหัวขึ้นมายิงซ้ำจนยศขาดใจตาย ทำให้ศักดา เพชรรุ้งและพลอยขวัญหมดกำลังใจที่จะหนีพากันกอดร่างยศร้องไห้อย่างอาลัย

ในที่สุด ทั้งสามก็ถูกทหารจับตัวไปอีกครั้ง เรืองฤทธิ์เชื่อว่าต้องมีคนมาช่วยศักดาอีก จึงสั่งให้ย้ายสามพ่อลูกไปขังไว้ที่โรงแรมสันติภาพเพื่อทำให้โรงแรมกลายเป็นกับดักพวกที่จะมาช่วยศักดากับลูก

ระหว่างพาสามพ่อลูกไปนั้น เฮียโชติเจอเข้าถามธนาว่าจะพาไปไหน

“เราจะพาพวกเขาไปไว้ที่โรงแรมสันติภาพ” ธนา

บอกแล้วป่าวประกาศ “ฝากชาวเมืองภูพระกาฬแจ้งไปถึงไอ้ตะวันกับไอ้สิงห์และพวกฆาตกรที่ฆ่าคุณณรงค์ด้วยว่า พรุ่งนี้ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ถ้าพวกมันไม่มาปรากฏตัว เราจะประหารชีวิตนายศักดากับลูกเสีย โทษฐานที่มีส่วนรู้เห็นกับคดีที่เกิดขึ้น”

ooooooo

ฝ่ายเดชาบ้าเลือดเสียจนเหมือนคนเสียสติ กลับมานั่งดื่มที่เรือนเล็ก ดูรูปครอบครัวสมัยที่เขาเองยังเด็ก ทั้งหัวเราะ ทั้งร้องไห้ สะใจกับผลงานของตัวเองแต่ก็รู้สึกโดดเดี่ยวจนไม่เหลือใครอีกแล้ว

ขณะนั้นเอง มันคิดถึงบุหลันขึ้นมา แต่พอไปดูในห้องเห็นข้าวของถูกรื้อก็รู้ว่าบุหลันหนีไปแล้ว มันขี่ม้าไล่ตามไปทันที่ป่าโปร่ง อ้อนวอนบุหลันไม่ให้ทิ้งตนไป แต่บุหลันขอไปตายเอาดาบหน้า

เมื่ออ้อนวอนบุหลันไม่สำเร็จ เดชาพรวดเข้าหาถูกบุหลันยิงล้มลงไม่ไหวติง บุหลันตกใจแต่ก็ตัดใจจะหนี แต่พอเก็บข้าวของลุกขึ้นกลับเจอเดชามายืนอยู่ข้างหลัง มันบีบคอบุหลันจนแน่นิ่งไปคามือ

ต่อมาทหารลาดตระเวนไปเจอศพบุหลันนอนตายจนเกือบเน่าแล้ว เมื่อกลับมารายงาน ธนารายงานต่อยังเรืองฤทธิ์ เรืองฤทธิ์พึมพำอย่างแปลกใจว่า เมียหายไปทั้งคนแต่ไม่เห็นเดชาเดือดร้อนอะไร

“เขามีปากเสียงกับคุณบุหลันก่อนที่จะหายตัวไป คิดว่าเป็นเรื่องของคุณณรงค์” ธนาเล่า

เรืองฤทธิ์ถามว่าสงสัยอะไรอยู่หรือ ธนาจึงเล่าว่า วันที่ตนเผชิญกับพวกภูตะวันพวกนั้นยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้ฆ่าณรงค์ เพชรรุ้งก็เคยพูดแบบเดียวกัน เรืองฤทธิ์ถามย้ำว่าสงสัยเดชางั้นหรือ ธนาพยักหน้าแต่บอกว่าเราไม่มีหลักฐาน

“ไม่เป็นไร ไอ้งูพิษตัวนี้ ฉันไม่คิดจะเลี้ยงมันอยู่แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ส่งมันไปตายเสียให้สิ้นเรื่อง”

ooooooo
เมื่อเฮียโชติมาส่งข่าวเรื่องเรืองฤทธิ์เข่นฆ่าชาวบ้านเป็นว่าเล่น ภูตะวันตัดสินใจจะต้องไปช่วยชาวบ้าน แต่จรัญแย้งว่านั่นไม่ใช่แผนที่ เราตกลงกันไว้ แล้วจรัญก็ขอถอนตัว เดินจากไป ทำให้สาลี่แค้นใจตามไปด่า เฮียเส็งก็ตามไปด่าว่า เพราะความบ้าอำนาจของจรัญนั่นแหละทำให้ภูพระกาฬต้องลุกเป็นไฟอย่างนี้

จรัญไม่สนใจ แต่พอมันเดินไปภูตะวันก็ยิงตามหลังแต่ไม่ถูก ทุกคนพากันงง เมื่อจรัญเงยหน้าขึ้น ภูตะวันบอกให้เขาไปเสีย ทุกอย่างมีเหตุผลแต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะอธิบาย พูดเตือนสำนึกของจรัญว่า

“ความรู้สึกของคนใกล้ตายเป็นยังไงคุณควรจะจดจำไว้บ้าง เพราะทุกชีวิตที่เซ่นสังเวยอำนาจของคุณเขาก็รู้สึกแบบเดียวกัน”

ภูตะวันพูดจบ ทุกคนก็หันหลังเดินกลับไป ปล่อยให้จรัญทบทวนตัวเองอยู่กับความว่างเปล่า

แล้ววันนี้ สมใจก็ได้ทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ เมื่อออกมาทักทายรานีที่ตาบอดทั้งสองข้างนั่งพักอยู่บริเวณที่รกร้างอันเป็นที่พักของพวกภูตะวัน สมใจได้เปิดเผยถึงความรู้สึก ความจริงใจและมั่นคงของตนที่มีต่อรานี จากนั้นมอบสิ่งหนึ่งใส่มือรานีไว้ เมื่อรานีคลำดูจึงรู้ว่าเป็นแหวนที่ถาวรให้สมใจไว้นั่นเอง

สมใจเปิดเผยความรู้สึกและมอบแหวนให้รานีแล้ว ดึงเธอเข้าไปกอดอย่างมีความสุข

ooooooo

หลังจากแยกกับเดชาไปสำเริงสำราญกันไม่นาน กรณ์ ไกร และศร ก็เงินหมด แต่ขณะกำลังวิตกนั่นเอง เดชาก็ตามมาเจอชวนไปทำธุรกิจกัน ทั้งสามถามอย่างตื่นเต้นว่าธุรกิจแบบไหน

“ฆ่าคน” เดชายิ้มเลือดเย็น จากนั้นก็พากันกลับมาเตรียมลงมือทำงานโดยทางเรืองฤทธิ์จัดกำลังทหารให้เพียงน้อยนิดอย่างมีแผน เดชาตัดสินใจว่าจะสู้ให้ถึงที่สุดถ้าชนะก็ได้รางวัลแต่ถ้าแพ้ก็ตาย

ฝ่ายพวกภูตะวัน ก็เตรียมออกเดินทางมาช่วยเพชรรุ้งและพลอยขวัญ โดยมีสิงห์ เฮียเส็ง และครกร่วมด้วย สาลี่ประคองรานีออกมา รานีเชื่อว่าพวกเขาจะต้องชนะกลับมา

จรัญแยกตัวไป เจอชาวบ้านที่เป็นลุงแก่ๆ กับหลานตัวเล็กๆ กระเซอะกระเซิงกันมา จรัญถามว่าจะไปไหนกัน มาทำอะไรในป่า

“ในเมืองตอนนี้มันอยู่ได้ที่ไหนล่ะพ่อคุณ พวกทหารถือปืนกันให้พล่านไปหมด พอปืนกลายเป็นกฎหมายทหารก็กลายเป็นโจรซะเอง ในภูพระกาฬตอนนี้สีไหนขาวสีไหนดำแยกไม่ออกแล้ว” ลุงระบายทุกข์

“ที่ไหนก็เป็นแบบนี้ อย่าคิดมากเลยลุง”

“ใช่ บ้านไหนเมืองไหนก็เป็นแบบนี้ คนมีอำนาจโลภโมโทสันแก่งแย่งต่อสู้กันบนความทุกข์ของชาวบ้าน จะมีใครบ้างรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองก่อเอาไว้”

จรัญฟังแล้วอึ้ง ลุงกอดหลานสาวไว้อย่างปวดร้าว ห่วงใย

ooooooo

บริเวณโรงแรมสันติภาพกลายเป็นสมรภูมิเลือดกลางเมืองภูพระกาฬ เดชาจัดวางกำลังต่อต้านพวกภูตะวันโดยเรืองฤทธิ์ส่งเรียวไปอยู่ที่นั่น สั่งเรียวให้เตรียมพร้อมไว้ ถ้าพวกเดชาสู้กันจนเหนื่อยเมื่อไหร่เราค่อยตามขยี้ซ้ำ

ดังนั้น ก่อนที่การปะทะจะดุเดือดเลือดพล่านจะปะทุเรียวจึงเข้าไปยึดห้องพักห้องหนึ่งเก็บตัวทำสมาธิเพื่อรับศึกสำคัญโดยมีดาบซามูไรวางอยู่เบื้องหน้า

แม้ว่าพวกภูตะวันจะมากันเพียงไม่กี่คน แต่รานีได้จัดเตรียมกำลังในเมืองคอยช่วยอยู่แล้วมีสมใจกับแก้ว ลุงฝิ่นและเฮียโชติอยู่บนตึกฝั่งตรงข้ามโรงแรม คอยโยนระเบิดและ ยิงเปิดทางให้ภูตะวันกับพวกบุกเข้าไปในโรงแรม

ศักดากับลูกทั้งสองถูกขังอยู่ในห้อง เมื่อได้ยินเสียงปืนยิงต่อสู้กันก็เดาได้ว่ามีคนมาช่วยแล้ว

แม้เดชาจะฉลาดบ้าบิ่น แต่มันไม่ใช่ทหารจึงวางแผนการรบไม่เป็น ไม่นานพวกมันก็ถูกพวกภูตะวันที่บุกเข้าไปในโรงแรม และพวกสมใจที่ยิงสะกัดจากหลังคาตึกเฮียโชติ จนมันต้องสั่งให้พรรคพวกหาที่กำบังจนกระทั่งถอยไปข้างหลัง มันสั่งให้เอาปืนกลออกมายิงแต่ไม่นานพลปืนกลก็ถูกยิงตาย

เรืองฤทธิ์ฟังรายงานการต่อสู้ตลอดเวลา เห็นลางไม่ดีถามธนาว่าเห็นจรัญไหม ปรากฏว่าไม่มีใครเห็น

ไกรบุกเข้าไปที่ห้องศักดาฉุดพลอยขวัญออกมา เธอกัดแขนมันจนต้องปล่อย เธอวิ่งไปหาภูตะวันกับสิงห์ ไกรจะบุกไปฉุด ถูกเรียวเปิดประตูออกมาตวัดดาบตัดแขนมันขาดทันที ไม่เพียงเท่านั้นยังปักซามูไรใส่อกไกรจนตาย กระชากซามูไรออกแล้วประกาศ

“ทุกคนไปได้ ยกเว้นฆาตกรที่ฆ่าคุณณรงค์” เพชรรุ้งร้องบอกว่าสิงห์กับภูตะวันไม่ได้ฆ่าณรงค์ ภูตะวันกับสิงห์บอกว่าป่วยการที่จะพูด ภูตะวันบอกเพชรรุ้งให้พา “คนอื่น” ซึ่งเขาหมายถึงศักดาหนีไปก่อน

ที่นั่น จึงเหลือภูตะวันกับสิงห์เผชิญหน้ากับเรียว เรียวท้าดวลหนึ่งต่อสองเลยก็ได้ ว่าแล้วตวัดซามูไรอย่างคล่องแคล่ว ภูตะวันชักมีดพกออกมา ส่วนสิงห์ชักมีดคู่ออกมาเช่นกัน

ผ่านการต่อสู้อย่างยอมเอาชีวิตเข้าแลก ทั้งสามคนต่างได้แผลบาดเจ็บไปตามกัน ภูตะวันกับสิงห์เห็นอาการบ้าเลือดของเรียวแล้วก็สบตากันอย่างอดที่จะหวั่นไม่ได้เหมือนกัน

ooooooo
เมื่อการต่อสู้ดุเดือดเลือดพล่านจนพวกเดชาคุมกันไม่อยู่ เพชรรุ้งก็คว้าปืนมายิงแสกหน้าศรหัวกระจุย ศพของศรร่วงลงไปกองตรงหน้าเดชา ทำให้มันรู้ว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว
เวลาเดียวกัน ธนาก็รายงานเรืองฤทธิ์ว่า เดชาเสียกำลังคนไปมากแต่อีกฝ่ายก็ติดอยู่ในวงล้อมฝ่าออกไปไม่ได้เหมือนกัน
“ถ้างั้นก็ได้เวลาของเราแล้ว สั่งทหารเตรียมเคลื่อนทัพ บุกเมืองภูพระกาฬ!”
แต่เรืองฤทธิ์ไม่ทันได้บุกก็ถูกจรัญที่ปลอมตัวเป็นทหารสาดกระสุนใหญ่จนหลบแทบไม่ทัน ธนาร้องตะโกนให้คนช่วย แต่ในยามนี้ไม่มีใครช่วยใครได้ เรืองฤทธิ์ถูกจรัญถือปืนไล่ยิงอย่างบ้าเลือด แต่จรัญก็ถูกทหารยิงไปหลายนัด ไม่นานนักทั่วทั้ง บริเวณแคมป์ทหารก็คละคลุ้งไปด้วยกลุ่มควันและกลิ่นดินปืน
เรืองฤทธิ์หนีเข้าไปในเต็นท์กองบัญชาการ เห็นเงาคนแว่บๆ นึกว่าจรัญยิงสวนไป กลายเป็นธนา พริบตาเดียวจรัญก็ถือปืนเข้ามาเล็งใส่เรืองฤทธิ์ ทหารเข้ามาช่วย จรัญสั่งให้หารถมาให้ตนเดี๋ยวนี้
ที่โรงแรมสันติภาพ ภูตะวันกับสิงห์ยังต่อสู้กับเรียวเอาเป็นเอาตาย
ที่ถนนนอกเมือง เฮียเส็งกับครกกำลังตะบึงรถมา เพื่อช่วยพวกภูตะวัน ครกขับตะลุยเข้าใส่เดชาที่กำลังง้างนกปืนจะยิงศักดา ทำให้เดชา กรณ์ และพวกทหารหันมายิงสกัดรถ ลืมเฮียโชติที่มันคุมตัวอยู่
“รีบพาเฮียโชติเข้ามา” ศักดาตะโกน ลุงฝิ่น เพชรรุ้ง และพลอยขวัญจึงช่วยกันลากเฮียโชติหลบเข้าไปในห้อง เป็นเวลาที่ครกขับรถทะลวงชนกรณ์ฝ่าด่านเข้าไปได้ แล้วคว้าปืนกระโดดลงจากรถยิงใส่พวกทหาร จนทหารแตกหนีกันกระเจิง
เดชาเห็นทหารวิ่งหนีก็เรียกกลับมาแต่ไม่มีใครฟัง เดชาด่าทหารพวกนั้นแล้วหันมาสู้แบบจนตรอก ประกาศก้อง “กูไม่ยอมแพ้หรอก คนอย่างกูไม่มีวันยอมแพ้!!”
ooooooo
จรัญจับเรืองฤทธิ์ให้พาไปที่ถ้ำภูอุษา จรัญหน้าตาเริ่มอิดโรยเพราะแผลที่ถูกยิงเสียเลือดมา เรืองฤทธิ์มองอย่างเจ้าเล่ห์ จรัญลงจากรถพาเข้าไปดูในถ้ำ เจอลังใส่ระเบิดสำหรับระเบิดหินมากมาย
เรืองฤทธิ์พยายามเอาผลประโยชน์จากแร่พลอยมาหว่านล้อมจรัญเพื่อร่วมมือกัน ปรามาสว่าจรัญไม่มีทางกลับมาครองภูพระกาฬได้อีกแล้ว
“อันที่จริงท่านก็อาจจะพูดถูกนะท่านนายพล ผมคงไม่มีทางกลับไปมีอำนาจเหมือนเมื่อก่อนแต่ปัญหาก็คือ ผมอยู่อย่างคนขี้แพ้ไม่เป็น ผมขอตาย...อยู่อย่างผู้ชนะ”
จรัญประกาศว่าพลอยในถ้ำนี้เป็นของตนใครก็เอาไปไม่ได้ทั้งนั้น สิ้นเสียงก็ยิงใส่ระเบิดทันที เรืองฤทธิ์ผลักจรัญ แล้ววิ่งหนีออกไปแทบไม่ทัน พริบตาเดียวถ้ำก็ถล่มด้วยแรงระเบิดเสียงกึกก้องกัมปนาท
ทหารพากันหนีไปหมดแล้ว แต่เดชายังอยู่ มันโผล่มายกปืนกลขาหักวางพาดกระสอบทรายยิงกราดใส่ทุกคน ในโรงแรมมิตรภาพอย่างบ้าระห่ำ ลุงฝิ่นถูกยิงเข้าที่ขา และพลอยขวัญที่วิ่งเข้าไปช่วยลุงฝิ่นก็ถูกยิงเข้าที่แขนจนล้ม
แต่ในที่สุดเดชาก็ถูกระเบิดเพลิงที่ทำจากขวดเหล้าในโรงแรม ไฟลุกท่วมร้องโหยหวน ภูตะวันยิงซ้ำจนแน่นิ่งแต่ ยังไม่ตาย พอลุกได้มันจับเพชรรุ้งเป็นตัวประกัน เมื่อเห็นรอบตัวมีแต่พวกของศักดา เดชาตัดสินใจยิงเพชรรุ้ง แต่ถูกภูตะวันยิงใส่มันก่อน จากนั้น ทุกคนก็ช่วยกันยิงถล่มจนเดชาขาดใจจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น
เฮียเส็งถามถึงหมอว่ายังอยู่ไหม ครกบอกว่าหมอย้ายไปอยู่ท้ายโบสถ์แล้ว แก้วอาสาไปตามให้ ระหว่างนั้น ภูตะวันปลอบใจเพชรรุ้งว่าหมอกำลังเดินทางมาแล้ว ต่างเผยความรู้สึกที่มีต่อกัน  เพชรรุ้งเอ่ยปากอยากได้กังหันอันใหม่ สัญญาว่าจะรักษามันไว้ให้ดีไม่ให้ถูกทำลายอีก
เมื่อได้กังหันแล้ว เพชรรุ้งเอาวางแนบที่หัวใจก่อนหมดสติไป ภูตะวันกอดร่างเธอแผดเสียงร้องออกมาท่ามกลางความโศกเศร้าของทุกคน...
ooooooo
สองเดือนต่อมา พลอยขวัญบอกกล่าวแก่ทุกคน ท่ามกลางบรรยากาศของภูพระกาฬที่สดชื่นและ ชาวบ้านที่พากันโห่ร้องด้วยความยินดีว่า...
“ฝันร้ายได้ปิดฉากลงในวินาทีนั้น เมืองภูพระกาฬและไร่ฟ้ารุ่งได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง...
เมื่อไม่มีนายพลเรืองฤทธิ์กับสายแร่พลอย พวกทหารของเขาก็ต้องถอนกำลังกลับไป ท่ามกลางความยินดีของชาวไร่ฟ้ารุ่ง...ในขณะที่พี่ตะวันก็เดินทางกลับไปยังบ้านเกิดของอาสาโรจน์เช่นกัน นอกจากคุณรานีแล้ว ไม่มีใครทราบข่าวของเขาอีกเลย...
เรื่องราวความรักความแค้นของเขา...ค่อยๆเงียบหายไปจากไร่ฟ้ารุ่ง...”
ส่วนที่โรงแรมสันติภาพกลับมาคึกคักอีกครั้ง ที่นั่นกำลังฉลองต้อนรับนายอำเภอคนใหม่คือ สมใจนั่นเอง เฮียเส็งกล่าวต้อนรับว่าไม่มีใครเหมาะสมกับตำแหน่งนี้เท่ากับสมใจอีกแล้ว เพราะเขาใจซื่อมือสะอาดพิฆาตทรชน
สมใจถามว่าแล้วใครจะมาเป็นผู้ช่วยตน พลางมองไปที่เฮียโชติ แต่เฮียไม่เอาด้วยเพราะอยากค้าขาย  ในที่สุด สมใจขอลุงฝิ่นมาเป็นผู้ช่วย แม้จะอ่านออกแต่เขียนไม่ค่อยได้แต่มือสะอาด ทุกคนเลยปรบมือต้อนรับลุงฝิ่นมาเป็นผู้ช่วยนายอำเภอ
สมใจเห็นรานีกับแก้วมายืนอยู่แถวหน้าโรงแรม เขารีบไปหา รานีแสดงความยินดีด้วยแล้วจะไป สมใจรีบถามว่าของที่ตนเคยฝากไว้ยังอยู่หรือเปล่า รานีจึงเอาแหวนวงนั้นออกมา สมใจรับไปสวมแหวนให้ที่นิ้วเธอ เอ่ยปากขอแต่งงานด้วย รานีบอกว่าตนตาบอดแถมยังเคยเป็นโสเภณีและที่สำคัญ “ฉันไม่ได้รักคุณ”
สมใจบอกว่าตนรอได้ถามแก้วว่าจริงไหม แก้วถามว่าตนเกี่ยวอะไรด้วย
“เราสามคน ตัวคนเดียวเหมือนกันนะครับ คุณรานี แต่ถ้าคุณรับปากผมเมื่อไรเราจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน เราจะไม่เดียวดายอีกต่อไป”
แก้วมองลุ้นเต็มที่ รานีได้แต่ยิ้มปลื้มกับความคิดของสมใจ
ooooooo
พลอยขวัญเห็นถึงความดีของสิงห์จนกลายเป็นความรัก ขณะทั้งคู่คุยกันอยู่นั้นเห็นดาวตก สิงห์บอกให้รีบอธิษฐานแล้วแอบจุ๊บแก้มเธอ ทั้งคู่หยอกล้อกันอย่างมีความสุข แต่ก็อดคิดถึงภูตะวันไม่ได้...
ภูตะวันที่หายเงียบไปนั้น เขากลับไปทำงานในเมืองภูพระกาฬกับเจ้านายฝรั่ง เขาเขียนจดหมายถึงศักดา เพชรรุ้งถามว่าภูตะวันเขียนว่าอย่างไรบ้าง
“ภูตะวันส่งข่าวมาว่า เขาอโหสิให้พ่อและก็ฝากพ่อให้ดูแลไร่ฟ้ารุ่งกับพลอยขวัญต่อไป”
ศักดาบอกเพชรรุ้งว่า ภูตะวันเป็นคนดี การที่เขายอมยกโทษให้ตนก็ถือว่ามากพอแล้ว ทางที่ดีเธอควรลืมเขาเสีย ปล่อยให้ทุกอย่างจบลงแค่นี้ เพชรรุ้งทนฟังไม่ได้ ลุกเดินออกไป ศักดาถามว่าจะไปไหน เธอบอกว่าจะไปหาภูตะวัน ศักดายังหว่านล้อมว่า
“เชื่อพ่อเถอะลูก เขาไม่มีทางยอมรับลูกเด็ดขาด ถึงวันนี้เขาหันหลังให้ความแค้นได้ แต่สักวันมันก็ต้องปะทุขึ้นมาอีกตราบใดที่ลูกยังอยู่กับเขา”
“รุ้งไม่กลัว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รุ้งจะทำทุกอย่างเพื่อให้พี่ตะวันกลับมาเป็นคนเดิม พี่ตะวันเจ็บปวดมาพอแล้ว เกินพอแล้ว”
“ความแค้นก็เหมือนคำสาปนะเพชรรุ้ง ลูกจะเอาอะไรไปชนะมัน” ศักดาได้แต่เตือนเท่านั้น
ooooooo
เพชรรุ้งตัดสินใจไปหาภูตะวันที่กระท่อมของสาโรจน์ ขณะภูตะวันมองตะลึงอยู่นั้น เพชรรุ้งบอกว่าตนมีของมาฝาก พลางหยิบกังหันไม้ไผ่ส่งให้ บอกว่าตนทำเองแทนอันเก่าที่พังไป
ภูตะวันรับไปมองอย่างไม่แน่ใจว่าอันใหม่จะอยู่ได้นานแค่ไหน...
“รุ้งจะอยู่ที่นี่” เพชรรุ้งพูดเหมือนเดาใจเขาออก “เราจะมีวันพรุ่งนี้ด้วยกัน รุ้งจะอยู่ข้างๆพี่จนกว่าพี่จะลืมฝันร้ายแล้วมันจะต้องผ่านพ้นไป พี่เชื่อรุ้งนะ แค่รอ...แค่เรารอให้วันใหม่มาถึง”
“รุ้ง...พี่ทำไม่ได้...” ภูตะวันพูดอย่างเจ็บปวด
“พี่ต้องทำได้ พี่ต้องทำเพื่อน้องสาวคนนี้ ถ้าพี่ทำสำเร็จ เราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน แต่ถ้าพี่ยอมแพ้ ชาตินี้เราจะไม่ได้เจอกันอีก”
ภูตะวันตั้งสติ ชั่งใจระหว่างความรักกับความแค้น เขาหันมองเพชรรุ้งที่รอลุ้นคำตอบอยู่ พูดนํ้าตาคลออย่างสะเทือนใจว่า
“เพชรรุ้ง...พี่จะทำเพื่อคุณ เราจะรอ...รอวันพรุ่งนี้ด้วยกัน”
เพชรรุ้งโผเข้ากอดภูตะวันด้วยความดีใจ ร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น ภูตะวันกอดเธอไว้อย่างมีความสุข...รอคอยจนแสงเงินแสงทองทาบขอบฟ้าในวันรุ่งขึ้น...
ooooooo

-อวสาน-

No comments:

Post a Comment