Wednesday, September 21, 2011

เรื่องย่อ ลูกผู้ชายไม้ตะพด ตอน7 ละครช่อง7







ตอนที่ 7

เมื่อพันเทพรู้ความลับของไม้ตะพดเพิ่มขึ้นจากเวตาล เขาจึงถามวิธีที่จะได้ไม้ทั้งสองอันมาครอบครอง เวตาลยิ้มกริ่มที่พันเทพต้องพึ่งพาตน หาสิ่งที่จะฆ่าคนถือไม้ตะพดให้ได้

“การจะฆ่าคนที่ถือไม้ตะพดจะต้องใช้สิ่งของด้วยกันสามอย่าง อย่างแรกคือไม้ตะพดอันใดอันหนึ่ง สองคือตำราหนังเสือที่บอกถึงการรวมกันของไม้ตะพด”

“ฉันมี แต่มีแค่ครึ่งเดียว...” พันเทพค้นในกล่องไม้จึงรู้ว่ามันหายไปแล้ว

เวตาลว่ามีแค่ครึ่งเดียวก็ไม่อาจเห็นลายแทงที่ถูกต้องได้ พันเทพเจ็บใจนึกได้ว่าต้องเป็นพวกอบเชยที่เข้ามาขโมยไปแน่...ในคืนนั้น ขณะที่พันเทพนอนหลับ เวตาลย่องเข้ามายิ้มเยาะ

“เจ้าหน้าโง่เอ๊ย เจ้าไม่รู้หรอกว่า เลือดมนุษย์จะทำให้ข้ามีพลังที่กล้าแกร่งขึ้น อีกไม่นานข้าก็จะได้กลับเป็นพญาเวตาลอีกครั้ง” เวตาลเปิดผ้าห่มตรงปลายเท้าพันเทพ เห็นมีแผลเล็กๆจึงก้มลงดูดเลือดสดๆ

พันเทพรู้สึกเจ็บสะดุ้งตื่น ไม่เห็นใคร มองนิ้วเท้าตนเองมีเลือดซึมก็แปลกใจแต่ไม่สงสัย...รุ่งขึ้น พันเทพยังหงุดหงิดที่หนังเสือหายไป จึงร้องเรียกเวตาลให้ออกมา มันค่อยๆแง้มประตูตู้

“เจ้าไม่ให้ข้าออกมาตามอำเภอใจ เหตุใดเจ้าจึงเรียกข้าตามอำเภอใจเช่นนี้”

“ก็แกยังไม่บอกสิ่งของอย่างที่สามที่จำเป็นต้องมี เพื่อจะฆ่าคนที่มีไม้ตะพดได้น่ะสิ”

“แต่เจ้ามีเพียงไม้ตะพด ไร้หนังเสือ เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สิ่งของอย่างที่สามนั่นหรอก”

พันเทพโมโหจะตามเอาหนังเสือคืนมาให้ได้ เวตาลแสยะยิ้มและบอกว่า คนที่ขโมยไปคงไม่มีเหตุผลอื่นที่จะหยิบหนังเสือที่ขาดวิ่นไป นอกเสียจากว่าจะมีอีกครึ่งอยู่แล้ว พันเทพครุ่นคิด ไม้นะไม้ไม่น่าเลย...ขณะเดียวกัน เมฆไข้ขึ้นสูงเพ้อว่าเวตาลกลับมา พยายามรีบตามหมอ

เวลาผ่านไป ทิวาแอบเข้ามาค้นร่มของพันเทพในห้องทำงาน แล้วเขาก็ได้กลิ่นสาบในตู้ จึงเปิดออกดู ต้องผงะเมื่อเผชิญหน้ากับเวตาลอย่างจัง ทิวาถูกเวตาลจ้องตา เสียงมันกระซิบ

“เจ้าปรารถนาสิ่งใดโปรดเผยความในใจแก่ข้า...

ไม้ตะพดรึ งั้นคงต้องฟาดฟันกับพ่อของเจ้าหน่อยแล้ว...เจ้ายังปรารถนาความจริงบางอย่างเกี่ยวกับพ่อของเจ้าด้วย ได้ ข้าจะช่วยชี้นำเจ้าเอง แต่เวลานี้ เจ้าจงลืมข้าให้หมดสิ้นซะก่อน”

สิ้นเสียงเวตาล ทิวาก็ล้มลง ลิ้นชักโต๊ะทำงานเปิดออกเอง ทิวาสะดุ้งเห็นสมุดเล่นหนึ่ง เขาหยิบมาเปิดดู เจอรูปไม้ในนั้น เขาแปลกใจครุ่นคิด

ooooooo

ในขณะที่ ไม้เอาตำราหนังเสือทั้งสองส่วนมาให้ไกรดู ไกรเอาสองส่วนมาต่อกันแล้วเขาเห็นลายน้ำจางๆหลัง ตัวหนังสือ เขาสงสัยว่าจะเป็นลายแทง แต่ตัวอักษรที่ปรากฏเป็นอักษรโบราณที่เขาอ่านไม่ออก แต่ที่แน่ๆมันต้องเกี่ยวกับไม้ตะพด...ไกรสอนท่ากรงเล็บพยัคฆ์ให้ไม้จนหมดสิ้น เขาบอกไม้จากนี้ให้กลับไปฝึกฝนเอาเอง ที่สำคัญคือสมาธิ แล้วชวนไม้ไปเป็นเพื่อนทานข้าวกับคนที่เขานัดไว้วันนี้ ไม้รู้ดีว่าคือแพรวา

แพรวาเห็นไกรมากับไม้รู้สึกผิดหวัง พอดีอบเชยจ่ายตลาดผ่านมาเห็นทั้งสามคนอยู่ในร้านอาหารก็รี่เข้ามาสมทบ ไกรถือโอกาสชวนอบเชยนั่งทานอาหารด้วยกัน อบเชยพยายามแสดงความเป็นเจ้าของไม้ด้วยการตักอาหารให้ ไกรจึงตักอาหารให้อบเชยบ้าง ไม้จะตักให้แพรวาแต่ถูกอบเชยแย่งไปตลอด แพรวาทานอาหารอย่างไม่มีความสุข หลังจากนั้น อบเชยก็จัดแจงให้ไกรเป็นคนไปส่งแพรวา ไม้มองตามอย่างเสียดาย อบเชยชวนไม้ไปเยี่ยมเมฆ

มาถึง ไม้กับอบเชยจึงได้รู้ว่า เมฆถูกส่งเข้าห้องไอซียู แผลติดเชื้อ หมออธิบายว่า อวัยวะถูกทำลายคงต้องผ่าตัดเอาไตออกข้างหนึ่ง ไม้ตกใจถามว่ามีผลกระทบอะไรบ้าง

“ประสิทธิภาพของร่างกายจะลดลงราว 30-50 เปอร์เซ็นต์ครับ ไม่สามารถทำงานหนักๆหรือใช้แรงเยอะๆได้” หมอถามว่า เมฆทำงานอะไร พอรู้ว่าขับรถ บขส.จึงว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร

ระหว่างที่แพรวานั่งนิ่งมาในรถไกร เธอก็เอ่ยปากขอโทษที่ตนคุยไม่เก่งเหมือนอบเชย ไกรพูดยิ้มๆว่าคนที่เป็นธรรมชาติเหมือนอบเชย หายาก แพรวาน้อยใจที่ดูไกรจะชื่นชมอบเชยมาก จึงต่อว่าไม่น่าเขียนจดหมายมาหาตน  ไกรทำหน้างงเพราะเขาต่างหากที่ได้รับจดหมายจากเธอ แพรวาส่งจดหมายให้และบอกว่าตนหยิบมาจากที่บ้านเขา

“แต่ผมมั่นใจว่า ผมไม่ได้เขียนแน่ๆ คุณคิดว่าการ ที่มาม๊าผมโดนพ่อคุณคอยส่งคนมารังแกเพราะเรื่องสัมปทานหลายปีที่ผ่านมาเนี่ย จะทำให้ผมอยากใกล้ชิดคุณรึไง”

“จริงสินะ ฉันก็หลงคิดมาตลอดว่า ฉันกับพ่อเป็นคนละคนกัน คงไม่มีใครคิดอะไรเรื่องนี้”

“คนที่ถูกกระทำ มีค่าไม่เท่ากับคนที่กระทำหรอกครับ”

“หึๆ ฉันกลายเป็นคนที่เข้าใจผิด แล้วคิดไปเองตลอดเลยสินะ น่าสมเพชจริงๆ”

“ผมต้องขอโทษด้วยที่มีส่วนทำให้มันเป็นเช่นนั้น แต่เรื่องนี้เชื่อเถอะ มันไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของใคร”

“แล้วความรู้สึกที่เกิดขึ้นแล้วล่ะ ฉันต้องดูแลมันเองคนเดียวใช่มั้ย”

ไกรนิ่งไม่คิดว่าแพรวาจะกล้าพูดออกมาตรงๆ บรรยากาศในรถเงียบสงัดไป...

หน้าห้องไอซียู อบเชยปลอบใจไม้ที่เสียใจว่าตนเป็นต้นเหตุให้เมฆต้องบาดเจ็บ พันเทพปรากฏตัวขึ้น เขามาทวงหนังเสือที่ถูกขโมยมา ไม้อึกอักไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร จึงเปลี่ยนเป็นต่อรองขอแลกกับร่ม ทิวาแอบตามมา แปลกใจทำไมพ่อมาพบไม้ตามลำพัง ไม่มีสมุนมาด้วย

“กล้าพูดซะจริง ฉันไม่อยากทำร้ายเธอหรอกนะไม้ แต่ฉันคงให้ไม่ได้” พันเทพหัวเราะ

“ถ้างั้น ฉันก็ให้ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าอยากได้แกคงต้องออกแรงแล้วล่ะ” ไม้ท้า

“ไม้ เธอสู้มันไม่ได้หรอก เธอก็เห็นแล้วนี่ว่าพ่อฉันกับลูกผู้ชายเป็นยังไง” อบเชยกระซิบ

ไม้กระซิบตอบว่า เขาอยากได้สัมผัสร่มนั่นอีกสักครั้ง ว่าใช่ไม้ตะพดเลือดหรือไม่ และหนังเสือทั้งสองชิ้นก็อยู่ที่ไกร เมฆซึ่งนอนไม่ได้สติ รับรู้ได้ว่ากำลังจะมีการต่อสู้ของไม้กับพันเทพ เหงื่อเขาผุดออกมา ขมวดคิ้วกระสับกระส่ายเหมือนอยากจะห้ามไม้

พันเทพกับไม้ออกมาแถวริมสระ พันเทพโยนไม้พายให้ไม้กับอบเชยใช้เป็นอาวุธ การต่อสู้เริ่มขึ้น ดูท่าจะเป็นการแย่งชิงร่มเสียมากกว่า ทิวาแอบดูอย่างใจจด

ใจจ่อ เขาได้เห็นว่าไม้มีความสามารถมากขึ้น ถึงขนาดทำให้พันเทพพลาดท่าหลายครั้ง ในที่สุดไม้ก็ชิงร่มมาได้ และเขาก็รู้สึกถึงพลังของมัน เขาบอกอบเชยว่าใช่ไม้ตะพดเลือดจริงๆ ทิวาได้ยินตกใจที่พ่อตนมีไม้นั่น
พันเทพยอมรับว่าตนแพ้แล้วขอร่มคืน แต่ไม้ไม่ยอมคืนให้ พันเทพร้อนใจ “เป็นแบบนี้ไม่ได้ เอาคืนมาก่อน ยังไม่ถึงวันที่จะยกมันให้แก”

“พูดเรื่องอะไร แกเนี่ยนะ อีกหน่อยจะยอมยกของรักของหวงให้ฉัน” ไม้ย้อนถาม

พันเทพอยากจะพูดความจริงเหลือเกิน เผอิญทิวาโผล่ออกมา บอกไม้ให้เอาร่มประจำตระกูลคืนมา มันต้องตกทอดถึงลูกหลานไม่ใช่คนนอกอย่างเขา อบเชยให้ไม้คืนร่มให้พันเทพ ไม้ไม่ยอมหาว่าให้พันเทพเอาไปทำร้ายใครๆอีก ทิวาโมโหโถมเข้าแย่งจึงเกิดการต่อสู้กัน แต่แล้วทิวาก็สู้ไม่ได้ พันเทพเตือนไม้ว่า เขาใช้มันไม่เป็นหรอก ได้ไปก็กลายเป็นของไร้ประโยชน์ ไม้หาว่าหลอก แล้วฉุดอบเชยวิ่งหนี ทิวาเจ็บใจต่อว่าพันเทพที่ปล่อยไม้ไปอีกแล้ว

“ทำไมพ่อไม่เคยบอกผมสักคำเกี่ยวกับร่มคันนั้น ทุกคนรู้ยกเว้นผม”

“มันยังไม่ถึงเวลา”

“ทั้งที่ผมเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล ที่ยังไงของสิ่งนี้ก็ต้องตกทอดมาที่ผม แต่พ่อไม่เคยบอก ไม่เคยแม้แต่จะสอนมวย สอนวิชาการต่อสู้ให้ผม ถ้าผมไม่เอ่ยปากขอ ทำไม...”

“ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาจะมาถามเรื่องอะไรแบบนี้ ถ้าแกเป็นลูกที่ดีจริง เห็นพ่อตัวเองเจ็บยังมัวจะห่วงเรื่องอะไรแบบนั้นอยู่อีกรึไง”

ทิวารีบประคองพันเทพลุกขึ้นทั้งที่ยังไม่พอใจ

ooooooo


หลังจากเมฆสงบลง นอนนิ่งอยู่ในห้องไอซียู ไม้ไม่อาจนอนเฝ้าพ่อได้ ได้แต่ยืนมองหน้าห้อง เขาอยากเข้าไปถามพ่อว่าเก็บไม้ตะพดไว้ที่ไหน เขาได้ไม้ตะพดเลือดมาแล้ว อบเชยรู้สึกว่าไม้จะถูกอำนาจเข้าครอบงำ จึงให้เวลาไม้ครอบครองร่มเพียงสามวันแล้วตนจะเอาไปทิ้งเอง

พันเทพกลับมาด้วยร่างกายบาดเจ็บมากขึ้นไปอีก เวตาลยิ้มเยาะว่าเมื่อไม่มีหนังเสือและไม้ตะพดแล้วก็ไม่มีความสำคัญที่จะต้องอยู่ด้วย แต่ตนจะต้องฟื้นพลังขึ้นมาก่อน

ไม้กลับมารื้อค้นในบ้านจนทั่วว่าพ่อซ่อนไม้ตะพดไว้ที่ไหน และยกแผ่นไม้กระดานขึ้นซ่อนไม้ตะพดเลือดที่ได้มาไว้ เขาครุ่นคิดแล้วนึกได้ว่าอาจจะเป็นที่รถ...ไม้รีบมาที่ท่ารถ ชาญกำลังทำความสะอาดบนรถ เผอิญทำกระปุกเกียร์หลุดออกมา

“ซวยละ พี่เมฆรู้โดนด่าแน่ แกยิ่งรักรถอยู่ด้วย” ชาญเห็นมดมอดไต่ออกมาจากคันเกียร์ก็ปัดไล่บ่นว่ามาอยู่ทำไมในนี้มีแต่น้ำมันเกียร์ ไม่ทันไรมีกลิ่นหอมโชยมาเตะจมูก

พลัน เสียงจันทร์ซึ่งล้างตัวถังรถอยู่ทักไม้ ชาญรีบเอากระปุกเกียร์ใส่ดังเดิม ไม้ขึ้นมาเห็นท่าทางชาญแปลกๆ ชาญกลบเกลื่อนถามอาการเมฆ ไม้ตอบว่ายังไม่ค่อยดี นี่ตนก็มาหาของให้พ่อ ชาญว่าไม่เห็นมีอะไรนอกจากรูปไม้ที่ติดอยู่หน้ากระจก ไม้เดินหาทั่วรถไม่มีอะไรจึงกลับไป

ด้านไกร เขาเอาหนังเสือทั้งสองส่วนมาให้หลวงพ่อช่วยดูตัวอักษรโบราณที่อ่านไม่ออก หลวงพ่อว่า

มันคล้ายอักษรพม่า เมื่อก่อนเคยมีเด็กกะเหรี่ยงมาอาศัยวัด แต่ตอนนี้เรียนจบกลับบ้านไปหมดแล้ว หลวงพ่อแนะนำว่าตัวอักษรนั่นคงเกี่ยวข้องกับข้อความภาษาไทยในนั้น ไกรกลับมาเปิดเน็ตค้นหา จึงรู้ว่าไม่ใช่อักษรพม่า เพียงแต่คล้าย...

แล้วในวันนั้น จันทร์เห็นชาญเขียนจดหมาย แปลกใจ ที่ตัวหนังสือไม่ใช่ภาษาไทย ชาญรีบปรามให้เบาๆเกรงใครจะรู้ว่าตนไม่ใช่คนไทย เป็นชาวปกากะญอ ชาญเล่าว่า มีครูคนไทยขึ้นไปสอนหนังสือ เขาจึงพูดไทยได้ชัด และได้ยินตำนานลูกผู้ชายมาแต่เล็ก จึงอยากมาเป็นลูกศิษย์ ระหว่างที่สองคนคุยกัน สักยกพวกวินมอเตอร์ไซค์มาตามคำสั่งพันเทพให้มายึดรถ บขส.ของเมฆ เพื่อให้ไม้เอาร่มมาแลกคืน ชาญกับจันทร์ไม่อาจต่อสู้ขัดขวางไว้ได้...

เมฆเข้ารับการผ่าตัด ไม้เฝ้ารออย่างกระวนกระวาย อบเชยมาเตือนไม้ให้คืนร่มแก่พันเทพ ไม้ว่าไหนให้เวลาตนสามวันหาไม้ตะพดของพ่อมารวมพลังว่าจะเกิดอะไรขึ้นก่อน แต่อบเชยสังหรณ์ใจว่า พันเทพจะไม่รอเวลาและจะเกิดเรื่องเดือดร้อนขึ้นอีก

ผลการผ่าตัดเรียบร้อยดี ไม้เข้ามานั่งกุมมือเมฆที่ยังไม่ฟื้น จู่ๆเมฆก็เพ้อ “อย่าเอาไปนะๆ”

“พ่อ พ่อว่าอะไรนะ” ไม้ตกใจ

“เอารถคืนมา อย่าให้มันเอาไป”

ไม้เรียกอบเชยมาช่วยฟัง อบเชยปลอบว่าเมฆฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ก็คงรู้ว่าเรื่องอะไร อบเชยเป็นห่วงไม้ถึงขนาดเอาข้าวมาป้อนให้ ไม้ปัด อบเชยพลาดล้มมาอยู่ในอ้อมกอดของไม้ ทั้งสองมองกันซึ้ง แล้วอบเชยก็เฉไฉบอกไม้ว่าถ้าไม่ยอมกิน ตนจะป้อนด้วยปาก ไม้ผลักอบเชยออก ต่างคนต่างเขิน แต่ก็ทำให้ไม้ยอมกินข้าว...

ไม่ทันไร ชาญกับจันทร์วิ่งหน้าตื่นมาส่งข่าวเรื่องรถ

“มันฝากข้อความไว้ด้วยว่า ถ้าอยากได้รถคืน ก็ให้คืนของมันไปก่อน ไม่งั้นรถจะกลายเป็นแค่กองเศษเหล็ก” ชาญสาธยาย

จันทร์รีบถามว่าเอาอะไรของพันเทพมา   ไม้หน้าเครียด

ooooooo

ท่าทางพันเทพอิดโรยหน้าซีด นั่งทานอาหารกับลูกๆทั้งสามคน ต่างคุยกันว่า ได้ฝันถึงสัตว์ประหลาดอะไรสักอย่าง มีปีก ทิวาว่าฝันเห็นอยู่ในห้องทำงาน ราตรีเห็นบินวนเวียน ส่วนแพรวาบอกว่ามันเล่านิทานให้ฟัง พันเทพฟังแล้วกังวลใจ แต่ปัดว่าเป็นแค่ความฝัน ไม่ทันไร สมุนโทร.มารายงานว่ายึดรถเมฆมาได้แล้ว

รถจอดอยู่หน้าบ้าน พันเทพเดินขึ้นมามองไปทั่วว่าจะมีไม้ตะพดซ่อนอยู่หรือไม่ พลันเวตาลได้ตามขึ้นมา พันเทพจึงต่อว่าที่ไปเข้าฝันลูกๆ เวตาลอ้างว่า ช่วงฟื้นคืนพลัง พลังที่กระจัดกระจาย ตนบังคับไม่ได้ เวตาลสัมผัสได้ถึงพลังของไม้ตะพดจึงถามพันเทพว่าได้คืนมาแล้วหรือ

“ยัง แต่เชื่อว่าจะได้มันคืนเร็วๆนี้ล่ะ”

“ยัง...แต่ทำไมข้ารู้สึกถึงพลังที่มหาศาลในนี้”

“พลัง...หมายความว่าไง” ไม่ทันจะพูดต่อ พันเทพได้ยินเสียงคนเดินมาจึงให้เวตาลหลบ

ทิวาเดินขึ้นมา “พ่อน่ะเอง ผมกำลังสงสัยว่านี่รถใคร...ตอนนี้เข้าใจแล้ว พ่อจะแลกกับไม้ตะพดใช่มั้ยครับ”

























เรื่องย่อละคร เสือสั่งฟ้า
1 .เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน  ช่  อ  ง   7    
2..เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 2  ช่  อ  ง   7    
3..เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 3  ช่  อ  ง   7    
4..เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 4  ช่  อ  ง   7    
5..เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 5  ช่  อ  ง   7    
6  เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 6  ช่  อ  ง   7    
7  เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 7  ช่  อ  ง   7  
8  เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 8  ช่  อ  ง   7  
9  เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 9  ช่  อ  ง   7  
10  เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 10  ช่  อ  ง   7  
11  เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 11  ช่  อ  ง   7  
12  เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 12  ช่  อ  ง   7  
13  เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 13  ช่  อ  ง   7  
14  เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 14  ช่  อ  ง   7  
15  เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 15  ช่  อ  ง   7  
16  เรื่องย่อละคร  เสือสั่งฟ้า ดูละครย้อนหลัง ตอน 16  ช่  อ  ง   7  




ตอนที่ 12

ยิ่งยศขลุกอยู่ในห้องทำงาน เขาพลิกอัลบั้มเก่าๆดู นับแต่เพชรเพิ่งคลอดจนค่อยๆเติบโต รูปเกศินีอุ้มเพชร และรูปครอบครัวที่อบอุ่นสามคนพ่อแม่ลูก
ยิ่งดูรูปความแค้นก็ยิ่งคุ สุดท้ายมาเจอรูปแต่งงานที่ทั้งตัวเขาและเกศินีหมอบอยู่บนตั่งน้ำสังข์ ในรูปตัวเขาเองยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ในขณะที่เกศินีหน้าเศร้าๆ เขาเอะใจว่าทำไมเมื่อก่อนตนไม่ได้สังเกต วันนี้จึงนึกได้ว่า เธอเสียใจขนาดไหนที่ต้องแต่งงานกับตน
ซ้ำร้าย เมื่อพลิกต่อไปรู้สึกหนาๆเห็นมีรูปอีกใบหนึ่งซ้อนอยู่หลังภาพนั้น จึงดึงออกมาดู
เป็นรูปหาญถ่ายคู่กับเกศินี ทั้งคู่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข และที่หลังภาพ หาญเขียนไว้ว่า
“พี่ขอสัญญา...ความรักของเราสองคน จะคงอยู่ชั่วนิรันดร...หาญ”
ยิ่งยศจ้องรูปนั้นตาแดงก่ำด้วยความแค้น
ooooooo
ฝ่ายกระเต็นที่นัดกับเพชรไว้ว่าจะไปฝึกด้วยกันทุกวัน เขาจะมารับที่กลางซอยทุกเช้า จนวันนี้ถูกดาลินกับชาญชัยมาเจอถามว่าจะไปไหน กระเต็นตกใจคิดไม่ทันโกหกว่าจะไปเรียนทำผม
ทั้งดาลินและชาญชัยหัวเราะขำๆที่คนทะโมนเป็นม้าดีดกะโหลกอย่างกระเต็นจะไปเรียนเสริมสวย กระเต็นตกใจกลัวถูกจับได้ กำลังจะสารภาพอยู่แล้ว ก็ได้ยินดาลินถามพ่อว่าคนอย่างกระเต็นไปเรียนทำผมเราหูฝาดไปหรือเปล่า กระเต็นเลยเปลี่ยนใจ แก้สถานการณ์ตามน้ำเอาตัวรอดไปได้
เหตุผลที่กระเต็นชี้แจงกับดาลินและชาญชัยคือ อยากหาอาชีพไว้ทำมาหากินต่อไป ทั้งสองต่างยินดีและสนับสนุน กระเต็นฉวยโอกาสขออนุญาตเป็นทางการเสียเลยเพื่อจะได้ออกจากบ้านทุกเช้าได้อย่างเปิดเผย
แต่วันนี้กระเต็นใจคอไม่ดี เมื่อคอยจน 2 โมงเช้าแล้วเพชรก็ยังไม่มา บ่นอย่างร้อนใจว่า
“ทำอะไรอยู่นะตาหมวดบ้า ป่านนี้ยังไม่มาอีก พวกจ่าเฉย บ่นตายเลย” ว่าแล้วก็ยืนชะเง้อคอยาวคอยรถของเพชรต่อไป
ooooooo
เช้าวันเดียวกันนั้น เกศินีขอร้องเพชรให้ถอนตัวจากคดีหาญเสีย เขาขอเหตุผล เกศินีบอกว่าเขาควรทุ่มเทเวลาให้กับการเตรียมแต่งงาน ไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาดอีก คราวนี้เขาไม่มีโอกาสแก้ตัวเพราะดาลินคงไม่ยอมแล้ว
เพชรมอบหมายให้แม่ดูแลแทนตน เชื่อว่าถ้าตนกับดาลินเป็นเนื้อคู่กันยังไงเราก็ต้องได้แต่งงานกัน
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดงั้นเหรอ” เกศินีไม่รู้จะจูงใจลูกอย่างไรอีก สุดท้ายก็ต้องบอกลูกแค่ว่า “เพชร...แม่รักลูกนะ จำไว้นะว่าแม่รักลูก” เธอเข้าไปกอดเพชร เขากอดตอบอึดใจหนึ่งเกศินีบอกให้รีบไปทำงานเสีย  เพราะสายแล้ว
เพชรนึกได้เปลี่ยนใจหันมาถามว่า “แม่ครับ พ่อเคยบอกผมว่าพ่อกับเสือหาญเคยเป็นเพื่อนกัน แล้วแม่รู้จักเสือหาญไหมครับ”
เกศินีกำลังร้อยมาลัยอยู่ ตกใจจนเข็มตำมือ เพชรรีบเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง
ooooooo
เวลาเดียวกันนั้น ยิ่งยศพาชิดใจมาที่บ้านพอรู้ว่าเขาจะพามาอยู่ด้วย ชิดใจก็ทำเป็นตกใจถามว่า จะให้มาอยู่ด้วยหรือ ตนไม่กล้า ขออยู่บ้านเล็กๆสำหรับให้ตนได้ปรนนิบัติท่านก็พอใจแล้ว
“ถ้าไม่อยู่ที่นี่ ก็ไม่ต้องอยู่ที่ไหนอีก” ยิ่งยศพูดขรึมๆ
ชิดใจบีบน้ำตาทำเป็นกลัวว่าตนมาอยู่ด้วยแล้วจะทำให้ท่านเดือดร้อน กลัวคุณผู้หญิงของท่านจะมาแหกอกตน
“ฉันเป็นคนพาเธอมา เธอก็ไม่เห็นต้องสนใจคนอื่น แค่ปรนนิบัติฉันให้ดีก็พอแล้ว” ยิ่งยศตัดบทแล้วสั่งคนขับรถ “เอาของคุณชิดใจไปไว้บนตึก ข้างห้องฉัน”
ชิดใจหัวใจพองโตมองบ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่า รำพึงเหมือนตกอยู่ในความฝัน
“ไม่คิดเลย วาสนามันจะมาถึงอีชิดใจเร็วขนาดนี้...”
ooooooo
เพชรถือโอกาสถามเกศินีเกี่ยวกับหาญระหว่างทำแผลให้แม่ว่า เคยเจอเสือหาญไหม เกศินีตอบไม่เต็มเสียงว่าเคยเจอบ้าง ครั้นถามว่าได้คุยกันแล้ว นิสัยใจคอเขาเป็นอย่างไรบ้าง
เกศีนีตอบสั้นๆเลี่ยงๆว่าตนแทบไม่ได้คุยกับหาญเลย เพชรก็ยังเซ้าซี้ซอกแซกบอกว่า เอาเท่าที่สังเกตเห็นก็ได้
“แม่...แม่ไม่รู้ หยุดถามแม่เรื่องนี้เสียที แม่ไม่รู้อะไรทั้งนั้น” เกศินีปฏิเสธลนๆ จนเพชรสงสัยแปลกใจ
“คุณคะ แย่แล้วค่ะ” เดือนเข้ามารายงานหน้าตาไม่ดี เกศินีกับเพชรจึงรีบเดินตามเดือนไป
เพชรผลักประตูห้องชิดใจที่อยู่ติดกับห้องยิ่งยศ แล้วทั้งสามก็ตะลึงพรึงเพริด เมื่อเห็นยิ่งยศกำลังนัวเนียอยู่กับชิดใจบนเตียง
“คุณพ่อ! คุณพ่อทำแบบนี้ได้ยังไงในบ้านของเรา” เพชรโมโหสุดขีด
ยิ่งยศลุกขึ้นอย่างไม่สะดุ้งสะเทือน มองหน้าเกศินีอย่างสะใจ พูดอย่างไม่ทุกข์ร้อนว่า
“เรื่องปกติของผู้ชาย สองคนแม่ลูกมาก็ดีแล้ว นี่ชิดใจเขาจะมาอยู่ที่นี่ช่วยดูแลฉัน”
เพชรถามว่าชิดใจเป็นแฟนของดามพ์ไม่ใช่หรือ ชิดใจตอบหน้าตาเฉยว่าตอนนี้ไม่ใช่แล้ว พลางหันไปฉอเลาะถามยิ่งยศว่า “โอ้...นี่คงเป็นคุณพี่ผู้หญิงใช่ไหมคะ แหมชิดใจขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ รับรองว่าชิดใจจะช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพี่จากท่านอย่างเต็มที่เลยค่ะ ฮิๆๆ”
เพชรไล่ตะเพิดให้ออกจากบ้านตนไปเดี๋ยวนี้ พลางไปหยิบกระเป๋าสั่งให้ขนของออกไปด้วย ชิดใจหันไปอ้อนยิ่งยศให้ช่วยตนด้วย ยิ่งยศประกาศกร้าวว่า
“ชิดใจจะไม่ไปไหนทั้งนั้น เขาจะอยู่กับพ่อที่นี่ หยุดโวยวายแล้วก็เลิกทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เสียที พ่อรำคาญ!”
เพชรรับไม่ได้ถามว่าพ่อเอาผู้หญิงอื่นเข้ามาอยู่ในบ้านนี่หรือเป็นเรื่องเล็ก ยิ่งยศยืนยันว่าใช่เพราะนี่เป็นบ้านของตน แม่เองก็ยังไม่ว่าอะไรเลย พูดแล้วก็ปรามเกศินีว่า
“คุณน่าจะสั่งสอนให้ลูกมีมารยาทกว่านี้นะ คุณจะคุยกับลูกหรือจะให้ผมคุยกับลูกเองล่ะเกศินี ว่าไง”
ถูกยิ่งยศถามขู่เช่นนี้ เกศินีต้องข่มความโกรธ ความตกใจ บอกว่าตนจะพูดเอง แล้วบอกเพชรว่า
“เมื่อเป็นความสุขของพ่อ แม่ก็ไม่ขัด ตามสบายนะคะ”
“ไปขนเสื้อผ้าแล้วก็ของใช้ส่วนตัวทั้งหมดของฉันมาไว้ที่นี่ด้วย” ยิ่งยศสั่งเดือนยิ้มอย่างสะใจ
เกศินีสุดจะทนอยู่ตรงนั้นได้เดินเลี่ยงไป เพชรรีบตามถามอย่างรับไม่ได้ว่า พ่อทำแบบนี้ทำไม ตนไม่เคยเห็นพ่อเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่ให้เกียรติแม่เลย ยุว่าแม่ต้องไม่ยอมให้พ่อเอาผู้หญิงคนนั้นเข้ามาอยู่บ้าน
พูดแล้วเห็นเกศินีนิ่ง เพชรบอกว่า “ถ้าแม่ไม่กล้า ผมจะไปจัดการเรื่องนี้เอง”
เพชรทำท่าจะเดินย้อนกลับไป เกศินีรีบคว้าแขนไว้ ขอร้องลูกว่าอย่าทำให้พ่อโมโห เราก็อยู่ของเราไป ไม่เกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น ชี้แจงด้วยเหตุผลที่ปั้นแต่งขึ้นมาว่า
“แม่คิดดูแล้ว พ่อเขาต้องทำงานหนัก กลับมาก็เหนื่อย แล้วแม่ก็สุขภาพไม่ดีแก่แล้ว แม่ว่าถึงเวลาที่ควรจะมีคนมาดูแลพ่อแทนแม่แล้ว”
“ผมไม่เชื่อ ที่ผ่านมาพ่อรักแม่มากเรื่องแค่นี้มันไม่ใช่สิ่งสำคัญ”
“เชื่อเถอะ เพราะแม่เป็นคนขอให้พ่อเขาทำแบบนี้เอง!” เกศินีตัดใจบอกเพชร แม้เพชรยังไม่เชื่อแต่เมื่อแม่ยืนยันเช่นนั้น เขาได้แต่นิ่ง เกศินีฝืนยิ้มให้ลูกทั้งที่ปวดร้าวใจ จนเมื่อเพชรเดินผละไปแล้ว ยิ่งยศเดินเข้ามาหาเกศินี เธอไม่อยากเผชิญหน้าเขาจะเดินเลี่ยงไป ยิ่งยศพูดขึ้นว่า
“บทลงโทษของเธอเริ่มแล้วเกศินี”
“ฉันไม่กลัวหรอก แค่คุณรักษาสัญญาไว้ก็แล้วกัน”
“แน่นอน ผมจะทำตามสัญญา ไม่บอกอะไรตาเพชร... ให้นานที่สุดที่จะทำได้ ดีไหม”
ยิ่งยศหัวเราะเหี้ยมก่อนเดินกลับไปที่ห้องชิดใจ เกศินีตัวสั่นเทิ้มน้ำตาท้นอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี นึกกลัวว่าไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นอีก...
ooooooo
เพชรไปบ้านพักตำรวจที่พวกจ่าเฉยพักอยู่ กระเต็นมาถึงก่อนแล้ว กระเต็นบ่นกับจ่าเฉยอย่างกังวลว่าไม่รู้เกิดอะไรขึ้น จู่ๆก็เกิดเบี้ยวเสียงั้นทั้งที่ตัวเองเป็นคนอยากเรียนเอง
“จะเกิดอะไรอีกล่ะ เอ็งมันตื่นตูมเกินเหตุ อย่าลืมสิว่านี่มันใกล้ถึงวันแต่งงานของหมวดกับคุณดาลินแล้ว เขาคงต้องเตรียมงานแต่งก่อนนะสิวะ”
กระเต็นฟังแล้วเซ็ง แต่อึดใจต่อมาเพชรก็เดินหน้าเครียดเข้ามา กระเต็นพรวดเข้าไปต่อว่าที่ปล่อยให้อาจารย์สามคนรอสอนอยู่ เพชรขอโทษบอกว่าตนมีธุระที่บ้านนิดหน่อย กระเต็นอดไม่ได้ที่จะพูดประชดว่าธุระเรื่องแต่งงานล่ะสิ
“ไม่รู้อะไรก็เงียบเถอะน่า” เพชรเอ็ดอย่างหงุดหงิดแล้วเดินหนีไป กระเต็นบ่นอุบอิบว่าผู้ชายอะไรขี้หงุดหงิดจริงๆเลย ถูกจ่าเฉยถามว่าแล้วมันเรื่องอะไรของตัวล่ะ เขาจะแต่งงานก็เรื่องของเขาแกล้งถามว่าหรืออิจฉา รึว่า...
“เพ้อเจ้อน่าน้า ฉันไปฝึกวิชาดีกว่า สายมากแล้ว”  กระเต็นทำเป็นบ่นแล้วรีบเดินหนีไปเลย
ooooooo

No comments:

Post a Comment